ตอนที่แล้วตอนที่ 18 คำขอ
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 20 โล่งใจ

ตอนที่ 19 ถึงบ้าน


ตอนที่ 19

ถึงบ้าน

“พี่จ้าวหลง พี่ว่าเรื่องลูกๆของท่านอาห้าเนี่ยเป็นอย่างไรบ้างหรือ”หลี่ซีเหยียนบุตรสาวคนโตของหลี่อวิ๋นที่นั่งอยู่ภายในห้องนั่งเล่นที่ยามนี้เหล่าเด็กๆรุ่นลูกของตระกูลหลี่เข้ามานั่งร่วมกันในห้องเพื่อพูดถึงเรื่องของหลี่ซุนที่กำลังจะกลับมา ส่วนหลี่จ้าวหลงที่นางพูดถึงนั้นก็คือบุตรชายคนโตของหลี่ซือหานแถมยังเป็นหลานชายคนแรกของตระกูลอีกต่างหาก เขาจึงถูกนับว่าเป็นพี่ใหญ่ของลูกหลานรุ่นนี้

“ข้าเองก็ยังไม่ได้เห็นพวกเขา แล้วจะบอกเจ้าได้อย่างไรว่าพวกเขาเป็นอย่างไร”หลี่จ้าวหลงตอบเหมือนจะไม่สนใจเรื่องนี้เท่าไหร่ แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ไม่ได้ลุกไปไหนยังคงอยู่ในกลุ่มต่อไป

“ได้ยินว่าท่านอาห้าอยู่ในหมู่บ้านเล็กๆห่างจากเมืองภูผาทองแดงไปอีกไกลพอสมควร ไม่ใช่ว่าเด็กสองคนนั้นจะเป็นเพียงเด็กบ้านนอกธรรมดาหรอกหรือ”หลี่เฉิน บุตรชายคนที่ 2 ของลุงใหญ่หลี่ซือหานพูดด้วยท่าทีราวกับกำลังจะหัวเราะเยาะ เด็กที่โตมาในหมู่บ้านเช่นนั้นจะมาเทียบกับพี่ใหญ่ของเขาที่ยอดเยี่ยมไม่ว่าจะทางบุ๋นหรือบู้ได้เช่นไร

“หวังว่าเด็กบ้านนอกแบบนั้นจะไม่ทำให้ตระกูลของเราดูแย่หรอกนะ ไม่รู้เหมือนกันว่าอาห้าคิดอะไรอยู่ถึงได้แอบไปอยู่ในหมู่บ้านแบบนั้น”หลี่ซีเหยียนใช้พัดในมือพัดกระแสลมเบาๆเข้าใส่ตนเองเหมือนกำลังแสดงท่าทีเป็นกังวลออกมา ตระกูลหลี่เป็นตระกูลที่ได้รับความนับถือจากทั่วทั้งอาณาจักร แม้จะไม่ได้มีฐานะเป็นขุนนางแต่ก็มีอำนาจมากกว่าขุนนางส่วนใหญ่เสียด้วยซ้ำ ไม่อยากจะคิดเลยว่าหากคุณหนูคุณชายตระกูลหลี่กลายเป็นเด็กบ้านนอกไม่ได้รับการสั่งสอนจะทำให้ชื่อเสียงตระกูลหลี่กลายเป็นเช่นไร

“อาจจะเพราะแบบนี้ก็ได้ท่านพ่อถึงให้พวกเราปิดเรื่องท่านอาห้ากับพวกลูกๆไว้เป็นความลับห้ามบอกใคร”หลี่เฉินเห็นท่าทีเป็นห่วงของหลี่ซีเหยียนก็นึกขึ้นได้ว่าในจดหมายท่านพ่อกำชับไว้ว่าห้ามแพร่งพรายเรื่องนี้โดยเด็ดขาด บางทีท่านพ่อเองก็ไม่อยากให้พวกเด็กๆจากหมู่บ้านพวกนั้นมาทำให้ตระกูลเสียชื่อเสียงก็เป็นได้

“ทะ...ทำไมต้องปิดเป็นความลับด้วยล่ะขอรับ”ได้ยินที่หลี่เฉินพูดหลี่หลินเซียวบุตรชายของหลี่อวิ๋นที่นั่งอยู่ข้างๆพี่สาวอย่างหลี่ซีเหยียนก็ทำสีหน้าประหลาดใจออกมา ทำไมการที่อาห้ากลับบ้านจะต้องปิดเป็นความลับด้วยเล่า

