ตอนที่แล้วระบบทักษะพลิกชีวิต - ตอนที่ 12 กลับไปอยู่ฉางเฟิง
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไประบบทักษะพลิกชีวิต - ตอนที่ 14 กลับไปโรงเรียน

ระบบทักษะพลิกชีวิต - ตอนที่ 13 ภารกิจปรากฏ


ตอนที่ 13 ภารกิจปรากฏ

สิบนาทีต่อมา เย่เจี้ยนกัวกับเจียงหมินก็อ่านหนังสือสัญญาจบ ลุงของเขาจึงได้หันไปบอกกับเย่โม่ว่า

“โม่ ลุงอ่านดูแล้วไม่มีอะไรต้องแก้ไข”

“ในเมื่อไม่มีปัญหาอะไร ลุงกับป้าก็เซ็นได้เลยครับ!”

“เอ่อ.. มันจะดีเหรอโม่? นี่เป็นสูตรยาของเธอนะ! จะให้ลุงกับป้าเซ็นสัญญาแทนจริงๆน่ะเหรอ?” เจียงหมินเอ่ยถามอีกครั้งคล้ายกับไม่เชื่อหูตัวเอง

เย่โม่ตอบกลับยิ้มๆ “ผมเคยบอกป้าแล้วยังไงล่ะครับว่า ผมจะทำให้ลุง ป้า แล้วก็น้องมีชีวิตและความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น และนี่เป็นเพียงแค่จุดเริ่มต้นเท่านั้น!”

“ไม่ๆ จะให้ลุงกับป้ามาถือหุ้นแทนเธอได้ยังไงกัน? เอาเป็นว่าเธอนั่นล่ะเป็นคนเซ็นเอกสารนี่ ส่วนลุงกับป้าก็จะมาช่วยทำงานให้เธอเอง” เย่เจี้ยนกัวเองก็ส่ายหน้าและปฏิเสธที่จะเซ็นสัญญาเช่นกัน

เฟิงกั๋วตงเห็นว่า ครอบครัวนี้ดูเหมือนกำลังประสบปัญหาตกลงกันไม่ได้ เขาได้แต่กังวลใจว่า ยิ่งตกลงกันได้ช้าไปมากเท่าไหร่ ก็จะยิ่งส่งผลกระทบต่อความล่าช้าในการผลิตยาปี่แป่หยกน้ำค้างมากเท่านั้น

เย่โม่ครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง ในที่สุดก็ยื่นข้อเสนอว่า “ลุงครับ ป้าครับ เอาแบบนี้ก็แล้วกัน ประธานเฟิงกับผมจะรับส่วนแบ่งคนละ 20% ส่วนที่เหลืออีก 60% ก็เป็นส่วนแบ่งของลุงกับป้า!”

“จะทำแบบนั้นได้ยังไงกัน?” เย่เจี้ยนกัวยังคงดื้อดึงไม่ยอมรับข้อเสนอนี้

ประธานเฟิงที่นั่งนิ่งฟังอยู่นาน ในที่สุดก็เอ่ยปากอธิบายให้คนทั้งสองฟังว่า “พวกคุณสองคนอย่าดูถูกส่วนแบ่ง 20% นะครับ ในระยะเวลาห้าปี อย่างน้อยๆ ก็สามารถทำกำไรให้กับเสี่ยวเย่และผมได้มากถึงหนึ่งหมื่นห้าพันล้านเชียวนะ!”

“ห๊ะ?! มากมายขนาดนั้นเชียวเหรอ? ในชีวิตของผมยังไม่เคยเห็นเงินจำนวนมากมายขนาดนี้มาก่อนเลย!”

เย่เจี้ยนกัวและเจียงหมินต่างก็หันไปมองหน้ากันด้วยความตื่นเต้นตกใจ

“เอาล่ะ รีบๆเซ็นเอกสารได้แล้วครับคุณลุงคุณป้า ถือซะว่านี่เป็นสิ่งที่หลานชายคนนี้ตอบแทนให้ลุงกับป้าก็แล้วกันนะครับ ฮ่าๆๆๆ”

เย่โม่ร้องบอกพร้อมกับยื่นปากกาให้คนทั้งคู่

“ในเมื่อเป็นความต้องการของโม่ พวกเราก็เซ็นๆไปเถอะ! แต่เงินตั้งมากมายขนาดนี้ พวกเราไม่รู้จะเอาไปใช้อะไร ยังไงก็เก็บเอาไว้ให้โม่ก็ได้…”

เจียงหมินร้องบอกสามี เธอรู้ดีว่า ต่อให้จะเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่หรือว่ารายเล็ก เงินจำนวนมหาศาลที่จะได้รับนั้น ก็ยังคงเป็นยอดเงินที่เธอกับสามีจะไม่มีทางจินตนาการออกมาได้อย่างแน่นอน

หลังจากที่ทั้งสองคนยอมเซ็นชื่อในหนังสือสัญญาแล้ว เฟิงกั๋วตงจึงค่อยโล่งใจขึ้น ตัวเขาเองก็รีบลงนามในสัญญาฉบับนั้นเช่นกัน จากนั้นจึงได้เรียกทนายความให้เข้ามาในห้อง

หลังจากมีทนานอาชีพทำการรับรองให้อีกครั้ง หนังสือสัญญาฉบับนี้จึงนับว่ามีผลในทันที และในที่สุดยาปี่แป่หยกน้ำค้างก็กำลังจะเปิดตัวสู่ตลาดแล้ว

หลังจากที่ทนายความเดินออกไปแล้ว เฟิงกั๋วตงก็ได้ยื่นเอกสารชุดหนึ่งให้กับเย่โม่ พร้อมกับพูดขึ้นด้วยความระมัดระวัง

“เสี่ยวเย่ ฉันได้จัดไลน์สำหรับผลิตยาปี่แป่หยกน้ำค้างเตรียมรอไว้แล้ว ตอนนี้ก็เหลือเพียงแค่สูตรยา ทันทีที่เธอมอบสูตรยาให้ ทางเราก็ไปจัดเตรียมวัตถุดิบ และสามารถเริ่มผลิตได้ในทันที”

เย่โม่พยักหน้ารับรู้ เขาลุกขึ้นเดินไปหยิบกระดาษ A4 ในเครื่องพิมพ์ที่วางอยู่บนโต๊ะทำงานของเฟิงกั๋วตงมาหนึ่งแผ่น จากนั้น จึงเริ่มลงมือเขียนใบสั่งยาปี่แป่หยกน้ำค้าง ก่อนจะยื่นให้กับเฟิงกั๋วตง

แต่แน่นอนว่า ใบสั่งยาที่เย่โม่เขียนลงในกระดาษ A4 แผ่นนั้น เขาได้แก้ไขสูตรยาเพื่อให้ตัวยามีประสิทธิภาพลดลงจากเดิมสองในสาม และสูตรยาฉบับจริงที่มีประสิทธิภาพเต็มร้อย ยังคงมีแค่เขาคนเดียวเท่านั้นที่รู้

“เอาล่ะ! ในเมื่อทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว ผมก็จะให้คนเริ่มไลน์การผลิตในวันพรุ่งนี้เลย แล้วหลังจากที่ทำการโฆษณาออกไปแล้ว ผมถึงค่อยเพิ่มไลน์การผลิตให้มากขึ้น”

เฟิงกั๋วตงหันไปบอกเย่เจี้ยนกัวกับเจียงหมินด้วยใบหน้าที่เปื้อนไปด้วยรอยยิ้ม

“วันนี้เป็นวันพุทธพอดี อีกไม่กี่วันก็จะเสาร์อาทิตย์แล้ว เพราะฉะนั้น คุณเย่กับภรรยาก็มาเริ่มงานวันจันทร์หน้าเลยก็แล้วกัน ผมจะให้คุณเย่รับผิดชอบดูแลเรื่องการผลิตยาปี่แป่หยกน้ำค้างนี้ทั้งหมด ส่วนคุณนายเย่ก็ดูแลเรื่องการตรวจเช็ค แล้วก็เรื่องการเข้างานของพวกพนักงานก็แล้วกัน”

เย่โม่รู้ว่าหลังจากเซ็นสัญญาและเริ่มไลน์การผลิตแล้ว เฟิงกั๋วตงคงต้องมีเรื่องสำคัญอีกหลายเรื่องที่ต้องไปจัดการ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการจัดหาจัดซื้อสมุนไพรและวัตถุดิบที่จำเป็น เรื่องการทำโฆษณาสินค้า เขาจึงไม่ต้องการอยู่รบกวนเวลาของเฟิงกั๋วตง และได้ขอตัวกลับทันที

………..

ในเขตหยินเย่วของเมืองฉางเฟิงนั้น ได้ชื่อว่าเป็นเขตที่อยู่ของคนร่ำคนรวย..

ตอนนี้ เย่โม่ ลุง และป้าสะใภ้ของเขาก็ได้ย้ายมาใช้ชีวิตอยู่เขตที่มีแต่พวกคนในสังคมชั้นสูงแล้ว และในวันพรุ่งนี้ น้องสาวของเขาเย่เจียเจียก็จะย้ายมาเรียนที่โรงเรียนมัธยมต้นในเมืองนี้เช่นกัน

ชั้นบนของบ้านหลังใหญ่ที่มีเนื้อที่มากกว่า 180 ตารางเมตร ภายในแบ่งออกเป็นห้องมาสเตอร์เบดรูมทั้งหมดสามห้อง และห้องน้ำอีกสองห้อง ห้องรับแขกอีกหนึ่งห้อง ชั้นล่างมีระเบียงกว้างตกแต่งในสไตล์ยุโรปและฝรั่งเศษ ดูหรูหราโรแมนติกอย่างมาก

แม้ว่าเย่เจี้ยนกัวกลับเจียนหมิงจะได้เข้ามาอยู่ในบ้านหลังนี้ถึงสองสามวันแล้ว แต่ทุกครั้งที่ทั้งคู่กับมาบ้านนั้น พวกเขายังรู้สึกราวกับว่ามันคือความฝัน ไม่ใช่ความจริง

“ฉันคิดไม่ถึงจริงๆว่า ชีวิตดีๆเหมือนฝันจะมาถึงเร็วแบบนี้ ตอบขอบใจโม่จริงๆ” เย่เจี้ยนกัวที่นั่งอยู่บนโซฟาตัวหรูได้แต่พึมพำออกมา

เจียงหมินเองก็ได้แต่พยักหน้าเช่นกัน “นั่นน่ะสิ! ครอบครัวของเราทำแต่ความดีมาตลอด สวรรค์คงอยากให้รางวัลกับพวกเราบ้าง สวรรค์คงจะเฝ้ามือพวกเราอยู่ตลอดสินะ!”

ในเวลานั้น เย่โม่ที่กำลังนั่งอ่านหนังสืออยู่ในห้องนอนของตัวเอง จู่ๆ ก็มีข้อความจากกระบบปรากฏขึ้นภายในหัวของเขา

[บี๊บ! โฮสท์ ฟังประกาศภารกิจจากระบบ]

[มีคำกล่าวว่า มีแค้นไม่ชำระ ย่อมไม่ใช่ลูกผู้ชาย วันนี้คุณมีภารกิจในการตามหาตัวจางเชาเพื่อแก้แค้น!]

หลังจากได้รับภารกิจจากระบบครั้งนี้ เย่โม่ก็รีบวางหนังสือในมือลงทันที เขาแลบลิ้นเลียริมฝีปาก สีหน้าแววตาเย้ยหยันปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเด็กหนุ่ม พร้อมกับประกาศกร้าวว่า

“จางเชา! จางเชา! แกคงคิดว่าฉันตายไปแล้วสินะ วันนี้ฉันจะให้บทเรียนที่แกไม่มีวันลืมเลยล่ะ!”

หลังจากนั้น เย่โม่ก็หยิบเงินจำนวนหมื่นหยวนใส่ลงไปในกระเป๋า พร้อมกับโยนเงินที่เหลือจำนวนสองหมื่นหยวนไว้ที่โต๊ะหนังสือ แล้วจึงเดินลงไปที่ห้องรับแขกด้านล่าง

“ลุงครับ ป้าครับ ผมทำชีทข้อสอบที่ได้มาจนเสร็จหมดแล้ว ก็เลยว่าจะไปที่โรงเรียนของคุณครูมาเพิ่ม ทุกคนกินข้าวเที่ยงกันไปก่อนเลยนะครับไม่ต้องรอผม ผมจะไปหากินข้างนอกเอาเอง”

เย่โม่ร้องบอกเย่เจี้ยนกัวกับเจียงหมินที่นั่งอยู่ในห้องรับแขก

“แล้วทำไมไม่กลับมากินพร้อมกันล่ะ? แค่ไปเอาข้อสอบต้องใช้เวลานานขนาดนั้นเชียวเหรอ?” เจียงหมินร้องถามด้วยความเป็นห่วง

“ผมขาดเรียนไปตั้งนานหลายเดือน แล้ววันนี้ก็เป็นวันศุกร์พอดี ก็เลยอยากออกไปหาอะไรกินกับเพื่อนๆน่ะครับ” เย่โม่ตอบกลับยิ้มๆ

“โม่เขาโตเป็นผู้ใหญ่แล้วนะ ดูแล้วตัวเองได้ อย่าเป็นห่วงไม่เข้าเรื่องดีกว่าน่า..”

หลังจากบ่นภรรยาแล้ว เย่เจี้ยนกัวก็หันไปบอกเย่โม่ว่า “ไปเถอะโม่ อย่าลืมกลับมากินข้าวเย็นพร้อมกันที่บ้านล่ะ!”

“ครับคุณลุง”

หลังจากตอบรับลุงไปแล้ว เย่โม่ก็หันไปทางเจียงหมินพร้อมกับร้องบอกไปว่า “อ่อ.. คุณป้าครับ บนโต๊ะหนังสือในห้องนอนของผมมีเงินสดอยู่สองหมื่นหยวน ในระหว่างที่รอเงินเดือนออก ป้าเอาไปใช้ซื้อของที่จำเป็นก่อนนะครับ อย่างพวกเสื้อผ้า แล้วก็เป็นค่าใช้จ่ายต่างๆในบ้าน”

หลังจากพูดจบ เย่โม่ก็เดินแบกกระเป๋าออกไปทันที

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด