ตอนที่แล้วEP 662 ผู้พิชิตสามขุนพล!
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปEP 664 ในวันที่ฝนตก!

EP 663 การประชุมของผู้บริหารหนานฉาง!


EP 663 การประชุมของผู้บริหารหนานฉาง!

By loop

ในช่วงบ่าย.

ในห้องประชุมเล็กๆ ของรัฐบาลเขต เจ้าหน้าที่ของสำนักงานเขตต่างๆ และสำนักส่งเสริมการลงทุน พวกเขามาถึงก่อนหน้านี้แล้ว ก่อนหน้านี้คนกลุ่มนี้นั่งคุยหัวเราะกันอย่างสนุกสนาน อย่างไรก็ตาม เมื่อเห็นดงซูบินกำลังเดินเข้ามา บรรยากาศต่างๆก็เปลี่ยนไป ดูเหมือนเสียงกระซิบกระซากเริ่มดังขึ้น การประชุมดูเหมือนจะเงียบไปครู่หนึ่ง หลายคนพยายามนั่งตัวตรง และทุกคนดูตกตะลึงเมื่อเห็นดงซูบินมาที่นี้

จู่ๆ ดงซูบินก็กลายเป็นจุดสนใจของผู้คน แต่ดูเหมือนจะไม่มีใครทักทายเขาเลย

ชูชินหัว จากสำนักงานถนนผิงอันเองก็เพิ่งมา และหลังจากผ่าน ดงซูบินเขาก็นั่งแถวกลางโดยไม่มีท่าทีราวกับว่าเขาไม่เห็นเขา สำนักส่งเสริมการลงทุนอำเภอแพนเจินยี่ที่กำลังเข้าประตูมา เห็นหลังของดงซูบินเขาแสดงความเมื่อยล้าออกมาก่อนจะเดินเลี้ยวมุมแล้วเดินจากอีกด้านหนึ่งไปที่แถวหลัง

เช่นเดียวกับบรรยากาศในห้องโถงตอนนี้ ดงซูบินยืนอยู่เพียงตัวคนเดียว

แน่นอนถ้าดงซูบินเองไม่มีปัญหากับเลขาธิการหวัง ทุกคนก็จะไม่แสดงพฤติกรรมเหล่านี้ออกมาแน่นอน ท้ายที่สุดแล้ว ความสัมพันธ์ระหว่างฝ่ายต่างๆ ในมณฑลนั้นก็เป็นสิ่งสำคัญ ต่อให้จะแย่สักแค่นไห ในทางกลับกัน ยังมีโอกาสแก้ไข มณฑลหนานฉางตอนนี้กำลังอยู่ในขั้นหัวเลี้ยวหัวต่อ สุดท้ายแล้วตอนนี้ดงซูบินมีปัญหากับทั้งผู้บริหารสูง หรือแม้แต่ลูกน้องของเขาเองอย่างเกิงเซียง และปัญหาเหล่านี้เป็นที่โจทย์จันทร์อย่างมาก นั้นจึงไม่มีใครยินดีที่จะพูดคุยกับเขา มิฉะนั้นพวกเขาจะกลายเป็นศัตรูกับทางมณฑล อีกทั้งก็จะกลายเป็นเป้าสายตาของนายกเทศมนตรีเดือนแห่งรัฐบาล ย่อมหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่ผู้นำจะถูกเข้าใจผิด ว่าสิ่งที่พวกเขาทำพยายามจะสื่อถึงอะไรหรือเปล่า?  และอาจจะถูกเหมาร่วมให้ไปเป็นพวกกับดงซูบิน?

หลังจากนั้นไม่นาน

เสียงสนทนาดังขึ้นอีกครั้งในห้องประชุม

ดงซูบินมองไปรอบๆ  ดูสิ ไม่เห็นมีใครสนใจฉันเลย และเขาเคยชินกับสายตาเช่นนี้มาก่อน อาจจะเป็นเรื่องธรรมดาของดงซูบินก็เป็นได้?

แน่นอนว่าเรื่องแย่ๆของดงซูบินนั้นดังมาก จนไม่มีใครอยากเข้าไปคุยกับเขาเลย และดูเหมือนจะหนักข่อขึ้นไปเรื่อยไ

“สวัสดี ผู้อำนวยการแพน!” ดงซูบินเห็น แพนเจิ้งยี่ นั่งอยู่ที่แถวหลัง ใบหน้าของเขาทำให้นึกถึงเทพเจ้าในทันที และเขาก็เดินขึ้นไปอย่างมีความสุข ภายใต้การจ้องมองของ แพนเจิ้งยี่ ดงซูบินเลือกที่จะนั่งถัดจากเขา บรรยากาศคุ้นเคยมาก “พี่แพนมาเมื่อไหร่ ไม่เห็นคุณเลย เป็นไงบ้าง สำนักงานการส่งเสริมการลงทุนยังโอเคอยู่ ภารกิจในปีนี้สำเร็จไปกี่ตัวชี้วัด”

แพนเจิ้งยี่เองจริงๆเขาโกรธมาก แต่เขากับพูดอะไรไม่ออก  ทำไมหมอนั้นถึงทักฉันล่ะ? และก็เลือกนั่งถัดจากฉันอีกตั้งหาก?ทำไมมันเป็นคร่าวซวยขนาดนี้!

ลูกพี่ลูกน้องของแพนเจิ้งยี่ คือ แพนโจว ในจากเมืองตาเฟิ้งที่แห่งนี้ถูกดงซูบินเล่นงานสมัยเขาดำนงตำแหน่งผู้อำนวยการส่งเสริมการลงทุนหยานไท  ดังนั้นเขาจึงไม่มีความประทับใจที่ดีต่อดงซูบิน

“พี่แพน คืนนี้ว่างไหม กินข้าวด้วยกัน!”

"กลางคืน? พอดีดูเหมือนฉันจะติดธุระ"

“เสียดายจังเลย เราไม่ได้ดื่มกันมานานมากแล้ว”

แพนเจิ้งยี้ แทบอยากจะอาเจียนเป็นเลือด หมอนั้นมันหมายความยังไงกัน! ฉันไปดื่มกับนายมาตอนไหนกัน อ๋อ เคยครั้งหนึ่ง แต่นั่นเป็นเวลาที่ลูกชายของ ชูชินฮวา ในงานแต่งงาน! มันเป็นเพียงการนั่งร่วมโต๊ะดันเท่านั้น! แล้วทำไมคุณถึงมาทำตัวสนิทสนมกับฉันเช่นนี้กันล่ะ? ดงซูบิน! นายนี้มันร้ายกาจมากๆ!  สีหน้าของแพนเจิ้งยี่แสดงออกถึงความไม่พอใจออกมาและมองไปที่นาฬิกา “ผมขอตัวก่อนนะครับ พอดีผมมีธุระด่วน” หลังจากนั้นเขาก็ลุกขึ้นและจากไป แพนเจิ้งยี่ไม่ต้องการให้นายกเทศมนตรีโยฮวาเห็นเขามาสนิทสนมกับดงซูบิน

เมื่อเห็นการแสดงออกของ แพนเจิ้งยี่ ก็ทำให้ดงซูบินดูมีความสุขอย่างบอกไม่ถูก เขากวาดสายตาไปรอบๆสถานที่ ดวงตาของเขาก็เบิกกว้างขึ้นมาทันที และเขาก็ยืนขึ้นและเดินไปที่แถวกลาง “นั้น ผู้อำนวยการชูชิงฮวา!”

ชูชิงฮวาเองก็ตกตะลึงเล็กน้อยเขาตัวสั่นไปหมด

ดงซูบินนั่งลงข้างๆ ชูชิงฮวา และยิ้มและกล่าวว่า “ผมตามหาคุณมาตั้งนาน วันนี้ผมจองโต๊ะอาหารเย็นไว้ สนใจมาร่วมทานอาหารเย็นกับผมหรือเปล่า!”

