WS บทที่ 252 บลูเบิร์ด
"หนังสือแห่งนิดันดร์มันเป็นของฉัน!"
แววตที่เต็มไปด้วยความโลกของพ่อมดอูบิกไปถึงจุดที่กู่ไม่กลับแล้ว เขาไม่สนว่าผู้หญิงลึกลับคนนั้นเป็นใครและวิ่งไปข้างหน้าอย่างไม่ระมัดระวัง ร่างกายของเขาสั่นไหวด้วยความผันผวนของธาตุที่รุนแรง
หญิงลึกลับชำเลืองมองดูหนังสือแห่งนิดันดร์บนพื้น จากนั้นเงยหน้าขึ้น เธอยื่นมือออกมาแล้วชี้ไปที่อูบิก
*แคร่ก แคร่ก*
สายธารของผลึกน้ำแข็งปรากฏขึ้นกลางอากาศ กลายเป็นเส้นน้ำแข็งราวกับขนนกที่ส่องประกาย พวกมันมีความงามแต่ยังฉายแสงออร่าที่น่าสะพรึงกลัวออกมา
เส้นน้ำแข็งจำนวนมากนั้นคมอย่างหาที่เปรียบมิได้ พวกเขาปกคลุมพื้นที่ แขวนอยู่กลางอากาศ ราวกับใยแมงมุมและแทงไปที่ร่างของอูบิกอย่างโหดเหี้ยม
*แคร่ก!*
พ่อมดอูบิกมีคาถาป้องกันอยู่กับตัวเขาซึ่งปกคลุมทั้งตัวของเขา และดูเหมือนว่าเขาจะสวมชุดป้องกันด้วย อย่างไรก็ตาม ในขณะนี้ ภายใต้เส้นน้ำแข็งที่ส่องประกายระยิบระยับ การป้องกันรพวกนั้นไร้ประโยชน์ไปเลย จากนั้นร่างกายของเขาถูกฟันเป็นชิ้น ๆ นับไม่ถ้วน
กลิ่นเลือดฉุนเฉียวกระจายไปทั่วอากาศในทันที บรรยากาศตกอยู่ในความเงียบอย่างสมบูรณ์ พ่อมดซาบิส, พ่อมดกิลล์และนักเวทย์สองคนที่ปรากฏตัว พวกเขาต่างเงียบด้วยเช่นกัน พวกเขาจ้องมองไปที่ผู้หญิงลึกลับที่สวมหมวกสีดำด้วยความหวาดกลัว
อูบิกเป็นนักเวทย์ระดับสี่แข็งแกร่งอย่างแท้จริง แม้ว่าเขาจะเป็นคนธรรมดาแต่ในหมู่นักเวทย์ อูบิกถือได้ว่าเป็นนักเวทย์ที่ทรงพลังอย่างแน่นอน
อย่างไรก็ตาม เขาถูกฆ่าในการโจมตีครั้งเดียวจากผู้หญิงลึกลับคนนี้ ทำให้เหล่านักเวทย์ต่างเตรียมที่จะหลบหนีไปจากทีนี่
“หมวกดำ ขนนก…ฉันรู้ว่าเธอเป็นใคร! เธอเป็นหนึ่งในนักเวทย์ที่โหดเหี้ยมที่สุดในออซมู บลูเบิร์ด!”
