HO บทที่ 126 เข้าสู่ดันเจี้ยน
ขณะที่ทุกคนกำลังทำกิจกรรมของตัวเอง ท้องฟ้ายามค่ำคืนก็เริ่มจางหายไปเป็นสีน้ำเงินอมเทาของตอนเช้า ดอกไม้ของต้นสนซึ่งให้แหล่งกำเนิดแสงแก่พวกเขาในตอนเย็นเริ่มหรี่ลง
เป็นอีกครั้งที่ต้นไม้สีสันสดใสถูกนำมาจัดแสดง สร้างความผิดหวังให้กับซินหยาเป็นอย่างมาก เขาถอนใจเมื่อเห็นภาพนั้นอีกครั้ง เขาตรวจดูว่าแถบน้ำของเขาเต็มหรือไม่ เมื่อเขาเห็นว่ามันเต็ม เขาก็โล่งอกเพราะเขาจะไม่กังวลกับมันอีกสักระยะหนึ่ง
“แย่จัง ทำไมเราจับปลาไม่ได้สักตัวล่ะ” เมลติ้งสโนว์ถามพลางชี้ไปที่ถังเปล่าข้าง ๆ เขา
“ฉันคิดว่าทักษะการตกปลาของเราต่ำเกินไปสำหรับบ่อนี้” ซินหยากล่าว “แล้วเธอก็ไม่ได้ใช้เหยื่อด้วย”
เมลติ้งสโนว์ได้ตบหน้าตัวเองและตะโกนว่า "อะไรนะ!! ทำไมพี่ถึงไม่บอกผมล่ะ!"
“ฉันคิดว่าเธอกำลังลองอะไรใหม่ ๆ” ซินหยากล่าวพลางหัวเราะ “ก็เธอเองเคยพยายามจับปลาด้วยมือเปล่ามาแล้วนี่”
“ตอนนั้นผมคิดว่ามันน่าจะจับได้ แต่ในเมื่อตอนนี้ผมรู้แล้วดังนั้นผมเลยใช้เบ็ดตกปลา” เมลติ้งสโนว์กล่าว
ซินหยาหัวเราะคิกคัก เขาเอาอุปกรณ์ตกปลาของเขาเก็บเข้าช่องเก็บของ ก่อนจะลุกขึ้นจากพื้น ในที่สุดเวลาตอนเช้าก็มาถึงและได้เวลาสำรวจดันเจี้ยนสมบัติแล้ว เมื่อเปิดอินเทอร์เฟซของเขา เขาได้ตรวจสอบให้แน่ใจว่าฉายาของเขาถูกเปลี่ยนกลับไปเป็น ผู้กอบกู้ป่าบาดาฮาล เรียบร้อย ก่อนที่จะหันไปมองที่เมลติ้งสโนว์
“รีบ ๆ ลุกขึ้นได้แล้ว ตอนนี้ได้เวลาเข้าไปในดันเจี้ยนแล้ว” ซินหยากล่าว
ทันทีที่คำพูดออกจากปากของเขา ใบหน้าของเมลติ้งสโนว์ก็เปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง จากหน้าบึ้งของเขาได้หายไปปลิดทิ้ง เหลือเพียงรอยยิ้มกว้าง
หลังจากเก็บเบ็ดตกปลาแล้ว เมลติ้งสโนว์ก็เด้งขึ้นมาจากจุดที่นั่งอยู่ และเริ่มเดินไปหาสมาชิกอีกสองคนในปาร์ตี้ของพวกเขาอย่างรวดเร็ว
“เร็วเข้าพี่ดริฟ ยิ่งเราช่วยพวกเขาเก็บแคมป์เร็วเท่าไร เราก็ยิ่งสำรวจดันเจี้ยนได้เร็วเท่านั้น” เมลติ้งสโนว์กล่าวขณะที่เขาเดินไปทางเว่ยกับวอนเดอร์ริ่งซาวด์ซึ่งได้เริ่มทำความสะอาดหลุมไฟแล้ว
ในขณะที่ ซินหยายิ้มเบา ๆ เขาเหยียดแขนขึ้นเหนือหัวของเขาก่อนที่จะเดินตามเมลติ้งสโนว์ไป
เมื่อเขาไปรวมตัวกับกลุ่มของเขา ท้องฟ้าก็สว่างแล้ว
“ทุกคนพร้อมจะเข้าไปในดันเจี้ยนไหม?” ซินหยาถามพวกเขาทั้งหมด
“พร้อมแล้ว” เว่ยพูด "Hp ของฉันก็เต็ม ฉันได้เพิ่มแต้มลงไปในทักษะของฉันไปด้วยและยาที่นายให้มานั้นอยู่เต็มช่องเก็บของของฉันพร้อมใช้งานทุกเมื่อ"
วอนเดอร์ริ่งซาวด์พยักหน้าเห็นด้วย "ฉันก็พร้อมแล้ว"
“แล้วเธอล่ะ เมลติ้งสโนว์ พร้อมหรือยัง?” ซินหยาถามหลังจากที่เขาไม่ตอบ
"ผมพร้อมตั้งแต่เกิดแล้ว!!" เมลติ้งสโนว์พูดอย่างมีความสุข "ผมอย่างจะพูดอย่างนี้มานานแล้ว ฮ่า ๆ"
ทั้งกลุ่มเริ่มหัวเราะคิกคักกับความน่ารักของเมลติ้งสโนว์ เมื่อเสียงหัวเราะสิ้นสุด ซินหยาเริ่มนำพวกเขาไปที่ทางเข้าดันเจี้ยน ขณะที่เขากำลังเดินอยู่ เขาก็จำบางสิ่งได้และหยุดเดินตรงหน้าทางเข้า เขาหันกลับมาหากลุ่ม
"โรมมิ่งวินด์ เธอใส่ยาในกระเป๋าหรือเปล่า?" ซินหยาถาม “เธอก็รู้ เผื่อมีบางอย่างเกิดขึ้นเหมือนในป่าบาดาฮาล”
“โอ้ จริงสิ!” เว่ยอุทาน เธอหยิบยาจากช่องเก็บของใส่ลงในกระเป๋าที่ห้อยลงมาจากสะโพกของเธอ "ฉันลืมมันไปซะสนิทเลย"
ซินหยายักไหล่อย่างไม่ใส่ใจ" ไม่เป็นไร ฉันได้ใส่ยาเพิ่มเลือดลงในแถบช่องยาต่อสู้แล้ว ฉันแค่ต้องการให้เราเตรียมพร้อมในกรณีที่เราแยกทางกัน"
ขณะที่เว่ยมองดูซินหยาหันหลังให้กับเธอและเดินไปที่ทางเข้าดันเจี้ยนต่อไป ใบหน้าของเธอก็ดูเศร้าเล็กน้อย เธอรู้สึกไร้ประโยชน์ เธอเหลือบมองไปที่วอนเดอร์ริ่งซาวด์ซึ่งทำให้เขาเห็นสีหน้าของเธอ
เขาเข้าไปกอดเธออย่างรวดเร็วเพื่อเป็นกำลังใจให้เธอ เมื่อเห็นรอยยิ้มของเธอ เขาจึงสะกิดเธอให้เดินต่อไป เขาไม่เข้าใจว่าทำไมเธอถึงไม่สบายใจ จากมุมมองของเขา มันเป็นเรื่องที่ควรถาม หากพวกเขาผจญภัยด้วยตัวเอง เขาจะถามคำถามเดียวกันกับเธอ
...
เมื่อพวกเขามาถึงทางเข้าดันเจี้ยน ซินหยาหยิบดอกไม้เรืองแสงสี่ดอกออกจากช่องเก็บของของเขา หลังจากแจกให้ทุกคนในกลุ่มแล้ว เขาก็เอาก้านดอกเรืองแสงมาพันรอบคอของเขา
ในทางกลับกัน เมลติ้งสโนว์ทำให้ดอกไม้เรืองแสงของเขาเป็นผ้าโพกศีรษะ ขณะที่เว่ยกับวอนเดอร์ริ่งซาวด์พันรอบแขนของพวกเขาไว้ เมื่อทุกคนมีดอกไม้เรืองแสงแล้ว พวกเขาก็ปีนผ่านรากไม้หนาทึบและเข้าไปในรูมืดที่เป็นทางเข้าดันเจี้ยน
เมื่อเขาเข้าไปข้างในโดยสมบูรณ์แล้ว ความประทับใจครั้งแรกของเขาคือความมืด ราวกับว่าแสงแดดไม่เคยมีอยู่ในที่แห่งนี้มาก่อน แม้แต่ดอกไม้ที่เรืองแสงก็แทบจะไม่ทลายความมืดมิดที่มีอยู่ในนี้ได้
นี่คือสิ่งที่ตรงกันข้ามกับความคาดหวังของเขาอย่างสิ้นเชิง แทนที่จะเป็นบรรยากาศที่เพ้อฝันและเต็มไปด้วยสีสันที่เขาจินตนาการ สถานที่แห่งนี้กลับมืดมน น่าขยะแขยงและน่าหวาดหวั่นเล็กน้อย
ซินหยามองเห็นด้วยความช่วยเหลือของดอกไม้เรืองแสง พวกเขาอยู่ในห้องสี่เหลี่ยมเล็ก ๆ ที่มีประตูบานใหญ่ที่มีหัวที่บิดเบี้ยวอยู่บนผนังที่อยู่ไกลออกไป สิ่งที่ทำให้เขาตื่นตระหนกคือผนังดูและรู้สึกราวกับว่าพวกมันประกอบด้วยเนื้อที่ยืดออก
“กำแพงนั้นทำมาจากสิ่งที่ฉันคิดหรือเปล่านะ?” เว่ยถามอย่างตกใจ
ซินหยาเดินไปที่ผนังเพื่อดูใกล้ ๆ ก็เห็นว่าผนังทำมาจากผิวหนังจริง ๆ มันไม่ใช่เนื้อแห้งเก่าเช่นกัน แต่เป็นเนื้อสด ๆ ที่ดูราวกับว่าถูกฉีกออกจากร่างของใครบางคนในวันนั้นเอง
มันทำให้เขารู้สึกขนลุกเลยทีเดียว
"เข้าไปข้างในดันเจี้ยนที่แท้จริงกันเถอะ"
"ใช่ ไปกันเถอะ" เมลติ้งสโนว์กล่าว
ซินหยากับปาร์ตี้ของเขาเดินอย่างระมัดระวังบนพื้นแข็งไปยังประตูที่น่าขนลุกที่อยู่ฝั่งตรงข้ามของห้อง พวกเขาใช้เวลาอย่างเต็มที่ในกรณีที่มีกับดักที่ซ่อนอยู่ การตายก่อนที่จะเริ่มด้วยซ้ำจะน่าอายมาก
เมื่อพวกเขาไปถึงประตู พวกเขาสามารถมองเห็นหัวที่ติดอยู่กับประตูได้อย่างละเอียดมากขึ้น พวกเขาผงะกับความพิลึกพิลั่น ลักษณะของมันค่อนข้างเหมือนสัตว์เลื้อยคลานโดยมีหูขนาดใหญ่ ปากที่เต็มไปด้วยเขี้ยวแหลมและจมูกสั้นแหมบ
เนื่องจากศีรษะคว่ำลงจึงมองไม่เห็นทุกด้าน มันพยายามมองให้ไกลขึ้นและขยับเข้าไปใกล้อีกเล็กน้อยเพียงเพื่อให้ศีรษะยกขึ้นและมองพวกเขาด้วยดวงตาสีส้มที่มองทะลุทุกสิ่ง
สิ่งนี้ทำให้ซินหยาตกใจทำให้เขากระโดดกลับ เสียงกรี้ดร้องอันแหลมดังที่เขาได้ยินจากเว่ย ทำให้เขารู้ว่าไม่ใช่คนเดียวที่เห็นมัน ซินหยาสงสัยว่าเขาได้เปิดใช้งานกับดักบางประเภทหรือไม่ ในระหว่างที่ซินหยากำลังคิด ศีรษะที่ดูเป็นพวกเกรมลินเริ่มพูดด้วยน้ำเสียงที่อันแหบแห้ง
สี่คนเขลาจากแดนไกล เหตุไฉนหาที่ตาย
ละอองแสงก็เพียงพอ ปลุกศัตรูแห่งสามานย์
แสงแดงอยู่ที่ทุกตา สิ่งที่หายังไม่พบ
ความโลภนั้นก่อตัว จงประสบความวอดวาย
เมื่อบทกลอนจบลง ใบหน้าที่มีริ้วรอยก็มองมาที่แต่ละคน ริมฝีปากก็เชิดขึ้นด้วยรอยยิ้มที่มุ่งร้าย
“แล้วแบบนี้พวกเจ้ายังกล้าที่จะเข้าไปอีกหรือ?”
จากนั้นการแจ้งเตือนปรากฏขึ้นต่อหน้าทุกคน
ท่านต้องการเข้าสู่สุสานของเทพเจ้าแห่งความบ้าคลั่งหรือไม่?
“สุสานของเทพเจ้าแห่งความบ้าคลั่ง” ซินหยาอ่านชื่อดันเจี้ยน "เอาล่ะ งานนี้ต้องสนุกแน่!!"