HO บทที่ 131 วอนเดอร์ริ่งซาวด์ผู้โง่เขลา
“ในที่สุดก็เจอตัวแล้ว!!” เว่ยตะโกนอย่างบ้าคลั่ง “พวกแกจะหนีจากเงื้อมมือของฉันไม่ได้อีกแล้ว!!”
พวกซินหยาหันไปทางต้นเสียงทันที พวกเขาเห็นเว่ยที่ยืนอยู่ตรงนั้น ซึ่งกำลังเดินเข้ามาด้วยความบ้าคลั่ง ด้วยดวงตาสีแดงและท่าทางที่บ้าคลั่งของเธอ ทั้งสามคนจึงมั่นใจร้อยเปอร์เซ็นต์ว่านี่ไม่ใช่เว่ยที่พวกเขารู้จักอีกต่อไป
ซินหยายืนนิ่งอยู่ตรงนั้นขณะที่เขามองไปที่เว่ยในสภาพนี้ เขาไม่รู้ว่าเธอตามพวกเขามาได้ยังไง ครั้งสุดท้ายที่เขาตรวจสอบแผนที่ เขาเห็นว่าเธออยู่ใกล้พวกเขาแต่ก็ไม่ได้ใกล้ขนาดนั้นที่จะหาพวกเขาเจออย่างรวดเร็ว
เขารู้ว่ามันเป็นความผิดของพวกเขาเองที่ไม่ยอมระวังตัว แต่พวกเขาก็ตื่นเต้นมากที่ได้ค้นพบกลอุบายของเขาวงกตนี้ บางทีความคิดก่อนหน้านี้ของเขาอาจถูกต้อง คำสาปอาจนำเธอมาสู่พวกเขา
เมื่อเหลือบมองไปที่เมลติ้งสโนว์กับวอนเดอร์ริ่งซาวด์อย่างรวดเร็ว เขาเห็นว่าพวกเขามีอาวุธอยู่ในมือพร้อมต่อสู้แล้ว แม้ว่าเขาจะรู้สึกไม่เต็มใจที่จะทำร้ายเว่ยแต่เขารู้ว่าต้องทำเพื่อที่พวกเขาจะได้ไปที่ใจกลางเขาวงกตเพื่อรักษาเธอ
เขาหยิบยาบุปผาพิฆาตออกมาจากช่องด่วนของเขา เขาพร้อมที่จะโยนมันใส่เธอแต่ก่อนที่เขาจะได้ทำ เว่ยเริ่มยิงปืนของเธอใส่พวกเขา เมื่อเธอถูกควบคุมด้วยความบ้าคลั่ง เธอจึงรัวกระสุนใส่พวกเขาอย่างไม่ลังเล
สิ่งนี้ทำให้วอนเดอร์ริ่งซาวด์มีโอกาสปลดปล่อยโล่ของเขาออกมาเพื่อปกป้องดริฟติ้งคลาวด์กับเมลติ้งสโนว์จากห่ากระสุน
ซินหยาต้องการผูกมัดเว่ยอีกครั้งด้วยยาของเขา แต่เขารู้ว่าถ้าเขาขยับออกจากด้านหลังของวอนเดอร์ริ่งซาวด์ เขาจะโดนโจมตี
วอนเดอร์ริ่งซาวด์รู้ว่าดริฟติ้งคลาวด์คงไม่สามารถหลบกระสุนได้ทัน เขาหวังว่าพลังกายของเธอจะหมดก่อนพลังมานาของเขา
วอนเดอร์ริ่งซาวด์ได้ตัดสินใจว่าเขาจำเป็นต้องทำอะไรที่รุนแรงก่อนที่โล่ของเขาจะเริ่มอ่อนลง ไม่ต้องการถูกยิงจนตาย เขายกโล่สูขึ้นและพุ่งเข้าหาเธอให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้
เมื่อเขาเข้าใกล้เธอมากเท่าไหร่ แสงจากโล่ของเขาก็ยิ่งสร้างความเสียหายมากขึ้นเท่านั้น แสงนั้นทำให้เธอตาบอด ทำให้เธอหยุดยิงปืนเพื่อที่เธอจะได้ปิดตา เสียงกรีดร้องอันเจ็บปวดของเธอเปรียบเสมือนมีดเล่มเล็ก ๆ ที่ส่งไปถึงหัวใจของเขา
“อย่าลังเล โจมตีต่อไป!” ซินหยาตะโกนเมื่อเขาเห็นวอนเดอร์ริ่งซาวด์กำลังจะถอยห่างจากเว่ย
ขณะที่วอนเดอร์ริ่งซาวด์ซินหยาเข้าไปใกล้เว่ย ซฺนหยาได้ขว้างยาบุปผาพิฆาตและเริ่มมัดเธออีกครั้ง ทันทีที่เธอถูกผูกมัด
วอนเดอร์ริ่งซาวด์ก็รีบและถอดโล่ของเขาออกและยืนอยู่ที่นั่นจ้องมองที่เว่ยด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความเสียใจ
“ฉันไม่อยากทำร้ายเธอ” วอนเดอร์ริ่งซาวด์กระซิบความเศร้าปรากฏอยู่ในน้ำเสียงของเขา
“ฉันรู้ว่าคุณไม่อยากทำ” ซินหยาบอกเขา “แต่ถ้าคุณไม่ทำ เธอจะฆ่าพวกเรา ไม่มีใครในที่นี้ต้องการทำร้ายเธอสักหน่อย”
วอนเดอร์ริ่งซาวด์รู้ว่าดริฟติ้งคลาวด์พูดถูกแต่ก็ไม่สามารถหยุดความเจ็บปวดในอกได้ เขาทำร้ายผู้หญิงที่เขาชอบเพื่อให้ตัวเองอยู่รอด เขาหวังว่าจะมีวิธีอื่นที่เขาจะหยุดยั้งเธอได้
เมื่อเห็นว่าวอนเดอร์ริ่งซาวด์กำลังยืนอยู่ที่นั่นเพื่อเสียเวลากับเรื่องนี้ เมลติ้งสโนว์ก็เดินเข้าไปหาเขาและผลักเขาอย่างแรง “หยุดยืนอยู่ตรงนั้นได้แล้ว! เราต้องรีบรักษาพี่โรมมิ่งวินด์ ไม่งั้นพวกเราจะตายกันหมด หยุดทำตัวเป็นคุณคนเดียวที่ห่วงใยเธอ ที่พี่ดริฟทำมัดเธอไว้ เขาก็เจ็บใจเหมือนกัน!”
“เมลติ้งสโนว์พูดถูก เรารีบไปกันเถอะ” ซินหยากล่าวพลางชำเลืองมองไปทางด้านข้างของเด็กหนุ่ม “คุณต้องหยุดทำตัวงี่เง่า เราไม่ควรเสียเวลาที่นี่ ยิ่งเราไปถึงใจกลางเร็วเท่าไหร่ เรื่องนี้ก็จะจบลงเร็วเท่านั้น”
ซินหยารู้ว่าพวกเขากำลังเสียเวลาอันมีค่าไปกับการพยายามปลอบวอนเดอร์ริ่งซาวด์ในตอนนี้ เมื่อพวกเขาหาใจกลางของเขาวงกตได้แล้ว เขาโยนยาโจมตีดอกไม้ใส่เว่ยและนำตัวเธอโยนลงบ่อน้ำ
เขาคว้ามือของเมลติ้งสโนว์และเริ่มวิ่งผ่านเขาวงกตโดยไม่สนใจว่าวอนเดอร์ริ่งซาวด์จะตามพวกเขามาหรือไม่
มันไม่ใช่หน้าที่ของเขาที่จะดูแลชายคนนี้ เขามีเรื่องเร่งด่วนต้องทำมากกว่านีเ ตัวเขาน่าจะรู้ดีกว่านี้ เขาทำร้ายเว่ยไม่ได้ร้ายแรงอะไรเลยและสามารถรักษาเว่ยได้
ถ้าวอนเดอร์ริ่งซาวด์ต้องการทำตัวเหมือนคนโง่ที่หลงอยู่ในความรัก ซินหยาจะปล่อยให้เขาอยู่อย่างสิ้นหวังตรงนั้น
ด้วยความลับที่เมลติ้งสโนว์พบ ทำให้ซินหยากับเด็กหนุ่มเริ่มเดินทางผ่านเขาวงกตได้อย่างง่ายดาย
...
วอนเดอร์ริ่งซาวด์มองดูดริฟติ้งคลาวด์กับเมลติ้งสโนว์หายไป เขารู้ว่าเขาควรจะตามพวกเขาไป ทั้งหมดที่เขาต้องทำคือไปที่น้ำพุและหาวิธีรักษาและโรมมิ่งวินด์ก็จะไม่เป็นไรแต่เขาไม่สามารถพาตัวเองไปทำเช่นนั้นได้
เขารู้สึกราวกับว่าเขาต้องการอยู่ที่นี่กับโรมมิ่งวินด์เพื่อที่เธอจะได้ไม่อยู่ตามลำพังในความบ้าคลั่งของเธอ ส่วนหนึ่งของเขารู้ว่ามันเป็นความผิดที่ทำร้ายเธอซึ่งทำให้สามัญสำนึกของเธอหายไปแต่เขาไม่สนใจ
เวลาได้ผ่านพ้นไป พันธนาการของดริฟติ้งคลาวด์ได้คลายออก ทำให้โรมมิ่งวินด์ถูกปล่อยเป็นอิสระ เธอมองไปรอบ ๆ ตัวเองอย่างดุเดือด ก่อนที่ดวงตาของเธอจะจับจ้องไปที่วอนเดอร์ริ่งซาวด์
“พวกเขาทิ้งแกไว้ที่นี่เพื่อขวางฉันไว้แล้วไปเอาสมบัติสินะ?” เว่ยถามอย่างโกรธเคือง
วอนเดอร์ริ่งซาวด์ส่ายหัว "ไม่ พวกเราต้องการช่วยคุณ โรมมิ่งวินด์"
"ช่วยฉัน?!" เธอถามด้วยเสียงหัวเราะที่เย้ยหยัน “แกกล้าลงมือทำร้ายฉันและยังมีหน้ามาบอกว่าช่วยฉันงั้นเหรอ ฉันไม่ได้โง่นะรู้ไหม!”
“ที่ฉันทำเพราะป้องกันตัว คุณพยายามจะฆ่าพวกเรา” วอนเดอร์ริ่งซาวด์พูดอย่างสงบเท่าที่จะทำได้
ด้วยความโกรธในดวงตาของเธอ เธอจ้องมาที่เขาอย่างดุเดือด ยกปืนขึ้นจ่อศีรษะของเขาอีกครั้ง "ได้ ถ้างั้นตอนนี้ก็ตายซะ"
ด้วยการใช้สกิลกระสุนวิญญาณที่ทักษะแข็งแกร่งที่สุดของเธอ เธอจึงยิงไปที่วอนเดอร์ริ่งซาวด์ ทำให้เขากระเด็นไปชนกำแพงและล้มไปนอนบนพื้น ผลกระทบของการยิงนั้นรุนแรงมากจนทำให้เขาติดสถานะมึนงง ในขณะที่ใช้ HP เกือบทั้งหมดของเขาเหลือเพียงแค่ หนึ่งแต้มเท่านั้น
เนื่องจากวอนเดอร์ริ่งซาวด์อยู่ในสถานะมึนงง เว่ยที่อยู่ในความบ้าคลั่ง คิดว่าเขาตายแล้วและออกไปหาคนอื่น มันจะค่อนข้างง่ายเพราะคำสาปทำให้เธอเห็นเส้นทางสีแดงเพื่อตามพวกซินหยาไป
หลังจากที่เว่ยจากไป หลายนาทีผ่านไปก่อนที่สถานะมึนงงของวอนเดอร์ริ่งซาวด์จะหายไป เขาลุกขึ้นอย่างรวดเร็ว เขารู้ว่าเขาต้องขัดขวางโรมมิ่งวินด์ ก่อนที่เธอจะไปถึงคนอื่น ๆ อย่างน้อยที่สุดเขาก็ทำได้ นี่เป็นความคิดสุดท้ายของเขาขณะวิ่งไปหาเธอ