ตอนที่แล้วWS บทที่ 254 ลูกศิษย์?
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปWS บทที่ 256 ขีดจำกัดของพื้นที่มิติ

WS บทที่ 255 ความลึกลับของคาถาธาตุแสง


ความสงบสุขกลับคืนมาสู่ตระกูลชาเดอสันอีกครั้ง ภายหลังการเผชิญหน้าระหว่างสองตระกูลได้สิ้นสุด ความวุ่นวายอยู่ในส่วนของบริเวณรอบนอกเท่านั้น มันไม่ได้แพร่กระจายเข้ามาด้านใน

ดังนั้นคฤหาสน์แห่งนี้จึงยังอยู่ในสภาพสมบูรณ์ นักเวทย์หลายคนรีบวิ่งเข้าออกคฤหาสน์แต่เมื่อพวกเขาเห็นเมอร์ลิน พวกเขาก็เกร็งทันทีและโค้งคำนับเขาเล็กน้อย

ณ จุดนี้ ไม่มีใครรู้ว่าเมอร์ลินเป็นใครในคฤหาสน์ชาเดอสันหรือแม้แต่เมืองโทลเล่ทั้งหมด

เมอร์ลินรีบพาเอ็มม่าและคนอื่น ๆ เข้าไปในห้องทันที นอกจากเอ็มม่าแล้ว ยังมีไชรีนและฮายาที่เขาพบระหว่างทางรวมทั้งเอมิลี่และทาเฟลด้วย พวกเขาจ้องมองเมอร์ลินด้วยความสงสัย จากมุมมองของพวกเขา บลูเบิร์ดนั้นทรงพลังอยู่แล้ว มันเป็นพลังที่อยู่เหนือพลังของพวกเธอไปมากจนไม่อาจจะจินตนาการได้

อย่างไรก็ตาม เมอร์ลินสามารถเอาชนะบลูเบิร์ดและฆ่าเธอได้ เมอร์ลินเหนือกว่านักเวทย์ทั่วไปมาก ยิ่งกว่านั้น เมอร์ลินยังเป็นเพียงแค่นักเวทย์ระดับหนึ่งเท่านั้น!

สิ่งนี้ทำให้ไชรีนและคนอื่นๆ ประหลาดใจ นี่เป็นครั้งแรกที่พวกเขาได้พบกับนักเวทย์ระดับหนึ่งแต่ก็ยังทรงพลังถึงเพียงนี้!

“เยี่ยมมาก เอ็มม่า จริง ๆ แล้วฉันเพิ่งเป็นนักเวทย์ระดับหนึ่งได้ไม่นานและอีกอย่างฉันไม่ได้คาดหวังว่าเธอจะประสบความสำเร็จในการสร้างคาถาระดับศูนย์ทั้งสามที่ฉันให้เธอแต่เธอทำมันสำเร็จดังนั้นฉันจะพาเธอไปที่ดินแดนมนต์ดำ!”

ทันทีที่เขาพูด ใบหน้าของเอ็มม่าก็แสดงสีหน้าร่าเริงขึ้น แม้ว่าเธอจะเพิ่งเป็นนักเวทย์ได้ไม่นานแต่เธอก็รู้ถึงความแตกต่างระหว่างพ่อมดพเนจรกับพ่อมดที่มาจากองค์กรนักเวทย์

สิ่งที่เมอร์ลินพูดหมายความว่าเขายอมรับเอ็มม่าเป็นลูกศิษย์ของเขาอย่างไม่ต้องสงสัย นอกจากนี้ เขายังตกลงที่จะพาเอ็มม่าไปยังดินแดนมนต์ดำอีกด้วย

“ยินดีด้วย แม่มดเอ็มม่า มันไม่ง่ายเลยที่จะเข้าสู่ดินดนมนต์ดำ”

แม่มดไชรีนกล่าวชมเอ็มม่าอย่างชื่นชม เธอเป็นนักเวทย์ระดับหนึ่งมาเป็นเวลานานและต้องการเข้าร่วมองค์กรนักเวทย์ด้วยความช่วยเหลือจากตระกูลของเธอแต่ในที่สุดก็ไม่ประสบความสำเร็จ

เธอรู้ว่าการเข้าสู่ดินแดนมนต์ดำนั้นยากเพียงใด แม้แต่นักเวทย์ผู้ทรงพลังภายในดินแดนมนต์ดำก็ไม่สามารถนำนักเวทย์จากภายนอกเข้ามาภายในได้โดยตรง เฉพาะนักเวทย์ที่มีเหรียญตราเท่านั้นถึงจะเข้าไปในองค์กรได้

ดังนั้นไชรีนจึงมองไปยังเมอร์ลินด้วยความสงสัย

เมอร์ลินสัมผัสได้ถึงการจ้องมองของไชรีนและส่ายหัวเล็กน้อย จากนั้นเขาก็ดึงแหวนมนต์ดำจากแหวนของเขาเอง เขาได้รับแหวนมนต์ดำนี้เมื่อเขาออกจากดินแดมนต์ดำและฆ่าพ่อมดนีลในตอนนั้น

“นี่คือแหวนมนต์ดำ เธอสามารถใช้แหวนวงนี้เพื่อเข้าไปในดินแดนมนต์ดำและกลายเป็นสมาชิกชั่วคราวได้!”

เมอร์ลินมอบแหวนมนต์ดำให้เอ็มม่า เมื่อมาถึงจุดนี้ ไชรีน, ฮายา และคนอื่น ๆ ก็ไม่สงสัยอีกต่อไปแล้วว่าเมอร์ลินจะช่วยเอ็มม่าเข้าร่วมดินแดนมนต์ดำได้หรือไม่

“เอ็มม่า ยินดีด้วย หลังจากที่คุณได้เป็นแม่มดในองค์กรนักเวทย์ คุณจะเป็นนักเวทย์ระดับหนึ่ง สอง หรือสาม หรือแข็งแกร่งกว่านั้น!”

เอมิลี่ ทาเฟล และคนอื่นๆ ต่างอวยพรให้เอ็มม่าตามลำดับ

“พ่อมดเมอร์ลิน เราเคยทำให้คุณลำบากในระหว่างการทำทาง พวกเราต้องต้องขออภัยท่านด้วย” ไชรีนพูดกับเมอร์ลินเบาๆ

เมอร์ลินโบกมือ “มันเป็นเรื่องเล็กน้อยอย่าไปใส่ใจเลย เอาล่ะ เลอแรนก้า เธอพาพวกเขาไปพักในคฤหาสน์ ถ้าติดขัดอะไรก็มาหาฉันได้”

เมอร์ลินถือว่าคนเหล่านี้เป็นคนที่ ‘ปกป้อง’ เอ็มมา นั่นเป็นเหตุผลที่เขาปฏิบัติกับพวกเธออย่างนื้ แม้ว่าเขาจะเคยบังเอิญเจอไชรีนและฮายามาก่อนแต่เขาคงไม่ปฏิบัติกับพวกเธอเพียงเคยร่วมทางกันมาก่อนแน่นอน

“ท่านอาจารย์ ถ้าอย่างนั้น ฉันขอตัวก่อนเจ้าค่ะ”

เอ็มม่าสามารถบอกได้ว่าเมอร์ลินต้องการเวลาส่วนตัว ดังนั้นเธอจึงกล่าวคำอำลาและออกจากห้องไป

หลังจากนั้นไม่นาน ห้องของเมอร์ลินก็เงียบลง

เมอร์ลินหยิบหนังสือแห่งนิดันดร์ออกมา ตัวเล่มไม่หนามากและพื้นผิวของมันถูกปกคลุมด้วยสัญลักษณ์ลึกลับ เมื่อมองแวบเดียว เมอร์ลินก็สามารถบอกได้ว่าสิ่งเหล่านี้คืออักษรรูน

อักษรรูนเป็นอีกแขนงหนึ่งของศาสตร์เวทมนต์ พวกมันได้รับการสืบทอดมาจากสมัยโบราณและควบคู่ไปกับการเล่นแร่แปรธาตุ น้ำยาและคาถา พวกมันเขาถูกเรียกว่าศาสตร์ทั้งสี่ของนักเวทย์ ตราบเท่าที่มีความชำนาญในสาขาวิชาใดสาขาหนึ่ง พวกเขาจะประสบความสำเร็จอย่างมาก

อย่างไรก็ตาม นักเวทย์ส่วนใหญ่มุ่งความสนใจไปที่การสร้างโครงสร้างเวทมนต์ ศาสตร์ที่เหลือจึงไม่ได้รับความสนใจมากนัก

แต่ในหนังสือโบราณบางเล่มได้ระบุอย่างคลุมเครือว่านักเวทย์ที่เชี่ยวชาญศาสตร์ในศาสตร์หนึ่ง ศาสตร์เหล่านั้นจะมีความแข็งแกร่งเทียบเท่าคาถา

ในตอนนี้ นอกจากการรู้วิธีสร้างคาถาและน้ำยาพื้นฐานแล้ว เมอร์ลินไม่เคยศึกษาอักษรรูนหรือการเล่นแร่แปรธาตุเลย แม้แต่การสร้างคาถาของเขาก็ยังพึ่งพาเดอะเมทริกซ์ อย่างไรก็ตาม เขาได้เรียนรู้เพียงเล็กน้อยเกี่ยวกับการสร้างคาถาผ่านการฝึกฝนอย่างต่อเนื่อง

อย่างไรก็ตาม แม้ว่าเมอร์ลินจะไม่รู้ว่าอักษรรูนในหนังสือแห่งนิดันดร์หมายถึงอะไรแต่เขารู้วิธีใช้มัน ทั้งหมดที่เขาต้องการคือใช้พลังจิตเพื่อเปิดใช้งานหนังสือแห่งนิดันดร์เพื่อที่จะได้เห็นคาถาต่าง ๆ ที่อยู่ในนั้น

*วิ้ง!*

หลังจากการเปิดใช้งานอย่างกะทันหันของหนังสือแห่งนิดันดร์โดยพลังจิตของเมอร์ลิน หนังสือเล่มนี้ก็ยิงลำแสงสีขาวออกมา ภายในแสงสีขาวนั้น คาถาปรากฏขึ้นทีละอัน

มีคาถาหลายธาตุ มีทั้งธาตุไฟ ธาตุลม ธาตุดินและอื่นๆ มีแม้กระทั่งคาถาธาตุมืดแต่ตัวคาถาไม่ค่อยเหมาะกับตัวเขาเท่าที่เขาได้รับมาจากหอคอยอเวจี เห็นได้ชัดว่าคาถาในหนังสือแห่งนิดันดร์มีความแข็งแกร่งปานกลางและไม่ค่อยซับซ้อนหรือไม่เหมือนใคร

เมอร์ลินเปิดใช้งานเดอะเมทริกซ์และเริ่มบันทึกคาถาทีละอัน ก่อนหน้านี้ที่ตระกูลชาเดอสันแสดงเวทย์มนตร์ คาถาบางอันก็แสดงไม่หมด เมื่อเมอร์ลินมีหนังสือแห่งนิดันดร์อยู่ในมือแล้ว เขาก็บันทึกมันทั้งหมด

มีคาถาต่าง ๆ มากมายในหนังสือแห่งนิดันดร์ ตระกูลชาเดอสันได้แสดงบางส่วนเท่านั้น มีคาถาสองสามอันที่พวกเขาคิดว่าแข็งแกร่ง แต่ไม่ได้แสดงมันออกมา

ขณะที่เมอร์ลินบันทึกคาถาด้วยเดอะเมทริกซ์ เขาก็ตรวจสอบคาถาเหล่านี้อย่างระมัดระวัง เมื่อเขาผ่านเวทย์มนตร์ไปแล้วกว่าครึ่งในหนังสือแห่งนิดันดร์ เขาเริ่มขมวดคิ้วเป็นเพราะเขาค้นพบคาถาธาตุน้ำจำนวนหนึ่งในหนังสือแห่งนิดันดร์แต่เขาก็ยังไม่เห็นคาถาธาตุแสงเลย แม้แต่บทเดียว

หนังสือแห่งนิดันดร์มีมาตั้งแต่สมัยโบราณแต่ไม่มีบันทึกเกี่ยวกับคาถาธาตุแสง สิ่งนี้บ่งชี้ว่าการมีอยู่ของคาถาธาตุแสงได้หายไปโดยไม่ทราบสาเหตุ

"ตราบใดที่มีความมืดก็ย่อมมีแสงสว่าง ในทุกพื้นที่ควรจะเต็มไปด้วยพลังธาตุแสง สิ่งที่จำเป็นก็คือโครงสร้างเวทมนต์คาถาธาตุแสงเพื่อสร้างแบบจำลองในจิตใต้สำนึกของตนแต่แล้วทำไมถึงไม่มีคาถาธาตุแสงล่ะ?"

เมอร์ลินรู้สึกสงสัยมากขึ้นว่าการสูญหายของคาถาธาตุแสงอาจมีความเชื่อมโยงอย่างมากกับโบสถ์แห่งแสง ในขณะที่เขาต่อสู้กับพ่อมดเจสันในเมืองแบล็ควอเตอร์ พ่อมดเจสันเคยใช้เวทมนตร์ธาตุแสง นี่หมายความว่าคาถาธาตุแสงมีอยู่จริงและด้วยเหตุผลบางอย่างทำให้ไม่มีคาถาธาตุแสงในหมู่ของนักเวทย์

'แม้แต่ในหนังสือแห่งนิดันดร์ก็ไม่มีคาถาธาตุแสง...'

เมอร์ลินส่ายหัวและปัดเป่าความคิดเหล่านี้ออกจากจิตใจของเขา จากนั้นเขาก็อดทนรอให้หนังสือแห่งนิดันดร์แสดงคาถาทั้งหมดออกมา

หลังจากที่หนังสือแห่งนิดันดร์ได้แสดงคาถาทั้งหมดแล้ว แสงของมันก็เริ่มจางหายไปอย่างช้า ๆ จนกระทั่งถึงตอนสุดท้าย เมอร์ลินไม่เคยเห็นแม้แต่เบาะแสเกี่ยวกับเล่มที่สองหรือสามแม้แต่นิดเดียว

“ถ้าอย่างงั้นตระกูลดอเร็ตคงจะเผยแพร่ข่าวปลอมนี้ออกไปเพื่อรักษาพันธมิตรของพ่อมดพเนจรเอาไว้สินะ”

เมอร์ลินสงสัยในเรื่องนี้และไม่ได้มองข้ามความเป็นไปได้ที่หนังสือแห่งนิดันดร์เล่มแรกจะมีเบาะแสเกี่ยวกับเล่มที่สองและเล่มที่สาม

อย่างไรก็ตาม เมอร์ลินยังไม่เชื่อว่าจะไม่มีความเชื่อมโยงระหว่างหนังสือแห่งนิดันดร์ทั้งสามเล่ม ดังนั้นเขาจึงตรวจสอบมันอย่างละอียดอีกครั้งแต่น่าเสียดายที่เขาทำได้เพียงยอมแพ้อย่างสิ้นหวัง

บางทีหนังสือแห่งนิดันดร์ทั้งสามเล่มอาจไม่ได้เชื่อมโยงอันตั้งแต่แรกก็ได้

“มันอาจจะคล้ายกับอุปกรณ์เวทมนต์ของพ่อมดเบลล์ที่มันจะเกิดปฏิกิริยาหากอยู่ใกล้ ๆ ถ้าเป็นอย่างนั้นจริง ๆ หนังสือแห่งนิดันดร์เล่มนี้ก็อาจจะยังมีประโยชน์อยู่บ้าง”

ขณะที่ความคิดนับไม่ถ้วนแล่นเข้ามาในหัวของเมอร์ลิน เขาก็พึมพำเบา ๆ หลังจากนั้นเขาก็เก็บหนังสือแห่งนิดันดร์ เขาจะศึกษาอย่างละเอียดเมื่อเขามีเวลาในอนาคต

“ต่อไปก็แหวนของบลูเบิร์ด…”

ทันใดนั้นแหวนหมึกสีดำก็ปรากฏขึ้นบนฝ่ามือของเมอร์ลิน มันคือแหวนที่เป็นของบลูเบิร์ดผู้หยิ่งผยอง แม้ว่าเธอจะถูกเผาเป็นเถ้าถ่านโดยเพลิงวินาศแต่แหวนก็ยังอยู่ในสภาพที่สมบูรณ์

เมอร์ลินรู้สึกทึ่งกับพลังปีศาจแพนโดร่าธาตุน้ำแข็งและธาตุลมของบลูเบิร์ด พลังปีศาจแพนโดร่าทั้งสองนี้เห็นได้ชัดว่าเป็นของออซมู เพราะพวกมันมีความพิเศษอย่างเห็นได้ชัด อย่างพลังของเส้นน้ำแข็งนั้นแข็งแกร่งกว่าดัชนีเยือกแข็งของเมอร์ลิน

ถ้าไม่ใช่เพราะคุณสมบัติทางกายภาพที่ยอดเยี่ยมของเมอร์ลินนอกเหนือจากพลังอันยอดเยี่ยมของเพลิงวินาศแล้ว เมอร์ลินก็จะไม่มีทางฆ่าบลูเบิร์ดด้วยพลังปีศาจแพนโดร่าที่เขามี

ยิ่งกว่านั้น เมอร์ลินมีพลังปีศาจแพนโดร่าสามธาตุแต่เขตแดนแสงดำซึ่งได้รับการเสริมพลังโดยดวงใจแห่งความมืด มันไม่ได้มีประโยชน์อะไรกับบลูเบิร์ดมากนัก

หากเมอร์ลินสร้างคาถาประเภทความมืดระดับสอง นั่นคือสายธารแห่งความมืด มันก็น่าจะมีผลกับนักเวทย์ที่แข็งแกร่งกว่า

ยิ่งพลังจิตของคู่ต่อสู้แข็งแกร่งเท่าใด ก็ยิ่งต้านทานภาพลวงตาได้มากขึ้นเท่านั้น โดยเฉลี่ยแล้วอัจฉริยะของออสมูมีพลังจิตที่น่าเกรงขาม ดังนั้นเขตแดนแสงดำของเมอร์ลินจึงไม่ค่อยมีประโยชน์ในการต่อสู้กับนักเวทย์ของออสมู

ตามปกติแล้ว เมอร์ลินต้องการสร้างคาถาระดับสอง นั่นคือสายธารแห่งความมืดแต่ตอนนี้ไม่ใช่เวลา เขาต้องรอจนกว่าพลังจิตของเขาจะเพิ่มขึ้นอีกหนึ่งหรือสองครั้งก่อนที่เขาจะพยายามสร้างคาถาระดับสอง

“มาดูกันว่ามีข้างในจะมีพลังปีศาจแพนโดร่าอยู่ในแหวนหรือไม่!”

เมอร์ลินจ้องไปที่แหวนหมึกสีดำในมือ จากนั้นจึงเอื้อมมือเข้าไปในส่วนลึกของแหวนด้วยพลังจิตและเริ่มค้นหา

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด