765-766
9/10
Ep.765
ได้ไงกัน!
เห็นภาพนี้ ซูเฉินร้องด้วยความตกใจ
[ภูเขาหยวนเหออู่จี๋] ไม่เพียงเป็นสิ่งประดิษฐ์เทวะเท่านั้น แต่มันยังมีน้ำหนักถึง 108,000 จิน ทว่าเวลานี้กลับถูกหุ่นเชิดทองคำตบปลิวเอาได้ง่ายๆ นี่คือสิ่งที่เขาไม่คาดฝันมาก่อน
ในเวลาเดียวกัน ก็ตระหนักได้ว่า หุ่นเชิดทองคำคือการดำรงอยู่ที่แข็งแกร่งยิ่งกว่าฮันฮ่าวหยางหลายเท่าอย่างไม่ต้องสงสัย
อู๋หยาจื่อและหลีกุยหยางเองก็มีสีหน้าเคร่งเครียดเช่นกัน ทั้งสองหันมาสบตา กัดฟันและโจมตีหุ่นเชิดทองคำ
พวกเขารู้ดี ว่าต่อให้ร่วมมือกันก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของหุ่นเชิดทองคำอย่างแน่นอน แต่เพื่อซื้อเวลาให้ซูเฉิน ได้แต่ฝืนลงมือ
อีกด้านหนึ่ง หุ่นเชิดทองคำหลังจากตบ [ภูเขาหยวนเหออู่จี๋] ปลิวออกไป ก็ค่อยๆเลื่อนมือคว้ารถศึกต่อ
ขณะที่กำลังจะถูกจับได้ [รถศึกอัจฉริยะ] ก็หายวับไปต่อหน้าต่อตามัน
[รถศึกอัจฉริยะ] ไม่ใช่รถศึกธรรมดา แต่มีความนึกคิดเป็นของตัวเอง เมื่อตระหนักว่าตกอยู่ในห้วงเวลาวิกฤติ มันก็เปิดใช้งานฟังก์ชั่นล่องหนทันที
“เอ๋?”
หุ่นเชิดทองคำอุทานเสียงเบาราวกระซิบไม่ต่างจากมนุษย์ ทันใดนั้นแสงสีม่วงสองสายยิงออกมาจากดวงตามัน
หลังจากกวาดไปทั่ว ตำแหน่งที่ [รถศึกอัจฉริยะ] อยู่ก็ถูกเปิดเผยออกมาโดยตรง
จากนั้นมันก็เอื้อมมือออกไป หมายคว้ารถศึกอีกครั้ง
แต่ในเวลานั้นเอง อู๋หยาจื่อกับหลีกุยหยางได้มาถึงเบื้องหน้าของหุ่นเชิดทองคำแล้ว แต่ละคนต่างระเบิดกระบวนท่าสังหารที่แข็งแกร่งที่สุดของตนออกมา
อู๋หยาจื่อปลดปล่อยคลื่นดวงดารา หลีกุยหยางถือดาบสีเหลืองเล่มใหญ่สับลงจากกลางอากาศ
หุ่นเชิดทองคำเผชิญหน้ากับการโจมตีของเสมือนเทวะถึงสองคน มันกลับยังคงนิ่งงันไม่ไหวติง มีกระทั่งร่องรอยดูแคลนฉายวาบในดวงตา
เสียง ปงงง ปงงง! ดังขึ้นสองครั้ง กระแสดวงดารากับดาบยักษ์สีเหลืองประทับลงบนร่างของหุ่นเชิดทองคำพร้อมกัน ทว่ากลับมีผลแค่ทำให้ร่างของมันส่ันเล็กน้อยเท่านั้น
“เป็นไปได้อย่างไรกัน?”
อู๋หยาจื่อกับหลีกุยหยางตกใจมาก สีหน้าท่าทีราวกับเห็นผี
ความแข็งแกร่งของหุ่นเชิดทองคำตนนี้เหนือกว่าจินตนาการของพวกเขา
ทั้งสองถึงขั้นตั้งข้อสงสัยว่า หรือมันใช่เป็นหุ่นเชิดระดับเทวะกันแน่?
หนังตาของซูเฉินกระตุกอย่างรุนแรง ในเวลานี้เขาไม่ลังเลเลย เปิด [ร้านค้าวันสิ้นโลก] โดยตรง แล้วใช้ 10,000 แต้มพลังงานเพื่อแลกเปลี่ยนชิ้นส่วน [คุณสมบัติเลเวล 10 อย่างเต็มรูปแบบ] ยกระดับเป็นขั้น 10 ทันที
“ไสหัวไปให้พ้น!”
ในเวลาเดียวกัน หุ่นเชิดทองคำตะคอกเย็นชา เสียงของมันดังกึกก้องดั่งฟ้าร้อง ก่อแรงกดดันมหาศาลกวาดกระจายไปทั่ว ข่มอู๋หยาจื่อกับหลีกุยหางถอยไปหลายก้าว
หลังจากทำให้อู๋หยาจื่อและหลีกุยหยางหวาดกลัว หุ่นเชิดทองคำเอื้อมมือคว้า [รถศึกอัจฉริยะ] อีกครั้ง
“ถ้ากล้าแตะต้องมัน ฉันจะฉีกแกออกเป็นชิ้นๆ!”
ระหว่างนั้นเอง เสียงหวีดหวิวเย็นเยียบตัดผ่านท้องฟ้า ตามมาติดๆด้วยซูเฉินที่ขยายร่างเป็น 10 จั้ง ปลดปล่อยจิตสังหารชนิดยากหาผู้ใดเทียบพุ่งเข้ามา
“เสมือนเทวะ? นี่ซูเฉินยกระดับไปอีกขั้นแล้วหรือ?”
สัมผัสได้ถึงกลิ่นอายอันน่าสะพรึงที่เล็ดลอดออกมาจากร่างของซูเฉิน ทั้งอู๋หยาจื่อและหลีกุยหยางตกใจจนอธิบายไม่ถูก
เห็นได้ชัดว่าซูเฉินเพิ่งตัดผ่านสู่ขั้นใหม่ได้เมื่อไม่กี่วันก่อนเอง แล้วตอนนี้เขายกระดับไปอีกขั้นได้ในระยะเวลาสั้นๆได้อย่างไร?
นี่มันช่างน่าเหลือเชื่อจริงๆ
หุ่นเชิดทองคำเองก็ตระหนักได้ถึงการเปลี่ยนแปลงของกลิ่นอายซูเฉิน แต่มันไม่ได้ใสใจ ยังคงเอื้อมคว้า [รถศึกอัจฉริยะ]
“แส่หาที่ตาย!” ซูเฉินกระโจนเข้ามาขวางหน้า [รถศึกอัจฉริยะ] ง้างสุดแขนและชกออกไป
ได้ยินเพียงเสียง ปงงงง ดังกึกก้อง
หมัดนี้กระแทกลงบนฝ่ามือของหุ่นเชิดทองคำอย่างแรง เกิดสภาวะนิ่งงันชั่วขณะหนึ่ง สุดท้ายเป็นฝ่ายหุ่นเชิดถูกซัดปลิวออกไป
ได้เป็นสักขีพยานของฉากนี้ อู๋หยาจื่อและหลีกุยหยางอ้าปากกว้าง จนกรามแทบหัก
ใครจะคิดว่า หลังจากที่ซูเฉินยกระดับแล้ว พลังโจมตีของเขาจะรุนแรงป่าเถื่อนถึงเพียงนี้
ถึงขั้นส่งหุ่นเชิดทองคำตัวเท่าตึก ปลิวในหมัดเดียว
กำลังรบของเขา มันเกินกว่าจุดที่น่าตกใจไปแล้ว
10/10
Ep.766
หุ่นเชิดทองคำผุดลุกจากพื้น สะบัดหัว จ้องมองไปทางซูเฉิน ค่อยๆเอ่ยปากว่า “มนุษย์ ไม่มีประโยชน์ที่จะสู้กันต่อไป พวกเราหยุดกันแค่นี้เถิด”
ได้ยินแบบนั้น ทั้งอู๋หยาจื่อและหลีกุยหยางต่างมีสีหน้านิ่งงัน
หุ่นเชิดทองคำ เวลานี้กลับร้องขอสันติกับซูเฉิน เห็นได้ชัดว่ามันตกใจกับกำลังรบอันทรงพลังที่พบเจอ
“ตอนจะสู้ก็ไม่เห็นพูดอะไร? มาตอนนี้พอบอกว่าจะหยุดก็หยุดได้หรือ?” ซูเฉินยิ้มเยาะ
หุ่นเชิดทองคำคิดโจมตี [รถศึกอัจฉริยะ] โดยไม่มีเหตุผล นี่ทำให้เขาโกรธมาก
แล้วอีกอย่าง เขายังคงไม่ลืมเรื่องหัวใจจักรกลของหุ่นเชิดทองคำ การต่อสู้ครั้งนี้มิอาจหลีกเลี่ยงได้
“งั้นเจ้าต้องการอะไร?”
หุ่นเชิดทองคำเอ่ยถามอย่างอดทนอดกลั้น
“ง่ายมาก เอาหัวใจจักรกลที่แกมีมาให้ฉัน แล้วฉันจะยอมปล่อยแกไป!” ซูเฉินกล่าวตามตรง
เมื่อหัวใจจักรกลถูกพรากไป หุ่นเชิดทองคำต้องดับสูญเป็นแน่แท้
ในความคิดเขา หุ่นเชิดทองคำจะไม่มีวันตอบตกลงอย่างแน่นอน
ประโยคนี้เป็นเพียงคำที่ใช้ยั่วยุหุ่นเชิดทองคำเท่านั้น บีบบังคับให้มันต้องลงมือสู้
หุ่นเชิดทองคำเงียบไปพักหนึ่ง ใช้คำถามแทนคำตอบ “ที่เจ้าขอหัวใจจักรกล ก็เพื่อต้องการนำไปติดตั้งแก่ [รถศึกอัจฉริยะ] ใช่หรือไม่”
“นี่แกรู้จัก [รถศึกอัจฉริยะ] ได้ยังไง?” หางตาของซูเฉินกระตุกขึ้นอย่างกะทันหัน
[รถศึกอัจฉริยะ] คือสิ่งที่ดรอปจากชิ้นส่วน ในสายตาคนอื่นมันเป็นแค่รถฐานทัพแสนวิเศษเท่านั้น ว่าแต่เหตุใดหุ่นเชิดทองคำถึงเอ่ยชื่อของมันถูกต้องในครั้งเดียวได้?
ทันทีที่คำนี้หลุดออกมา ไม่เพียงแต่ซูเฉินที่ตะลึง แม้แต่อู๋หยาจื่อกับหลีกุยหยางก็อ้าปากจนเป็นรูปตัว ‘O’ เช่นกัน ประหลาดใจจนพูดไม่ออก
เหมือนจะสังเกตเห็นความสงสัยของซูเฉิน หุ่นเชิดทองคำอธิบายว่า “เรามาจากเผ่าจักรกล แต่ในมหาสงครามสงครามเมื่อ 10,000 ปีก่อน สมาชิกของเผ่าเกือบทั้งหมดถูกกวาดล้างไปหมดแล้ว ดังนั้นเจ้าอาจไม่เคยได้ยินเรื่องนี้มาก่อน”
มหาสงครามเมื่อ 10,000 ปีก่อน?
จู่ๆซูเฉินก็ฉุกคิดขึ้นมา ว่าด้วงเขมือบทองคำเคยกล่าวไว้ ว่ามีสามมหาอำนาจหลักในจักรวาล อันได้แก่ พันธมิตรแห่งหมื่นเผ่าพันธุ์ , สัตว์ร้ายมิติ และจักรวรรดิจักรกล
ในตอนที่ได้ยิน ซูเฉินเคยตั้งข้อสังเกตเช่นกัน ว่า [รถศึกอัจฉริยะ] กับ [นักรบจักรกล] ใช่เป็นผลผลิตจากจักรวรรรดิจักรกลหรือไม่
มาตอนนี้หลังจากได้ยินหุ่นเชิดทองคำพูด ความสงสัยนี้ก็เริ่มถูกไขไปสองสามส่วน
“งั้นแกก็คงมาจากจักรวรรดิจักรกล?” ซูเฉินเอ่ยถาม
หุ่นเชิดทองคำพยักหน้าเล็กน้อย “เจ้ามีความรู้ไม่เลว ข้ามาจากจักรวรรดิจักรกลจริงๆ”
อู๋หยาจื่อกับหลีกุยหยางมองหน้ากัน ชื่อ ‘จักรวรรดิจักรกล’ นี่เป็นครั้งแรกที่พวกเขาได้ยิน
ซูเฉินครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนหันมาพูดกับ [รถศึกอัจฉริยะ] ว่า “เสี่ยวจือ นายรู้จักเจ้าตัวโตนี่ไหม?”
“เจ้านาย แม้ฉันจะไม่มีความทรงจำใดๆเกี่ยวกับเขา แต่เป็นความจริงที่ว่าเขาทำให้เกิดความรู้สึกสนิทสนมอย่างอธิบายไม่ได้” [รถศึกอัจฉริยะ] ตอบตามความจริง
ถ้าไม่ใช่เผ่าพันธุ์เดียวกัน คงไม่มีทางรู้สึกแบบนี้ ถูกไหม?
นี่แสดงให้เห็นว่าหุ่นเชิดทองคำไม่ได้โกหก
อย่างไรก็ตาม เมื่อเรื่องราวมันเป็นแบบนี้ ทำให้ซูเฉินรู้สึกลำบากใจเล็กน้อย
เขามาที่นี่ก็เพื่อหัวใจจักรกล แต่เนื่องจากหุ่นเชิดทองคำและ [รถศึกอัจฉริยะ] เป็นเผ่าพันธุ์เดียวกัน หากให้เขาลงมือช่วงชิงหัวใจจักรกล มันค่อนข้างไม่เหมาะสม
แต่หากไม่ได้รับหัวใจจักรกล เขาก็จะไม่สามารถออกจากดินแดนที่ถูกทอดทิ้งได้
ซูเฉินต่อสู้กับความคิดตัวเองอยู่พักใหญ่ เหม่อมองไปทางหุ่นเชิดทองคำ ลองเลียบเคียงถามว่า “เหล่าตี๋ คุณพอจะมีหัวใจจักรกลเก็บสำรองเอาไว้บ้างไหม?”
ในความคิดของเขา หุ่นเชิดทองคำน่าจะเป็นประเภทเดียวกับ [นักรบจักรกล] ในเมื่อเขาเรียก [นักรบจักรกล] ว่าเสี่ยวตี๋ งั้นถ้าเรียกหุ่นเชิดทองคำว่าเหล่าตี๋ ก็ไม่น่าจะมีอะไรไม่เหมาะสม
นอกจากนี้ วิธีดังกล่าว ยังดูเหมือนจะช่วยกระสับความสัมพันธ์ระหว่างทั้งสองให้ดูสนิทกันยิ่งขึ้นอีกด้วย