775-776
9/10
Ep.775
“ที่แท้ก็เป็นเพราะฉัน” ซูเฉินถอนหายใจยาว งึมงำกับตัวเอง
เขารู้แล้ว ไม่ว่าจะเป็นมนุษย์บนเกาะเฉียนหยู หรือประมุขฉางและอาวุโสน่าน ทั้งหมดล้วนถูกเขาลากลงมาทำให้เดือดร้อน
และเหตุผลที่สุดยอดห้าเผ่าพันธุ์กดดันเผ่ามนุษย์ หนึ่งคือเพราะเขาสังหารพวกต่างเผ่ามากเกินไป สองคงหวาดกลัวในตัวเขา
ก็ลองจินตนาการดูสิ ซูเฉินยังอายุไม่ถึง 20 ปี แต่มีกำลังรบที่สามารถบดขยี้ผู้ฝึกตนขั้น 10 ได้แล้ว หากเติบโตยิ่งกว่านี้ ผลที่จะเกิดขึ้นคงไม่ต้องกล่าวถึง
ดังนั้นพวกมันเลยคิดว่า ก่อนที่เขาจะเลื่อนขั้นสู่ระดับเทวะ ควรสังหารซะ! เพื่อขจัดปัญหาในอนาคต
คิดถึงเรื่องนี้ ซูเฉินอดไม่ได้ที่จะหัวเราะเย็นชา มีคนไม่น้อยต้องการจะฆ่าเขา แต่จนถึงทุกวันนี้ ใครบ้างเล่าสามารถทำได้?
–ไม่มีเคยมีซักคน! ยิ่งตอนนี้ยิ่งไม่มีทางเป็นไปได้
“ในเมื่อพวกแกอยากฆ่าฉันใจแทบขาด งั้นฉันนี่แหละ จะเป็นฝ่ายชิงฆ่าพวกแกทั้งหมดเอง!”
ซูเฉินลอบตัดสินใจ รอจนเรื่องนี้คลี่คลาย เขาจะต้องไป ‘เยี่ยมเยือน’ ทวีปของพวกต่างเผ่าเหล่านั้นอย่างแน่นอน
สำหรับผู้แข็งแกร่งระดับเทวะ เอาไว้รอจนสะสมชิ้นส่วนได้มากพอ แล้วเข้าสู่มิติท้ารบ เขาจะกำจัดพวกมันเรียงตัว
หยูจิงหยางสัมผัสได้ถึงเจตนาฆ่าอันรุนแรงที่เล็ดลอดออกมาจากร่างของซูเฉิน อดสั่นเทิ้มอย่างช่วยไม่ได้ ลองเลียบเคียงถามว่า “ซูเฉิน เจ้าไม่เป็นไรนะ?”
ซูเฉินสูดหายใจเข้าลึกๆ กล่าวเสียงเรียบ “ผมไม่เป็นไร”
สิ้นเสียง เขาหยิบเอา [รถศึกอัจฉริยะ] ออกมา เชิญหยูจิงหยางขึ้นไปด้วยกัน
“เสี่ยวจือ ค้นหาที่ตั้งของตระกูลเฝิงแห่งราชวงศ์เฝิงซี แล้วไปที่นั่นเดี๋ยวนี้” ซูเฉินสั่ง
“รับทราบ”
[รถศึกอัจฉริยะ] ล็อคตำแหน่งตระกูลเฝิง ขับเคลื่อนด้วยความเร็วสูง
“ซูเฉิน นี่เจ้าคิดจะไปช่วยคนที่ตระกูลเฝิงงั้นหรือ?” หยูจิงหยางถามด้วยอาการกระสับกระส่าย บังเกิดความรู้สึกไม่สบายใจเป็นอย่างยิ่ง
ตอนนี้ตระกูลเฝิงมีบรรพชนระดับเทวะคอยดูแลเมืองอยู่ แม้ระดับฐานฝึกตนจะถูกสะกดไว้ แต่ก็ไม่ใช่สิ่งที่ขั้น 10 ทั่วไปจะเทียบได้
เขากังวลเล็กน้อยว่าซูเฉินจะประมาทเลินเล่อ แล้วประสบกับอันตราย
ซูเฉินพยักหน้า กล่าวด้วยสีหน้าเรียบเฉยว่า “ผมไม่ใช่แค่ต้องการไปช่วยคน แต่คิดยังกำจัดตระกูลเฝิงให้สิ้นซาก!”
