ตอนที่ 1005-1006 ดูเหมือนอะไร?
เธอไม่ได้แข็งแกร่งทางจิตใจขนาดนั้น
“โอ้ ใช่ เมียนเมียน ฉันขอถามอะไรเธอสักข้อสิ?” เจียงเหลัวลี่กัดหลอดดูดและลังเลอยู่ครู่หนึ่ง เธอมองไปที่เฉียวเมียนเมียน และถามด้วยคำพูดที่นุ่มนวลว่า “ฉันเห็นว่าเธอมีเรื่องอื้อฉาวกับนายน้อยตระกูลเฉียว ทุกคนต่างบอกว่าเขาเป็นคนจัดการลบหัวข้อที่เป็นกระแสให้กับเธอ เรื่องนี้จริงไหม?”
เจียงหลัวลี่ไม่เชื่อว่าเฉียวเมียนเมียนจะเป็นนายหญิงของตระกูลกง
เพื่อนรักของเธอแต่งงานกับผู้ชายที่โดดเด่นอย่างเจ้าชายสุดหล่อแล้ว เธอจะไปยุ่งเกี่ยวกับผู้ชายคนอื่นได้ยังไง
แม้ว่านายน้อยกงจะมีสิทธิ์มากก้เถอะ
แต่คนหล่อก็ไม่เลวนี่น่า
“อะไรนะ!” เฉียวเมียนเมียนสับสน “เกี่ยวอะไรกับกงเซลี?”
เจียงหลัวลี่มองดูเธออย่างสับสน
“อย่าบอกนะว่าเธอไม่รู้เรื่องนี้ ตอนนี้เธอมีข่าวหัวข้อใหม่ที่กำลังมาแรง อะแฮ่ม...ดูเหมือนจะมีคนบอกว่าคนรักของเธอคือนายน้อยตระกูลกง และเรื่องของวันนี้ เขาเป็นคนช่วยเธอจัดการทั้งหมด”
“บ้าเอ้ย!”
เฉียวเมียนเมียนอดไม่ได้ที่จะสบถออกมา
“ไม่เกี่ยวอะไรกับเขาเลย ใครบอกกันว่าเขาเป็นแฟนของฉัน ถ้าฉันอยากจะคนมาช่วยสักคน ยังไงฉันก็ไม่มีทางมองเขาหรอก!”
เจียงหลัวลี่พูดไม่ออก
“ถ้าอย่างงั้น เจ้าชายสุดหล่อเป็นคนจัดการเรื่องนี้ใช่ไหม?” เจียงหลัวลี่อยากรู้เกี่ยวกับตัวตนของเหมาเยซื่อมาโดยตลอด เธอรู้ว่าเจ้าชายสุดหล่อคนนี้ไม่ธรรมดา ทว่าเฉียวเมียนเมียนไม่เคยบอกอะไรเธอเกี่ยวกับเรื่องนี้เลย
เจียงหลัวลี่รู้สึกว่า เธอมักจะอึดอัดเวลาที่ต้องพูดถึงเรื่องนี้
เธอจึงไม่ถามอีก
“ใช่” เฉียวเมียนเมียนพยักหน้า
“เขาเป็นคนจัดการทุกอย่าง ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับกงเซลีเลย ฉันไม่รู้ว่าทำไมถึงเกิดข่าวอื้อฉาวมากมายขนาดนี้”
เธอสงสัยว่าเหมาเยซื่อคงจะเคยเห็นข่าวอื้อฉาวระหว่างเธอกับกงเซลีแล้ว?
ถ้าเขาได้เห็นแล้วล่ะก็...
เขาคงจะหึงอีกแล้วสินะ
“เมียนเมียน เจ้าชายสุดหล่อ... เขาคือใครกันแน่?” เจียงหลัวลี่ไม่สามารถระงับความอยากรู้อยากเห็นของเธอได้
“เอ่อ ถ้าเธอไม่อยากจะพูด ก็ถือซะว่าฉันไม่ได้ถาม”
“อันที่จริง ไม่ใช่ไม่สะดวกที่จะพูดขนาดนั้น” เฉียวเมียนเมียนตัดสินใจที่จะไม่ปิดบังเจียงหลัวลี่อีกต่อไป
เธอเคยกังวลมากจนเกินไป เพราะเธอคิดมาโดยตลอดว่าจะไม่สามารถอยู่กับเหมาเยซื่อได้นาน
ดังนั้นเธอจึงไม่ต้องการให้เจียงหลัวรู้ถึงตัวตนที่แท้จริงของชายคนนั้น
แต่ตอนนี้ เธอได้ตัดสินใจแล้วว่าจะใช้ชีวิตที่เหลือกับเหมาเยซื่อ เธอจึงไม่ต้องกังวลอะไรมากอีกต่อไปแล้ว
เจียงหลัวเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดของเธอ
เธอไม่จำเป็นต้องกังวลอะไรต่อหน้าเธอ
หลังจากครุ่นคิดแล้ว เธอพูดภายใต้สายตาที่คาดหวังของเจียงหลัวลี่
“เธอรู้ใช่ไหมว่านามสกุลของเขาคือเหมา? เขาเป็นประธานคนใหม่ของบริษัทเหมา”
“หะ...”
เจียงหลัวลี่คายน้ำในปากลงในเครื่องดื่มที่เธอกำลังดื่ม
ดีนะที่หยุดได้ทัน ไม่อย่างนั้นน้ำคงกระเด็นไปที่หน้าของเฉียวเมียนเมียน
“เพื่อนรัก เธอ...แค่ก...แค่ก...” เจียงหลัวลี่เริ่มไออย่างรุนแรงราว ด้วยอาการสำลักน้ำ
“เพื่อนรัก พูดจริงเหรอ..” ผ่านไปชั่วครู่ เธอก็หยุดไอ
เธอมองไปที่เฉียวเมียนเมียนอย่างไม่เชื่อ
เฉียวเมียนเมียนพยักหน้า “อืม จริง ๆ”
ดวงตาของเจียงหลัวลี่เบิกกว้าง
“สามีของเธอ เจ้าชายสุดหล่อของฉัน... เป็นประธานของบริษัทเหมา?”
เฉียวเมียนเมียนคิดว่าเธอตกใจกับตัวตนของเหมาเยซื่อ
“หลัวหลัว ฉันไม่ได้ตั้งใจที่จะปิดบังเธอ เพียงแต่ความสัมพันธ์ของฉันกับเขา... ไม่ค่อยจะแน่นอน ดังนั้นฉันจึงไม่ได้บอกเธอ”
“เธอแต่งงานแล้ว และยังไม่แน่ใจอะไรกับความสัมพันธ์อีกงั้นเหรอ?”
เจียงหลัวลี่จ้องมองไปที่เธอ “เพื่อนรัก ฉันขอถามได้มั๊ย ทำไมเธอกับเจ้าชายสุดหล่อถึงได้แต่งงานกันอย่างกะทันหันล่ะ? เขาตกหลุมรักเธอตั้งแต่แรกพบเลยเหรอ? ไม่สิ มันไม่ถูกต้อง คนอย่างเธอ แม้ว่าเขาจะชอบเธอยังไงก็ตาม...”
ย้อนกลับไปตอนนั้น เฉียวเมียนเมียนเพิ่งจะเลิกกับซูเจ๋อ
เธอจะตกหลุมรักผู้ชายคนอื่นได้อย่างรวดเร็ว ถึงขั้นแต่งงานกับเขาได้ยังไง
“ฉันแต่งงานกับเขาเพราะเหตุผลบางอย่างน่ะ” เฉียวเมียนเมียนคิดอยู่ครู่หนึ่ง ในที่สุดก็บอกว่าทำไมเธอถึงแต่งงานกับเหมาเยซื่ออย่างกะทันหัน
เธอตั้งใจจะบอกเรื่องนี้อยู่แล้ว
เจียงหลัวลี่ตกใจอยู่ครู่หนึ่ง
“โรคแพ้ผู้หญิง? มีโรคประหลาดแบบนี้ด้วยเหรอ?”
“ใช่ ได้ยินครั้งแรก ฉันเองก็รู้สึกประหลาดใจเหมือนกัน มีคนป่วยแบบนี้ด้วยเหรอ?”
“แต่ก็แปลกที่เขาไม่แพ้เธอ” เจียงหลัวลี่เงียบไปครู่หนึ่ง ก่อนจะถอนหายใจ
“ดูเหมือนว่าพวกเธอสองคนจะมีพรหมลิขิตต่อกัน เพราะอาการป่วยของเฉินเฉิน เธอไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากแต่งงานกับเขา แล้วเธอยังเป็นผู้หญิงคนเดียวที่เขาไม่แพ้ ดังนั้นเขาจึงแต่งงานกับเธอ”
“บางครั้ง โชคชะตาก็ช่างวิเศษจริง ๆ”
เฉียวเมียนเมียนเงียบไปครู่หนึ่ง จากนั้นเธอก็พยักหน้าและพูดว่า
“ฉันเองก็รู้สึกว่าโชคชะตาช่างเล่นตลกนัก ทีแรก ฉันแต่งงานกับเขาเพราะเฉินเฉินเท่านั้น ฉันคิดว่าไม่นานก็ต้องหย่ากับเขา”
ในตอนนั้น เธอไม่เคยคาดหวังว่าเหมาเยซื่อและเธอจะลงเอยกันแบบนี้
เธอไม่เคยคิดมาก่อนว่าเธอจะชอบเขามากขนาดนี้?
“แต่เจ้าชายสุดหล่อก็ปฏิบัติกับเธออย่างดี ใจหินยังไงก็ต้องอ่อนลง พวกเธอสองคนเข้ากันได้ดี และก็ดียิ่งขึ้นหลังจากแต่งงานกัน จนสุดท้ายเธอก็ค่อย ๆ ตกหลุมรักเขา ตอนนี้เธอจึงไม่อาจทิ้งเขาได้ ถูกต้องไหม?”
“...ใช่”
“พวกเธอได้อยู่ด้วยกัน ไม่นาน ก็ต้องง่ายที่จะพัฒนาความรู้สึกระหว่างกันอยู่แล้ว” เจียงหลัวลี่มองลงมาและใช้หลอดกาแฟคนน้ำแข็งในแก้วของเธอ
เฉียวเมียนเมี่ยนจำได้ว่าเธอมีเรื่องด่วนที่จะบอกกับเธอ จึงเปลี่ยนเรื่องและถามกลับ
“หลัวหลัว เธอมีเรื่องด่วนที่จะบอกฉันไม่ใช่เหรอ เรื่องอะไรกัน?”
เจียงหลัวลี่จำได้ว่าเธอเป็นคนขอให้เฉียวเมียนเมียนออกมาหา
เธอมองขึ้นไปที่เฉียวเมียนเมียน เธอขมวดคิ้วและกัดริมฝีปาก
“เพื่อนรัก เธอจำที่ฉันบอกเรื่องที่ฉันไปพบกับผู้ชายคนนั้นได้ไหม”
“ฉันจำได้” เฉียวเมียนเมียนคิดเรื่องนี้มาระยะหนึ่งแล้ว เธอถามกลับทันที
“แล้วเธอได้พบเขาไหม เขาว่ายังไงบ้าง”
เจียงหลัวลี่มองดูเธอด้วยท่าทางซับซ้อน
“ฉันได้พบเขาแล้ว เขาค่อนข้างหล่อทีเดียว เราคุยกันด้วยดี ฉันยังทานข้าวเย็นที่บ้านเขาด้วยล่ะ หลังจากทานข้าวเสร็จ เขาก็ส่งฉันกลับวิทยาลัย”