HO บทที่ 121 พูดคุยกับวอนเดอร์ริ่งซาวด์
ความคิดต่าง ๆ เริ่มวนเวียนอยู่ในหัวของวอนเดอร์ริ่งซาวด์แต่สิ่งที่อยู่ในหัวของเขาคือ 'ดริฟติ้งคลาวด์ไปรู้ได้อย่างไรว่าเขาเป็นใคร' คำถามนี้เขียนไว้บนใบหน้าของเขาอย่างชัดเจนจนเขาไม่จำเป็นต้องพูดเพื่อถามด้วยซ้ำ
“ฉันรู้ว่าคุณสงสัยว่าฉันรู้ตัวตนของคุณเมื่อไหร่สินะ” ซินหยาบอกเขา “มันเพิ่งเกิดขึ้นไม่นานมานี้เอง เป็นเมลติ้งสโนว์ที่เป็นคนบอกว่าคุณเป็นใคร”
“เขารู้! แต่เขาทำตัวปกติเมื่ออยู่ใกล้ๆ ฉัน…” วอนเดอร์ริ่งซาวด์เงียบไป เขาไม่อยากจะเชื่อเลยว่าเด็กน้อยแสร้งทำเป็นไม่รู้จักเขามาตลอด
“ฉันก็บอกเขาทำอย่างนั้นน่ะ คุณคงมีเหตุผลสำคัญถึงต้องปกปิดตัวตนเอาไว้และฉันไม่อยากเร่งคุณด้วย” ซินหยาอธิบาย
วอนเดอร์ริ่งซาวด์ถูหลังคอของเขามองเข้าไปในดวงตาของซินหยาแล้วถามว่า "โรมมิ่งวินด์รู้เรื่องฉันหรือเปล่า?
“เปล่า ฉันไม่ได้บอกเธอ ฉันคิดว่าคุณน่าจะเป็นคนบอกเธอเอง” ซินหยาได้ตอบกลับ
"ขอบคุณ" วอนเดอร์ริ่งซาวด์กล่าวขณะที่เขาทรุดตัวลงกับผนังห้องควบคุมเรือ
ขณะที่ซินหยาดูความตึงเครียดหายไปจากร่างของวอนเดอร์ริ่งซาวด์ เมื่อเขาบอกกับเขาว่าเขาไม่ได้บอกเว่ยว่าเขาเป็นนักร้องชื่อดัง สิ่งนี้ทำให้ซินหยารู้ว่าวอนเดอร์ริ่งซาวด์ชอบเธอมากแค่ไหน
“คุณควรบอกเธอ” ซินหยาพูดเพื่อพยายามโน้มน้าวเขา “เธอจะไม่เป็นเหมือนแฟนคลับของคุณและปฏิบัติต่อคุณอย่างแตกต่างออกไป”
วอนเดอร์ริ่งซาวด์สะดุ้งจากคำพูดของซินหยา เขาอยากจะเชื่อว่ามันเป็นเรื่องจริง เมื่อเขาบอกเว่ยแล้วเธอจะไม่ปฏิบัติต่อเขาในแบบอื่นแต่เขาไม่สามารถพาตัวเองไปทำเช่นนั้นได้ อย่างน้อยก็ตอนนี้
วอนเดอร์ริ่งซาวด์สั่นศีรษะของเขากล่าวว่า “ขอเวลาฉันหน่อย เมื่อฉันรู้สึกว่าเมื่อถึงเวลา ฉันจะเป็นคนบอกเธอเอง”
ซินหยาเข้าใจว่าวอนเดอร์ริ่งซาวด์กำลังคิดอะไรอยู่ การเป็นคนดังไม่ได้ยอดเยี่ยมเสมอไป เขารู้ด้วยว่ามีคนที่ไม่แคร์ว่าคน ๆ นั้นจะมีชื่อเสียงหรือไม่ ยกตัวอย่างเช่น ซินหยา เขาไม่สนใจว่าวอนเดอร์ริ่งซาวด์เป็นดาราและเขาก็ไม่คิดว่าเว่ยก็จะไม่ให้ความสำคัญในเรื่องนั้นเช่นกัน
“ตกลง ฉันจะให้เวลาคุณ” ซินหยากล่าว “แต่จนกว่าคุณจะบอกเธอ คุณจะต้องสวมหน้ากาก แม้หลังจากที่คุณบอกเธอแล้ว คุณก็ยังจำเป็นต้องสวมใส่มัน”
วอนเดอร์ริ่งซาวด์ขมวดคิ้วและถามว่า “ทำไมล่ะ?”
“ก็นะ หลังจากเหตุการณ์ป่าบาดาฮาลและภารกิจเมืองเออร์นิสเวิร์ธอีก ชื่อของเราก็เป็นที่รู้จักกันดีซึ่งไม่เป็นปัญหาสำหรับเราเพราะพวกเขาไม่รู้ว่าพวกเราหน้าตาเป็นอย่างไรแต่เพราะชื่อเสียงของคุณ คนจะรู้จักคุณ ใบหน้าของคุณและคุณอยู่กับเราตลอดเวลา...”
วอนเดอร์ริ่งซาวด์พยักหน้าอย่างเข้าใจ ตัวเขาโด่งดังมาก ๆ ไม่ช้าก็เร็วใครบางคนก็จะจำเขาได้ แม้ว่าปกติแล้วเขาจะก้มหน้าก้มตาเพื่อไม่ให้มีใครสังเกตุเห็นแต่การซื้อหน้ากากก็ไม่เสียหาย เขายังคิดจะซื้อให้ตัวเองเมื่อสองสามวันก่อนด้วยซ้ำ
“เอาล่ะ คราวหน้าที่เราอยู่ในเมือง ฉันจะหาซื้อมันมา” วอนเดอร์ริ่งซาวด์เดินไปหาซินหยา
ซินหยาตบไหล่เขา “ดี ทีนี้ไปดูกันว่าโรมมิ่งวินด์กับเมลติ้งสโนว์ ตอนนี้เป็นอย่างไรบ้าง”
"ไปกันเถอะ" วอนเดอร์ริ่งซาวด์พูดพร้อมกับออกจากห้องควบคุมเรือไปพร้อมกับซินหยา
...
เมื่อเข้าไปในห้องนั่งเล่นของเรือนแพ ซินหยากับวอนเดอร์ริ่งซาวด์ก็มองเห็นโรมมิ่งวินด์กำลังวิ่งอยู่บนลู่วิ่ง ขณะที่เมลติ้งสโนว์กำลังยกน้ำหนักด้วยดัมเบลล์ยักษ์สองตัวซึ่งใหญ่กว่าร่างกายของเขา
ซินหยาคิดในใจ ขณะที่เขามองดูเมลติ้งสโนว์ที่ยกดัมเบลล์ขนาดมหึมาเหนือศีรษะของเขาอย่างง่ายดายว่าเขาควรจะตกใจกับฉากนี้หรือไม่ ที่เขาไม่ได้เป็นเช่นนั้น อาจเป็นเพราะเขาเห็นเมลติ้งสโนว์ยกชายน้ำหนักเกือบร้อยกิโลกรัมได้อย่างสบาย ๆ เมื่อสองสามชั่วโมงก่อน
"เป็นไงกันบ้าง?" ซินหยาพูดพร้อมยิ้มให้กับการฝึกฝนของทั้งสองคน
เมื่อพวกเขาหันไปตามเสียงของซินหยา เมลติ้งสโนว์ก็วางดัมเบลล์ลงแล้วพูดว่า "พี่ดริฟ เรือนแพนี้มันเยี่ยมมาก ฉันเพิ่งรู้ว่าฉันสามารถเพิ่มค่าสเตตัสได้เพียงแค่ยกน้ำหนักเท่านั้น"
“แล้วคุณล่ะ?” วอนเดอร์ริ่งซาวด์กล่าวขณะเดินไปที่ลู่วิ่งถัดจากโรมมิ่งวินด์
“ก็ดี แล้วคุณกับดริฟติ้งคลาวด์ไม่มาฝึกด้วยกันเหรอ?” เว่ยถามหลังจากยิ้มให้กับวอนเดอร์ริ่งซาวด์ที่อยู่ข้าง ๆ เธอ
ซินหยาส่ายหัวและพูดว่า "ไม่ ฉันจะไปปรุงยาก่อนที่เราจะไปถึงป่าเลตัส"
“พี่ดริฟ ผมอยากกินขนม พี่ทำให้ผมได้มั้ย?” เมลติ้งสโนว์ถามเขา
“ได้สิ ฉันจะทำทันทีที่ฉันปรุงยาเสร็จ ฉันจะทำขนมที่เรากินได้ก่อนที่เราจะเข้าไปดันเจี้ยน” ซินหยากล่าว
"เยี่ยมไปเลย!" เมลติ้งสโนว์ตะโกนออกมาอย่างดีใจ
...
หลังจากทิ้งเพื่อน ๆ ที่กำลังฝึกฝนไป ซินหยาก็เข้าไปในห้องปรุงยา นี่เป็นครั้งแรกที่เขาได้เห็นมันในเวอร์ชั่นเรือนแพและพบว่ามันค่อนข้างแตกต่างจากห้องปรุงยาที่เขาใช้ในเบลล์พอร์ต
มันมีความทันสมัยมากขึ้น ประการหนึ่ง ผนังสีขาวเรียงรายไปด้วยชั้นวางที่เต็มไปด้วยเหยือกแก้ว โหลแก้วเหล่านี้มีสิ่งของต่าง ๆ อยู่ข้างใน แต่เมื่อซินหยาพยายามเปิดขวดหนึ่ง โหลก็ปิดสนิท ซินหยา สามารถบอกได้ว่าพวกมันเป็นแค่ของตกแต่งเท่านั้น
เมื่อไปที่โต๊ะสีดำกลางห้อง ซินหยาเปิดช่องเก็บของเพื่อที่เขาจะได้หยิบหม้อและส่วนผสมที่จำเป็นสำหรับปรุงยาของเขา หลังจากจัดวางทุกอย่างบนโต๊ะอย่างเรียบร้อย เขาก็พร้อมที่จะเริ่มปรุงยา
ก่อนตัดสินใจทำยาเพิ่มเลือด เขานำเอนนูนิสและอเวเกลลาขึ้นมาก่อน มันก็คือสมุนไพรสีแดงและสีเขียว
ยาเพิ่มเลือดนั้นทำง่ายมาก ดังนั้นหลังจากผ่านไป 20 นาที เขาก็ปรุงยาเพิ่มเลือดคุณภาพสูง 100 กองไว้พร้อมใช้
หลังจากนั้น เขาก็ปรุงยาเพิ่มมานากับยาเพิ่มพลังกาย ต่อไปก็เป็นยาติอสู้ของเขา ยาพวกนี้เป็นยาที่ปรุงยากที่สุดสำหรับเขา และเขาต้องทุ่มเทอย่างหนักในขณะที่ปรุงยา ภายในระยะเวลา 2 ชั่วโมง เขาทำยาระเบิดไป 4 ครั้ง แต่ในที่สุดเขาก็มียาละอองฝัน, ยาลูกไฟขนาดเล็กและยาบุปผาพิฆาต จำนวน 50 กองขึ้นไป
ในขณะที่เขาปรุงต่อสู้อยู่ เขาสังเกตเห็นว่าเขาสามารถปรุงมันได้เร็วกว่าที่เขาเคยทำไว้มาก สิ่งนี้ทำให้เขามีความสุขมาก ดูเหมือนว่าทักษะการปรุงยาที่ปรุงในชีวิตก่อนหน้านี้ทั้งหมดจะส่งผลให้เขาในตอนนี้แล้ว
ขณะที่เขาเริ่มทำความสะอาดห้องปรุงยา เขาก็อดไม่ได้ที่จะสงสัยว่าเกิดอะไรขึ้นในเออร์รินิสเวิร์ธ ขณะที่เขาคิดที่จะตรวจสอบฟอรัม เสียงเคาะประตูก็ขัดจังหวะเขา
“พี่ดริฟ พี่วอนเดอร์ริ่งซาวด์บอกว่าอีกหนึ่งชั่วโมงเราจะถึงป่าเลตัสแล้ว!” เมลติ้งสโนว์ตะโกนผ่านประตู
ซินหยาเดินไปที่ประตูและเปิดออก เผยให้เห็นเมลติ้งสโนว์ที่ยกมือขึ้นครึ่งหนึ่งเพื่อเคาะอีกครั้ง “เหลืออีกแค่ชั่วโมงเดียว เรามาทำขนมสุดวิเศษกันเถอะ”
"ตกลง!!" เมลติ้งสโนว์ตอบกลับแล้วกระโดดไปที่ห้องครัว
ขณะที่พวกซินหยากำลังนั่งเรือไปที่ป่าเลตัสอย่างไร้กังวล พวกเขาก็ลืมไปว่าเกิดอะไรขึ้นในเออร์นิสเวิร์ธ หากพวกเขารู้ พวกเขาจะตกใจเมื่อเห็นการเปลี่ยนแปลงของฝูงมอนสเตอร์ ตั้งแต่ครั้งสุดท้ายที่พวกเขาอยู่ที่นั่น