ในที่สุด นักเวทย์ระดับสี่ผู้ลึกลับสองคนก็ได้เปิดเผยตัวตนของผู้หญิงลึกลับคนนั้น เธอคือบลูเบิร์ดนักเวทย์พรสวรรค์จากออสมู เพียงแค่เอ่ยชื่อของเธอจะทำให้ผู้คนหน้าซีดทันที
หากว่ากันว่าไวส์เป็นหนึ่งในนักเวทย์ระดับสามที่มีความสามารถค่อนข้างแข็งแกร่งในออซมู บลูเบิร์ดก็จะถูกนำเสนอให้เป็นหนึ่งในผู้ร่ายคาถาระดับสามที่น่าสะพรึงกลัวที่สุด โดยธรรมชาติแล้ว พลังของเธอแข็งแกร่งกว่าไวส์ด้วยซ้ำ
ในอดีตบลูเบิร์ดได้ทำลายตระกูลนักเวทย์ที่มีนักเวทย์ระดับสี่ถึงสี่คนด้วยตัวคนเดียว เธอยังคงสังหารพวกเขาอย่างไร้ความปรานี ไม่เว้นแม้แต่พวกคนธรรมดา นับตั้งแต่นั้นมา การกระทำนี้ก็ได้ทำให้ชื่อเสียงที่น่าสะพรึงกลัวของเธอกระจายออกไปและเธอก็ถูกเรียกว่าเป็นหนึ่งในนักเวทย์ที่โหดเหี้ยมที่สุดในออซมู
ในออสมู พวกเขาจะส่งเฉพาะนักเวทย์ระดับสามจัดการกับตระกูลนักเวทย์ หากต้องพวกเขาต้องเผชิญหน้ากับองค์กรนักเวทย์ พวกเขาจะส่งนักเวทย์ระดับสี่ออกไปจัดการ
ดังนั้น แม้ว่าบลูเบิร์ดจะเป็นเพียงแค่นักเวทย์ระดับสาม แต่ในสายตาของตระกูลนักเวทย์กับพ่อมดพเนจร เธอนั้นน่ากลัวและทรงพลังซึ่งไม่มีใครกล้าพอที่จะยั่วยุเธอ
“บลูเบิร์ด เธอมาที่นี่ด้วยจุดประสงค์อะไร?”
เมื่อมองไปที่ผู้หญิงคนนี้ที่ดูสวยมากแต่เป็นนกบลูเบิร์ดในตำนานที่ได้รับชื่อเสียงในออซมู พ่อมดไรนด์ก็รู้สึกว่าหัวใจของเขาหนักหน่วงขึ้นเล็กน้อย
แม้ว่าเขาจะเผชิญหน้ากับอูบิกกับซาบิสหรือแม้แต่นักเวทย์ระดับสี่ก็ตาม ไรนด์จะไม่ประหม่าเหมือนตอนนี้เพราะเขาวางแผนตอบโต้ไว้แล้ว
แต่ถ้าบลูเบิร์ดมาเพราะหนังสือแห่งนิรันดร์ ตระกูลของเขาคงไม่อาจครอบครองมันได้อีกต่อไป
อย่างไรก็ตาม สายตาของบลูเบิร์ดไม่ได้จ้องไปที่หนังสือแห่งนิรันดร์บนพื้นเลย ดวงตาของเธอกวาดไปทั่วฝูงชนอย่างต่อเนื่องราวกับว่าเธอกำลังมองหาบางอย่าง
ในที่สุด สายตาของเธอก็จับจ้องไปที่ร่างของชายที่สวมชุดคลุมพ่อมดตัวยาว…
…
“ผู้หญิงคนนี้…น่ากลัวและทรงพลังมาก!”
ไชรีนผู้ซึ่งกำลังนำฮายา, เอมิลี่, เอ็มม่าและนักเวทย์คนอื่นๆ ไปที่ไหนสักแห่งที่ปลอดภัยกว่า พวกเขาแอบสังเกตบลูเบิร์ดที่ปรากฏในคฤหาสน์ชาเดอสันอย่างลับๆ
ก่อนหน้านี้พวกเขาได้เห็นการต่อสู้อันน่าสะพรึงกลัวระหว่างนักเวทย์ระดับสี่ด้วยตาของพวกเขาเอง ทุกคาถาดูเหมือนจะสามารถทำลายป้อมปราการได้อย่างง่ายดาย คาถาเช่นนั้นมันอยู่เหนือจินตนาการของพวกเขาแล้ว ราวกับว่าคาถาดังกล่าวไม่สามารถเอาชนะได้
อย่างไรก็ตาม ผู้หญิงลึกลับที่ดูเหมือนจะไม่ใช่นักเวทย์ระดับสี่ ได้ปรากฏตัวขึ้นแล้วและสามารถฆ่าอูบิก นักเวทย์ระดับสี่ได้อย่างง่ายดายด้วยการโบกมือเพียงครั้งเดียว
ณ จุดนี้ นักเวทย์มือใหม่เหล่านี้ที่ไม่เคยเดินทางไกลและเพียงแต่อยู่เงียบ ๆ ในตระกูลของพวกเขาเท่านั้นได้เข้าใจอย่างแท้จริงว่าแม้แต่นักเวทย์ขั้นต่ำก็สามารถมีพลังที่น่าสะพรึงกลัวได้
"ใครกันที่บลูเบิร์ดกำลังมองหา?"
ไชรีนย่นคิ้วของเธอ เธอเห็นว่าบลูเบิร์ดไม่ได้สนจหนีงสือแห่งนิรันดร์บนพื้นแต่กลับเงยหน้าขึ้นมองราวกับว่าเธอกำลังมองหาบางสิ่งบางอย่างอยู่
ทันใดนั้น ดวงตาของบลูเบิร์ดก็เพ่งมองเล็กน้อยและชี้ไปในฝูงชน ไชรีนมองตามสายตาของบลูเบิร์ด
“นั่น…นั่นคือพ่อมดเมอร์ลินที่เราพบระหว่างทางมาที่นี่เหรอ?”
ไชรีนจ้องมองด้วยความงุนงงและไม่แน่ใจที่พ่อมดชุดดำในฝูงชนอย่างพ่อมดเมอร์ลินที่เป็นเป้าหมายของบลูเบิร์ดหรือไม่?
ไชรีนไม่ได้สังเกตเลยแม้แต่น้อยว่าเอ็มม่าอยู่ข้างๆ เธอ กำลังมองไปที่ร่างในชุดดำในฝูงชน เธอยิ้มออกมาด้วยความปิติยินดีซึ่งตัวเธอไม่คาดหวังว่าจะพบเขาที่นี่…
…
“เมอร์ลิน ออกมา!” รอยยิ้มเย็นยกขึ้นตรงมุมปากของบลูเบิร์ด ขณะที่ดวงตาของเธอจับจ้องไปที่เมอร์ลินในฝูงชน
เลอแรนก้าตื่นตระหนกทันทีและมองดูเมอร์ลินข้างๆ อย่างกังวลใจ ไม่ใช่แค่เลอแรนก้า นักเวทย์เกือบทั้งหมดต่างมองไปที่เมอร์ลินเช่นกัน
หลังจากที่รู้ว่าผู้หญิงลึกลับคนนี้คือบลูเบิร์ดที่น่าสะพรึงกลัว นักเวทย์เหล่านี้ไม่กล้าเคลื่อนไหวอีกต่อไป พวกเขารู้ว่าการมาถึงของบลูเบิร์ดจะไม่มีใครสามารถขโมยหนังสือแห่งนิรันดร์ไปได้
อย่างไรก็ตาม ปรากฏว่าเป้าหมายของบลูเบิร์ดไม่ใช่หนังสือแต่เธอมาที่นี่เพื่อตามหาเมอร์ลิน
ทางด้านเมอร์ลินถึงกับผงะเล็กน้อย ท่าทางของเธอทำให้เขานึกถึงไวส์ทันที ตอนนั้นเขาฆ่าไวส์ในเมืองโฟลตติ้ง เขาพอจะรู้ว่าพวกออซมูคงไม่ย่อมเรื่องนี้ไปได้ง่าย ๆ แน่
อย่างไรก็ตาม ในอดีตคนจากออสมูจะไม่ละเลยความพยายามในการชักจูงอัจฉริยะมาเข้าร่วมกับพวกเขาแต่เมื่อมองดูท่าทางของบลูเบิร์ดที่เต็มไปด้วยจิตสังหาร ดูเหมือนว่าเธอจะไม่ได้มาชักจูงเขาอย่างแน่นอน
เมื่อเห็นว่าเมอร์ลินค่อย ๆ เดินออกมาจากฝูงชน รอยยิ้มก็ค่อย ๆ ปรากฏขึ้นบนใบหน้าของบลูเบิร์ดแต่มันเป็นรอยยิ้มที่เยือกเย็นซึ่งสามารถสร้างความหวาดกลัวอย่างมากในส่วนลึกของหัวใจของทุกคน
“เมอร์ลิน ฉันตามหาแกมาตลอดจากเมืองโฟลตติ้งจนมาจนถึงที่นี่…แม้ว่าฉันจะใช้เวลานานพอสมควรแต่ก็คุ้มค่าที่จะได้พบแก!” น้ำเสียงที่เยือกเย็นของเธอเผยให้เห็นถึงเจตนาฆ่า
เมอร์ลินขมวดคิ้วเล็กน้อย “ออสมูส่งคุณมาเพื่อฆ่าฉันงั้นเหรอ?”
ก่อนหน้านี้เมอร์ลินได้สอบถามกับทางดินแดนมนต์ดำเกี่ยวกับออสมูอย่างรอบคอบ เขาค้นพบว่าออสมูเป็นองค์กรที่น่าทึ่งจริง ๆ ดูเหมือนว่าพวกเขาจะตามล่าหานักเวทย์ที่ยอดเยี่ยมอยู่เสมอจึงทำให้เป็นการสร้างศัตรูไปทั่ว
สำหรับวิธีการทำงานของออสมูดูเหมือนว่าพวกเขาจะให้คุณค่ากับนักเวทย์ที่มีพรสวรรค์เป็นพิเศษ โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ที่ยังไม่ได้เข้าร่วมโดยองค์กรใดเลย พวกเขาจะชักจูงนักเวทย์เหล่านี้ด้วยวิธีการต่าง ๆ สารพัด หากทำทุกวิถีทางแล้วนักเวทย์คนนั้นไม่ยอมเข้าร่วม พวกเขาส่งคนไปฆ่านักเวทย์ที่มีพรสวรรค์เหล่านี้
แม้ว่าจะเป็นนักเวทย์ที่อยู่ในองค์กรนักเวทย์ที่เป็นปฏิปักษ์และยังเป็นนักเวทย์ที่เพิ่งฆ่าคนจากออสมูไป ตราบใดที่พวกเขาเต็มใจที่จะเป็นสมาชิกของออสมู พวกเขาจะยอมรับนักเวทย์เหล่านั้นด้วยความเต็มใจ.
ตอนนี้ที่เมอร์ลินได้เปิดเผยตัวตนของเขาในฐานะนักเวทย์หกธาตุ นอกเหนือนี้ เขายังครอบครองพลังปีศาจแพนโดร่า มันเป็นไปไม่ได้ที่ออซมูจะไม่ได้สังเกตเห็นเขา
เมอร์ลินเตรียมพร้อมรับมือหากมีคนจากออสมูเข้าหาเพื่อชักจูงเขา เขาต้องการดูว่าออสมูจะใช้อะไรเพื่อดึงดูดนักเวทย์ที่มีพรสวรรค์มากมาย ถึงขนาดยอมหักหลังองค์กรของตัวเองได้
อย่างไรก็ตาม เมื่อเผชิญหน้ากับหญิงลึกลับ บลูเบิร์ด เขาสัมผัสได้ถึงเจตนาฆ่าได้อย่างชัดเจน เธอไม่คิดจะปกปิดมันด้วยซ้ำ
"แกไม่สามารถเข้าร่วมกับออสมูได้!"
บลูเบิร์ดหัวเราะออกมาอย่างเยือกเย็น หลังจากนั้น ความผันผวนของธาตุที่รุนแรงก็ระเบิดออกจากร่างกายของเธอ ทันใดนั้น เมอร์ลินก็ดูเหมือนอยู่กลางทุ่งน้ำแข็ง เขารู้สึกว่าธาตุน้ำแข็งจำนวนถ้วนกำลังแพร่ออกมาจากบลูเบิร์ดในพริบตา!