ตอนที่ 99 ออสตินปากสั่น
ตอนที่ 99 ออสตินปากสั่น
ลิงก์เกม..
กายยืนอยู่หน้าประตูสู่แดนสงคราม เขาเปิดประตูเดินเข้าไป ภาพด้านหน้าก็สว่างวาบก่อนที่กายจะไปโผล่ที่ด้านในแดนสงคราม
ในแดนสงครามตอนนี้คึกคักมากกว่าปกติ ผู้คนต่างพากันต่อสู้ในแดนต่าง ๆ อย่างเมามัน มีหลายห้องที่ถูกกิลด์ขนาดใหญ่กลางยึดครองไป แต่พอเวลาผ่านไปพวกเขาก็เข้าใจว่า มันไม่มีประโยชน์ เพราะต่อให้พวกเขาชนะเงินที่ได้ก็แทบจะเท่าทุน พอนานเข้าผู้เล่นก็ย้ายไปยังห้องอื่น ๆ
ตอนนี้มีหลายคนเรียกร้องให้ทางผู้พัฒนาเกมราชันสงครามออนไลน์ออกมาแก้ไข แต่ไม่มีการตอบกลับจากทางผู้พัฒนา นั้นทำให้ได้แต่จำใจยอมเล่นต่อไป
แน่นอนว่าไม่ใช่ทุกห้องที่จะโดนยึดครองหรือห้องยึดครองอย่างกิลด์ที่มีแต่จำนวนไม่มีคุณภาพก็จะโดนผู้เล่นโซโลที่แข็งแกร่งเข้าไปเก็บกวาดทำกำไรมากมายเช่นกัน
กายเดินมาหยุดที่หน้าของประตูแดนแห้งแล้ง เขาวางมือไปที่ต้นเสาเพื่อค้นหาห้อง 100 ซึ่งเป็นห้องที่กายเล่นประจำ ในห้องยังไม่ถึงเวลาเริ่ม แต่ผู้คนต่างก็เข้ามาบ้างแล้วบางส่วน ถึงแบบนั้นส่วนใหญ่จะเป็นผู้เล่นใหม่เท่านั้น
“เลือกห้องได้หรือยัง” เสียงดังขึ้นมาในสายของกาย ไม่ใช่ใครแต่เป็นซาเรียตอนนี้เธอรอเลขห้องอยู่
“แดนแห้งแล้งห้อง 100” กายตอบกลับไปผ่านไปสักพักหลังกายลงชื่อก็มีชื่อแปลก ๆ โผล่มา ไม่ต้องบอกกายก็รู้ว่าคนคนนี้คือออสติน เพราะชื่อมันบอกอย่างชัดเจน
[คุณชายออสติน] นี่คือชื่อที่ออสตินใช้ กายแทบจะไม่อยากอ่านชื่อของชายคนนี้
...
ขณะเดียวกันเมื่อชื่อของ [ลอร์ดเจ็ดโลหะ] โผล่ขึ้นมาในแดนสงคราม ห้อง 100 ข่าวก็กระจายออกไปในทันที
“บัดซบศัตรูของพวกเรากิลด์กะโหลกแดงมาแล้ว”
“ไปแจ้งท่านโคเวิร์ตให้ออนไลน์เร็วเข้า ไม่สิแจ้งไปที่ห้องแชทกิลด์เลย”
“ว่ายังไงนะ มันมาแล้วอย่างนั้นเหรอ เรียกกำลังคนเข้าไปเลย ตอนนี้พวกผู้เก็บกวาดมันไปเล่นอีกห้องหนึ่งอยู่ตอนนี้คือโอกาสแล้ว คอยดูเถอะคราวนี้ไม่มีใครมาขัดขวางแกกับฉันแล้ว ฮ่า ๆ” โคเวิร์ตตอบด้วยความตื่นเต้น
แน่นอนว่านอกจากกิลด์อย่างกิลด์กะโหลกแดงแล้ว ยังมีชายอีกคน ตอนนี้เขากำลังนอนอาบแดดอยู่บนหาดทรายที่มีน้ำมหาสมุทรสีครามสาดแสงประกายอยู่ที่หาดส่วนตัว ในตอนนั้นเองด้านข้างชายวัยกลางคนที่แต่งกายเหมือนกับพ่อบ้านเดินเข้ามาหา
“คุณหนู”
“พ่อบ้านคลัซ ฉันบอกให้เลิกเรียกว่าคุณหนูได้แล้ว ต่อไปนี้ต้องเรียกว่าคุณชาย เพราะฉันกลายเป็นหัวหน้าแก๊งแล้ว” ชายหนุ่มแก็กมาดเข้ม แต่สายตาของพ่อบ้านยังคงมองอย่างเอ็นดูไม่ต่างจากเด็กน้อยคนเดิม
“คุณชายตอนนี้ตอนนี้ผู้เล่นที่ชื่อ [ลอร์ดเจ็ดโลหะ] ได้เข้าเล่นที่แดนสงครามแล้ว”
“ฮี่ ๆ เยี่ยมไปเลย รีบรวมแก๊งเร็วฉันจะไปสยบชายคนนั้นให้มาเข้าแก๊งให้ได้”
“ผมได้เรียกพวกเขามารออยู่แล้ว ตอนนี้มีถึง 300 คนที่พร้อมออนไลน์”
“ดีมากไปกัน”
หลังจากนั้นชายหนุ่มก็รีบเข้าแดนสงครามในทันทีพร้อมกับลูกน้องอีก 300 คน
ทางด้านของออสตินกำลังหวาดหวั่นเมื่อได้เห็นว่าอยู่ ๆ ก็มีผู้เล่นอย่างกิลด์กะโหลกแดงจำนวนมากเข้าร่วมในเกมนี้ ออสตินถึงกับพึมพำออกมา “ทำไมพวกเขาถึงมาเล่นที่ห้องนี้หลังจากที่ฉันเข้ามา หรือว่าพวกเขามาตามล่าผู้เล่นที่เก่งแบบฉันกัน”
ออสตินเหม่อลอย
ผ่านไปสักพักเสียงของระบบดังขึ้น
“เกมจะเริ่มในอีก 3 นาที ขอให้ผู้เล่นล็อกอิน อยู่ในแดนสงครามเมื่อเกมเริ่มแล้ว และเตรียมตัวให้พร้อมก่อนที่เกมจะเริ่ม นับถอยหลัง 2 นาที 59 วินาที...”
2 นาที 58 วินาที...
2 นาที 57 วินาที...
2 นาที 56 วินาที...
...
กายมาปรากฏอยู่ในห้องสีขาวที่คุ้นเคย ที่นี่มีของทุกอย่างที่เป็นกรรมสิทธิ์ของเขาอยู่เต็มไปหมด แต่ที่โดดเด่นที่สุดคือค้อนสั่นสะเทือน ดาบหักสังหาร ธนูโลหะ และสุดท้ายคือเจ้าหมอก ตอนนี้มันก็ยืนอยู่รอคอยกายเลือก
ไม่รอช้ากายชี้ไปที่เจ้าหมอกในทันที การมีม้าขี่ในแดนสงครามนั้นถือว่าเป็นข้อได้เปรียบที่สุด หลังจากได้พาหนะ กายเลือกอาวุธทั้งสามใส่ไปเต็มอัตราศึกในทันที
ทั้งค้อนสั่นสะเทือน ดาบหักสังหาร ธนูโลหะพร้อมกับศรที่ใส่ไว้ในซองศรข้างลำตัวเจ้าหมอก เพื่อหยิบใช้ได้ง่าย ส่วนดาบหักสังหารนั้นถูกเก็บไว้ที่หลังกาย ในมือเขาถือค้อนสั่นสะเทือนเหมือนกับคนเถื่อนบนหลังม้าไม่มีผิด
“เราไปกันเถอะ”
...
ทันใดนั้นก็มีเสียงจากระบบเกมดังขึ้น...
“แดนสงคราม ดินแดนแห้งแล้ง”
“ฉากกลางวัน”
“ผู้เล่นจำนวน 2,500 คน”
“เงื่อนไขในการเคลียร์ดินแดนแห้งแล้ง”
“1. แย่งชิงเหรียญตราแห่งผู้ชนะเพื่อครอบครองทุกสิ่ง”
“2. เหลือผู้เล่น 100 คน จัดอันดับ 100 อันดับตามการสังหารมากที่สุดเพื่อแบ่งเงินรางวัล”
“เริ่มเกมแดนสงครามใน 3...2...1...”
บนท้องฟ้าจุดศูนย์กลางของแดนสงครามมีข้อความประกาศขึ้น พร้อมกับยังมี ตารางอันดับ 100 อันดับสังหาร
กายเงยหน้าสูดหายใจเอาอากาศในแดนแห้งแล้งที่คุ้นเคยเข้าไป ที่นี่คล้ายกับทุ่งหญ้ากิรามาก ดังนั้นเจ้าหมอกที่กายขี่อยู่ในตอนนี้จึงคึกคักมากเป็นพิเศษ
“บัดซบ นั้นมัน [ลอร์ดเจ็ดโลหะ]”
“มันมีม้าด้วย”
“มีม้าแล้วยังไง พวกเรามีกันตั้งหลายคน”
“เออจริงด้วย ถ้างั้นเล่นแม่งเลย”
“ย้ากกก...!”
ดูเหมือนการโผล่มาในครั้งนี้ของกายจะช่างเหมาะเจาะซะไม่มี เพราะเขาดันโผล่มาพร้อมกับมีผู้เล่นกิลด์กะโหลกแดงถึง 30 คน ต่างพากันคว้าทั้งดาบ มีดสั้นและอาวุธคู่กายหลากหลาย ยังมีค้อนและขวานเข้ามาด้วย แต่ที่ตลกกว่านั้นคือมีคนใช้มีดที่เขาเป็นผู้ตีขึ้นมาอีกด้วย
กายทำเสียง “หึ!” ในลำคอ ก่อนจะแสยะยิ้มออกมา มือหนึ่งจับค้อนสั่นสะเทือนอีกมือหนึ่งจับบังเหียนวิ่งตรงไปยังพุ่งเข้าหาผู้เล่นกิลด์กะโหลกแดงอย่างรวดเร็ว
“ตาย!” ผู้เล่นกิลด์กะโหลกแดงที่ใกล้กายสุดจับดาบสองมือกำลังตวัดฟันใส่กาย
“ยังอ่อนนัก” กายเหวี่ยงค้อนสั่นสะเทือนทุบเข้าไปทั้งคนทั้งดาบที่กำลังจู่โจมเขาพร้อมกัน
“อ๊ากกก..” ดาบของผู้เล่นคนนั้นแตกกระจาย ตามมาด้วยศีรษะของผู้เล่นคนนั้นที่โดนค้อนสั่นสะเทือนฟาดเข้าใส่ ตูม! หัวของชายคนนั้นระเบิดในทันที ตามมาด้วยร่างที่ไร้ศีรษะหมุนติ้ว ๆ กระเด็นกระดอนไปโดนผู้เล่นคนอื่น ๆ ล้มตายไปอีกสองคน เพียงการโจมตีเดียวก็สังหารไปหนึ่งและทำให้โดนลูกหลงตายไปอีกสอง ซึ่งต้องขอบคุณเจ้าหมอกเพราะความเร็วของมันทำให้การโจมตีของกายแรงขึ้นอย่างน่าหวาดหวั่น
แต่ไม่มีใครมาทันได้สนใจคนที่ตาย เพราะไม่กี่วินาทีต่อมากายก็บุกตะลุยเข้าไปกลางวงเหวี่ยงค้อนทุบบ้างฟาดใส่บ้าง จนร่างของผู้เล่นกิลด์กะโหลกแดงทั้งหมดลอยตกตุบ ๆ ๆ พร้อมกับเสียงร้องครวญคราง และผู้เล่นที่ตายสลายเป็นลูกไฟไปอย่างต่อเนื่อง
การที่ลูกไฟขึ้นถี่แบบนี้ทำให้ดึงดูดความสนใจจากทุกสายตา ผู้เล่นทั้งหมดต่างมองมายังจุดที่กายอยู่ พวกกิลด์กะโหลกแดงที่เหลือก็เห็นก็ทำตัวเป็นเหมือนมดเจอน้ำตาลวิ่งเข้ามารุมล้อมจะฆ่าเขา
ตอนนี้มันกลายเป็นว่ากายคือเป้าหมายของพวกนี้ไปแล้ว
ทางด้านหนึ่งที่นำโดย [นักเลง1] หลังจากเข้ามาก็เรียกลูกน้องรวมตัว มันมีกันมากกว่าสองร้อยห้าสิบคน ส่วนที่เหลืออาจจะเพราะอยู่ไกลเลยยังมาไม่ถึง ไม่ก็ถูกฆ่าตายไปแล้ว
ในจำนวนนั้นก็มีผู้เล่นคนหนึ่งที่ขอติดตามมาด้วยไม่ใช่ใครอื่น แต่เป็น [หมูน้อย007] นักข่าวที่เคยเกาะติดกายในสงครามกวาดล้างกะโหลกแดงมาก่อน
“ไปพวกเรา ดูซิครั้งนี้หมอนั้นจะกล้าปฏิเสธฉันอีกไหม ไปแสดงพลังของเหล่านักเลงให้ประจักษ์”
“โอ้ นักเลง”
“นักเลง...”
พวกบ้าดีเดือดวิ่งไปในทันที ทำเอา [หมูน้อย007] ที่เก็บภาพอยู่รู้สึกขนลกกับความพิลึกของกลุ่มคนพวกนี้ แต่แบบนั้นตนก็ยังตามไปเพราะจะได้ตามเก็บภาพของ [ลอร์ดเจ็ดโลหะ]
ตั้งแต่ข่าวในครั้งนั้น [หมูน้อย007] ก็มีชีวิตที่อาจจะเรียกว่าดีขึ้นมานั้นก็คือ เขาไม่โดนหักเงินเดือน แถมยังไม่ต้องทำงานล่วงเวลามากนัก ขอแค่มีข่าวของลอร์ดเจ็ดโลหะมาก็พอ
และในครั้งนี้เป็นการต่อสู้ของกิลด์กะโหลกแดงกับ [ลอร์ดเจ็ดโลหะ] โดยไม่มีใครมาแทรกแซง ดังนั้นมันต้องตื่นเต้นอย่างแน่นอน อาจจะไม่เท่าสงครามครั้งก่อน แต่หมูน้อยเชื่อว่ามันคงจะมีสนุกที่ได้เห็นกิลด์กะโหลกแดงโดนบดขยี้ไม่มีชิ้นดี ในฐานะนักข่าวเขารู้งานแบบนี้จะมียอดชมสูงมากโดยเฉพาะจากพวกที่ไม่ชอบขี้หน้ากิลด์กะโหลกแดง
หลังจากสังหารกลุ่มของกิลด์กะโหลกแดงที่ล้อมเขาอยู่ในตอนแรกหมด กายก็มองหาคนผู้หนึ่งอยู่ และก็ไม่ใช่ใครที่ไหน แต่เป็นออสติน กายคิดจะจัดการให้จบ ๆ ไป ออสตินจะได้ไม่ต้องมารังควานเขาอีก
ออสตินที่ตอนนี้อยู่ห่างออกไปราว ๆ 300 เมตรกำลังสู้กับชายคนหนึ่งอยู่ ทั้งสองเป็นผู้เล่นหน้าใหม่ด้วยกัน ดังนั้นฝีมือจึงสูสีไม่ต่างกันมากนัก
แต่ในตอนนั้นเองผู้เล่นที่สู้อยู่กับออสตินก็ถยหลังด้วยความกลัว ก่อนจะวิ่งหนีไปในทันที ออสตินที่เห็นแบบนั้นก็คิดว่าผู้เล่นคนนั้นสู้ไม่ไหว และกำลังถอยหลังวิ่งหนีด้วยความหวาดกลัว
“ฮ่า ๆ ลูกสุนัข เข้ามาสู้ต่อสิ” ออสตินด่าตามหลังไป พร้อมกับจับที่แขนซึ่งมีรอยบาดอยู่ “เจ็บเป็นบ้าเลย ตัวเกมน่าจะปรับระดับให้ความเจ็บให้น้อยกว่านี้อีกนะ จริงสิเราต้องไปตามหาชายคนนั้นก่อน ไม่รู้ตอนนี้มุดหัวหลบอยู่ที่ไหน”
“ไม่ต้องตามหาหรอกฉันอยู่นี่แล้ว” เสียงของกายดังขึ้นมาจากข้างหลังของออสตินหรือกับเสียงฮึดฮัดของเจ้าหมอกที่หายใจลดต้นคอของออสตินอยู่
ออสตินรู้สึกขนลุกซู่ ในตอนที่มันหันกลับไปมองก็เจอกับชายหนุ่มภายใต้หน้ากากเหล็กที่ขี่ม้าอยู่ พร้อมกันนั้นเหนือหัวขึ้นไปมีชื่อผู้เล่นแสดงอยู่อย่างชัดเจน
“ลอร์ด...เจ็ด...โลหะ!” ออสตินถึงกับปากสั่นมือไม้อยู่ไม่สุขในทันที มันไม่คิดว่าตนเองจะโดนลอร์ดเจ็ดโลหะหมายหัวได้