213 - พลังลึกลับของตำหนักเต๋า
213 - พลังลึกลับของตำหนักเต๋า
ทันใดนั้นฉากที่น่าตกใจก็ปรากฏขึ้น ร่างห้าร่างก็วิ่งออกจากร่างกายจี้เหรินทันทีขณะที่พวกเขาพยายามปกป้องร่างกายที่เหลืออยู่
คนแรกถูกปกคลุมไปด้วยเกราะโลหะสีดำ เขาถือเคียวขนาดมหึมา นอกจากแสงแวววาวจากใบมีดอันแหลมคมของเคียว แล้วทั้งร่างของเขาเป็นสีดำเหมือนหมึกที่ดูเหมือนเทพแห่งความตาย
คนที่สองสวมเกราะสีแดงสดราวกับถูกปกคลุมไปด้วยเปลวเพลิง เขาถือมีดยาวสีเลือด คนที่สามสวมชุดเกราะสีเขียว เหมือนกับเกล็ดของมังกร เขาควงกระบองที่มีหนามที่สร้างความกดดันมากมายมหาศาล
คนทั้งห้านี้เปรียบเสมือนเทพเจ้าปีศาจ ปล่อยกลิ่นอายที่น่าขนลุกออกไปพร้อมกับพลังแปลกๆที่ล้อมรอบพวกเขาอยู่
“อาณาจักรลึกลับของเต๋า!” เย่ฟ่านเข้าใจทันทีขณะที่เขาสูดลมหายใจเข้าไปอย่างหนาวเหน็บ
ตามข่าวลือผู้ฝึกฝนของอาณาจักรเต๋าสามารถบ่มเพาะห้าเทพที่มีความสามารถที่ลึกซึ้งและแปลกประหลาด เมื่อฝึกฝนจนประสบความสำเร็จจะมีพลังแปลกๆเกิดขึ้น
แม้ว่าเย่ฟ่านจะทุบกงล้อแห่งทะเลของจี้เหรินไปแล้ว แต่ตำหนักเต๋าของอีกฝ่ายก็ยังคงไม่บุบสลายเมื่อเทพปีศาจทั้งห้ากระโดดออกมา
สิ่งเดียวที่โชคดีคือหัวของเขาไม่ได้เชื่อมต่อกับร่างกาย ทำให้เขาควบคุมเทพทั้งห้าได้ยากมาก
“อาณาจักรลึกลับของตำหนักเต๋านั้นทรงพลังจริงๆ การพบเห็นดังกล่าวเป็นเพียงส่วนเล็กๆ ของภูเขาน้ำแข็งเท่านั้น” เย่ฟ่านพึมพำกับตัวเอง
ภายใต้สถานการณ์ปัจจุบันไม่มีการล่าถอยและเขาทำได้เพียงก้าวไปข้างหน้าเท่านั้น เย่ฟ่านส่งหนังสือทองคำบินออกไป
พร้อมกันนั้นเขาหมุนเวียนศิลปะลึกลับที่บันทึกไว้ในคัมภีร์เต๋าโดยใช้พลังปราณต้นกำเนิดของสิ่งมีชีวิตทั้งหมดเพื่อเตรียมที่จะต่อสู้อย่างดุเดือดอีกครั้ง
“ชิ!”
ถึงกระนั้นสิ่งที่ทำให้เขาประหลาดใจก็คือเทพปีศาจทั้งห้านั้นไม่ได้แข็งแกร่งอย่างที่คิด มีแสงสีทองส่องประกายเมื่อแขนของชายคนหนึ่งถูกตัดขาด
ในระยะไกลได้ยินเสียงโหยหวนโกรธของจี้เหริน เขารู้สึกท้อแท้และขุ่นเคือง
“ฮ่าฮ่าฮ่า!……” เย่ฟ่านหัวเราะ “ข้าเข้าใจแล้ว ถ้าหัวของเจ้าไม่กลับมา พวกเขาจะไม่สามารถแสดงพลังออกมาได้ หลอกให้ข้ากลัวแทบแย่ เจ้าแก่บ้า!”
เย่ฟ่านรีบวิ่งไปข้างหน้าอย่างรวดเร็วพร้อมกับกวัดแกว่งหมัดสีทองกระแทกเข้าใส่เทพอสูรตัวหนึ่งให้แหลกสลายกลายเป็นละอองแสง
จี้เหรินคำรามแม้ว่าเขาจะเป็นเพียงศีรษะ แต่จิตสำนึกของเขามีพลังมากพอที่จะทำให้เสียงนั้นยังมีพลังอยู่
“ชู่วว”
ทันใดนั้นท้องฟ้าก็มืดลงเมื่อใยสีม่วงขนาดมหึมาปรากฏขึ้นจากท้องฟ้าแม่ค้าที่มันตกลงมาอย่างรวดเร็ว
“ตาข่ายสวรรค์!” เย่ฟ่านตกใจมากนี่คือตาข่ายที่ผนึกเขาไว้และป้องกันไม่ให้เขาหลบหนี
ตรงกันข้ามกับความคาดหวังของเขา ตาข่ายสวรรค์ไม่ได้รีบเข้าหาเขา แต่ห่อหุ้มศีรษะของจี้เหรินบินออกไปอย่างรวดเร็ว ในเวลาเดียวกันวิญญาณของเทพทั้งสี่ก็รีบตามออกไปด้วย
“เจ้าแก่บ้า!”
เย่ฟ่านก็คาดไม่ถึงเช่นกัน แต่ความเร็วของเขาไม่ใช่น้อยๆ และสามารถติดตามศีรษะนั้นก่อนที่ฝ่ายตรงข้ามจะหนีไปได้
"ปัง! ปัง ปัง ปัง!"
มือสีดำขนาดมหึมาปกคลุมท้องฟ้าและสลายเทพอสูรสี่ตนในทันที เขาไม่กล้าที่จะรอขณะที่พุ่งตัวไล่ติดตามจี้เหรินไม่ให้หลบหนีออกจากสถานที่แห่งนี้ได้
หากปราศจากร่างกายพลังศักดิ์สิทธิ์ในศีรษะก็ถูกจำกัด กงล้อแห่งทะเลของเขาถูกทำลายไปแล้วและพลังของจี้เหรินก็หมดลงอย่างรวดเร็ว
ต่อให้ตาข่ายสวรรค์มีพลังมากกว่านี้ แต่มันก็จำเป็นต้องขับเคลื่อนด้วยพลังศักดิ์สิทธิ์ ดังนั้นท้ายที่สุดแล้วมันก็เคลื่อนไหวออกไปได้ไม่กี่ลี้ก่อนที่จะตกลงมา
ด้วยทักษะการเคลื่อนไหวของชายชราผู้บ้าคลั่งเย่ฟ่านก็ไล่ตามทันในพริบตา ไม่มีทางที่เขาจะปล่อยให้จี้เหรินหนีรอด นี่จะเป็นการทิ้งปัญหาให้ตัวเองในอนาคต
“เจ้าแก่บ้าง เจ้าไม่มีน้ำพุแห่งพลังศักดิ์สิทธิ์หรือ? ไม่มีเทพทั้งห้าเจ้าจะหนีต่อไปได้อย่างไร”
เย่ฟ่านรู้สึกขอบคุณตัวเองที่ได้ลงมือตัดศีรษะของฝ่ายตรงข้ามตั้งแต่เริ่มต้น ไม่เช่นนั้นต่อให้เขาไม่ตายเขาก็ไม่สามารถสังหารฝ่ายตรงข้ามได้ในวันนี้
อย่างไรก็ตามเรื่องนี้ไม่ถือเป็นเรื่องบังเอิญ นี่เป็นโอกาสที่เขาสร้างขึ้นโดยใช้ประสาทสัมผัสอันศักดิ์สิทธิ์เพื่อโจมตีอีกฝ่ายในเวลาที่เหมาะสมจนได้ผลลัพธ์ดังกล่าว
"ปัง!"
เย่ฟ่านใช้มือของเขาตบไปข้างหน้า แสงไฟสีฟ้าสว่างวาบโดยที่ตาข่ายสวรรค์พยายามปิดกั้นการโจมตี มันปกป้องศีรษะที่ห่อหุ้มอยู่ภายในไว้ชั่วคราว
แม้ว่าศีรษะจะยังอยู่แต่พลังศักดิ์สิทธิ์ที่บรรจุอยู่ภายในถูกจำกัดออกไปแล้ว หลังจากบินอย่างต่อเนื่องชั่วขณะหนึ่งพลังภายในก็เกือบจะหมดลง
สุดท้ายแล้วด้วยพลังอันน้อยนิดมันก็ไม่สามารถเปิดใช้งานตาข่ายสวรรค์ได้อีก
“เจ้าแก่บ้าไปลงนรกซะเถอะ!”
"ปัง!"
เย่ฟ่านโจมตีจนทำลายหัวของจี้เหริน ตาข่ายสีฟ้าบินออกไปด้านนอกแต่เย่ฟ่านก็คว้ามันไว้อย่างรวดเร็ว
“นี่เป็นสมบัติล้ำค่าอย่างแน่นอน!”
เขาสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายของจี้ฮุยที่ปล่อยออกมาจากของสิ่งนี้และเขาแน่ใจว่ามันเป็นสมบัติลับของนางเฒ่าจี้ฮุยอย่างแน่นอน
“ครอบคลุมทั้งท้องสวรรค์และปฐพี นี่คือสมบัติทางจิตวิญญาณ!”
เย่ฟ่านรู้สึกได้ว่าสิ่งนี้แข็งแกร่งกว่าสิ่งประดิษฐ์ที่ถูกทำลายของเขา คำจารึกเต๋าบนสมบัตินั้นฉายแสงจางๆลึกซึ้งและลึกลับราวกับสามารถปกคลุมดวงอาทิตย์ ดวงจันทร์ และดวงดาวได้
เย่ฟ่านยังคงหลบหนีไปเรื่อยๆในขณะเดียวกันเขาก็ทำลายตราประทับที่ติดอยู่ในตาข่ายสวรรค์ไปพร้อมกัน
เขาจำเป็นต้องซ่อนโดยเร็วที่สุดหากบุคคลที่มีชื่อเสียงของตระกูลจี้รู้เรื่องนี้พวกเขาจะต้องโกรธเคืองและตามหาเขาอย่างแน่นอน
เย่ฟ่านรู้ว่าเขาได้ก่อให้เกิดความหายนะครั้งใหญ่ ภาคใต้เป็นอันตรายอย่างยิ่งสำหรับเขา ตระกูลจี้เป็นตระกูลมหึมาที่มีประวัติศาสตร์อันยาวนาน ไม่มีทางที่ฝ่ายตรงข้ามจะปล่อยเขาไป
ครั้งนี้เขาได้ฆ่าเจ้าแก่จี้เหรินและทำลายรอยประทับของนางเฒ่าจี้ฮุย แต่สิ่งนี้ไม่ได้แก้ปัญหา ปฏิกิริยาจากตระกูลจี้มีแต่จะรุนแรงขึ้นเท่านั้น! การซ่อนตัวเป็นวิธีเดียวที่เขาสามารถแก้ปัญหาได้
ทักษะความว่างเปล่าอันยิ่งใหญ่เป็นหนึ่งในแก่นแท้ของคัมภีร์แห่งความว่างเปล่าของตระกูลจี้พวกเขาจะไม่อนุญาตให้ส่งต่อไปยังบุคคลภายนอก
แม้ว่าผู้นำดินแดนศักสิทธิ์แสงโชติช่วงได้มันมาตระกูลจี้ก็จะหาวิธีน้ำมันมาคืนต่อให้ต้องสู้ตายก็ตาม ในขณะเดียวกันเมื่อมันตกมาอยู่ในมือของเด็กหนุ่มอย่างเย่ฟ่านยิ่งไม่มีเหตุผลที่พวกเขาจะไม่เอามันคืน
เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมาราชานกยูงได้ต่อสู้กับหนานกงเจิ้งอย่างยิ่งใหญ่ พื้นที่ภูเขาทั้งหมดถูกเผาเป็นสีดำโดยไม่มีหญ้าเหลืออยู่แม้แต่เส้นเดียว ใครแข็งแกร่งกว่ากัน?
ไม่มีใครรู้ เมื่อผู้คนมาถึงพื้นที่นั้นในที่สุดบุคคลที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลกก็หายสาบสูญไปแล้ว
ผู้นำของดินแดนศักสิทธิ์แสงโชติช่วงกำลังร่วมมือกับผู้นำของตระกูลจี้โดยการสำรวจพื้นที่ทางใต้เพื่อค้นหาราชานกยูง ข่าวลือบอกว่าพวกเขาต้องการจะฆ่าราชานกยูงให้ได้แต่สุดท้ายพวกเขาก็ไม่สามารถหาข่าวของราชานกยูงได้เลย
วังทองแดงดูเหมือนจะถูกผนึกด้วยดินที่ลึกล้ำ มันเกือบจะจมลงไปที่พื้นของดินแดนรกร้างตะวันออก ในตอนนี้ยังไม่มีผู้อาวุโสคนใดในโลกที่สามารถบุกทะลวงเข้าไปได้
ผู้ยิ่งใหญ่รุ่นอาวุโสหลายคนที่ชีวิตมาถึงช่วงสุดท้ายต้องการที่จะรวบรวมกำลังของคนรุ่นเดียวกันทั้งหมดเพื่อเปิดประตูของวังทองแดง!
ตามข่าวลือจี้ฮ่าวเยว่แห่งตระกูลจี้ได้รับบาดเจ็บสาหัสและเกือบเสียชีวิต ขณะนี้ไม่ทราบที่อยู่ของเขาและหลายคนยังคงแอบค้นหาเขาอยู่
ดินแดนศักดิ์สิทธิ์หยกพลิกสวรรค์ถูกทำลายล้างไปหลายพันปีแล้ว พวกเขาเหลือผู้อาวุโสที่บ้าคลั่งเพียงคนเดียวที่กำลังหลับใหลอยู่ในสภาพรังไหมภายในนิกายไท่ซวน
อย่างไรก็ตามเมื่อรังไหมแตกชายชราบ้าก็หายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย ภาคใต้เกิดความปั่นป่วนมากมาย และมหาอำนาจทุกแห่งต่างก็ต้องการที่จะได้รับตัวชายชราผู้บ้าคลั่งคนนี้
เย่ฟ่านมีรอยยิ้มที่ขมขื่นบนใบหน้า มีคนสองคนที่กำลังประสบปัญหาอย่างหนัก คนแรกคือจี้ฮ่าวเยว่และคนที่สองคือเขา
ร่างกายศักดิ์สิทธิ์ของจี้ฮ่าวเยว่อยู่ในขั้นตอนความสำเร็จเพียงเล็กน้อย เขาสามารถถือเป็นยอดฝีมือได้และหากเขาไม่ได้พบกับราชานกยูง มีแนวโน้มว่าเขาจะสามารถอยู่รอดได้อย่างแน่นอน
สำหรับตัวเย่ฟ่านเองร่างกายศักดิ์สิทธิ์ของเขายังไม่ประสบความสำเร็จ หากเขาถูกค้นพบมันจะอันตรายอย่างยิ่ง ภาคใต้ของแดนรกร้างตะวันออกตกอยู่ในความโกลาหลและอันตรายยังคงครอบคลุมเข้าหาเขาอยู่ตลอดเวลา