771-772
5/10
Ep.771
ระหว่างกระบวนการลงจอด จู่ๆ [รถศึกอัจฉริยะ] ก็ร้องเตือนขึ้นว่า “เจ้านาย ตรวจพบมนุษย์ในเทือกเขาเบื้องล่าง”
เดิมเทือกเขาฮวงเจ๋อเป็นสถานชุมชนเล็กๆของมนุษย์อยู่แล้ว เป็นธรรมดาที่จะมีมนุษย์ปรากฏตัวขึ้น
“ไม่เป็นไร ลงไปก่อนค่อยว่ากัน” ซูเฉินเลยไม่ได้ใส่ใจกับเรื่องนี้
ไม่นาน [รถศึกอัจฉริยะ] ก็ลงจอดกลางหุบเขา
“ซูเฉิน ที่นี่ไม่ต่างไปจากตอนที่พวกเราอยู่เลย” หยางเฉียนพูดด้วยความตื่นเต้น
ซูเฉินกวาดสายตาออกไปด้านนอก ยิ้มและพูดว่า “จริงด้วย ลงไปดูกันเถอะ”
ได้กลับมายังเทือกเขาที่เคยอาศัย นี่ให้ความรู้สึกเหมือนได้กลับบ้านเกิด ไม่มีเหตุผลที่จะลงไปเดินชมรอบๆ
เมื่อเปิดประตู หยางห่าววิ่งออกไปเป็นคนแรก คนอื่นๆทยอยกันตามหลัง
เมื่อซูเฉินลงจากรถ เขาก็ตรงไปยังถ้ำหินที่เคยสร้างไว้ ภายในถ้ำไม่ได้มีแต่ต้นขนมปัง แต่ยังมีมนุษย์ที่รถศึกสแกนเจอซ่อนตัวอยู่ข้างในด้วย
ซูเฉินเพียงเดินเข้าไปใกล้ถ้ำ เสียงตื่นตัวของชายคนหนึ่งก็ดังออกมาจากข้างใน “แกเป็นใคร?”
“เอ๋?”
ซูเฉินรู้สึกค่อนข้างคุ้นกับเสียงนี้ แต่นึกอยู่พักหนึ่งก็ยังจำไม่ได้ เลยตะโกนกลับไปว่า “ออกมาเถอะ ฉันไม่ทำร้ายนายหรอก”
ข้างในถ้ำเงียบไปพักหนึ่ง ก่อนที่เสียงสั่นเครือของชายคนนั้นจะดังขึ้นอีกครั้ง
“พี่เฉิน .. นั่นพี่หรอ?”
“เป็นฉันเอง”
ซูเฉินเลิกคิ้ว อีกฝ่ายได้ยินเสียงเขา ก็สามารถจดจำได้ทันที เห็นได้ชัดว่าเป็นคนรู้จัก
“พี่เฉินจริงๆด้วย!”
ร่างผอมบางที่อยู่ในสภาพเสื้อผ้าขาดวิ่นวิ่งออกมาจากถ้ำอย่างรวดเร็ว
ซูเฉินหรี่ตากวาดมอง อุทานออกมา “โจวหยุน! นายมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง?”
ชายตรงหน้ามิใช่ใครอื่น เป็นโจวหยุนจากหมู่บ้านเนินเขาหิน
อย่างไรก็ตาม ตอนที่แยกจากกัน ซูเฉินจำได้ว่ามอบโจวหยุนให้หานคุนดูแลแล้วนี่นา ไม่ใช่ว่าตอนนี้โจวหยุนต้องอยู่ในสถานชุมชนเฝิงซีหรอกหรือ? ทำไมถึงมาอยู่ในเทือกเขาฮวงเจ๋อได้ แถมยังมีสภาพน่าสมเพชแบบนี้
“พี่เฉิน ผมหนีออกมาจากสถานชุมชนเฝิงซีแล้ว” โจวหยุนร้องไห้
หนีงั้นหรอ?
อย่าบอกนะว่าสถานชุมชนเฝิงซีถูกทำลาย?
แล้วแบบนี้ หานคุนกับคนอื่นๆจะเป็นอย่างไร?
ใบหน้าของซูเฉินมืดมนลง เอ่ยถามอย่างร้อนรนว่า “อย่าร้องไห้! เกิดอะไรขึ้น บอกฉันมาทีละอย่าง”
หวูหยางและคนอื่นเห็นโจวหยุน ก็พากันเข้ามาล้อมหน้าล้อมหลัง เพราะท้ายที่สุดแล้ว พวกเขาเคยอาศัยอยู่กับโจวหยุนมาพักหนึ่ง เลยต่างอยากรู้ว่าเหตุใดโจวหยุนถึงมาปรากฏตัวที่นี่
โจวหยุนสะอื้นไห้ เปิดปากว่า “พี่เฉิน หกเดือนหลังจากพี่จากไป จู่ๆบนเกาะเฉียนหยูก็มีพวกต่างเผ่าจำนวนมากปรากฏตัวขึ้น พวกมันไล่เข่นฆ่ามนุษย์อย่างไร้ปราณี สถานชุมชนเฝิงซีก็ต้านไม่ไหว ถูกทำลายในชั่วพริบตา”
“แล้วหานคุนกับคนอื่นๆล่ะ?” ซูเฉินเริ่มรู้สึกประหม่า แม้เขากับหานคุนจะเจอกันแค่ไม่กี่ครั้ง แต่พอได้พูดคุยค่อนข้างถูกชะตา จึงไม่ต้องการเห็นหานคุนเผชิญกับสถานการ์ไม่คาดฝัน
นอกจากนี้ หานเฟิงและภรรยาสมควรเดินทางไปถึงสถานชุมชนเฝิงซีแล้วเช่นกัน แล้วพวกเขาจะเป็นยังไงบ้าง?
“ไม่แน่ใจเหมือนกัน ตอนนั้นพวกเราถูกกวาดล้างเลยกระจัดกระจายกันไป” โจวหยุนส่ายหัว ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความเศร้าหมอง
ซูเฉินขมวดคิ้วเล็กน้อย ไตร่ตรองกับตัวเอง
เมื่อตอนที่ออกจากเกาะเฉียนหยู เขามั่นใจว่าได้ทำลายทางผ่านเขตแดนทั้งหมดแล้ว
ในเมื่อเป็นแบบนั้น แล้วพวกต่างเผ่าจะมารุกรานเกาะเฉียนหยูอีกได้อย่างไร?
พวกมันใช่เปิดทางผ่านเขตแดนใหม่? หรือมาจากเกาะอื่นกันแน่?
“โจวหยุน เป็นเผ่าพันธุ์ไหนที่รุกรานที่นี่?” ซูเฉินถาม
“ผมเองก็ไม่รู้เหมือนกัน แต่พวกมันมีลักษณะเหมือนเต่า แล้วก็แข็งแกร่งมาก และ … เหมือนว่าทุกตัวเป็นผู้วิวัฒนาการ”
โจวหยุนครุ่นคิดพักหนึ่งแล้วเอ่ยตอบ
6/10
Ep.772
“เผ่าเต่าเขียว?” ซูเฉินอุทานออกมา
ฟังจากคำอธิบายของโจวหยุน เขามั่นใจว่าพวกต่างเผ่าที่ปรากฏตัวบนเกาะเฉียนหยูคือเผ่าเต่าเขียว
กระนั้น สิ่งที่ทำให้เขาคิดไม่ตกก็คือ ก่อนหน้านี้เขาเพิ่งทำการสังหารหมู่ในทวีปของพวกเต่าเขียวไป เหตุใดอีกฝ่ายถึงยังกล้ามาบุกเกาะเฉียนหยูเพื่อล่ามนุษย์อีก?
หรือพวกมันจะถูกชาวเผ่าอื่นยั่วยุ?
ซูเฉินรู้สึกว่าข้อสันนิษฐานนี้มีความเป็นไปได้สูงมาก เพราะท้ายที่สุดแล้ว เขาสังหารพวกต่างเผ่ามาเยอะเกินไป หากอีกฝ่ายต้องการล้างแค้น หนึ่งในตัวเลือกที่ดีที่สุดคือการบุกเข้ามาสังหารหมู่เกาะเฉียนหยู
ได้ข้อสรุปเช่นนี้ ซูเฉินรีบเรียกทุกคนขึ้นรถ
ไม่ว่าเรื่องราวจะตรงตามที่เขาสรุปหรือไม่ เอาไว้จับพวกเต่าเขียวมาทรมานแล้วเค้นถาม เดี๋ยวก็รู้คำตอบเอง
“เสี่ยวจือ ออกจากเทือกเขาฮวงเจ๋อ แล้วค้นหาที่อยู่ของพวกต่างเผ่า” ซูเฉินออกคำสั่ง
“รับทราบ”
[รถศึกอัจฉริยะ] ลอยขึ้นกลางอากาศ เริ่มสแกนหาเป้าหมาย
หลังจากมันอัพเกรดเป็นขั้น 8 ระยะการตรวจจับก็ขยายขึ้นเป็น 1,500 กิโลเมตร แต่ภายในรัศมีนี้ กลับไม่พบจุดสัญญาณสีดำปรากฏขึ้นเลย
“เจ้านาย ไม่พบพวกต่างเผ่าอยู่ในบริเวณใกล้เคียง ฉันควรออกค้นหามันในทิศทางไหนดี?” [รถศึกอัจฉริยะ] ถาม
ซูเฉินขบคิดพักหนึ่ง เอ่ยปากว่า “ไปเมืองจิงกัง”
เมืองจิงกังเป็นเมืองใหญ่อันดับต้นๆในเขตหวงหลินบนเกาะเฉียนหยู แม้ครั้งก่อนจะถูกโจมตีโดยเผ่าเต่าเขียว แต่ก็ยังมีมนุษย์จำนวนมากรอดชีวิตมาได้
นั่นหมายความว่า หากเผ่าเต่าเขียวรุกรานเกาะเฉียนหยูอีกครั้ง พวกมันย่อมไม่ปล่อยมนุษย์ในเมืองจิงกังไว้อย่างแน่นอน
“รับทราบ”
[รถศึกอัจฉริยะ] รับคำสั่ง ล็อคตำแหน่งเมืองจิงกัง บินไปอย่างรวดเร็ว
เนื่องจากมันได้ทำการติดตั้งศิลาวิญญาณวายุ [รถศึกอัจฉริยะ] เวลาใช้ฟังก์ชั่นการบิน จึงรวดเร็วปานสายฟ้าแลบ
ใช้เวลาไม่ถึงหนึ่งชั่วโมง ตำแหน่งของเมืองจิงกังก็ปรากฏขึ้นในแผนที่บนหน้าจอควบคุมส่วนกลาง
เมืองจิงกังในตอนนี้ ปรากฏจุดสีดำนับพัน แต่ไม่มีจุดสีน้ำเงินอยู่เลยแม้จุดเดียว
เห็นได้ชัดว่า เมืองจิงกังถูกพวกต่างเผ่ายึดครองไปแล้ว และมนุษย์ที่อาศัยอยู่ที่นั่น ถูกฆ่าตายเรียบ
ใบหน้าของซูเฉินมืดมนราวกับเมฆครึ้ม กล่าวด้วยน้ำเสียงแผ่วเบาว่า “เสี่ยวจือ ขยายภาพเมืองจิงกัง แล้วตรวจสอบสถานการณ์ของพวกต่างเผ่าข้างใน”
ภาพบนหน้าจอเริ่มสลับสับเปลี่ยน ไม่ช้าร่างของเผ่าเต่าเขียวก็ปรากฏขึ้น
“เป็นเผ่าเต่าเขียวจริงๆด้วย!”
ซูเฉินเปล่งเสียงเล็ดลอดผ่านไรฟัน จากนั้นหันมาออกคำสั่งกับทุกคนว่า “พอพวกเราไปถึงเมืองจิงกัง ขอให้ทุกคนลงมือพร้อมกัน ไม่อนุญาตให้ปล่อยเผ่าเต่าเขียวไปแม้แต่ตัวเดียว ฆ่าให้เกลี้ยง!”
“พี่เฉินเชื่อมือได้เลย สิ่งที่รอไอ้สารเลวพวกนี้อยู่ คือความตาย!” สือต้าหนิวกล่าวด้วยความขุ่นเคือง
กู่เทียนฮวาและคนอื่นๆก็ไม่มีขัดข้องเช่นกัน
เผ่าเต่าเขียวกล้าสังหารมนุษย์บนเกาะของเผ่ามนุษย์ ในฐานะที่พวกเขาเองก็เป็นมนุษย์คนหนึ่ง ย่อมต้องตอบโต้โดยการกำจัดพวกมันคืน
เมื่อมาถึงเมืองจิงกัง ซูเฉินเปิด [ระบบรับสมัครทหาร] ผูกกู่เทียนฮวาและคนอื่นๆรวมเป็นพรรคพวก จากนั้นออกคำสั่ง “ฆ่าพวกมันซะ!”
ทันทีที่ประตูเปิด ทุกคนกระโจนออกไป พุ่งเข้าสังหารในเมืองจิงกัง
ชั่วพริบตาเดียว ทั่วทั้งเมืองจิงกังเต็มไปด้วยเสียงกรีดร้องโหยหวน
ซูเฉินก้าวขึ้นไปในอากาศ บุกเมืองจิงกังจากบนฟ้า จับเผ่าเต่าเขียวขั้น 3 ตัวหนึ่ง แล้วเริ่มสอบปากคำ
“ใครเป็นคนส่งพวกแกมายังเกาะเฉียนหยู?”
แขนและขาของชาวเต่าเขียวขั้น 3 ถูกซูเฉินหัก ในเวลานี้มันกำลังคร่ำครวญเสียงดัง คล้ายไม่ได้ยินคำถามของซูเฉิน
“รนหาที่ตาย!”
ซูเฉินปลดปล่อยพลังจิตของเขา ฉีกแขนทั้งสองข้างของชาวเต่าเขียวขั้น 3 ขาดจากลำตัว
“อ๊ากกกกกกก”
ชาวเต่าเขียวกรีดร้อง รีบอ้อนวอนขอความเมตตา “ผู้อาวุโสโปรดไว้ชีวิต! ข้ายอมแล้ว! ยอมบอกทุกอย่าง!”
“ถ้าแกกล้าพูดเรื่องไร้สาระอีกแม้แต่คำเดียว ก็เตรียมบอกลาโลกได้เลย”
ซูเฉินจ้องชาวเต่าเขียวเขม็ง กล่าวเสียงเย็น