“เจ้าจะรู้อะไรเล่า ที่ท่านลุงต้องปิดเรื่องนี้เป็นความลับก็เพราะกลัวจะต้องอับอายเท่านั้นล่ะ”หลี่ซีเหยียนผู้เป็นพี่สาวตอบพลางลูบหัวน้องชายที่ยังอายุไม่ถึง 7 ขวบดีด้วยท่าทางเอ็นดู ในกลุ่มพี่น้อง หลี่หลินเซียวผู้เป็นน้องชายของนางกับหลี่อี้ผิงบุตรสาวของหลี่เหวินอายุน้อยที่สุด ปกติไม่ค่อยรู้ความอะไรนักพวกเขาทั้งสองเพียงตามพี่ๆมาเล่นในห้องนั่งเล่นเท่านั้นเอง

“แต่ข้าดีใจนะขอรับที่พี่ๆทั้งสองได้กลับบ้าน”หลี่หลินเซียวไม่เข้าใจว่าพี่ชายพี่สาวที่กำลังจะกลับบ้านจะทำให้ตระกูลอับอายได้อย่างไร เด็กน้อยที่ยังไม่เข้าใจเรื่องการเมืองภายในตระกูลกลับแสดงออกเพียงความดีใจที่ญาติพี่น้องที่เพิ่งจะได้ทราบว่ามีตัวตนกำลังจะกลับมาเท่านั้น

“พี่ใหญ่ๆ อี้ผิงดีใจเหมือนกันนะ”หลี่อี้ผิงน้องเล็กที่สุดพูดด้วยท่าทีไร้เดียงสาก่อนจะเขย่าแขนเสื้อของหลี่จ้าวหลงราวกับจะเรียกร้องให้พี่ใหญ่หันมาสนใจนางบ้าง ท่าทีเช่นนี้ทำให้จ้าวหลงที่นั่งนิ่งอยู่ตลอดอดที่จะยิ้มออกมาไม่ได้

“พี่เองก็ดีใจเหมือนกัน พรุ่งนี้พี่จะพาเจ้าไปรอรับพี่ชายพี่สาวคนใหม่ของเจ้าเข้ามาในบ้านดีหรือไม่”หลี่จ้าวหลงมองน้องสาวอย่างอ่อนโยนก่อนจะชวนนางไปรอรับการกลับมาของพวกท่านน้าด้วยตัวเอง เรื่องบ้านนอกหรืออะไรก็ช่างเถอะ ยังไงพวกเขาก็เป็นพี่น้องของตน เช่นนั้นก็ต้องออกไปต้อนรับสิถึงจะถูก ส่วนคนอื่นๆ....แม้ปากจะบ่นแต่สุดท้ายพวกเขาก็อยากจะเห็นหน้าเหล่าญาติพี่น้องทั้งสองกันอยู่แล้ว ในวันพรุ่งนี้พวกเขาต้องออกไปรอดูอย่างไม่ต้องสงสัยเลย

.

.

.

กึก......

ในช่วงสายของวันรุ่งขึ้น ในที่สุดรถม้าที่หลี่ซือหานหามาเพื่อให้หลี่เอ้อหลางและลูกๆของนางนั่งมาเพื่อปิดบังจากสายตาคนภายนอกก็แล่นเข้ามาภายในบ้านตระกูลหลี่อย่างปลอดภัยจนได้ และจากคำสั่งของหลี่ซือหานเหล่าบ่าวรับใช้ก็พากันไปปิดประตูอย่างมิดชิดไม่ให้คนภายนอกมองลอดเข้ามาภายในรั้วบ้านของตระกูลหลี่ได้โดยเด็ดขาด

ตุบ.....

ร่างของสามพี่น้องที่เดินทางไปตามตัวน้องชายอย่างหลี่ซุนมายังตระกูลหลี่เดินลงมาจากรถม้าทีละคนๆทำให้เหล่าน้องๆและภรรยาของพวกเขาพากันเข้าไปทักทายถามไถ่ความปลอดภัยของทั้งสามอย่างยิ้มแย้ม แต่ถึงจะไม่บอกทุกคนก็ทราบดีว่าสายตาของทุกคนยังคงจ้องมองไปยังรถม้าไม่วางตาราวกับกำลังรอให้ผู้ที่ยังอยู่บนรถม้าเดินลงมาเสียที

“น้องห้า เจ้าทำใจมาตลอดทางแล้วนะยังไม่ลงมาอีกหรือ”หลี่เหวินหัวเราะออกมาพลางเคาะประตูรถม้าเบาๆเหมือนจะเร่งให้หลี่ซุนเดินลงมาเสียที ซึ่งเสียงเรียกของหลี่เหวินก็เหมือนจะได้ผล ในที่สุดหลี่ซุนก็เดินลงมาจากรถม้าเผยให้คนในตระกูลหลี่ได้เห็นเขาหลังจากไม่ได้กลับมาร่วมสิบปีเสียที

