ตอนที่ 1011-1012 เธอชอบคุณมากเกินไป
โดยเฉพาะแม่ของเจ้าชายสุดหล่อ
ว่ากันว่าแม่สามีกับลูกสะใภ้ ไม่ง่ายเลยที่จะเข้ากันได้
รอยยิ้มของเฉียวเมียนเมียนแข็งทื่อขึ้น
เจียงหลัวลี่รู้ได้ทันทีว่าเกิดอะไรขึ้น เธอขมวดคิ้วและถามกลับ “แม่ของเจ้าชายสุดหล่อ คงเข้ากันได้ไม่ง่ายเลยใช่ไหม?”
“เปล่า”
เฉียวเมียนเมียนไม่ต้องการให้เจียงหลัวลี่รู้เกี่ยวกับความคับข้องใจของเธอ จึงโกหกออกไป
“ก็ไม่ได้ง่าย แต่ก็ไม่ได้ทำให้เสียใจอะไร อีกอย่างฉันกับเหมาเยซื่อไม่ได้อยู่ร่วมบ้านกับเขา ก็มีทานข้าวร่วมกันบ้าง ไปนอนค้างบ้านนั้นบ้าง ก็เท่านั้น”
“ก็ดีแล้วล่ะ”
เฉียวเมียนเมียนรู้สึกไม่สบายใจเมื่อนึกถึงคุณผู้หญิงเหมา แต่เมื่อนึกถึงคุณผู้หญิงเหมาอาวุโสก็ทำให้เธอยิ้มออกมาได้
“คุณผู้หญิงเหมาอาวุโสเป็นคนดี ท่านรักฉันมากและปฏิบัติต่อฉันอย่างดี ตอนที่ฉันไปตระกูลเหมาครั้งแรก ท่านให้ของขวัญฉันด้วยล่ะ”
“ท่านผู้อาวุโสเหมา? คงจะเป็นย่าของเจ้าชายสุดหล่อใช่ไหม?”
“ใช่ ท่านเป็นคนดี เวลาที่ฉันเจอท่าน ฉันมักจะคิดถึงคุณย่าของฉัน”
“ฉันชักจะอยากรู้แล้วสิ ว่าท่านผู้อาวุโสเหมาให้ของขวัญอะไรกับเธอ? ไหน ๆ ก็ไหน ๆ แล้ว บอกเพื่อนสนิทมาซะดี ๆ” เจียงหลัวลี่โล่งใจอยู่บ้างที่ได้ยินว่าท่านผู้อาวุโสเหมาชอบเฉียวเมียนเมียน
ในครอบครัวที่ร่ำรวยและทรงอำนาจ สถานภาพของผู้อาวุโสเหมาถือว่าเป็นผู้ปกครองภายในครอบครัว
ถ้าผู้อาวุโสเหมาชอบเพื่อนรักของเธอ ก็ไม่มีอะไรให้ต้องกังวล
แม้ว่าคุณผู้หญิงเหมาจะไม่ชอบเพื่อนรักของเธอ แต่ผู้อาวุโสเหมาต้องให้ความปกป้องเธอ เรื่องนี้คงทำให้คุณผู้หญิงเหมาไม่กล้าทำอะไรมากจนเกินไป
เฉียวเมียนเมียนเล่าถึงของขวัญที่ผู้อาวุโสเหมามอบให้เธอ
ทำเอาเจียงหลัวลี่ตกตะลึง
“ให้ตายสิ ท่านใจดีอะไรขนาดนั้น” เธอแทบจะหลั่งน้ำตาด้วยความอิจฉา
“ถ้าอย่างนั้น ตอนนี้เธอก็กลายเป็นเศรษฐีไปแล้วล่ะสิ? ไม่น่าแปลกที่ดาราหลายคนพยายามจะแต่งงานเข้าไปในครอบครัวคนรวย ถ้าเข้าไปได้ก็คงมีความสุขน่าดูเลยสิท่า”
“ของขวัญมูลค่าหลายร้อยล้านหยวน”
“ท่านผู้อาวุดสใจดีจัง แล้วแม่สามีเธอล่ะ เขาให้ของขวัญอะไรเธอบ้าง”
“กำไล” เฉียวเมียนเมียนคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วพูดว่า “ก็ดูเป็นของแพงน่ะนะ แต่คงไม่มากเท่ากับของที่ท่านผู้อาวุโสให้”
“ฉันเคยเห็นกำไลหยกนั้นในที่ประมูลมาก่อน ราคาประมูลก็คงจะหลายสิบล้าน แต่ท่านผู้อาวุโสนี่ใจดีจริง ๆ สมบัติเหล่านั้นมีค่าหลายร้อยล้านหยวนเลยนะ”
“ท่านคงเอ็นดูเธอจริง ๆ สิท่า”
“ใช่” เฉียวเมียนเมียนพยักหน้า “ท่านผู้อาวุโสดีกับฉันมากจริง ๆ ยิ่งช่วงนี้ฉันจะมีข่าวอื้อฉาวมากมาย ฉันกังวลว่าผู้อาวุโสจะหันหลังให้ฉัน จะไม่ต้องการฉันอีก ฉันไม่อยากให้ท่านเกลียดฉันเลยจริง ๆ”
“ท่านเชื่อในตัวฉัน แต่ฉันก็ยังกลัวว่าท่านจะไม่มีความสุข ถ้าฉันยังมีข่าวอื้อฉาวบ่อยเกินไป”
เจียงหลัวลี่เงียบไปครู่หนึ่ง ก่อนจะถอนหายในออกมา “นี่ก็เป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่ครอบครัวคนรวยและมีอำนาจไม่ชอบแต่งงานกับดารา ครอบครัวคนรวยต่างก็ให้ความสำคัญกับหน้าตา หากคนในครอบครัวเป็นดาราแล้วยังมีเรื่องอื้อฉาวเกิดขึ้นอีก เขาคงรู้สึกอับอาย
“เพื่อนรัก พวกเขาไม่ได้ว่าอะไรใช่ไหม อย่างเช่นขอให้เธอออกจากวงการบันเทิงอะไรแบบนั้น?”
เฉียวเมียนเมียนคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะส่ายหน้า “ยังนะ”
“ดีแล้วล่ะ ไม่ว่ายังไง เจ้าชายสุดหล่อก็คงจะหนุนหลังเธอ หายากจริง ๆ”
หลังจากพูดคุยกันได้สักพัก โทรศัพท์ของเฉียวเมียนเมียนและเจียงหลัวลี่ก็ดังขึ้น
เฉียวเมียนเมียนรับสาย ได้ยินเสียงเหมาเยซื่อดังมาจากอีกฝั่ง “ที่รัก ยังอยู่ข้างนอกเหรอ จะกลับเมื่อไหร่”
ก่อนที่เธอจะทั้นได้ตอบกลับ เขาก็พูดต่อ “คุณอยู่ที่ไหน เดี๋ยวผมออกไปรับ”
“คุณเลิกงานแล้วเหรอ?” เฉียวเมียนเมียนมองดูเวลา นี่ไม่ใช่เวลาเลิกงานปกติของเขา
“อืม วันนี้ผมอยากเลิกงานเร็วหน่อย” เหมาเยซื่อถามอีกครั้ง
“ตอนนี้คุณอยู่ไหน ผมจะออกไปหาตอนนี้เลย”
“ฉันอยู่กับหลัวหลัวคะ” เฉียวเมียนเมียนมองไปที่เจียงหลัวลี่และคิดอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะพูดว่า
“ได้ ฉันจะส่งพิกัดให้กับคุณ”
เฉียวเมียนเมียนวางสายและส่งตำแหน่งที่อยู่ของเธอให้กับเขา
เธอเพิ่งจะส่งที่อยู่ของเธอให้กับเหมาเยซื่อ ก็พบว่ามีชายร่างสูงสองคนเดินเข้ามาหาพวกเธอ
พวกเขาเดินตรงมาที่โต๊ะ
เฉียวเมียนเมียนมองดูพวกเขาอย่างระมัดระวัง
ชายชุดดำสองคนมองลงมาที่เจียงหลัวลี่ และพูดอย่างสุภาพ “คุณเจียง นายท่านให้พวกเรามารับคุณไปทานอาหารค่ำครับ”
เจียงหลัวลี่วางสายและเงยหน้าขึ้นมองพวกเขาอย่างไร้ความรู้สึก
“ขอโทษด้วยค่ะ กลับไปบอกเขาว่าคืนนี้ฉันมีนัดแล้ว”
ชายชุดดำสองคนตะลึงอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะแสดงท่าทางเคอะเขิน “แต่ท่านบอกกับพวกเราว่า ต้องพาคุณเจียงไปให้ได้ คุณ...”
“ฉันจะบอกเขาเองค่ะ” เจียงหลัวลี่มองลงไปที่มือถือของเธอและกดหมายเลขของเหมาซวีเสียต่อหน้าบอดี้การ์ดทั้งสอง
ไม่กี่อึดใจ ปลายทางก็รับสาย
เสียงต่ำและเย็นดังลอดมาปลายสาย “สวัสดีครับ คุณเจียง”
เจียงหลัวลี่พูดไม่ออก
“ผมส่งคนไปรับคุณแล้ว พวกเขาไปถึงหรือยัง”
“...”
“วันนี้ผมไม่ว่าง เลยนัดเดทกับคุณคืนนี้แทน ผมไม่รู้ว่าคุณเจียงชอบเดทแบบไหน เลยชวนทานข้าวด้วยกัน เสร็จแล้วไปดูคอนเสิร์ต ถ้าพอมีเวลาเหลือ เราขึ้นไปดูดาวด้วยกัน”
“คุณเจียง คิดว่ายังไงครับ”
เจียงหลัวลี่พูดไม่ออก
เธอเกือบสำลักออกมา
ลืมเรื่องคอนเสิร์ตไปเลย ไม่ใช่แนวของเธอ
นี่มันอะไรกัน?
ยุคนี้ ใครเขาออกเดทกันแบบนี้?
ยิ่งไปกว่านั้น ขึ้นไปบนภูเขาเพื่อดูดาวในฤดูร้อนนี่นะ ยุงก็กัดแย่สิ?
“คุณเจียง ฟังอยู่หรือเปล่า?” เหมาซวีเสียคิดว่าเธอไม่ได้ยินคำพูดของเขา
“อะแฮ่ม! ฉันฟังอยู่ค่ะ” ริมฝีปากของเจียงหลัวลี่กระตุก
“ฉันขอถาม นี่คุณเหมาล้อเล่นหรือเปล่า?”
เขาล้อเธอเล่นอย่างงั้นเหรอ?
“ไม่นะ ผมพูดจริง” เหมาซวีเสียพูดอย่างจริงจัง
“ผมจริงจังกับทุกสิ่งที่พูดออกไป ที่ผมพุดเมื่อกี้ คุณ...”
“คุณเหมา ฉันต้องขอโทษด้วย คืนนี้ฉันมีนัดแล้วค่ะ”
เพราะเจียงหลัวลี่ได้ตัดสินใจไปแล้ว เธอไม่คิดจะข้องเกี่ยวกับผู้ชายคนนี้อีกต่อไป แม้ว่าเหมาซวีเสียจะเป็นอะไรที่ล่อใจเธออย่างมาก
แม้จะยากต่อด่านทดสอบนี้
แต่เธอก็ต้องอดทน
ยิ่งสิ่งล่อใจมากเท่าไหร่ โอกาสที่จะตกลงไปให้หลุมพราง ก็ยิ่งมากขึ้นเท่านั้น
เป็นการดีที่จะหยุดทุกอย่างตั้งแต่แรก