ซู๊ดดดดด!
หยูจิงหยางลมหายใจย้อนกลับ กำจัดตระกูลเฝิง นั่นเท่ากับต้องสังหารเฝิงเหอเซียงเช่นกัน แล้วซูเฉินจะทำได้หรอ?
“ซูเฉิน เฝิงเหอเซียงอาจยังพำนักอยู่ในตระกูลเฝิง รู้แบบนี้แล้ว เจ้ายังต้องการจะไปที่นั่นจริงๆน่ะหรือ?” หยูจิงหยางเตือน
ซูเฉินรู้ดีว่าหยูจิงหยางกำลังคิดอะไร เขากล่าวด้วยรอยยิ้มว่า “ประมุขหยูโปรดวางใจ ไม่ต้องพูดถึงเรื่องที่เฝิงเหอเซียงถูกสะกดฐานฝึกตนเอาไว้ ต่อให้เป็นในมิติอื่น ผมก็มั่นใจเต็มเปี่ยมว่าสามารถฆ่ามันได้!”
เห็นท่าทีมั่นใจของซูเฉิน คล้ายไม่ได้กำลังล้อเล่น หยูจิงหยางตะลึงงัน
ผู้แข็งแกร่งขั้น 10 ถึงกับประกาศว่าจะสังหารผู้แข็งแกร่งระดับเทวะ? นี่คือสิ่งที่เหลือเชื่อที่สุดที่เขาเคยได้ยินมาในชีวิตนี้
หยูจิงหยางกลืนน้ำลาย พยายามไม่คิดถึงเรื่องนี้ หันเหหัวข้อสนทนา “ซูเฉิน แล้วพวกกงเก๋อเล่า เป็นอย่างไรบ้าง?”
ในตอนที่ค่ายกลเคลื่อนย้ายบนภูเขาจื่อเว่ยทำงาน กงเก๋อและคนอื่นๆถูกรวบเข้าไปในมิติของซูเฉิน หลังจากนั้นก็ไม่ได้เห็นอีกเลย หยูจิงหยางค่อนข้างกังวลมาก
“ท่านประมุขหยูโปรดวางใจ ศิษย์พี่กงและคนอื่นๆอยู่ใน [มิติสันโดษ] ของผม ถ้าท่านต้องการพบเขา ผมสามารถพาเข้าไปได้ทันที” ซูเฉินยิ้ม
“ไม่ต้องรีบร้อนขนาดนั้นหรอก” หยูจิงหยางถอนหายใจเฮือกใหญ่ พอรู้ว่ากงเก๋อสบายดี เขาก็วางใจ ส่วนเรื่องพบหน้า ไม่จำเป็นต้องเร่งรีบอะไร
“ซูเฉิน แล้วเจ้าออกมาจากดินแดนที่ถูกทอดทิ้งได้อย่างไร?” หยูจิงหยางยังคงถามต่อ
นี่คือจุดที่เขาอยากรู้มากเช่นกัน เพราะมีข่าวลือว่า เมื่อเข้าสู่ดินแดนที่ถูกทอดทิ้ง จะไม่มีทางออกมาจากข้างในได้อย่างแน่นอน
ซูเฉินไม่ปิดบัง บอกเล่าสิ่งที่เกิดขึ้นในดินแดนที่ถูกทอดทิ้งอย่างคร่าวๆ
10/10
Ep.776
เมื่อได้ยินว่ามีผู้แข็งแกร่งมากมายในดินแดนที่ถูกทอดทิ้ง หัวใจของหยูจิงหยางเต้นระรัว
ในเวลาเดียวกัน เขารู้สึกตกใจมากกับกำลังรบอันทรงพลังของซูเฉิน สามารถกำจัดเสมือนเทวะได้สองคน รวมไปถึงเรื่องที่ล้างบางผู้แข็งแกร่งเหนือกว่าขั้น 9 อีกนับพัน
ไม่ว่าจะเรื่องราวไหน ก็เพียงพอที่จะสั่นคลอนสวรรค์และปฐพี
“ไม่น่าแปลกใจเลยว่าทำไมเขาถึงกล้าประกาศว่าจะกำจัดตระกูลเฝิงให้สิ้นซาก”
หลังจากได้รู้ถึงความแข็งแกร่งของซูเฉิน หยูจิงหยางก็เข้าใจในทันที หากกระทั่งผู้ฝึกตนระดับเสมือนเทวะยังฆ่าได้ เช่นนั้นระดับเทวะในทวีปใหญ่นี้ ซูเฉินย่อมสามารถฆ่าได้อย่างแน่นอน นั่นเพราะพวกเขาเหล่านั้นสามารถสำแดงพลังออกมาได้ถึงแค่ขั้น 10 เท่านั้น
ตรงกันข้ามกับซูเฉิน ที่ไม่เพียงแต่สามารถสังหารเสมือนเทวะได้ แต่ยังมียอดฝีมือระดับเสมือนเทวะอีกสองคนคอยสนับสนุน กำลังรบของเขา เพียงพอแล้วที่จะกวาดล้างตระกูลเฝิง
คิดถึงเรื่องนี้ เส้นประสาทที่ตึงเครียดของหยูจิงหยางในที่สุดก็คลายลงได้เปราะหนึ่ง
“ประมุขหยู ทำไมเฝิงเหอเซียงถึงไม่ฆ่าประมขุฉางกับผู้อาวุโสน่าน? แต่จับพวกเขาแทน?” ซูเฉินถามด้วยความสงสัย
ตามหลักเหตุผลแล้ว ควรสังหารฉางไช่หลี่และน่านหลีชวนซะ จะได้ขจัดปัญหาให้หมดสิ้นในอนาคต แล้วเหตุใดถึงต้องจับเป็นด้วย?
หยูจิงหยางครุ่นคิดพักหนึ่ง แล้วตอบกลับว่า “เป็นไปได้ว่าพวกเขาหวั่นเกรงในตัวของบรรพชนระดับเทวะแห่งวังสุริยันจันทรา”
ซูเฉินพยักหน้า เขาคิดว่าเรื่องนี้มีความเป็นไปได้สูงสุด
วังสุริยันจันทรามีบรรพชนระดับเทวะอยู่ถึงสองคน แม้หนึ่งหายตัวไป แต่อีกหนึ่งยังคงอยู่ แถมใกล้ถึงวาระของชีวิตแล้วด้วย
เกิดคนหลังรู้ว่าวังสุริยันจันทราถูกทำลาย บางทีอาจตัดสินใจทุ่มสุดตัว ตกตายไปพร้อมกันกับศัตรู นี่น่าจะเป็นสิ่งที่ระดับเทวะคนอื่นๆหวาดกลัว
หลังจากนั้น ซูเฉินกับหยูจิงหยางหารือกันเรื่องอื่นๆ ก่อนส่งอีกฝ่ายเข้าไปใน [มิติสันโดษ] แล้วเอนตัวลงบนเก้าอี้คนขับ หลับตาพักผ่อน
สองวันต่อมา [รถศึกอัจฉริยะ] ได้มาถึงเมืองจ้านเฝิงแห่งราชวงศ์เฝิงซี จอดห่างออกไปไม่กี่ไมล์
หากคิดช่วยเหลือฉางไช่หลี่กับน่านหลีชวน ต้องไม่สร้างความวุ่นวายตั้งแต่แรก มิฉะนั้น จะเท่ากับเป็นการแหวกหญ้าให้งูตื่น