“พี่ห้า ในที่สุดท่านก็กลับมาเสียที”น้องหกอย่างหลี่อิ๋นเดินเข้าไปหาพี่ชายด้วยท่าทีดีใจเป็นอย่างมาก ปกตินางจะทำตัวนิ่งๆไม่สนใจสิ่งใด แต่ทุกคนทราบดีว่านางเพียงทำตามนิสัยเก่าก่อนของหลี่ซุนเท่านั้นเพราะนางชื่นชมพี่ห้าของนางที่สุด พอได้เจอพี่ห้าที่หายไปนานนางเลยเก็บอาการไม่อยู่รีบเดินเข้าไปหาทันที

“นั่นนะเหรอท่านอาห้า ไม่ใช่ว่าเขาเป็นยอดฝีมือของรุ่นก่อนหรอกหรือ”แน่นอนว่าเหล่าพี่น้องย่อมจำพี่ชายน้องชายของตนเองได้ แม้จะเปลี่ยนไปมากก็ตาม แต่เหล่าเด็กๆกลับมีเพียงหลี่จ้าวหลงเท่านั้นที่ยังจำท่านอาห้าผู้นี้ก่อนหายไปได้ ยามนี้ภาพท่านอาห้าที่ได้ยินจากพวกท่านพ่อท่านแม่ช่างต่างจากภาพที่ได้เห็นมาก แม้ตอนนี้เขาจะแต่งตัวด้วยชุดใหม่ไม่ได้สวมชุดของชาวนาตามปกติแล้ว แต่ท่าทีของเขาก็ยังไม่เข้ากับฉายาหัตถ์มัจจุราชที่เป็นฉายาเดิมของเขาอยู่ดี

“ไม่มีความรู้สึกอันตรายเลย หรือว่าท่านจะวางมือไปนานเกินไป”หลี่เฉินเองก็แปลกใจเช่นกันเพราะไม่คิดว่าท่านอาห้าจะกลายเป็นชายหนุ่มท่าทางใจดีไปเช่นนี้

“คงเป็นเช่นนั้น”หลี่จ้าวหลงตอบพลางนึกภาพสมัยท่านอาห้าอยู่ในบ้านตระกูลหลี่ขึ้นมาในหัว แม้จะเป็นความทรงจำวัยเด็กแต่หลี่จ้าวหลงก็ลืมใบหน้าของท่านอาห้าที่มักจะเย็นชาเสมอได้ติดตา

“พี่เฉินลูกของอารองจะลงมาแล้ว”หลังจากหันไปสนใจท่านอาซุนเสียตั้งนาน หลี่ซีเหยียนก็พบว่าที่ประตูรถม้ามีร่างของคนอีกหลุ่มหนึ่งกำลังเดินออกมาจากภายในรถม้าพอดีทำให้สายตาของเหล่าเด็กๆรวมถึงผู้ใหญ่ที่อยู่รอบๆต่างหันไปมองเป็นตาเดียวกัน

“.......................”เป็นไปตามคาด ทุกคนนอกจากสามพี่น้องที่ออกไปตามหาหลี่ซุนต่างมองภรรยาและลูกๆของหลี่ซุนกันตาค้างด้วยท่าทีไม่อยากจะเชื่อกันถ้วนหน้า ในกลุ่มผู้ใหญ่พวกเขาต่างก็เป็นลูกหลานของตระกูลหลี่ นอกจากวิชายุทธแล้วยังได้รับการศึกษาที่สูงกว่าคนทั่วๆไป ทำให้พวกเขาทราบถึงตำนานของตระกูลหงสานิรันดร์กันอยู่แล้ว ทั้งหลี่เอ้อหลาง หลี่ลู่ชิง และหลี่หลินเยว่ ทั้งสามต่างมีเอกลักษณ์ของตระกูลหงสานิรันดร์อย่างครบถ้วน ทั้งดวงตาและเส้นผมที่เป็นสีทองรวมถึงตำนานที่ว่าพวกเขามีรูปโฉมที่งดงามอีกด้วย

“.................”ส่วนฝ่ายเด็กๆนั้นแม้จะยังไม่เคยได้ยินเรื่องตำนานของตระกูลหงสานิรันดร์ แต่เพียงรูปร่างภายนอกก็ตัดคำว่าบ้านนอกออกไปได้เลย ทั้งหลี่หลินเยว่ ทั้งหลี่ลู่ชิง ต่างแต่งกายด้วยเสื้อผ้าที่ลุงหลี่ซือหานหามาให้กันทั้งนั้น แม้จะอยู่ในชุดของชาวบ้านทั้งหลี่หลินเยว่ทั้งหลี่ลู่ชิงต่างก็ดูดีกันอยู่แล้วเรียกได้ว่าชุดเก่าๆไม่ได้ทำให้รูปร่างภายนอกของทั้งสองดูดีน้องลงเลยแม้แต่น้อย ยิ่งพอสวมเสื้อผ้าชั้นดีที่ทั้งสวยงามและสวมใส่สบายเช่นนี้แล้วยิ่งทำให้คนทั้งสองราวกับเป็นองค์หญิงองค์ชายที่กำลังเดินลงมาจากรถม้าของราชวงศ์เลย เห็นแบบนี้แล้วจะกล่าวหาว่าพวกเขาจะทำให้ตระกูลเสื่อมเสียได้เช่นไร

“พี่ใหญ่ หรือว่าที่ท่านให้พวกเราปิดเรื่องนี้เป็นความลับ......”หลี่อิ๋นน้องหกของบ้านตระกูลหลี่ถามพลางมองไปทางพี่ใหญ่ของนางเหมือนไม่อยากจะเชื่อ

“ถูกแล้ว เรื่องนี้ห้ามแพร่งพรายออกไปเด็ดขาด ไม่อย่างนั้นพี่สะใภ้ของเจ้าและหลานๆของเจ้าได้เดือดร้อนแน่”หลี่ซือหานตอบด้วยท่าทีจริงจังเป็นอย่างมาก เขาเชื่อว่าน้องๆของเขาต่างก็คิดกันได้ว่าหากเรื่องนี้หลุดออกไปจะเป็นเรื่องใหญ่แค่ไหน

“อย่าเพิ่งพูดเรื่องนั้นเลย น้องห้าเจ้าเข้าไปหาท่านพ่อกับท่านแม่เถอะ”หลี่อวิ๋นเห็นพี่น้องคนอื่นๆต่างพากันตกใจจนลืมไปแล้วว่าพาตัวน้องห้ากลับมาทำไมก็เข้าไปขัดก่อนจะบอกให้พี่ซุนพาภรรยาและลูกๆเข้าไปพบท่านพ่อเสียก่อน

“จริงด้วย พี่ห้าท่านพ่อพอรู้ว่าพี่กำลังจะกลับมาก็ดีใจมากเชียวล่ะ ถ้าท่านลุกไหวท่านคงมารอต้อนรับพี่ถึงนี่แล้วแน่ๆ”น้องเจ็ดผู้เป็นคนดูแลบิดาอย่างใกล้ชิดได้ยินเช่นนั้นก็รีบลากตัวพี่ห้าของนางเข้าไปในบ้านทันที ทำให้หลี่ซุนต้องหันไปบอกให้ภรรยาและลูกๆให้รีบตามตนมาจะได้เข้าไปหาบิดาของเขาพร้อมๆกัน

“ท่านพ่อลุกไม่ไหวแล้วงั้นเหรอ”หลี่ซุนถามพลางมองไปทางน้องเจ็ดด้วยท่าทีกังวล หลี่อี้หลิน เป็นหนึ่งในผู้มีพรสวรรค์หายากที่ติดตัวมาตั้งแต่เกิด นางมีความสามารถใช้พลังวิญญาณในการรักษาได้ทำให้นางเป็นดั่งสมบัติล้ำค่าของตระกูลหลี่ แต่ถึงอย่างนั้นการมีหลี่อี้หลินคอยดูแลแต่ก็ไม่สามารถรักษาพิษที่ท่านพ่อโดนได้นั้นก็หมายความว่าพิษนั้นรุนแรงมากจริงๆสินะ

“เพราะแบบนั้นพวกเราถึงต้องพาเจ้ากลับมาให้เร็วที่สุดไง”หลี่อวิ๋นจับบ่าของหลี่ซุนเอาไว้แน่นระหว่างเดินเข้าผ่านตัวบ้านเข้าไปจนถึงห้องของท่านพ่อที่ใช้เป็นที่นอนพักผ่อนของท่านตอนนี้

“ท่านพ่อ....ข้ากลับมาแล้วขอรับ”หลี่ซุนเปิดประตูออกก่อนจะมองไปทางเตียงของบิดาด้วยท่าทีเศร้าๆ ชายชราที่นอนอยู่บนเตียงตอนนี้แก่ชราลงมากเมื่อเทียบกับความทรงจำตอนที่ตนจากไป ภาพเช่นนี้ช่างทำร้ายจิตใจยิ่งนัก

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด