ตอนที่ 97 ทุกคนมาถึงแล้ว
ตอนที่ 97 ทุกคนมาถึงแล้ว
กายรับกุญแจทั้งสองดอกและเอกสารมา เขาแจกมันคือให้กับมีอาและลิลี่พร้อมกับกุญแจห้องส่งให้กับเธอ ห้องที่กายได้นั้นเป็นห้องติดกับห้องของมีอาและลิลี่ มันคือห้อง 3-1และ 3-2 เลขตัวหน้าคือชั้นและเลขตัวหลังคือห้องที่
อาคารแห่งของสมาคมนักล่าความตายมี 4 ชั้นสองเป็นห้องพักระดับต่ำ ถัดมาคือชั้นสามเป็นห้องพักระดับกลางและชั้นบนสุดคือห้องระดับสูง ตอนนี้พวกเขาทั้งสามคนเดินขึ้นบันไดมาถึงชั้นสาม กำลังมองออกไปทางหน้าต่างรับวิวของตัวอาคาร ทำให้แทบจะมองเห็นหนึ่งในสามของเมืองเลมิสได้อย่างชัดเจน
“เป็นเมืองที่แปลกตา แต่ก็สวยงามในเวลาเดียวกัน” มีอาพูดออกมาขณะที่ยกมือขึ้นมาจับผมทัดหู
“อืม...สวยงามมาก” กายพยักหน้าอย่างเห็นด้วย ไม่รู้ว่าเขากำลังชมเมืองหรือชมอะไรกันแน่
“อะแฮ่ม! พวกเจ้าจะมองวิวกันอีกนานไหม ช่วยข้ายกของเข้าห้องหน่อยสิ” ลิลี่ตอนนี้กำลังแบกของตนเองเข้าห้องอยุ่คนเดียว
“ก็เจ้าเอาของมาเยอะเองรอยยิ้ม” มีอากล่าวก่อนจะรีบไปช่วยลิลี่
“เก็บของกันก่อนก็แล้วกัน อีกสักครึ่งชั่วโมงเราค่อยไปหาอาลีน่าและลูก้า” กายบอกกับทั้งสอง
เมื่อเข้ามาด้านในห้องกายก็ยกกล่องทั้งสามของตัวเองไปวางไว้ยังมุมหนึ่ง ที่นี่ปลอดภัยมากพอกายจึงไม่ห่วงว่าจะมีคนเข้ามาขโมยของ เพราะถ้าเปรียบเทียบอาคารของสมาคมนักล่าก็เหมือนกับมันสถานีตำรวจ คงไม่มีโจรคนไหนคิดเอาหัวตัวเองมาวางไว้บนเขียงให้พวกนักล่าค่าหัวหรอก
หลังจากเก็บของเข้าที่เข้าทาง กายก็พกเพียงค้อนสั่นสะเทือนติดตัวไปเท่านั้นและเดินออกจากห้องมาก็เจอกับมีอาและลิลี่พอดี เขาพยักให้กับทั้งสอง
จากนั้นก็กันไปที่บ้านพักของอาลีน่า โดยไม่ลืมว่าก่อนออกไปพวกเขาได้ซื้อหนังสือรวมค่าหัวโจรมาด้วยในราคา 10 เหรียญทอง
บ้านที่อาลีน่าพักอยู่นั้นไม่ได้ไกลจากที่สมาคมมานักดังนั้นพวกเขาจึงเลือกจะเดินเท้าไปแทนการขี่ม้า
“พวกเข้ามาแล้วอย่างนั้นเหรอ เข้ามาด้านในกันก่อน” อาลีน่าเดินออกมาต้อนรับทั้งสามคน
กาย มีอา ลิลี่เดินเข้ามาด้านในบ้านที่ตบแต่งหรูหราเรียบง่ายในเวลาเดียวกัน นอกจากพวกเขาแล้วในบ้านไม่มีใครอื่นอีก
“ที่บ้านหลังนี้มีผู้ดูแลที่ถูกจ้างมาดูแลบ้านโดยเฉพาะอยู่ แต่พวกเขาไม่ได้พักที่นี่ดังนั้นเรามาเริ่มกันเถอะ” อาลีน่ากล่าวเป็นนัย กายเข้าใจได้ว่าที่เริ่มนั้นหมายถึงสิ่งใด
อาลีน่าพาพวกเขาเข้ามาที่ห้องใต้ดินของบ้าน ตอนนี้ลูก้ากำลังนั่งเฝ้าหัวหน้าโจรที่ผูกด้วยโซ่ติดกับเสาบ้านอยู่
“เจ้าจะลงมือเองหรือจะให้ข้าลงมือ” อาลีน่าถามกาย
“ข้าเองก็แล้วกัน เพราะจะให้สุภาพสตรีลงมือเองก็จะเสียมารยาทเปล่า ๆ” กายพูดจบก็เดินเข้าไปหาหัวหน้าโจรที่สลบอยู่
ลูก้าหยิบถังน้ำขึ้นมาคิดจะสาดให้หัวหน้าโจรตื่น แต่กายส่ายหัวยกมือห้ามไว้
“เจ้ายังจะแกล้งสลบอยู่อีก ข้าจะตัดหัวของเจ้าแล้วเอาไปขึ้นค่าหัวในทันที”
“บัดซบเอะอะก็จะตัดหัว ค่าหัวข้าแค่ 800 เหรียญทองมันมีค่าอะไรนักหนา” หัวหน้าโจรพูดโวยวายด้วยความโมโห แต่แล้วมันพึ่งตระหนักว่าพูดอะไรออกไปจึงรีบหุบปากในทันที
ซึ่งนั้นก็ไม่ทันการซะแล้ว เพราะตอนนี้สายตาของลิลี่และลูก้าจ้องมองไปที่มันราวกับเป็นกองเหรียญทอง 800 เหรียญ
“เออ ข้าหมายถึงพวกเรามาพูดกันแบบผู้มีอารยะกันดีกว่า”
“เอาสิข้าก็อยากฟัง แต่ถ้าเจ้ายังเล่นไม่หยุด ข้าคงต้องตัดหัวเจ้าจริง ๆ” กายลากเก้าอี้เข้ามานั่งตรงหน้าของหัวหน้าโจรโดยมีค้อนสั่นสะเทือนวางอยู่ด้านข้าง
หัวหน้าโจรถึงเดือดปุด ๆ เพราะกายไม่สนใจที่มันพูดว่าอย่าพูดเรื่องตัดหัวแม้แต่น้อย แต่มันก็ทำให้เพียงกัดฟันทนได้เท่านั้น
“เจ้ารู้จักพวกมีค่าหัวเกินหนึ่งพันเหรียญทองใช่ไหม”
“ใช่ ข้ารู้จักอยู่หลายคน แต่พวกมันมักอยู่เป็นกองกำลัง ไม่ก็อยู่ในรังโจรบนทุ่งหน้าและเนินเขา”
“พวกมันกลัวคนล่าหรือไงถึงไม่เข้ามาอยู่ในเมืองเลมิส เฮ้อ...ยุ่งยากจริง ๆ” ลิลี่บ่นออกมา
หัวหน้าโจรถึงกับกลอกตามองบนคิดในใจว่า ขนาดข้าผู้มีค่าหัวยังไม่ถึงพันยังโดนพวกเจ้าทำขนาดนี้ ถ้าพวกมีค่าหัวเกินพันมาที่นี่พวกนักล่าค่าหัวในเมืองคงดีใจจนเนื้อเต้นเข้ามาต้อนรับด้วยคมดาบกันในทันทีละสิไม่ว่า
“ถ้าเจ้าช่วยข้าล่าพวกนั้นหลังจากจบเรื่องข้าจะปล่อยเจ้าไป ว่ายังไงสนใจร่วมมือกันไหม” กายยื่นข้อเสนอ
“ข้าเลือกได้อย่างงั้นเหรอ”
“ได้ ถ้าเจ้าไม่ตกลงข้าจะตัดหัว...”
“บัดซบ ข้าตกลง บิดาจะช่วยเจ้าลากโจรพวกนั้นมาตัดหัว” หัวหน้าโจรสบถอย่างรุนแรงพร้อมกับตอบกตกลงในทันที
“เอาละมาเริ่มกัน” กายหยิบหนังสือรวมค่าหัวโจรของเดือนนี้ออกมาวางตรงหน้าของหัวหน้าโจร คนอื่น ๆ ก้เข้ามาล้อมวงในทันที
พวกเขาใช้เวลาถึงสามชั่วโมงในการพูดคุยกัน จนในที่สุดก็ตกลงกันได้ว่าจะเริ่มออกล่าที่กลุ่มเล็กก่อน โดยร่วมมือกัน เพราะจะทำให้ประหยัดเวลาในการจัดการกลุ่มโจรได้มาก
กลุ่มแรกที่พวกเขาจะล่าคือ กลุ่มโจรกระทิงโลหิต ที่นำโดยโจรฉายากระทิงโลหิต นักรบฝึกหัดระดับ 3 และมีรองหัวหน้าโจรอีกสองคนที่มีระดับนักรบฝึกหัดระดับ 2 ทั้งสามคนนี้มีค่าหัวเกินหนึ่งพันเหรียญทอง ซึ่งนั้นเหมาะกับงานแลกที่พวกเขาจะลงมือมาก
ส่วนกลุ่มที่สองและสามนั้นพวกเขาจะตัดสินใจอีกทีโดยประเมินจากการต่อสู้นี้อีกทีว่าฝีมือของโจรในทุ่งหญ้านั้นเก่งแค่ไหน
“พวกเจ้าบ้าไปแล้วอย่างนั้นเหรอ กระทิงโลหิตเป็นถึงนักรบฝึกหัดระดับ 3 แถมยังมีลูกน้องเกือบร้อยคน” หัวหน้าโจรพยายามเตือนกายและพรรคพวก แต่กายไม่สนใจมากนักกับทาทีของหัวหน้าโจร
“เจ้าไม่ต้องห่วงต่อให้เป็นนักรบฝึกหัดระดับสามแต่ถ้าโดนระดับสองรุมซักสามคนก็ยากที่จะรอดได้ ส่วนลูกน้องของพวกมันคงต้องขอความร่วมมือกับจากเจ้าแล้ว” กายยิ้มด้วยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์
หัวหน้าโจรถึงกับเสียวสันหลังวาบในทันที
“วันนี้เราไปพักผ่อนกันก่อนค่อยลงมือในเช้าวันพรุ่งนี้ก็แล้วกัน” กายบอกกับทุกคน
“ข้าเห็นด้วย เราไปหาอะไรกินกันเถอะตอนเดินมาข้าเห็นร้านขายอาหารจำนวนมาก” ลิลี่กล่าว
“คนดูแลบ้านแนะนำร้านอาหารอร่อยอยู่ร้านสองร้านที่อยู่ใกล้ ๆ แถวนี้พอดี พวกเราไปกินกันที่นั่นก็ได้” อาลีน่าบอก
“ถ้าอย่างนั้นก็เอาแบบนั้นแล้วกัน ไปกันเถอะ”
ทั้ง 5 คนออกไปหาอาหารกินในทันที โดยไม่มีใครสนใจหัวหน้าโจรที่ตอนนี้โดนโซ่มัดขยับไปไหนไม่ได้แม้แต่น้อย
หลังจากกินมื้อเย็นที่กายเป็นเจ้าภาพแล้ว ทุกคนก็แยกย้ายกันกลับไปพักผ่อนในเวลาเกือบสามทุ่มแล้ว หลังจากเช็ดตัวและเปลี่ยนชุดแล้วกายก็เริ่มฝึกศิลปะการต่อสู้ รูปแบบปลดล็อกขีดจำกัดพละกำลังอยู่ภายในห้องเพื่อฆ่าเวลา ก่อนที่จะหมดเวลาวันที่สามของเกม
...
ขณะเดียวกันที่มุมหนึ่งในเลมิสหัวขโมยสองคนกำลังดิ้นรนเอาชีวิตรอดจากน้ำมือของชายหนุ่มผมทองร่างสูงโปร่งคนหนึ่งอยู่
“อย่า ๆ ข้ายอมแพ้แล้ว ได้โปรดไว้ชีวิตด้วย ไม่! อ๊ากกก...”
“แกมันปีศาจ อ๊าก...!!”
ชายหนุ่มผมทองร่างสูงโปร่งส่ายหัวด้วยความผิดหวังและกล่าว “พวกเจ้าอ่อนแอขนาดนี้ยังคิดจะมาเป็นโจรอีก แต่เจ้านั้นแข็งแกร่งว่ายังไงมาร่วมมือกันไหม โบเวน วาธ”
“ข้าไม่สนใจ” เสียงเย็นชาดังออกมาจากเงามืดก่อนจะเงียบหายใจ
ชายหนุ่มผมทองไม่ได้โกรธเขาเพียงยิ้มด้วยรอยยิ้มที่เป็นมิตรออกมาก็เท่านั้น ชายคนนี้ไม่ใช่ใครอื่น เขาคือ เอเรน เบลลี ผู้ที่ได้ลำดับ 4 ในการทดสอบของสถาบันศาสตร์นักรบ
ส่วนชายที่หายไปในความมืดเมื่อสักครู่นี้คือโบเวน วาธผู้ได้ลำดับ 8
หลังจากโบเวนหายไปเอเรนก็ไม่สนใจที่นี่อีก เขาเดินออกไปจากตรอกแห่งนี้โดยทิ้งศพหัวขโมยไว้ด้านหลัง
...
ขณะเดียวกันหมู่บ้านในทุ่งหญ้าใกล้กับเลมิส วิลเลียม ลูคัสและโจชัวก็กำลังพักอยู่ที่นี่เช่นกัน แม้จะเดินทางมาล่าช้าไปเล็กน้อย แต่ก็ไม่มีอันตรายอะไรมากมายดังนั้นสภาพของพวกเขาจึงดูดีเป็นอย่างมาก
นอกจากทั้งสามคนแล้วในกลุ่มยังมีทหารรับจ้างอีก 6 คนอยู่ด้วยเช่นกันคนพวกนี้คือกลุ่มที่วิลเลียมจ้างมาร่วมมือในการทำภารกิจครั้งนี้ด้วย
“พรุ่งนี้เราจะลงมือจู่โจมพวกกลุ่มโจรกระทิงโลหิตกัน มันมีโจรค่าหัวเกินหนึ่งพันถึงสามคนพวกเจ้าคงไม่มีปัญหาสินะ” วิลเลียมกล่าวออกมา
“แล้วแต่เจ้าเลย” ลูคัสยังคงไม่คัดค้านการตัดสินใจของวิลเลียมตามเดิม
“เรื่องนั้นข้าไม่มีปัญหา แต่เจ้ามั่นใจใช่ไหมว่าสามารถสร้างทหารรับจ้างได้” โจชัวถามด้วยความไม่ชอบใจสักเท่าไหร่
“แน่นอนสิ เพราะมันไม่มีกฎห้ามไว้ เพียงแต่เป็นที่รู้กันว่าห้ามจ้างทหารที่มีระดับสูงกว่าตัวเองก็ไม่มีปัญหา เรื่องนี้สหายของพี่ข้าที่อยู่ ปี 2 แอบบอกมาดังนั้นมันไม่มีปัญหา”
“ถ้าอย่างนั้นก็ตามใจเจ้าก็แล้วกัน ข้าจะช่วยพวกเจ้าเพื่อชดใช้เงินที่เสียไปในการพนันครั้งนั้นก็แล้วกัน”
พอได้ยินโจชัวพูดถึงเรื่องเงินที่เสียไปจากการพนันกับเดวิน วิลเลียมก็รู้สึกโมโหขึ้นมาในทันที
“ข้าถ้าเจอเดวินข้าจะฆ่ามัน” วิลเลียมกัดฟันพูด
...
ตอนนี้เป็นเวลาเที่ยงคืนตรงพอดี กายที่กำลังฝึกฝนศิลปะการต่อสู้ก็ล็อกเอาท์ออกจากเกมพอดี
“ล็อกเอาท์”