ตอนที่แล้วWS บทที่ 252 บลูเบิร์ด
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปWS บทที่ 254 ลูกศิษย์?

WS บทที่ 253 กำราบ


“พลังปีศาจแพนโดร่า เพลิงวินาศ!”

เมื่อสัมผัสได้ถึงความเย็นยะเยือกรอบ ๆ ตัวของเมอร์ลิน แสงที่แหลมคมแวบเข้ามาในดวงตาของเขา เขาจึงร่ายเพลิงวินาศออกมาโดยที่ไม่ได้ลังเลแม้แต่น้อย

ทันใดนั้นไฟที่โหมกระหน่ำก็พุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้าเพื่อก่อตัวเป็นทะเลเพลิง สีขาวลุกโชนและบิดเบี้ยวอยู่กลางอากาศ พลังปีศาจแพนโดร่าที่เป็นเส้นน้ำแข็งที่ผ่าร่างพ่อมดอูบิกออกเป็นชิ้น ๆ นั้น เมื่อมันต้องเผชิญกับพลังความร้อนของเพลิงวินาศทำให้เส้นน้ำแข็งละลายทีละชิ้น

เส้นน้ำแข็งที่บลูเบิร์ดใช้นั้นแท้จริงแล้วเป็นพลังปีศาจแพนโดร่าที่น่าสะพรึงกลัว

“สายลมแห่งอิสระ!”

นอกจากเมอร์ลินร่ายเพลิงวินาศแล้วเขาไม่หยุดเพียงแค่นั้น เขาได้ใช้สายลมแห่งอิสระทันที ความผันผวนของธาตุลมก็รุนแรงขึ้นรอบตัวเขา ในชั่วพริบตา ร่างของเขากลายเป็นภาพเบลอที่พุ่งเข้าหาบลูเบิร์ด

เมื่อเขาตระหนักว่าบลูเบิรฺดนั้นแข็งแกร่งมากสำหรับเมอร์ลิน เขาจึงตัดสินใจว่าจะสู้กับบลูเบิร์ดอย่างเต็มที่ ดังนั้นเขาจึงใช้เวทมนตร์ที่แข็งแกร่งที่สุดของเขา

“โล่พสุธา!”

สีหน้าของบลูเบิร์ดยังคงนิ่งเหมือนเดิม เธอได้ร่ายคาถาธาตุดิน ชั้นของแสงสีเหลืองปรากฏขึ้นด้านหน้าของเธอและเริ่มก่อตัวเป็นเกราะที่ล้อมรอบเธออย่างรวดเร็ว

นี่คือคาถาป้องกันประเภทธาตุระดับสาม บลูเบิร์ดร่ายเวทย์ป้องกันของเธอไปแล้วและเมื่อเห็นว่าเมอร์ลินยังคงพุ่งไปข้างหน้า เธอก็ขมวดคิ้วเป็นครั้งแรก ต่อจากนั้น เธอประสานมือทั้งสองเข้าด้วยกันและนิ้วเรียวยาวของเธอก็แทงอากาศซ้ำแล้วซ้ำเล่า

*หวู่ม! หวู่ม! หวู่ม!*

เส้นน้ำแข็งจำนวนนับไม่ถ้วนปรากฏขึ้นสามครั้งติดต่อกัน ก่อตัวเป็นใยขนาดใหญ่ในอากาศ ความเย็นยะเยือกที่แพร่ออกมาทำให้เปลวเพลิงสีขาวปกคลุมทั่วทั้งท้องฟ้ากลายเป็นน้ำแข็ง

*แคร่ก! แคร่ก!*

ผลึกน้ำแข็งตกลงไปที่พื้นและแตกเป็นเสี่ยง ๆ การปะทะกันของเพลิงวินาศและพลังปีศาจแพนโดร่า ธาตุของบลูเบิร์ดนั้นน่ากลัวกว่าเวทมนตร์ของพ่อมดระดับสี่เมื่อก่อนหน้านี้ แม้แต่เสื้อคลุมและคาถาป้องกันก็ไม่มีประโยชน์ หากต้องรับการโจมตีจากพลังปึศาจ

“พลังปีศาจแพนโดร่า  ดัชนีเยือกแข็ง!”

ร่างกายของเมอร์ลินสั่นไหวด้วยความผันผวนขององค์ประกอบลมที่รุนแรง ในเวลาเดียวกัน เมื่อเขาเข้าใกล้บลูเบิร์ด เขาก็ร่ายดัชนีเยือกแข็งทันที

*หวู่ม!*

สายลมหนาวของดัชนีเยือกแข็งพุ่งตรงไปที่บลูเบิร์ด พื้นผิวของพื้นดินกลายเป็นน้ำแข็งอย่างสมบูรณ์และแม้แต่ชั้นดินสีเหลืองของโล่พสุธาที่ปกคลุมร่างกายของบลูเบิร์ดก็ถูกห่อหุ้มด้วยชั้นผลึกน้ำแข็งหนา

ดัชนีเยือกแข็งของเมอร์ลินสามารถทำลายเวทมนตร์ระดับสามได้อย่างง่ายดายและโล่พสุธาถือเป็นคาถาระดับสาม แม้ว่าจะเป็นคาถาที่ค่อนข้างยากที่จะสร้างในหมู่คาถาระดับสามก็ตาม

*ตูม!*

ผลึกน้ำแข็งแตกเป็นเสี่ยง ๆ ทันที และเมอร์ลินก็เห็นหอกบินที่ทำจากพลังธาตุลม มันทำให้ผลึกน้ำแข็งแตกและบินตรงมาหาเมอร์ลินด้วยความเร็วที่เหลือเชื่อ

“พลังปีศาจแพนโดร่าอันที่ที่สอง!”

เมอร์ลินรู้สึกตกใจเล็กน้อยแต่ก็กลับปกติอย่างรวดเร็ว เขาสามารถครอบครองเพลิงวินาศ, ดัชนีเยือกแข็งและดวงใจแห่งความมืดซึ่งทั้งหมดเป็นพลังปีศาจแพนโดร่า ดังนั้นการมีพลังปีศาจแพนโดร่า สองพลังขึ้นไปจึงไม่น่าแปลกใจเลยและยิ่งบลูเบิร์ดเป็นอัจฉริยะจากออสมู พลังของเธอทำให้นักเวทย์นับไม่ถ้วนตัวสั่นเมื่อเอ่ยถึงชื่อของเธอ

เขารู้สึกว่าระบบของออสมูนั้นลึกล้ำกว่าองค์กรนักเวทย์ ดังนั้นจึงไม่น่าแปลกใจที่พวกเขามีพลังปีศาจแพนโดร่ามากมาย อย่างไรก็ดี แม้ว่าจะมีวิธีการฝึกฝนพลังปีศาจแพนโดร่าแต่ก็ยังต้องการพวกสมบัติมากมาย ออสมูไม่เพียงแค่มอบสมบัติเหล่านี้อย่างไม่หวงแหน

และด้วยความสามารถอันเหลือล้นของบลูเบิร์ด ทำให้เธอสามารถฝึกฝนพลังปีศาจแพนโดร่าได้สองอย่าง ดังนั้นจึงไม่น่าแปลกใจเลยที่เธอได้รับชื่อเสียงอันโด่งดัง แม้ว่าในออสมูจะเต็มไปด้วยอัจฉริยะก็ตาม

*วิ้ง!!*

พลังจิตของเมอร์ลินเปิดใช้งานเสื้อคลุมที่เขาสวมอยู่อย่างรวดเร็ว ทันใดนั้น อักษรรูนหนาทึบก็ปรากฏขึ้นบนเสื้อคลุม นี่เป็นครั้งแรกของเมอร์ลินที่เปิดใช้งานพลังป้องกันของเสื้อคลุมเต็มรูปแบบ

เมอร์ลินใช้แต้มสนับสนุนจำนวนมากเพื่อแลกกับเสื้อคลุมนี้กับหอสมุดของดินแดนมนต์ดำยิ่งไปกว่านั้น เสื้อคลุมยังสามารถต้านทานการโจมตีจากคาถาระดับสามได้

ตอนนี้หอกที่บินออกมานั้นเป็นพลังปีศาจแพนโดร่า มันคงใช้เวลาไม่นานนักที่จะทะลวงผ่านดัชนีเยือกแข็ง เห็นใด้ชัดว่ามันแข็งแกร่งกว่าเวทมนตร์ระดับสามมาก

ดังนั้น ปัญหาหลักก็คือว่าเสื้อคลุมที่เมอร์ลินสวมอยู่นั้นจะสามารถหยุดการโจมตีได้หรือไม่ เนื่องจากหอกบินที่บลูเบิร์ดร่ายออกมานั้นเป็นพลังปีศาจแพนโดร่าและเห็นได้ชัดว่ามีความแข็งแกร่งและมีกำลังมหาศาล

*ตูม!*

หอกพุ่งชนเมอร์ลินอย่างรุนแรงและพื้นผิวของเสื้อคลุมเริ่มกระพือปีกอย่างรวดเร็ว อักษรรูนนับไม่ถ้วนจับหอกอย่างแน่นหนาราวกับมีมือยักษ์มาขวางไว้

อย่างไรก็ตาม ทันทีที่หอกสัมผัสกับเมอร์ลิน เขาก็เข้าใจถึงขอบเขตของพลังของมัน ถ้าเขาเป็นนักเวทย์ทั่วไปด้วยแรงกระแทกที่น่าสะพรึงกลัวเช่นนี้จะทำให้ได้รับบาดเจ็บสาหัสทันที

"ฮึ!"

อย่างไรก็ตาม เขามีร่ายกายที่เพิ่งได้รับการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ พลังดังกล่าวจึงไม่มีผลอะไรกับเขาเลย ดังนั้นเขาจึงพ่นลมออกมาเบา ๆ และเปลวไฟสีขาวก็ส่องไปทั่วร่างกายของเขาอีกครั้ง

“พลังปีศาจแพนโดร่า เพลิงวินาศ!”

เปลวไฟสีขาวปะทุขึ้นทันที คราวนี้ เมอร์ลินระดมพลังเวทย์ออกมาจากทั้งหมดในโครงสร้างเวทมนต์ของคาถาลูกไฟและเพลิงพิโรธออกมาไม่ยั้งและร่ายเพลิงวินาศออกมา

ดังนั้น เปลวเพลิงของเพลิงวินาศจึงลุกโชนขึ้นทันที พลังของมันแข็งแกร่งขึ้นมาก หอกกลายเป็นเถ้าถ่าน ยิ่งกว่านั้น เปลวเพลิงก็ลุกลามไปยังบลูเบิร์ดอย่างรวดเร็ว แผดเผาไปตลอดทาง

“เขตแดนแสงดำ!”

เมอร์ลินได้ปลดปล่อยพลังของดวงในแห่งความมืดอย่างรวดเร็วในขณะที่เขาร่ายเขตแดนแสงดำ

ในชั่วพริบตา ท้องฟ้าครึ่งหนึ่งก็มืดครึ้ม แสงหักเหอย่างต่อเนื่อง และแม้แต่พลังจิตก็ไม่สามารถตรวจสอบสภาพแวดล้อมได้ พลังของเขตแดนแสงดำที่ได้รับการปรับปรุงด้วยดวงใจแห่งความมืด จึงทำให้มันมีพลังที่เพิ่มขึ้นอย่างมาก พลังจิตระดับสามโดยเฉลี่ยจะถูกดึงเข้าสู่ภาพลวงตาทันที

แต่หากใครมีพลังจิตระดับสี่ขึ้นก็ย่อมสามารถหลุดพ้นจากเงื้อมมือของเขตแดนแสงดำได้

แต่อาจมีนักเวทย์ที่พลังจิตเพิ่งถึงระดับที่สี่จะรู้สึกถึงอิทธิพลของเขตแดนแสงดำ พวกเขาจะรู้สึกถึงความมืดเล็กน้อยแต่มันจะเป็นอิทธิพลเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ดังนั้นพวกเขาจะไม่ติดอยู่ในภาพลวงตาเลย

ในอดีต เป็นเพราะพลังจิตของไวส์ซึ่งถึงระดับที่สี่แล้ว เขาจึงไม่ติดอยู่ในเขตแดนแสงดำของเมอร์ลิน แม้ว่าบลูเบิร์ดซึ่งขณะนี้ถูกห้อมล้อมด้วยเขตแดนแสงดำจะไม่ใช่นักเวทย์ระดับสี่แต่เมอร์ลินก็ไม่รับประกันว่าเขาจะสามารถดักจับเธอในภาพลวงตาได้

*บูม!*

อย่างที่คาดไว้ พลังจิตระเบิดอันทรงพลังพุ่งขึ้นไปบนท้องฟ้า ทะลุความมืดมิดในทันที เขตแดนแสงดำของเมอร์ลินถูกบลูเบิร์ดสลายออกทันทีเพราะพลังจิตของเธอถึงระดับที่สี่แล้วจริง ๆ ดูเหมือนว่าอัจฉริยะของออสมูทุกคนมีพลังจิตที่แข็งแกร่งมาก

อย่างไรก็ตาม เมอร์ลินพร้อมมานานแล้ว เขาไม่เคยหยุดและวิ่งเข้าหาบลูเบิร์ด แม้ว่าทั้งสองคนจะใช้พลังปีศาจแพนโดร่า เวทมนตร์และอื่น ๆ ทำให้เกิดความโกลาหลและน่าประหลาดใจอย่างมาก อันที่จริง เวลาที่ผ่านไปนั้นเป็นเพียงช่วงเวลาสั้นๆ

ตอนี้เมอร์ลินอยู่ต่อหน้าบลูเบิร์ดอยู่แล้ว เขาเห็นสีหน้าที่เปลี่ยนไปของบลูเบิร์ดเป็นครั้งแรก

"ตายซะ!"

ด้วยรอยยิ้มที่เย็นชาบนใบหน้าของเขา เมอร์ลินง้างแขนและชกหมัดไปข้างหน้า

‘เป็นนักเวทย์แต่สู้ด้วยกำปั้น?’

นี่เป็นสิ่งที่ผิดปกติสำหรับนักเวทย์ พวกเขายังพบว่ามันยากที่จะเชื่อแต่ก็ไม่มีใครกล้าหัวเราะออกมา

เมอร์ลินเป็นนักเวทย์ระดับหนึ่งและนักเวทย์ร่ายหลายคนรู้จักตัวตนของเขาแล้ว ในการต่อสู้ครั้งใหญ่ระหว่างดอเร็ตกับชาเดอสันก่อนหน้านี้ นักเวทย์ระดับหนึ่งเป็นได้แค่ทหารเลวซึ่งไม่สามารถมีผลอะไรกับการต่อสู้ได้

อย่างไรก็ตาม นักเวทย์ระดับหนึ่งอย่างเมอร์ลินในตอนนี้สามารถต่อสู้กับบลูเบิร์ดได้ราวกับระดับเท่ากัน ยิ่งไปกว่านั้น จากการเคลื่อนไหวต่อเนื่องในการต่อสู้ เมอร์ลินได้เปรียบเหนือบลูเบิร์ดอย่างเห็นได้ชัด

พวกเขาเห็นชัดเจนว่าเมอร์ลินสามารถปราบปรามนกบลูเบิร์ดแห่งออซมูได้อย่างสมบูรณ์

*พลัวะ!*

ทันทีที่หมัดของเมอร์ลินชกมาที่ด้านหน้าของบลูเบิร์ด เธอก็ไม่อาจหัวเราะเยาะในเรื่องนี้ได้อีกต่อไป หมัดที่หนักหน่วงชกไปที่โล่พสุธาอย่างเต็มแรง

เมอร์ลินรู้ว่าบลูเบิร์ดเผยช่องว่างออกมาในตอนที่กำลังจะร่ายคาถาโล่พสุธาเป็นครั้งที่สองแต่เธอถูกรบกวนโดยเขตแดนแสงดำดังนั้นเธอจึงไม่สามารถร่ายมันได้ทันเวลา

ดังนั้นเขาจึงใช้โอกาสนี้เข้าประชิดเธอ เขาชกไปโดยตรง แขนที่เต็มไปด้วยมัดกล้ามได้ระเบิดพลังออกมาอย่างรุนแรง

*แคร่ก!*

แสงสีเหลืองหม่นสว่างขึ้นเพียงครู่หนึ่ง จากนั้นภายใต้ความแข็งแกร่งมหาศาลของเมอร์ลิน แสงวูบวาบสองสามครั้งและแตกเป็นเสี่ยงทันทีราวกับเปลือกไข่

ทันทีที่โล่พสุธาถูกทำลาย สีหน้าที่หวาดกลัวคืบคลานไปทั่วใบหน้าของบลูเบิร์ด เธอมีพลังปีศาจแพนโดร่าสองประเภท แม้แต่นักเวทย์ระดับระดับสี่ก็ไม่อาจสู้เธอได้และในสายตาของเธอ ตัวเธอนั้นไม่เหมือนกับไวส์ที่เป็นเพียงคนโง่เขลาและหยิ่งทะนง

อย่างไรก็ตาม ตอนนี้เธอกำลังจะจบลงเหมือนไวส์

“ไม่! ฉันต้องไม่ตาย ไคลส์ยังต้องการฉัน…”

บลูเบิร์ดร้องเสียงแหบแต่เมอร์ลินไม่ลังเลเลยแม้แต่น้อย ทันทีที่โล่พสุธาแตก เปลวไฟสีขาวก็ปรากฏขึ้นในมือของเขาและเปลวเพลิงสีขาวถูกส่งไปกลืนกินร่างของบลูเบิร์ดในทันที…

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด