783-784
7/10
Ep.783
[จอมเขมือบแห่งบรรพกาล ยุงวัชระ] เรอเสียงดัง แต่จากท่าทางแล้วเหมือนยังอิ่มไม่สุด
อย่างไรก็ตาม ในเมื่อซูเฉินออกคำสั่ง มันก็ต้องเชื่อฟัง
“ซูเฉิน ให้โอกาสข้าอีกสักครั้ง ข้าล่วงรู้ความลับมากมาย สามารถบอกเจ้าได้ทุกเรื่อง” จินกวงหยูหอบหายใจหนักหน่วง พยายามอ้อนวอนซูเฉินอีกครั้ง
ถูกดูดแก่นโลหิตออกไปเป็นจำนวนมาก เวลานี้กลิ่นอายของมันผิดแผกไม่เหมือนเดิม ระดับฐานฝึกตนยังลดต่ำลงกว่าเมื่อก่อน มากสุดเหลือแค่ขั้น 8 เท่านั้น
ดวงตาของซูเฉินสาดประกายเย็นชา มุมปากของเขายกโค้งขึ้นเล็กน้อย
“โทษที บิดาไม่สนใจ!”
สิ้นเสียง เขากุม [กระบี่แยกฟ้าแห่งความโกลาหล] ด้วยสองมือ ฟาดฟันลงในกระบี่เดียว
ชิ้งงงง!
จินกวงหยูที่มีฐานฝึกตนลดลงเป็นอย่างมาก พลังป้องกันไม่แข็งกร้าวดั่งแต่ก่อน ศีรษะของมันถูกผ่าแยกเป็นสองส่วน ตายคาที่
ในคราเดียว ชิ้นส่วนหลากสีสันนับหมื่นเด้งขึ้นจากศพของมัน
เห็นภาพนี้ มุมปากของซูเฉินยกยิ้มอย่างช่วยไม่ได้ เขาเปิด [ฟังก์ชั่นเก็บอัตโนมัติ] รวบรวมชิ้นส่วนทั้งหมด
และเวลานี้เอง อู๋หยาจื่อและสัตว์เลี้ยงวิญญาณทั้งสามได้มายืนเคียงข้างซูเฉิน
ต้นหลิววัชระรายงานว่า “เจ้านาย สามคนที่เหลือถูกกำจัดแล้ว”
ซูเฉินพยักหน้าเล็กน้อย หันไปพูดกับด้วงเขมือบทองคำ “เสี่ยวฉง ฉันเก็บศพของด้วงเขมือบทองคำระดับเทวะนี้ไว้ให้นาย”
“ขอบพระคุณเจ้านาย!”
ด้วงเขมือบทองคำตื่นเต้นมาก เพราะจินกวงหยูคือด้วงเขมือบทองคำในระดับเทวะ ขอแค่มันได้กลืนลงท้อง ก็มีโอกาสสูงที่จะได้ยกระดับเป็นขั้น 10
ต่อมา ซูเฉินเก็บศพของจินกวงหยูและเหล่าสัตว์เลี้ยงลงใน [พื้นที่เลี้ยงสัตว์]
“ซูเฉิน ประมุขฉางกับสหายน่าน พวกเขาไม่เป็นอะไรใช่ไหม” หยูจิงหยางเลียบเคียงถาม
ซูเฉินหัวเราะ แล้วเปิด [มิติสันโดษ] เรียกฉางไช่หลี่กับน่านหลีชวนออกมา
“ซูเฉิน แล้วเฝิงเหอเซียงเล่า? เขาไปไหนแล้ว?”
ทันทีที่ฉางไช่หลี่ปรากฏตัว เธอถามด้วยความกังวล
“มันถูกผมฆ่าไปแล้ว” ซูเฉินกล่าวอย่างเฉยเมย
ฆ่างั้นหรือ? เฝิงเหอเซียงคือการดำรงอยู่ระดับเทวะ แม้ฐานฝึกตนของเขาจะถูกสะกดเอาไว้ แต่ความแข็งแกร่งยังเหนือกว่าขั้น 10 ทั่วไปมาก
แล้วซูเฉินสามารถฆ่าเขาได้จริงๆน่ะหรือ?
ฉางไช่หลี่กับน่านหลีชวนต่างสับสนเล็กน้อย เหม่อมองซูเฉินด้วยความว่างเปล่า
หยูจิงหยางเอ่ยเสริม “ไม่ใช่แค่เฝิงเหอเซียงเท่านั้น แต่กระทั่งด้วงเขมือบทองคำระดับเทวะแห่งเผ่าอสูรศักดิ์สิทธิ์ก็ยังตายด้วยน้ำมือของซูเฉิน”
ว่าไงนะ?
ฉางไช่หลีและน่านหลีชวนอุทานขึ้นพร้อมกัน ตลอดทั้งใบหน้าของพวกเขาเต็มไปด้วยความตื่นตกใจจนไม่อาจอธิบาย
มีข่าวลือว่าด้วงเขมือบทองคำแห่งเผ่าอสูรศักดิ์สิทธิ์ ครอบครองพลังป้องกันอันน่าสยองขวัญ แทบจะคงกระพันในระดับเดียวกัน
ทว่าผู้แข็งแกร่งที่น่าสะพรึงเช่นนี้กลับตกตายลงด้วยน้ำมือซูเฉิน นี่แสดงให้เห็นว่าซูเฉินในปัจจุบันแข็งแกร่งเพียงใด
“ซูเฉิน ข้าได้ยินว่าเจ้ายกระดับเป็นขั้น 10 แล้ว เรื่องนี้คงไม่ผิดพลาดกระมัง?”
น่านหลีชวนได้สติกลับมา เลียบเคียงถามดู
ใน [มิติสันโดษ] พวกเขาได้ยินเฉินเฟิงและคนอื่นเล่าว่าซูเฉินก้าวสู่ขั้น 10 แล้ว แต่ก็ยังไม่ค่อยอยากเชื่อเท่าไหร่
เพราะตอนอยู่ภูเขาจื่อเว่ย ซูเฉินอยู่ในขั้น 8 เท่านั้น เป็นไปได้หรือที่จะตัดผ่านถึงสองขั้นภายในระยะเวลาหนึ่งเดือน?
แต่เมื่อรู้ว่าซูเฉินสามารถสังหารได้กระทั่งด้วงเขมือบทองคำระดับเทวะ พวกเขาก็รู้สึกว่าข่าวที่ได้ยิน มีโอกาสเป็นไปได้สูงมาก
“ผมเพิ่งเลื่อนขั้นได้ไม่กี่วันก่อนนี้เอง” ซูเฉินพยักหน้า
ได้ยินแบบนั้น ฉางไช่หลี่และน่านลี่ฉวนมองหน้ากัน ทั้งสองสามารถมองเห็นความตื่นเต้นในสายตาของกันและกันได้
อัตราเร็วในการยกระดับของซูเฉินช่างน่ากลัวเหลือเกิน นี่แสดงให้เห็นว่าเรื่องก้าวสู่ระดับเทวะอยู่ไม่ไกลเกินเอื้อม
เมื่อซูเฉินเลื่อนขั้นเป็นระดับเทวะ วังสุริยันจันทราก็จักกลับคืนสู่ความรุ่งโรจน์อีกครั้ง
“ท่านประมุข ตอนนี้วังสุริยันจันทราเป็นอย่างไรบ้าง?” ซูเฉินถาม
เขากังวลเล็กน้อย เพราะพวกฉางไช่หลี่ถูกจับมา เช่นนั้นวังสุริยันจันทรามิใช่ว่าโดนถล่มไปแล้วหรือ?
8/10
Ep.784
ฉางไช่หลี่ถอนหายใจเบาๆ “วังสุริยันจันทราของพวกเรา และนิกายคลื่นธาราไม่มีอยู่แล้ว”
หลังจากเหตุการ์บนภูเขาจื่อเว่ยในวันนั้น ขุมกำลังใหญ่หลายแห่งได้ร่วมมือกันปิดล้อมวังสุริยันจันทราและนิกายคลื่นธารา เหล่าสาวกถูกฆ่าตายเกือบหมด ส่วนพวกเขาถูกเฝิงเหอเซียงจับตัวไว้
โชคยังดีที่กู่เทียนฮวาและศิษย์อัจฉริยะรุ่นเยาว์คนอื่นๆได้ติดตามซูเฉินไป ตราบใดที่ยังมีพวกเขาอยู่ วังสุริยันจันทราก็จะสามารถก่อตั้งขึ้นใหม่ได้
ใบหน้าของซูเฉินหม่นหมองมืดครึ้ม เขาตระหนักได้ทันที ว่าหายนะครั้งใหญ่ที่เกิดขึ้นกับนิกายคลื่นธาราและวังสุริยันจันทรา ส่วนใหญ่สาเหตุเป็นเพราะเขา
หลังจากถอนหายใจยาว เขาเปิดปากถาม “ท่านประมุข นอกจากเฝิงเหอเซียงแห่งราชวงศ์เฝิงซีแล้ว ยังมีขุมกำลังใหญ่ไหนอีกที่ทำลายวังสุริยันจันทรา?”
ทุกรายชื่อที่เกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็นขุมกำลังไหน ซูเฉินจะขุดรากถอนโคนมันให้สิ้น
“จักรวรรดิเฉินเชิ่ง , วิหารศักดิ์สิทธิ์หมานหยู กระทั่งคนของดินแดนศักดิ์สิทธิ์ก็ยังถูกส่งมา” ฉางไช่หลี่กัดฟันขณะกล่าว
แววตาของซูเฉินทอประกายเฉียบคม สี่ขุมกำลังใหญ่ของทวีปเสวียนเทียน รวมไปถึงดินแดนศักดิ์สิทธิ์ก็เข้าร่วมด้วย เห็นได้ชัดว่าพวกมันต้องการสังหารเขา
“ในเมื่อเป็นพวกแกที่แส่หาที่ตาย งั้นฉันก็จะเติมเต็มความปรารถนาให้เอง!”
ซูเฉินกำหมัดแน่น รังสีสังหารคุกรุ่นรุนแรงแผ่ออกมาจากร่างเขา
ฉางไช่หลี่ตระหนักได้ถึงเจตนาฆ่าคุกรุ่นของซูเฉิน รีบเกลี้ยกล่อม “ซูเฉิน เรื่องแก้แค้นจำเป็นต้องพิจารณาในระยะยาว ห้ามประมาท”
แต่ซูเฉินไม่สนใจคำเตือนนี้ เพราะด้วยกำลังรบในปัจจุบันของเขา มันไร้เทียมทานบนทวีปใหญ่แห่งนี้ เกรงว่าคนที่จะหยุดเขาได้ คงมีเพียงสวรรค์เท่านั้น! ไอ้หน้าไหนไม่รู้จักเจียมตัว ก็เตรียมตัวตายซะ!
หากให้ดำเนินการแก้แค้นอย่างค่อยเป็นค่อยไป เรื่องนั้นไม่มีทางซะล่ะ!
นับแต่วันนี้ไป เขาจะก่อพายุนองเลือดบนทวีปเสวียนเทียน!
ผู้ใดที่อยู่ในรายชื่อสังหาร เขาจะไม่ปล่อยมันไปแม้แต่คนเดียว! และจะไม่มีใครหยุดเขาได้! แม้เป็นระดับเทวะก็ตามที!
ซูเฉินตัดสินใจแล้ว แต่ในตอนนั้นเอง จู่ๆเขาก็นึกเรื่องสำคัญมากขึ้นมาได้ หันไปถาม “ท่านประมุข ว่าแต่พวกเผ่าอสูรศักดิ์สิทธิ์เข้ามานใทวีปเสวียนเทียนได้อย่างไร?”
โดยปกติแล้ว ถึงพวกต่างเผ่าจะสามารถเข้าสู่ทวีปเสวียนเทียนได้ แต่ก็ยังติดข้อจำกัดเรื่องระดับขั้น เช่นสูงสุดที่เดินทางได้คือขั้น 8 เท่านั้น
แต่จินกวงหยูเป็นถึงระดับเทวะ แล้วเขาเข้ามาได้ยังไง?
“เป็นไปได้ว่าเขาอาจเข้ามาทางประตูของดินแดนศักดิ์สิทธิ์” ฉางไช่หลี่กล่าวเสียงขรึม
ประตูของดินแดนศักดิ์สิทธิ์?
ซูเฉินทวนคำ หันไปมองฉางไช่หลี่ รอคำอธิบายจากเธอ
“สถานที่อย่างดินแดนศักดิ์สิทธิ์ คืออาณาเขตที่ผู้แข็งแกร่งระดับเทวะอาศัยอยู่ และที่นั่นมีประตูที่เชื่อมต่อระหว่างดินแดนศักดิ์สิทธิ์กับทวีปเสวียนเทียนอยู่ หากผู้แข็งแกร่งระดับเทวะต้องการเข้าสู่ทวีปเสวียนเทียน จำเป็นต้องผ่านประตูถึงจะมาได้” ฉางไช่หลี่อธิบาย
ซูเฉินรู้สึกงงงวย เอ่ยถามว่า “แล้วจินกวงหยูผ่านประตูของดินแดนศักดิ์สิทธิ์มาได้ยังไงกัน?”
เนื่องจากดินแดนศักดิ์สิทธิ์คืออาณาเขตของชนชั้นเทวะแห่งเผ่ามนุษย์ แล้วพวกเขาจะปล่อยให้พวกต่างเผ่าเข้ามาตามใจชอบได้อย่างไร?
“นี่ก็เป็นส่วนหนึ่งที่ข้ารู้สึกกังวลเช่นกัน”
ฉางไช่หลี่ถอนหายใจ “ไม่ว่าจะเป็นระดับเทวะของเผ่ามนุษย์เรา หรือพวกต่างเผ่าระดับเทวะ หากต้องการเข้าสู่ทวีปเสวียนเทียนผ่านประตูนั่น มีเพียงวิธีเดียว คือได้รับการอนุมัติจากระดับเทวะของเผ่ามนุษย์จึงจะผ่านได้”
“ซึ่งเรื่องนี้จะเกิดขึ้นได้ ในเฉพาะกรณีที่เมื่อคะแนนโหวตเกินกว่า 80% การดำรงอยู่ระดับเทวะผู้นั้นจึงจะเข้าสู่ทวีปเสวียนเทียนได้”
ได้ยินแบบนั้น สีหน้าของอู๋หยาจื่อและคนอื่นๆ ทั้งหมดกลายเป็นน่าเกลียดยิ่ง
ท่าทีการแสดงออกของซูเฉินก็ดูลำบากใจเช่นกัน เนื่องจากเฝิงเหอเซียงกับจินกวงหยูสามารถปรากฏตัวที่นี่ งั้นแสดงว่าทั้งคู่ได้รับการสนับสนุนจากระดับเทวะมากกว่า 80%
หรืออีกความหมายนึงก็คือ มีระดับเทวะเผ่ามนุษย์กว่า 80% ต้องการให้ซูเฉินตาย
และที่น่ารังเกียจยิ่งกว่าก็คือ ชนชั้นเทวะเหล่านั้นยังรวมหัวกับพวกต่างเผ่าเพื่อกำจัดเขา
ซูเฉินหรี่ตาลง ในดวงตาเขาทอประกายเย็นยะเยือก
ไม่รอช้า เขาหยิบ [รถศึกอัจฉริยะ] ออกมา แล้วเรียกทุกคนขึ้นไป