ถึงเวลานั้น บางทีอีกฝ่ายอาจจับพวกฉางไช่หลี่เป็นตัวประกัน แล้วแบล็คเมล์เขา บอกให้วางอาวุธลง
เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหานี้ ซูเฉินเลยวางแผนที่จะเข้าไปช่วยเหลือพวกเขาอย่างเงียบๆ
ตราบใดที่สามารถส่งฉางไช่หลี่กับน่านหลีชวนเข้าไปใน [มิติสันโดษ] ได้ เขาก็สามารถทำการใหญ่โดยไม่ต้องพะวง
“เสี่ยวจือ สแกนหาผู้แข็งแกร่งขั้น 10 ในเมืองจ้านเฝิง” ซูเฉินสั่ง
ฉางไช่หลี่กับน่านหลีชวนเป็นผู้ฝึกตนขั้น 10 ทั้งคู่ และแน่นอนว่าเมืองจ้านเฝิง ไม่น่าจะมีขั้น 10 พำนักอยู่มากนัก หากตรวจสอบทีละคน ก็น่าจะค้นพบที่อยู่ของฉางไช่หลี่
“รับทราบ”
[รถศึกอัจฉริยะ] ตอบกลับ เริ่มสแกนหา
ห้านาทีต่อมา [รถศึกอัจฉริยะ] กล่าวว่า “เจ้านาย ตรวจพบผู้ฝึกตนขั้น 10 ทั้งสิ้น 6 คน”
“เสี่ยวจือ ล็อคเป้าพวกเขาไว้ แล้วขยายภาพที”
หัวใจของซูเฉินเริ่มเต้นแรง เขามั่นใจ ว่าในบรรดาผู้ฝึกตนขั้น 10 ทั้ง 6 คนนี้ ต้องมีฉางไช่หลี่กับน่านหลีชวนอยู่อย่างแน่นอน
หน้าจอควบคุมส่วนกลางสับเปลี่ยนภาพ ไม่นานก็ห้องโถงใหญ่ก็ปรากฏขึ้น
มีสี่คนนั่งอยู่ในห้องโถงใหญ่ เป็นหลิวเฉียนฉินแห่งวังน้ำแข็งและเล่ยเฉิงเทียนแห่งนิกายกิเลนก็อยู่ในนั้นเช่นกัน ส่วนอีกสองคนที่เหลือมาจากพันธมิตรนักฆ่าและตระกูลโอวหยาง
ในตอนภูเขาจื่อเว่ย ซูเฉินเคยเห็นหน้าสองคนหลังเช่นกัน แต่ไม่รู้ชื่อว่าอะไร
“เสี่ยวจือ แล้วผู้ฝึกตนขั้น 10 อีก 2 คนล่ะ” ซูเฉินถาม
อีกสองคนที่เหลือ จะใช่ฉางไช่หลี่กับน่านหลีชวนหรือไม่ ต้องเห็นกับตา ตอนนี้เลยรู้สึกประหม่าเล็กน้อย
[รถศึกอัจฉริยะ] ตอบว่า “เจ้านาย อีกสองคนอยู่ในห้องลับข้างในห้องโถงใหญ่”
“เปิดภาพให้ฉันดู” ซูเฉินกล่าวอย่างร้อนรน
ภาพบนหน้าจอสับเปลี่ยนอีกครั้ง ห้องลับปรากฏขึ้น
พื้นที่ในห้องลับไม่ใหญ่มาก แต่มีกรงเหล็ก และฉางไช่หลี่กับน่านหลีชวนก็ถูกขังไว้ข้างในนั้น
อย่างไรก็ตาม สภาพของพวกเขาแย่มาก ไม่เพียงถูกทารุณจนเต็มไปด้วยรอยฟกช้ำ แต่บนร่างยังมีโซ่ตรวนผูกติดเอาไว้