สายตาที่แสดงออกถึงความผวาของชูชิงฮวาก็ปรากฎขึ้นขึ้น “พอดีว่าวันนี้ร่างกายผมไม่ค่อยพร้อม เอาไว้วันหลังล่ะกันนะครับ”

ดงซูบินพูดด้วยความเป็นห่วง: “คุณเป็นอะไรไป ไม่สบายตรงไหนหรือเปล่า?”

“…” ตอนนี้ชูชิงฮวาเขาดูรุกลี้รุกลน

“ถ้าบอกฉันก่อนหน้านี้นะฉันจะช่วยรักษาคุณเองเพราะฉันพึงไปฝึกวิชาการรักษามาเลยนะ”

ชูชิงฮวาได้แต่กัดฟัน! ช่วยไปไกลๆฉันหน่อยเถอะ ฉันไม่อยากถูกเหมารวมไปกับแก!

ในบริบทของสงครามจิตวิทยาครั้งนี้ของ ดงซูบินกับนายกเทศมนตรีโยฮวา เห็นได้ชัดว่าชั้นเชิงและยุทธวิทธีทางจิตวิทยานั้นสูงมาก มีเพียงไม่กี่คนในหนานฉางที่กล้าจะเผชิญหน้ากับทั้งสองคนนี้ เพราะพวกเขากลัวจะติดติดห่างเร่ไปด้วย ดังนั้นแม้ว่าภายในใจของชูชิงฮวาจะเกลียดชังดงซูบินเพียงใดที่ได้ปล้นผลงานชิ้นโบว้แดงจากถนนเขาไป แต่ ชูชิงฮวาเองก็พยายามสงวนท่าทีเหล่านี้ไว้

ในเวลานี้ห้องประชุมเงียบไปเล็กน้อย

หญิงสาวที่อายุน้อยกว่า 30 ปีเดินเข้ามา

"สวัสดีครับเลขาหม่า"

"เลขาของหม่า"

เจ้าหน้าที่ของหน่วยงานราชการในสองเขตบริเวณทางเข้าให้การต้อนรับด้วยความสุภาพ

เลขาหม่าแนะนำ: "ข้อมูลพร้อมหรือยัง"

คนๆหนึ่ง: "รับไว้ พร้อมส่งต่อ"

"อืม ขอฉันดูหน่อย" เลขาหม่าแนะนำให้หยิบเอกสารก่อนจะพลิกมันกลับไปมา ธอพยักหน้าเล็กน้อย “โอเค ช่วยส่งเร็วหน่อยนะคะตอนนี้นายกเทศมนตรีโยฮวากำลังจะมาถึง” ”

"เข้าใจ."

ดงซูบินก็มองดูเช่นกัน แม้ว่าเขาจะไม่ได้พูดกับบุคคลนี้ แต่เขารู้ดีว่าหญิงสาวคนนี้เป็นเลขาของเกิงโยฮวา เธอมีชื่อว่าหม่าหวู่ บางทีเธออาจจะเหมาะกับนักข่าวมากกว่า เธอเองเป็นถึงรองผู้อำนวยการสำนักงานเขต ฉันได้ยินมาว่ารูปแบบการทำงานของเธอนั้นค่อนข้างละเอียดรอบคอบเอามากๆ และไม่เน้นน้ำ และเธอดูกระตือรือร้นอยู่ตลอดเวลาเพื่อตอบสนองความว่องไวของเกิงโยฮวา

ในช่วงเวลาสั้นๆ เฉินเฟิง หัวหน้าเขตก็เข้ามา

ต่อจากนั้น เสียงรองเท้าส้นสูงก็ดังขึ้นด้านนอกสถานที่จัดงานนั้นเป็ฯเสียงฝีเท้าของเกิงโยฮวาและคนสุดท้ายเข้ามาในห้องประชุมและนั่งที่โต๊ะหลัก วันนี้ก็คือเธอ เธอเองยังไม่ได้แต่งหน้า แต่ใบหน้ายังคงดูมีเสน่ห์และน่ากลัว และดูเหมือนว่าทุกครั้งที่ดงซูบินเจอเธอเขาก็จะเห็นเพียงภาพลักษณ์เดียวของเธอ ทรงผมเดียวกัน ชุดเดียวกัน อารมณ์เดียวกัน ไม่เคยเปลี่ยน ของโบราณเหมือนขอโบราณ ถึงกระนั้นมันก็เหมือนเครื่องเคลือบโบราณถึงแม้จะยังเหมือนเดิมมาหลายร้อยปีแต่ทำอย่างไรจึงจะดูสวยงาม

เมื่อนายเทศมนตรีเกิงโยฮวามาถึง ห้องประชุมขนาดเล็กก็เงียบลงในทันใด

ทุกคนรู้นิสัยของนายกเทศมนตรีเกิงโยฮวาดี ไม่มีใครกล้ากระซิบ

ดงซูบินไม่ได้สนใจชูชินฮวา แพนเจิ้งยี่ อีกต่อไป เขาเพียงนั่งลงและมองไปที่กลางโต๊ะ

ในช่วงเริ่มต้นของการประชุม โดยมี เฉินเฟิง เป็นประธาน เขาได้หยิบไมโครโฟนขึ้นมาและกล่าวสั้นๆ ก่อนถึงหัวข้อของการประชุมส่งเสริมการลงทุนในวันนี้ “หลังจากติดต่อมาหลายครั้ง พรุ่งนี้คณะลงทุนจากโตเกียวจะมาเยือนเขตของเรา โครงการลงทุน ทางอำเภอเตรียมรับมือไว้นานแล้ว...”

ตัวแทนซากาโมโตะ?

โครงการลงทุน?

ดงซูบินรู้ว่าเรื่องนี้เกี่ยวข้องกับเขา

เมื่อเขาเป็นผู้อำนวยการกลุ่มพ่อค้าจีนในเขตเยียนไถ เมื่อประมาณสองเดือนที่แล้ว เขาไปที่สำนักการค้าแห่งประเทศจีนของเขตและเทศมณฑลของเมืองเฉินโจวหนึ่งครั้งและไปเรียนหลักสูตรภาษาญี่ปุ่น มีสมาคมพ่อค้าและเมืองติดต่อกับโตเกียว เข้ามาแล้วทีมลงทุนของทุกอำเภอและทุกอำเภอมีความสามารถที่จะดึงคนออกมาเอง มณฑลหยานไทแย่กว่าเขตเมืองเพราะทรัพยากรและสิ่งแวดล้อม ตอนนั้นผมเลยไม่ได้ติดต่อนักลงทุนเลยในวันนี้ ปลายปีนี้ ตอนที่ฉันกลับขึ้นเครื่อง เกิดเหตุเครื่องบินตกขึ้นมาพอดี

หลังจากเจิงเฟิงพูดจบ เกิงโยฮวาก็หยิบไมโครโฟนขึ้นมาและกล่าวคำแนะนำเล็กน้อย

ไม่มีอะไรมากไปกว่าการให้สำนักงานเขตต่างๆ ในร่วมมือกับงานของพ่อค้า เรื่องแรกก็คือการกล่าวทักทาย เพื่อเตรียมการ เพื่อสร้างความประทับใจที่ดีให้กับนักลงทุน และประการที่สอง การให้ไฟเขียวแก่พวกเขา การสืบสวนที่สำคัญบางประการ เป็นการดีที่สุดสำหรับผู้นำของสำนักงานเขตที่จะนำ นักลงทุนลงและมุ่งมั่นที่จะปล่อยให้การลงทุนมากขึ้นและแสดงสภาพแวดล้อมการลงทุนที่ดีของหนานฉาง ให้กับนักลงทุน

เหล่าผู้บริหารเขตกำลังจดบันทึก บางครั้งก็จดจ่อ และบางครั้งก็คิด

ดงซูบินรู้ดีว่าคนส่วนใหญ่ต้องทำเป็นตั้งใจ เพราะหัวหน้ากำลังดูสิ่งต่อไปนี้ คุณไม่สามารถแสดงสีหน้าที่เสียสมาธิได้ ไม่เช่นนั้นหัวหน้าจะคิดว่าคุณไม่ได้จริงจังกับคำพูดของเธอ อย่างไรก็ตาม ดงซูบินไม่จำเป็นต้องติดตั้งทำตัวเป็นพวกผักชี้โรยหน้า เขาฟังอย่างเงียบ ๆ และไม่ได้บันทึกอะไรเลย

เมื่อเรื่องจบลง ไมโครโฟนก็หันไปที่มือของเฉินเฟิง

ภายใต้พื้นที่นั่งยอง ถือรายงานการทำงาน เซินเซิงกล่าวว่า “ฉันจะพูดถึงบทสรุปของการลงทุนในช่วงครึ่งแรกของแต่ละถนน อืม…” เฉินเฟิงมองไปตรงกลางด้วยน้ำเสียงและ แถวหลัง. “นี่ ตอนแรกวิพากษ์วิจารณ์ที่สำนักงานเขตกวงหมิง เมื่อเดือนก.ค. ครึ่งปีงานส่งเสริมการลงทุนมียอดลงทุนเพียง 15 ล้าน ทุนจริงแค่ 7 ล้านเท่านั้น! ซูบินสำนักงานของนาย งานส่งเสริมการลงทุนเป็นอย่างไร?ผลตอบรับการลงทุนของคุณในช่วงครึ่งปีแรกแย่เกินไปหรือเปล่า?”

การระบุสถานที่ขึ้นมาในการประชุมส่งเสริมการลงทุนของมณฑล

ดงซูบินมองขึ้นไปที่โต๊ะหลักและไม่พูดอะไร

ส่งเสริมการลงทุนไม่ดี? เรื่องนี้ไม่เกี่ยวอะไรกับ ดงซูบินเขาไปเดือนใดก็ได้ และงานในเขตในครึ่งปีแรกเป็นหน้าที่ของเลขาธิการคนเก่า

เฉินเฟิงยังคงวิพากษ์วิจารณ์การดึงดูดการลงทุนของสำนักงานเขตกวงหมิงอันที่จริง บางคนในวงประชุมรู้ว่านี่ไม่ใช่ความลำบากของเฉินเฟิงในเขตกวงหมิงแต่การยกเรื่องนี้ขึ้นมาก็เหมือนเป็นการประกาศว่าเขาพักดีกับนายกเทศมนตรีโยฮวา แพนเจิ้งยี่ก็มองหันหลังกลับไปมองดงซูบินแล้ว หัวเราะเยาะ

ชูชิงฮวาและสื่ออื่นๆ อีกสองสามคน ผู้อำนวยการสำนักงานเขตก็มองหน้ากันและหันมามองที่ ดงซูบินและชูชิงฮวา

ในที่สุดก็มา! นี่คือจุดเริ่มต้นของการเคลื่อนไหว!

แต่ดูเหมือนนายกเทศมนตรีโยฮวาจะโกรธ ดงซูบินจริงๆ!

โดยไม่มีเหตุผล อาจเป็นเพราะน้องชายของเธอถูกส่งตัวให้ไปรับการฝึกที่โรงเรียนของพรรคและเป็นการหักหน้าตำแหน่งนายกเทศมนตรีอย่างเธอ และกลายเป็นความแค้นที่ฝั่งรากลึกลงไปแล้วในตอนนี้!

สิ้นสุดการประชุม

เกิงโยฮวาไม่ได้มองไปที่ ดงซูบินเป็นคนแรกลุกขึ้นยืนก่อนที่เธอจะแสดงสีหน้าเฉยเมยอย่างเช่นเคยและเดินออกไปกับเลขาหม่าพร้อมกัน

ดงซูบินเองก็เก็บข้าวของที่เขาเอามาด้วย ดูเหมือนเขาไม่ได้สะทบสะท้านกับสิ่งที่ที่ประชุมกล่าวหาเขาเลย ราวกับว่าคนที่เพิ่งถูกวิพากษ์วิจารณ์ไม่ใช่เขา

หลายคนมองไปที่ด้านหลังของ ดงซูบินและบอกว่าชายคนนี้ดูนิ่งจริงๆ แต่ทุกคนรู้ว่า ดงซูบินยังจะต้องเจอเรื่องเลวร้ายอีกมากมายหลังจากนี้! .

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด