ตอนที่แล้วตอนที่ 17 นึกไม่ออก
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 19 ถึงบ้าน

ตอนที่ 18 คำขอ


ตอนที่ 18

คำขอ

“.......”ถึงจะผ่านไปพักใหญ่แล้วหลังจากได้รู้ความจริง แต่สามพี่น้องตระกูลหลี่ผู้ออกมาตามตัวหลี่ซุนกลับยังไม่อยากจะเชื่อภาพที่ได้เห็นตรงหน้าเสียเท่าไหร่ น้องห้าของพวกเขาอยู่กับครอบครัวอันแสนสุขราวกับหลุดมาจากภาพวาดหมู่บ้านแสนสุขเลย

“พวกท่านเดินทางมาไกล ไม่ทราบว่ามีเรื่องอะไรงั้นหรือขอรับ”ในที่สุดหลี่ซุนก็เอ่ยถามพวกพี่ชายเรื่องที่ออกมาหาตนเองเสียที ตอนนี้พวกเด็กๆออกไปเล่นข้างนอกแล้วเหลือแต่ภรรยาของเขาเท่านั้นที่อยู่ร่วมโต๊ะด้วย เรียกได้ว่าเป็นเวลาอันเหมาะสมที่จะเริ่มเรื่องกันได้แล้ว

“น้องห้า ข้าอยากให้เจ้ากลับไปที่บ้านของพวกเรา”หลี่ซือหานผู้เป็นพี่ใหญ่สุดเป็นฝ่ายเริ่มพูดเป็นคนแรก เป้าหมายของเขาตอนนี้ก็คือพาตัวน้องห้ากลับไปไม่ว่าจะอย่างไรก็ตาม

“ท่านก็น่าจะรู้ว่าทำไมข้ากลับไม่ได้ พวกท่านทำเป็นเหมือนข้าหายตัวไปเหมือนเดิมไม่ได้หรือ”หลี่ซุนส่ายหน้าพร้อมกล่าวคำปฏิเสธออกมาอย่างช่วยไม่ได้ สงครามชิงตำแหน่งผู้นำตระกูลก็จบไปแล้ว แต่หลี่ซุนยังมีอีกหลายเรื่องที่ทำให้กลับไปบ้านตระกูลหลี่ไม่ได้ ทั้งเรื่องความสัมพันธ์กับคนอื่นๆในตระกูลรวมถึงคำหมั้นหมายที่บิดาของตนสัญญาเอาไว้กับตระกูลโจวอีก ตอนนี้ตนแต่งงานมีทั้งภรรยาและลูกๆ หากเรื่องนี้ถึงหูผู้นำตระกูลโจวเข้ารับรองว่าเป็นเรื่องแน่ๆ

“น้องห้า ท่านพ่อกำลังจะตาย...”ทันทีที่หลี่ซือหานบอกเหตุผลที่ต้องพาหลี่ซุนกลับไปให้ได้ คำโต้เถียงที่หลี่ซุนเตรียมเอาไว้ก็โดนกลืนหายไปทันที บิดาของพวกเขาเป็นถึงหนึ่งในผู้แข็งแกร่งที่สุดในอาณาจักร ถึงจะอายุมากแล้วแต่เพราะเป็นผู้ฝึกฝนพลังวิญญาณอายุท่านน่าจะยืนยาวกว่านี้นี่ ทำไมถึงได้.....

“พี่ใหญ่ไม่เอาเรื่องนี้มาล้อเล่นหรอกนะน้องห้า ท่านพ่อถูกพิษที่ร้ายแรงมากน่าจะเหลือชีวิตอยู่ได้ไม่นาน เจ้าไม่ต้องสนใจเรื่องคู่หมั้นของเจ้าหรอกพวกเราจะช่วยปิดเป็นความลับกับตระกูลโจวให้เอง ขอแค่เจ้าไปพบหน้าท่านพ่อสักครั้งก่อนท่านจะจากไปเถอะนะ”หลี่เหวินจ้องดวงตาของหลี่ซุนอย่างจริงจังเพื่อยืนยันว่าสิ่งที่ตนพูดเป็นความจริง ก่อนท่านจากไปก็อยากให้ท่านได้พบครอบครัวพร้อมหน้าพร้อมตากันสักครั้ง และท่านก็ยังเป็นหนึ่งในคนที่เชื่อว่าน้องห้ายังไม่ตายอีกด้วย

“เรื่องนั้น.......”หลี่ซุนไม่ทราบจะตอบไปอย่างไรดี เรื่องครอบครัวของเขาก็สำคัญ แต่ท่านพ่อเองก็เป็นเรื่องสำคัญไม่ต่างกัน หากไม่กลับไปดูอาการท่านก่อนตายแล้วเอาแต่นั่งสุขสบายอยู่ที่นี่ แล้วตนจะยังกล้าสู้หน้าฟ้าดินอยู่อีกหรือ

“ข้า....ขอคิดดูสักครู่”หลี่ซุนถอนหายใจออกมาอย่างยากลำบากก่อนจะก้มหน้าลงครุ่นคิดเรื่องนี้อย่างจริงจัง แต่เดิมหลี่ซุนคิดจะเร้นกายออกจากยุทธจักรตลอดกาล แก่ชราไปพร้อมกับครอบครัวแล้วตายไปไม่คิดจะกลับไปตระกูลหลี่อีกแล้ว แต่ถึงอย่างนั้นหลี่ซุนก็ไม่ได้เปลี่ยนชื่อสกุลแต่อย่างไร ราวกับจะบอกว่าตนไม่ได้ตัดขาดตระกูลหลี่ของตนอย่างแท้จริง แถมเมื่อพี่ชายทั้งสามเอาเรื่องใกล้ตายของบิดามาตบหน้า ความหนักแน่นของหลี่ซุนก็สั่นคลอนอย่างเห็นได้ชัด

“ท่านพี่.....”หลี่เอ้อหลางภรรยาของหลี่ซุนเห็นสามีทำสีหน้าหดหู่ออกมาก็ยื่นมือเข้าไปจับมือของสามีทันที ก่อนจะ.....หยิกมือของสามีเต็มแรงจนหลี่ซุนต้องร้องเจ็บออกมาเสียอย่างนั้น

“เรื่องคู่หมั้นของท่านนี่หมายความว่าอย่างไรกันเจ้าคะ”อยู่ๆเอ้อหลางก็ทำเสียงดุก่อนจะถามเรื่องคู่หมั้นของหลี่ซุนขึ้นมาเสียเฉยๆ สามีนางไม่อยากพูดเรื่องตระกูลนางก็ไม่เค้นถาม แต่ถึงขั้นมีคู่หมั้นก่อนแล้วนี่มันอะไรกัน

“โอ๊ย น้องเอ้อหลาง นั่นมันเรื่องที่ท่านพ่อเป็นคนจัดการข้าไม่เกี่ยวสักหน่อย”หลี่ซุนโอดครวญออกมาด้วยท่าทีเจ็บปวด ก่อนจะพยายามเจรจากับภรรยาสุดที่รักอย่างอ่อนน้อมเต็มที่

“แล้วถ้ามันไม่มีอะไรทำไมท่านไม่ยอมเล่าให้ข้าฟังแต่แรกล่ะ”หลี่เอ้อหลางทำหน้ามุ่ยด้วยท่าทีไม่พอใจเล่นเอาเหล่าแขกที่มาพากันมองกันไปมองกันมาเหมือนทำอะไรไม่ถูก งานนี้คงต้องโทษหลี่เหวินแล้วที่หลุดพูดเรื่องนั้นออกมา

“ข้าขอโทษ ข้ากลัวว่าเจ้าจะโกรธก็เลยไม่ได้เล่าให้เจ้าฟัง”หลี่ซุนตอบพลางยิ้มเจื่อนๆออกมา ไม่บ่อยนักหรอกที่ภรรยาของเขาจะโกรธ ปกตินางเป็นคนใจดีมาก

“ข้าไม่ได้อ่อนแอขนาดนั้นสักหน่อย เรื่องแค่นี้ข้าไม่โกรธท่านหรอก”เอ้อหลางตอบพลางเพิ่มแรงหยิกที่มือของหลี่ซุนเข้าไปอีกเล่นเอาหลี่ซุนที่ไม่ได้ใช้พลังวิญญาณป้องกันตัวเองร้องโอดโอยไม่หยุด

“เอาไว้พวกเราไปบ้านของท่านแล้วเจอคู่หมั้นของท่าน ข้าจะอธิบายกับนางเอง”ได้ยินน้องสะใภ้พูดเช่นนั้นดวงตาของพี่ๆทั้งสามก็เบิกกว้างด้วยท่าทีประหลาดใจทันที ที่นางพูดเช่นนี้ก็หมายความว่า....

“เจ้าอยากให้ข้าไปงั้นเหรอ”หลี่ซุนเองก็ไม่อยากจะเชื่อว่าตนได้ยินอะไรเหมือนกัน หลี่เอ้อหลาง เป็นทายาทของตระกูลหงสานิรันดร์ที่เก็บตัวในดินแดนลึกลับกันมาเนิ่นนาน นางไม่ชอบการเปิดเผยตัวตนเท่าไหร่เพราะการเปิดเผยว่านางเป็นคนของตระกูลที่มีสายเลือดหงสานิรันดร์นั้นไม่ใช่เรื่องดีเลย

“เรื่องนี้สำคัญกับท่านนี่เจ้าคะ แถมให้ลูกๆได้พบหน้าปู่ของพวกเขาสักครั้งก็เป็นเรื่องดีไม่ใช่หรือเจ้าคะ”หลี่เอ้อหลางพูดออกมาเช่นนี้แสดงว่านางคิดไตร่ตรองมาดีแล้ว นางซ่อนตัวอยู่ในหมู่บ้านมาได้นานขนาดนี้ก็ถือว่าเหลือเชื่อแล้ว แม้นางจะอ้างกับคนในหมู่บ้านว่านางมาจากต่างแดน แต่ก็คงมีคนไม่เชื่อข้ออ้างของนางหลายคน แต่คนในหมู่บ้านนี้กลับไม่มีใครพูดเรื่องนั้นออกมาเลยแถมยังช่วยปกป้องในบางครั้งด้วยทำให้ชีวิตรักของนางอยู่อย่างสงบสุขมาถึงสิบปี แค่นี้นางก็พอใจมากแล้ว

“เยี่ยมมาก น้องสะใภ้พูดได้ดีมาก”หลี่เหวินที่โดนคาดโทษไปเมื่อครู่รีบผันตัวเข้าข้างน้องสะใภ้ทันทีเล่นเอาสองพี่น้องที่มาด้วยหันมาจ้องไม่วางตาจนหลี่เหวินต้องกลับไปนั่งกับที่อย่างช่วยไม่ได้

“น้องห้า หากเจ้ากังวลเรื่องสายเลือดของภรรยาเจ้า ข้าจะกำชับให้คนในตระกูลเก็บเรื่องนี้เป็นความลับ รับรองว่าไม่มีใครหลุดปากแนๆ”เห็นสายตาเป็นห่วงของหลี่ซุน หลี่ซือหานก็พอจะเดาออกว่านอกจากเรื่องคู่หมั้นแล้วหลี่ซุนกลัวอะไรอีกถึงได้ไม่ยอมกลับไปบ้านตระกูลหลี่

“พี่ใหญ่.....”หลี่ซุนมองไปทางพี่ใหญ่ด้วยท่าทีอึ้งๆ ไม่นึกว่าพี่ใหญ่จะช่วยเหลือถึงขนาดนี้ สมัยก่อนทั้งสองเป็นคู่แข่งกันความสัมพันธ์เลยไม่ค่อยดีเท่าไหร่ ไม่นึกว่าวันนี้พี่ใหญ่จะสังเกตเห็นท่าทีของตนและเข้าใจความลำบากใจของตนขนาดนี้

“ไม่ต้องห่วงเจ้าเป็นน้องชายของข้า ข้าไม่ทำให้เจ้าเดือดร้อนหรอก”หลี่ซือหานตอบด้วยท่าทีอ่อนโยนอย่างที่หลี่ซุนไม่เคยเห็นมาก่อน อาจจะเพราะหลี่ซือหานเองก็เป็นพ่อคนแล้วแถมยังรับตำแหน่งหัวหน้าตระกูลมาเกือบสิบปีแล้วก็ได้ บรรยากาศของหลี่ซือหานเลยเปลี่ยนไปมาก แม้จะยังทำหน้าบึ้งตึงน่ากลัวเหมือนเดิมแต่ก็อบอุ่นอย่างประหลาด

“ดีแล้วที่ท่านเป็นหัวหน้าตระกูล”หลี่ซุนยิ้มออกมาก่อนจะมองไปทางพี่ใหญ่ของตนอย่างนับถือ พอมองย้อนกลับไปสมัยแข่งกันสร้างผลงานก็อดไม่ได้ที่จะคิดว่ามันช่างน่าขำเสียเหลือเกิน

“แน่นอน ข้าเป็นพี่ใหญ่นี่นา”หลี่ซือหานยืดอกอย่างมั่นใจและรับคำชมอย่างตรงไปตรงมาทำเอาเหล่าพี่น้องอดหัวเราะออกมาไม่ได้ ต้องขอบคุณเอ้อหลางจริงๆที่ทำให้บรรยากาศผ่อนคลายลงและทำให้เรื่องมันง่ายขึ้นมาก

.

.

.

ตุบ.....

กระบอกใส่จดหมายที่อยู่ในมือหลี่อี้หลินพี่น้องลำดับที่ 7 ของครอบครัวตระกูลหลี่ตกลงพื้นก่อนจะกลิ้งออกไปเกือบถึงประตูเพราะตัวหลี่อี้หลินที่เพิ่งได้อ่านจดหมายนั้นกำลังอึ้งจนเผลอทำของหลุดมือไปหมด

“น้องหลิน มีอะไรงั้นเหรอ”หลี่ซือเหมย พี่น้องลำดับที่ 4 ของตระกูลหลี่เลิกคิ้วถามด้วยท่าทีสงสัย อยู่ๆน้องสาวคนเล็กที่เพิ่งจะเปิดจดหมายอ่านก็ทำของหล่นเสียอย่างนั้น แถมยังไม่พูดไม่จาอีกต่างหาก แบบนี้จะไม่ให้พวกตนสงสัยได้อย่างไรว่าข้อความในจดหมายมันคืออะไร

“พี่ห้า.....เจอพี่ห้าแล้ว”ทันทีที่ได้ยินเช่นนั้นใบหน้าของเหล่าพี่น้องตระกูลหลี่ที่ยังอยู่ในบ้านก็มีท่าทีแตกตื่นทันที แม้จะบอกว่าเจอเบาะแสแล้ว แต่ก็เหล่าพี่น้องตระกูลหลี่ก็ยังเผื่อใจเอาไว้ว่าอาจจะไม่เจอก็ได้ แต่ก็ราวกับเป็นโชคชะตาเสียจริง ราวกับสวรรค์ได้มอบโอกาสได้เจอหลี่ซุนก่อนที่บิดาจะจากไปก่อนจนได้

“เจอก็เจอแล้ว ทำไมต้องทำเป็นตกใจขนาดนั้นด้วย”หลี่อิ๋น พี่น้องลำดับ 6 ของตระกูลหลี่ส่ายหน้าช้าๆราวกับจะบอกว่าน้องเจ็ดมีท่าทีแตกตื่นเกินไป หลักฐานครั้งนี้ชัดเจนกว่าครั้งไหนๆจะเจอพี่ห้าก็ไม่ใช่เรื่องแปลกไม่ใช่หรือ

“เรื่องที่ข้าตกใจ ไม่ใช่เรื่องที่เจอพี่ห้าหรอก”หลี่อี้หลินตอบพลางพลิกหน้ากระดาษให้พี่สาวน้องสาวทั้งสองได้ดู

“ภรรยา.......”

“ลูก.........”

ทั้งหลี่ซือเหมยทั้งหลี่อิ๋นต่างก็ตกใจไม่ต่างกัน ในจดหมายแจ้งมาอย่างชัดเจนว่า หลี่ซุน จะกลับบ้านพร้อม ภรรยา และลูกๆ แถมคำว่าลูกยังมีเครื่องหมายไม้ยมกกำกับเอาไว้อีกด้วย เช่นนั้นลูกของหลี่ซุนก็ไม่ได้มีคนเดียวเสียด้วย.....

“ในจดหมายบอกว่าห้ามแจ้งเรื่องนี้ให้ตระกูลโจวทราบด้วย”หลี่อี้หลินชี้ไปที่ตรงส่วนท้ายของจดหมาย พี่ใหญ่กำชับว่าห้ามบอกเรื่องหลี่ซุนให้ตระกูลโจวหรือคนภายนอกทราบโดยเด็ดขาด

“ก็ไม่แปลกหรอก คุณหนูโจวรอน้องห้ามาเป็นสิบปี หากทราบว่าแต่งงานกับหญิงอื่นไปแล้วแถมยังมีลูกอีก ตระกูลโจวได้ระเบิดเป็นไฟแน่ๆ”หลี่ซือเหมยว่าพลางลูบแขนตัวเองด้วยท่าทีขนลุก หากมีคนบ้าไปบอกจริงมีหวังบ้านตระกูลหลี่จะลุกเป็นไฟก็งานนี้ล่ะ

.

.

.

“ท่านพี่ ได้ยินว่าพวกท่านพ่อเจอท่านอาห้าแล้วขอรับ”ภายในตระกูลหลี่เหล่าพี่น้องรุ่นเดียวกับหลี่ซุนต่างพูดเรื่องนี้กันอย่างตื่นเต้นก็จริง แต่ทว่าภายในตระกูลกลับมีอีกกลุ่มที่ตื่นเต้นกับเรื่องนี้ไม่แพ้กัน นั่นก็คือเหล่าบุตรชายหญิงรุ่นใหม่ของตระกูลนั่นเอง

“ดีแล้วนี่ ท่านปู่อยากเจอหน้าท่านอาห้าจะตาย”เด็กหนุ่มคนหนึ่งน่าจะอายุ 15 ปีตอบพลางกำกระบี่ในมือแน่นแล้ววาดออกไปเพื่อฝึกฝนต่ออย่างไม่ใส่ใจ

“แต่ว่า...ท่านอาห้าเหมือนจะมีลูกแล้วอีกสองคน แบบนี้พวกเราก็มีคู่แข่งเพิ่มแล้วนะสิ”ชายที่เอาข่าวมาบอกต่อพูดออกมาด้วยท่าทีไม่พอใจนัก น่าเสียดายแม้สงครามชิงตำแหน่งผู้นำของเหล่าพ่อแม่น้าอาจะจบไปแล้ว แต่สำหรับเด็กรุ่นใหม่อย่างลูกชายทั้งสองของเจ้าบ้านคนปัจจุบันนั้นกลับเป็นสงครามที่เพิ่งจะเริ่มเท่านั้น แถมอยู่ๆก็มีผู้ร่วมชิงเพิ่มมาอีก 2 คนเช่นนี้กระบี่ในมือของชายหนุ่มก็ชะงักไปเหมือนกัน

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด