779-780
3/10
Ep.779
จินกวงหยูคือระดับเทวะที่รู้จักกันดีในนามจ้าวแห่งการป้องกันผู้ไร้เทียมทาน แต่เวลานี้กลับถูกซัดปลิวในหมัดเดียว?
นี่ใช่เรื่องโกหกหรือเปล่า?
ทั้งที่ได้เห็นกับตา แต่พวกเขายังคงรู้สึกยากจะเชื่อ
“เป็นไปได้ยังไงกัน?”
เฝิงเหอเซียงกลายเป็นเฉื่อยชา ได้แต่งึมงำกับตัวเอง
หากกระทั่งจินกวงหยูก็ยังไม่ใช่คู่มือของซูเฉิน ถ้าอย่างนั้นยังจะมีใครอีกที่สามารถฆ่าซูเฉินได้?
แล้วความแค้นของตระกูลเฝิงของพวกเขา ยังจะได้รับการสะสางได้อีกหรือ?
“เขาแข็งแกร่งถึงเพียงนี้ได้อย่างไร?”
หลิวเฉียนฉินและคนอื่นๆตกตะลึงอย่างสิ้นเชิง ในหัวใจเริ่มแทรกซึมไปด้วยคลื่นของความหวาดกลัว
ในระหว่างงานประลองรอบคัดเลือกบนภูเขาจื่อเว่ย พวกเขาจดจำได้อย่างชัดเจน ว่าซูเฉินอยู่แค่ขั้น 8 เท่านั้น แล้วปัจจุบันเขายกระดับเป็นขั้น 10 ในเวลาไม่ถึงเดือนได้อย่างไร?
แล้วไหนจะสามารถรับมือกับระดับเทวะได้อีก
แม้ระดับเทวะจะถูกสะกดฐานฝึกตน แต่ก็ไม่ใช่สิ่งที่ผู้ฝึกตนขั้น 10 ทั่วไปจะเทียบเปรียบได้
โครมมม!
จินกวงหยูทำลายอาคารที่ถล่มทับร่างเขา ทะยานกลับมายังที่เดิม
หมัดของซูเฉินไม่รุนแรงพอที่จะทำร้ายเขาได้ก็จริง แต่เวลานี้เจ้าตัวรู้สึกอับอาย ขายขี้หน้าอย่างถึงที่สุด! ใบหน้าเขาตอนนี้ มันแดงก่ำไปถึงใบหู
“เหตุใดพละกำลังของเจ้าถึงได้เยอะเพียงนี้?”
จินกวงหยูจับจ้องซูเฉินไม่วางตา โพล่งคำรามออกมา
“พละกำลังของบิดาจะมากจะน้อยแล้วมันเกี่ยวอะไรกับแก? ขยะอย่างแกมีคุณสมบัติพอที่จะรู้หรือ?” ซูเฉินเบ้ปาก ตอกคำที่เคยถูกด่ากลับคืน
“แส่หาที่ตาย!”
ใบหน้าของจินกวงหยูเปลี่ยนจากสีแดง เป็นเขียว แล้วตามด้วยขาว เขากัดฟันกระโจนเข้าสังหารซูเฉินอีกครั้ง
เขาไม่เชื่อหรอก ด้วยพลังป้องกันชนิดหาผู้ใดเทียบของตัวเอง จะไม่สามารถโค่นมนุษย์ผู้หนึ่งได้เชียวหรือ?
ทันทีที่เฝิงเหอเซียงเห็นจินกวงหยูลงมืออีกครั้ง เขาก็ร้องตะโกนว่า “ข้าจะช่วยด้วย! ร่วมมือกันสังหารซูเฉิน!”
ความก้าวหน้าของซูเฉิน มันเติบโตในระดับที่น่าทึ่งเกินไป มันทำให้เขาบังเกิดความหวาดกลัวอย่างลึกล้ำ
หากไม่สามารถฉวยโอกาสนี้สังหารซูเฉิน ไม่ช้าก็เร็วคงเกิดหายนะครั้งใหญ่!
หลิวเฉียนฉินและคนที่เหลือต่างก็ตระหนักถึงเรื่องนี้เป็นอย่างดี พวกเขาไม่ลังเลเลยที่จะร่วมโจมตีซูเฉินด้วย
“ผู้อาวุโส ท่านสองคนรบกวนช่วยหยุดเฝิงเหอเซียงไว้สักครู่”
ซูเฉินพูดกับอู๋หยาจื่อและหลี่กุยหยาง จากนั้นเปิด [พื้นที่เลี้ยงสัตว์] เรียกต้นหลิววัชระ หงส์เพลิง และด้วงเขมือบทองคำออกมา แล้วออกคำสั่งแก่พวกมัน ให้ร่วมมือกับหยูจิงหยางต่อสู้กับพวกหลิวเฉียนฉิน
ปัจจุบันสัตว์เลี้ยงวิญญาณทั้งสามตนนี้ ได้เลื่อนเป็นขั้น 9 แล้ว แม้จะด้อยกว่าพวกหลิวเฉียนฉินอยู่หนึ่งขั้น แต่ความสามารถในการต่อสู้ที่แท้จริงของพวกมันเหนือกว่าระดับเดียวกัน ฉะนั้นย่อมไม่เสียเปรียบแต่อย่างใด
“ไปลงนรกซะ!”
ใช้ประโยชน์จากช่องว่างระหว่างซูเฉินกำลังเรียกสัตว์เลี้ยงวิญญาณของเขา จินกวงหยูประชิดถึงเบื้องหน้าแล้ว กำหมัดใหญ่ชกออกไป
ซูเฉินไม่คิดที่จะปัดป้องหรือถอยหนี มุมปากของเขาเผยให้เห็นถึงความดูแคลน
ด้วย [กายาเทพอสูรนิรันดร์] สามารถเพิกเฉยต่อการโจมตีใดๆในระดับเดียวกันได้
แม้จินกวงหยูจะเป็นถึงระดับเทวะ แต่ในทวีปใหญ่แห่งนี้ เขามีระดับแค่ผู้ฝึกตนขั้น 10 เท่านั้น ไม่มีทางทำให้ซูเฉินได้รับบาดเจ็บได้อย่างแน่นอน
ได้ยินเสียงปั๊ก! ดังกึกก้อง
วินาทีถัดมา หมัดอันทรงพลังของจินกวงหยู กระแทกเข้าใส่หน้าอกซูเฉินอย่างแรง แต่ก็ได้แค่ทำให้ซูเฉินสั่นไหวเล็กน้อยเท่านั้น ตรงกันข้าม เป็นจินกวงหยูซะเอง ที่ถูกผลพวงจากแรงสะท้อนกลับ ต้องชักฝีเท้าถอยไปหลายก้าวติดต่อกัน
ได้เห็นฉากอันแปลกประหลาดนี้ เฝิงเหอเซียงและคนอื่นๆหยุดเคลื่อนไหว เหม่อมองซูเฉินราวกับว่ากำลังเห็นผี
ความแข็งแกร่งทางกายภาพของซูเฉินต้องทนทานถึงขนาดไหนกัน จึงสามารถป้องกันหมัดของจินกวงหยูโดยไม่ได้รับบาดเจ็บใดๆ?
อีแบบนี้ ไม่ได้หมายความว่าซูเฉินคือการดำรงอยู่ที่ฆ่าไม่ตายหรอกหรือ?
ถ้าเป็นอย่างนั้น แล้วศึกนี้จะสู้กันไปอีกทำไม!
แม้เฝิงเหอเซียงและคนอื่นๆไม่ได้เคลื่อนไหว แต่ซูเฉินไม่ต้องการปล่อยพวกเขาไป
“ผู้อาวุโส หยุดพวกเขาเอาไว้ อย่าปล่อยให้หนีไปได้แม้แต่คนเดียว”
ซูเฉินเตือน และไม่รอช้าทะยานเข้าหาจินกวงหยู
4/10
Ep.780
เมื่อต้องเผชิญหน้ากับพละกำลังเหลืออนันต์ของซูเฉิน และพลังป้องกันที่แข็งแกร่งจนน่าเหลือเชื่อของเขา สัญชาตญาณของจินกวงหยูได้ร้องเตือน จุดประกายความหวาดกลัวขึ้น เจ้าตัวเผลอชักฝีเท้าถอยอย่างช่วยไม่ได้
แต่ใครจะทันคิด ว่าระหว่างถอย ทันดนั้นพลังมหาศาลที่มองไม่เห็นได้ม้วนเข้ามา ครอบคลุมเขาจนสูญเสียความสามารถในการเคลื่อนไหวไปทันที
“นี่มันพลังจิต!”
จินกวงหยูตกใจจนหน้าซีดเผือด หากเป็นพลังจิตทั่วไป ต่อให้อยู่ในขั้น 10 เขาไม่มีทางสนใจ
แต่พลังจิตที่ซูเฉินปลดปล่อยออกมา มันเหนือกว่าขั้น 10 ไปแล้ว ไม่ใช่สิ่งที่เขาสามารถต่อต้านได้ในตอนนี้
อีกด้านหนึ่ง ซูเฉินควบคุมจินกวงหยู ต่อด้วยใช้กระบวนท่าสังหาร กุม [กระบี่แยกฟ้าแห่งความโกลาหล] สับลงมาอย่างรุนแรง
อากาศที่ว่างเปล่าเกิดการสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง เหนือศีรษะของจินกวงหยูปรากฏวังวนสีดำขนาดประมาณหนึ่งจั้ง
กระแสวังวนค่อยๆโถมลงมา พลังทำลายล้างอันน่าสะพรึงกลัวถูกกวาดออกไป
“สิ่งประดิษฐ์เทวะแห่งมิติ!”
จินกวงหยูเปล่งเสียงร้องด้วยความตกใจ ทันใดนั้นแสงสีทองนับหมื่นดวงพุ่งออกจากร่างกายเขาในคราเดียว
แคร่ก แคร่ก แคร่ก ..!
ตามมาด้วยเสียงเคลื่อนกระดูกดังต่อเนื่อง เปิดเผยร่างที่แท้จริงของตนเองออกมา เปลี่ยนรูปกลายเป็นด้วงเขมือบทองคำยาวหลายจั้ง
ในเวลาเดียวกัน แรงกดดันมหาศาลกระจายออกไป ทั่วห้องโถงใหญ่ภายใต้ผลกระทบของแรงกดดันนี้ ทั้งหมดสั่นสะท้าน
อู๋หยาจื่อและคนอื่นๆที่เดิมยังคงต่อสู้ติดพันกันอยู่ ทั้งหมดหยุดมือและเหลียวมอง
ในเวลานั้นเอง กระแสวังวนสีดำตกลงบนร่างของจินกวงหยู ทันใดนั้นเสียงเสียดสีชวนให้ปวดฟันดังไปทั่ว
ไม่กี่อึดใจต่อมา กระแสวังวนสีดำก็สลายไป แต่ขณะเดียวกัน ก็พบว่าร่างซีกหนึ่งของจินกวงหยู ปรากฏรอยปริร้าวขนาดเล็กขึ้น ทั้งยังมีของเหลวสีทองไหลออกมาจากด้านใน
แม้สภาพดูน่าสังเวชเล็กน้อย แต่กลิ่นอายยังคงทรงพลังดังเดิม
นี่หมายความว่า กระบี่ของซูเฉิน ไม่ได้สร้างความเสียหายแก่จินกวงหยูมากมายอะไรนัก
“ช่างเป็นพลังป้องกันที่แข็งแกร่งอะไรแบบนี้!”
เห็นภาพตรงหน้า ซูเฉินถึงกับอ้าปากค้าง
“ฮ่า ฮ่า ฮ่า” จินกวงหยูหัวเราะอย่างบ้าคลั่ง จับจ้องซูเฉินด้วยความเย็นชา กล่าวประชดประชันว่า “มีสิ่งประดิษฐ์เทวะแล้วอย่างไร? เจ้าสามารถทำลายการป้องกันของข้าได้หรือ? คิดสังหารข้า? ช่างฝันเฟื่อง!”
ปัดป้องการโจมตีอันทรงพลังของซูเฉินได้ ความมั่นใจของจินกวงหยูฟื้นคืนกลับมา ความตื่นตระหนกก่อนหน้านี้จางหายไปสิ้น
“คนที่ฉันต้องการฆ่า ไม่เคยมีใครรอดไปได้!”
ขณะนั้นเอง ดวงตาของซูเฉินค่อยๆหรี่ลง เปิด [พื้นที่เลี้ยงสัตว์] อย่างรวดเร็ว พร้อมเรียกโลกันต์เยือกแข็งออกมา ยกแขนและกวาดออกไป
ในคราเดียว กระแสคลื่นสีขาวที่ให้ความรู้สึกหนาวสะท้านกวาดไปทางจินกวงหยู
โลกันต์เยือกแข็งภายใต้การชี้นำของซูเฉิน มันกระโจนเข้าไปหลอมรวมกับกระแสคลื่นขาว ส่งผลให้เจตจำนงอันเย็นเยียบที่เดิมน่าสยดสยองอยู่แล้ว ข่มขวัญรุนแรงกว่าเดิมเป็นสองเท่า
แทบจะในทันที ทั่วทั้งห้องโถงใหญ่ก็ราวกับจมลงไปในธารน้ำแข็ง อุณหภูมิโดยรอบลดต่ำลงอย่างรวดเร็ว
“มีเวทมนต์น้ำแข็งที่น่าสะพรึงกลัวขนาดนี้อยู่ได้อย่างไร!”
เฝิงเหอเซียงและคนอื่นตัวสั่น ความหวาดกลัวผุดขึ้นมาจากส่วนลึกในหัวใจของพวกเขา
กระทั่งเกิดจินตนาการเลยเถิด ว่าหากโดนกระแสคลื่นขาวนี้พัดใส่ ตนย่อมถูกแช่แข็งอย่างแน่นอน หลังจากนั้นก็กลายเป็นลูกแกะที่รอวันถูกเชือด
กวงจินหยูก็รู้สึกสั่นสะท้าน แม้เขาจะกล่าวอ้างว่าพลังป้องกันของตนนั้นไร้เทียมทาน แต่เมื่อต้องเผชิญกับเวทย์น้ำแข็งที่น่าสยดสยองอย่างถึงที่สุดเช่นนี้ ก็ยังไม่รับประกันว่าจะสามารถต้านทานมันได้
นั่นเป็นเหตุผลที่ว่าเมื่อกระแสคลื่นขาวพัดเข้าใกล้ เจ้าตัวตัดสินใจหันหลังและหลบหนีไปทันที
ซูเฉินเตรียมพร้อมมานานแล้วสำหรับกรณีที่จินกวงหยูคิดหลบหนี ระเบิดพลังจิตออกมาทันที
แน่นอน จินกวงหยูในร่างจริง มีพละกำลังเพิ่มพูนขึ้นกว่าเดิมหลายเท่า อาศัยแค่พลังจิตของซูเฉินเพียงอย่างเดียว ไม่สามารถพันธนาการเขาได้อีกต่อไป
กระนั้น หากคิดสลัดหลุด ยังต้องใช้เวลาเล็กน้อย และนั่นทำให้เกิดความล่าช้าออกไป
ถึงตอนนั้น กระแสคลื่นขาวก็กระทบลงบนร่างของเขาแล้ว
แช่แข็งทั้งตนทั้งร่างของด้วงเขมือบทองคำในพริบตาเดียว