ตอนที่ 4 เรียนรู้เวทมนตร์
ตอนที่ 4 เรียนรู้เวทมนตร์
ติดตามข่าวสาร/พูดคุยเสนอแนะความคิดเห็นได้ที่เพจผู้แปล FB: ND Translate นิยายแปลไทย
3 วันผ่านไปนับตั้งแต่ที่วัตสันได้ฟิวชั่นไก่หอมหวนห้าสี
ในตอนนี้สถานการณ์ในครอบครัวดีขึ้นมาก ปกติแล้วทุกคนจะมีโอกาสได้ทานเพียงแค่ซุปเนื้อสัปดาห์ละครั้ง แต่ในตอนนี้ทุกคนสามารถกินไข่ที่รสชาติดีกว่าเนื้อได้ แม้แต่ลูกคนที่ 5 ผู้ซึ่งป่วยติดเตียงอยู่ตลอดเวลาหรือแม้แต่มาร์กาเร็ตลูกคนที่ 6 ผู้ซึ่งขังตัวเองอยู่ในห้องและใช้เวลาทั้งหมดไปกับการอ่านหนังสือก็ยังอดไม่ได้ที่จะขอบคุณวัตสัน
ส่วนผู้เป็นพ่ออย่างเอ็ดเวิร์ดรวมไปถึงผู้เป็นแม่อย่างแคทเธอรีนเองก็ยังคงทำงานหนัก ทั้งคู่ยังคงตั้งหน้าตั้งตาผลิตทายาทอย่างขยันขันแข็ง ที่เป็นแบบนี้เป็นเพราะร่างกายที่แข็งแรงขึ้นนั่นเอง ท้ายที่สุดแล้ววัตสันก็ต้องทนทุกข์ทรมานกับเสียงของพวกเขาในตลอดทุกค่ำคืน
ในช่วงหลายวันมานี้พี่สาวคนที่ 7 อย่างสการ์เล็ตก็ไม่ได้ออกไปล่าสัตว์อีกต่อไป เธอใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับการเฝ้าดูไก่หอมหวนห้าสีและดูแลมัน วัตสันที่เห็นแบบนั้นไม่ได้ดูโล่งใจขึ้นมาเลย ตัวเขาต้องคอยระวังผู้เป็นพี่คนนี้จับไก่หอมหวนห้าสีไปทำอาหาร
“พี่ใหญ่กับพี่รอยังไม่กลับมา เพราะแบบนั้นที่บ้านเลยมี 8 คน พวกเราทุกคนจะกินไข่ทั้งหมด 20 ฟองต่อวัน! ตอนนี้ไก่หอมหวนห้าสียังเหลือไข่อีกกว่า 300 ฟอง มันถึงเวลาแล้วที่พี่สามพี่สี่จะเอาไข่พวกนั้นไปแลกเปลี่ยน” วัตสันพึมพำกับตัวเองในขณะที่ขึ้นไปยังห้องใต้หลังคา
ห้องใต้หลังคาเต็มไปด้วยสิ่งของและหนังสือต่างๆ มันเป็นของที่เอ็ดเวิร์ดสะสมเอาไว้ บนนั้นมีชั้นหนังสือทั้งหมดอยู่ 2 แถว หนังสือทุกเล่มต่างก็เต็มไปด้วยฝุ่น ในหนังสือที่มีเป็นหนังสือที่เกี่ยวกับการฝึกฝนบ่มเพาะตัวเองอยู่ด้วย ภายในโลกใบนี้ หนังสือนั้นมีค่ามาก มีเพียงขุนนางและเหล่าชนชั้นสูงเท่านั้นที่จะมีสิทธิ์ได้อ่านหนังสือ คนธรรมดาทั่วไปคงจะไม่แม้แต่จะซื้อหนังสือได้เลยด้วยซ้ำ
วัตสันมักจะไปที่ห้องใต้หลังคาก็เพื่อที่จะเรียนรู้การใช้เวทมนตร์ ภายในโลกใบนี้เป็นโลกแห่งดาบและเวทมนตร์ ผู้ที่แข็งแกร่งเท่านั้นที่มักจะได้รับความเคารพนับถือ ถ้าหากวัตสันไม่สามารถแข็งแกร่งขึ้นได้ เรื่องของไก่หอมหวนห้าสีที่ถูกแพร่ออกไปจะต้องทำให้ทุกคนต้องอิจฉาแน่
ในตลอดหลายวันมานี้วัตสันได้กินไข่กว่าหลายสิบฟองด้วยกัน และเพราะแบบนั้นอายุขัยที่วัตสันมีจึงเพิ่มมากขึ้นถึง 10 ปี ความสูงของเขาเองก็เพิ่มขึ้นเล็กน้อย แม้จะไม่ออกกำลังกายก็ตามแต่กล้ามเนื้อเองก็พัฒนาขึ้น มันคงจะน่าเสียดายมากแน่ถ้าหากวัตสันไม่ยอมฝึกฝนร่างกายตัวเอง
พรึ๊บ!
วัตสันรีบมุ่งหน้าไปยังห้องใต้หลังคาก่อนที่จะปิดประตูด้านหลังอย่างระมัดระวัง ตัวเขาไปที่ชั้นหนังสือก่อนที่จะหยิบหนังสือ “สารานุกรมเวทมนตร์ขั้นเบื้องต้น” ออกมา
ระบบการบ่มเพาะของโลกใบนี้แบ่งออกได้เป็น 4 ประเภทด้วยกัน มีทั้งนักรบ นักเวทย์ นักธนู และนักบวช
ในบรรดาการบ่มเพาะทั้งหมด การฝึกฝนในส่วนของนักรบนั้นมีความยากน้อยที่สุด มันเป็นการบ่มเพาะที่สามารถเรียนรู้ได้ด้วยตัวเองได้ หลังจากที่ฝึกฝนการเป็นนักรบอย่างเชี่ยวชาญ ร่างกายของคนคนนั้นก็จะใช้พลังการต่อสู้ได้ เมื่อใช้พลังการต่อสู้ร่างกายของคนคนนั้นก็จะทนทานต่อของมีคม เพียงแค่การโบกมือครั้งเดียวก็สามารถทำลายแท่งโลหะได้แล้ว การฝึกนักธนูและนักบวชเป็นอะไรที่ยากกว่า มันเป็นการบ่มเพาะตัวเองโดยต้องอาศัยใครสักคนเพื่อคอยชี้แนะ
ผู้ที่เป็นนักธนูได้จะต้องทำสัญญากับเหล่าเอลฟ์ก็เพื่อที่จะรับพลังธรรมชาติ ในขณะที่ผู้ต้องการเป็นนักบวชจะต้องรับพลังแสงศักดิ์สิทธิ์จากโบสถ์ และนอกจากนี้จะต้องให้บาทหลวงจัดพิธีสวรรค์รู้แจ้งให้ และการจะเป็นนักเวทย์ได้คนคนนั้นสามารถแก้ปัญหาทั้งหมดได้ด้วยเงินก็จริง แต่ก็ยังมีสิ่งที่ยากรอคอยอยู่ การจะฝึกฝนบ่มเพาะเป็นจอมเวทได้จะขาดผู้เป็นอาจารย์ไม่ได้เลย นอกจากนี้ยังมีเพียงผู้ที่มีพรสวรรค์ในการใช้องค์ประกอบเวทมนตร์ได้เท่านั้นที่จะสามารถกลายเป็นนักเวทย์ได้ และผู้ที่จะกลายเป็นนักเวทย์ได้มีเพียง 1 ใน 10,000
และนักเวทย์เองก็ยังเป็นผู้ที่แข็งแกร่งที่สุด นักเวทย์ผู้ทรงพลังสามารถทำลายโลก รวมไปถึงเอาชนะนักรบระดับเดียวกันได้กว่าหลายสิบคน ข้อเสียเปรียบที่นักเวทย์มีมีเพียงข้อเดียว การจะใช้เวทมนตร์ได้จะต้องอาศัยเวลาในการร่ายคาถา เพราะแบบนั้นเหล่านักเวทย์จึงไม่ถนัดการต่อสู้ระยะประชิด
“ถ้าหากฉันจะต้องเรียนรู้การใช้เวทมนตร์ สิ่งแรกที่ต้องทำนั่นก็คือการตรวจสอบพรสวรรค์ในการใช้เวทมนตร์ซะก่อน ในครอบครัวไม่มีใครที่เลยที่ใช้เวทมนตร์ได้นอกจากพี่สาวคนที่สอง แล้วฉันจะใช้เวทมนตร์ได้ไหม?”
วัตสันรีบเปิดสารานุกรมเวทมนตร์ขั้นพื้นฐาน เอ็ดเวิร์ดมีลูกทั้งหมด 8 คน มีเพียงลูกคนที่ 2 เท่านั้นที่มีพรสวรรค์จนสามารถใช้เวทมนตร์น้ำได้ เธอคนนั้นได้ออกจากบ้านไปก็เพื่อศึกษาตั้งแต่ยังเด็ก ตราบใดที่พี่สาวคนนี้กลายเป็นนักเวทย์ผู้ทรงพลังได้ เธอจะต้องสร้างเกียรติยศที่สูงกว่าบารอนได้แน่ ในตอนที่พบพรสวรรค์ของพี่สาวคนนี้ ครอบครัวของวัตสันก็ได้จัดงานเลี้ยงฉลองเป็นเวลากว่า 3 วัน 3 คืน เอ็ดเวิร์ดที่หวังจะพึ่งพาลูกจึงมีความหวังที่จะให้กำเนิดลูกอย่างขยันขันแข็ง เขาหวังเพียงลูกที่มีพรสวรรค์ด้านเวทมนตร์ที่จะปรากฏตัวขึ้น
น่าเสียดายที่พรสวรรค์ไม่ใช่สิ่งที่หามาได้เพราะความพยายาม เด็กทุกคนในทุกครอบครัวต่างก็ได้รับการทดสอบตั้งแต่แรกเกิด วัตสันได้รับการทดสอบมาก่อนหน้านี้แล้ว ตัวเขาได้รับการพิสูจน์ว่าตัวเองไม่มีพรสวรรค์ พรสวรรค์ด้านเวทมนตร์มักจะเกี่ยวข้องกับจิตวิญญาณของคนคนนั้น แต่เป็นเพราะวัตสันได้มาต่างโลกด้วยจิตวิญญาณของตัวเอง และเพราะแบบนั้นตัวเขาจึงสงสัยว่าตัวเองจะกลับมามีพรสวรรค์ได้ไหม
วัตสันพยายามที่จะทดสอบสิ่งที่คิด
ภายในสารานุกรมมีวงแหวนเวทที่มีชื่อว่า ‘วงแหวนเวทแห่งการทดสอบ’ มันเป็นวงแหวนเวทที่ถูกบันทึกในหน้าแรกของสารานุกรมเวทมนตร์ขั้นพื้นฐาน มันเป็นวงแหวนเวทที่ถูกใช้เพื่อทดสอบหาผู้มีพรสวรรค์นั่นเอง วัตสันหยิบมีดที่เตรียมไว้ก่อนที่จะสลักมันลงพื้น ตัวเขาได้ใช้เวลากว่าครึ่งวันกว่าที่จะวาดลวดลายขนาดใหญ่ตามแบบหนังสือ
วงแหวนเวทมีลักษณะเป็นวงรี มันเป็นวงรีที่ประกอบไปด้วยดวงอาทิตย์ที่อยู่ด้านบนและดวงจันทร์ที่อยู่ด้านล่าง มันเป็นสัญลักษณ์ของแสงสว่างและความมืด ทั้งสองอย่างนี้ถือเป็นองค์ประกอบเวทมนตร์ที่ทรงพลังที่สุดแล้วนั่นเอง ทั้งด้านซ้ายและด้านขวามีสัญลักษณ์เวทมนตร์ทั้งหมด 4 ตัว มันเป็นสัญลักษณ์ของ ดิน น้ำ ลม ไฟ องค์ประกอบธาตุทั้งสี่ถือเป็นองค์ประกอบเวทมนตร์พื้นฐาน ธาตุทั้ง 6 เป็นพื้นฐานที่ก่อกำเนิดโลกนั่นเอง
วัตสันยืนอยู่ตรงใจกลางวงแหวนเวทก่อนที่จะร่ายเวทมนตร์เบาๆ จากในหนังสือ “แสงสว่างที่ส่องลงมาจากฟ้า ความมืดมิดที่ปกคลุมผืนดิน พลังธาตุทั้งสี่ที่แบกรับทุกสรรพสิ่ง ขอให้เทพแห่งเวทมนตร์อวยพรให้กับฉัน โปรดจงมอบปาฏิหาริย์ให้ฉันด้วย...”
วงแหวนเวทเริ่มจางหายไป ในตอนนั้นเองห้องใต้หลังคาก็เริ่มสั่นสะเทือน มีแสงสว่างจางๆ ส่องสว่าง มันเป็นแสงอันริบหรี่ราวกับลมหายใจอันรวยริน
แสงทั้งหมดเริ่มวนรอบร่างกายของวัตสัน แสงทั้งหมดเปลี่ยนเป็นสีฟ้าก่อนที่จะตกลงที่ด้านขวาของวงแหวนเวท สัญลักษณ์ที่ดูคล้ายกับคลื่นเริ่มเปล่งเสียงออกมา ร่างกายของวัตสันเปล่งแสงสีฟ้าระยิบระยับ
“ฉันมีพรสวรรค์ที่จะใช้เวทมนตร์จริงๆ อย่างงั้นเหรอ?” วัตสันรู้สึกประหลาดใจ
สัญลักษณ์ธาตุทั้งหกหมายถึงความสามารถในการใช้เวทมนตร์ ยิ่งแสงสว่างส่องขึ้นมากแค่ไหน คนคนนั้นก็จะมีพรสวรรค์ในการใช้เวทมนตร์มากยิ่งขึ้นเท่านั้น พรสวรรค์ของวัตสันก็คือธาตุน้ำ แม้ว่าวัตสันจะไม่ใช่ผู้มีพลังเวทที่แข็งแกร่งที่สุดอย่างธาตุมืดและธาตุแสง แต่ถึงแบบนั้นเวทคุณสมบัติน้ำก็ยังถือว่าหาได้ยาก มันเป็นเวทมนตร์ที่จะพบเจอในนักเวทย์ 1 ใน 100
วัตสันได้ทดสอบพรสวรรค์ของตัวเองเสร็จสิ้นแล้ว ในตอนนี้วัตสันจึงพร้อมแล้วที่จะเรียนรู้การใช้เวทมนตร์
วัตสันรีบพลิกหนังสือไปยังหน้าที่เกี่ยวกับเวทมนตร์คุณสมบัติน้ำ วัตสันเหลือบมองเวทมนตร์ระดับเหล็กที่ถูกบันทึกเอาไว้ หนังสือเล่มนี้มีเพียงเวทมนตร์ระดับเหล็ก แม้ว่าหนังสือเล่มนี้จะมีคุณค่ามากก็ตาม แต่ถึงแบบนั้นมันก็มีเพียงเวทมนตร์ที่มีระดับต่ำที่สุด หนังสือที่มีเวทมนตร์ระดับสูงบันทึกไว้นั้นหาได้ยากยิ่ง ดังนั้นการจะเป็นนักเวทย์มืออาชีพได้จึงเป็นสิ่งที่ใช้เงินมหาศาล
ในหนังสือสารานุกรมมีเวทมนตร์ธาตุน้ำทั้งหมดอยู่ 2 บท
เวทย์ละอองน้ำ: เวทมนตร์ที่จะทำให้ผู้ใช้โปรยหยดน้ำจากปลายนิ้วมือได้ สามารถใช้เพื่อรดน้ำพืชผลทางการเกษตร
เวทย์บอลน้ำ: เวทมนตร์ที่จะทำให้ผู้ใช้ปลดปล่อยลูกบอลน้ำขนาดเท่ากำปั้นออกมาได้ ระยะในการปล่อย 100 เมตร
“เวทย์ละอองฝน!”
วัตสันได้ระดมองค์ประกอบเวทมนตร์ที่รู้สึกได้ทั้งหมดมายังมือขวา และในที่สุดฝ่ามือของวัตสันก็สามารถปล่อยละอองน้ำออกมาได้ หยดน้ำทั้งหมดออกจากปลายนิ้วของวัตสันก่อนจะตกลงสู่พื้น
วัตสันได้ลองใช้เวทบอลน้ำต่อ ลูกบอลน้ำที่มีขนาดเท่ากำปั้นได้ก่อตัวขึ้นอยู่บนฝ่ามือของวัตสัน เมื่อปลดปล่อยบอลน้ำออกไป ลูกบอลน้ำลอยตัวก่อนที่จะตกลงห่างออกไปหลายเมตรด้วยกัน เมื่อบอลน้ำชนเข้ากับกำแพงมันก็ได้หายไปทิ้งไว้แต่เพียงแอ่งน้ำ
“ไม่เลวเลย”
วัตสันได้ลองใช้เวทย์อีกหลายครั้งก่อนที่จะรู้สึกว่าร่างกายอ่อนแอลง ตัวเขานั่งลงกับพื้นพร้อมกับใบหน้าอันซีดเผือด ดูเหมือนเวทย์ละอองน้ำจะไม่ได้ทำให้ร่างกายของวัตสันอันตรายถึงชีวิต แต่การใช้เวทบอลน้ำทำให้ร่างกายของวัตสันอ่อนล้าจนเหมือนกับใช้แรงไปกว่า 100 ชั่ง
ในตอนนั้นเองความผิดหวังก็ได้ตามมาหลังความตื่นเต้น
“เวทมนตร์พวกนี้เป็นเพียงเวทระดับเหล็กเท่านั้น แม้ว่าจะเรียนรู้ได้ง่ายๆ แต่ถึงแบบนั้นมันก็ไม่ได้ทรงพลังอะไร! หนังสือเวทมนตร์ระดับสูงคงจะมีอยู่ในเมืองใหญ่เท่านั้น และการจะหาหนังสือแบบนั้นได้คงจะเป็นไปได้ยาก ถ้าหากมันไม่ยากพี่สาวคนนั้นก็คงจะกลับบ้านมาแล้ว หรือว่าฉันจะไม่สามารถกลายเป็นนักเวทย์ได้กัน?”
[ระบบที่มีสามารถฟิวชั่นของทุกอย่างได้ แน่นอนว่าสามารถฟิวชั่นเวทมนตร์เพื่อเพิ่มคุณภาพได้]
เสียงของระบบได้ดังขึ้นภายในหัว ใบหน้าของวัตสันเปลี่ยนไปในทันที ใช่แล้ว! วัตสันเกือบจะลืมเรื่องนี้ไปซะสนิท
[การฟิวชั่นเวทมนตร์ระดับเหล็กสองแบบที่แตกต่างกันจะสร้างเวทมนตร์ระดับทองแดงได้ ตรวจพบเป้าหมายฟิวชั่นที่เหมาะสม คุณต้องการที่จะฟิวชั่นไหม?]
“ยังจะต้องถามอะไรอีกล่ะ? ฟิวชั่นเลย!”
สิ้นสุดเสียงของวัตสัน ในตอนนั้นเองความรู้เกี่ยวกับเวทมนตร์ละอองน้ำกับเวทบอลน้ำก็ได้ผสานเข้ากันกับจิตใจ และในที่สุดวัตสันก็ได้เวทมนตร์บทใหม่
ติดตามข่าวสาร/พูดคุยเสนอแนะความคิดเห็นได้ที่เพจผู้แปล FB: ND Translate นิยายแปลไทย