759-760
3/10
Ep.759
[รถศึกอัจฉริยะ] สแกนหาพักหนึ่ง ก่อนตอบกลับมา “ในลานกลางหุบเขา ตรวจพบเสมือนเทวะสองตน”
เสมือนเทวะสองตน?
ซูเฉินนิ่งค้างไปเล็กน้อย
หุบเขากุ้ยหยางคืออาณาเขตของฮันห่าวหยาง หนึ่งในนั้นย่อมเป็นฮันห่าวหยางอย่างไม่ต้องสงสัย ว่าแต่แล้วใครกันที่เป็นเสมือนเทวะอีกตน?
คงไม่ใช่หูจวิ้นกระมัง?
คิดถึงเรื่องนี้ ซูเฉินสูดหายใจลึก แล้วกล่าวกับรถศึกว่า “เสี่ยวจือ ล็อคเป้าทั้งคู่ แล้วฉายภาพให้ดูที”
ภาพบนหน้าจอควบคุมส่วนกลางเริ่มซูมเข้า ถูกสับเปลี่ยนไปชั่วขณะหนึ่ง ไม่นานร่างของชาวเผ่ามายาและชาวเผ่าปีศาจราตรีก็ปรากฏขึ้น
ฮันห่าวหยางเป็นชาวมายา และหูจวิ้นเป็นเผ่าปีศาจราตรี จากข้อมูลนี้และภาพตรงหน้า ซูเฉินมั่นใจว่าคงเป็นทั้งสองแน่ๆ
จากนั้น เขาติดต่อกับหลีกุยหยางอีกครั้ง บรรยายลักษณะโดยสังเขปของเสมือนเทวะทั้งสอง และคำตอบที่ได้รับกลับมา คือหูจวิ้นและฮันห่าวหยางจริงๆ
“ซูเฉิน ในเมื่อพวกเขาอยู่ด้วยกัน งั้นอย่าเพิ่งลงมือตอนนี้เลย” หลีกุยหยางกล่าวโน้มน้าว
ซูเฉินครุ่นคิดครู่หนึ่ง ก่อนเอ่ยถามว่า “ผู้อาวุโสหลี ถ้าท่านกับอาวุโสอู๋ร่วมมือกัน จะสามารถจัดการกับหูจวิ้นได้ไหม?”
หูจวิ้นและฮันห่าวหยางอยู่ด้วยกัน –นี่ไม่ใช่เวลาเหมาะที่จะฆ่าพวกเขาทั้งคู่ในคราวเดียวหรอกหรือ?
อย่างไรก็ตาม ด้วยความเห็นของเขาคนเดียว ย่อมไม่อาจลงมือได้
หากอู๋หยาจื่อกับหลีกุยหยางเห็นด้วย และสามารถจัดการกับหูจวิ้นได้จริงๆ เขาจะได้เพ่งสมาธิมารับมือกับฮันห่าวหยางได้อย่างสบายใจ
“ข้ากับเฮียอู๋ร่วมมือกัน ย่อมสามารถสังหารหูจวิ้นได้ แต่มันอันตรายเกินไปสำหรับเจ้า ที่ต้องรับมือกับฮันห่าวหยางโดยลำพัง” หลีกุยหยางกล่าวด้วยความกังวล
“นั่นไม่ใช่ปัญหา” ซูเฉินยิ้ม กล่าวต่อว่า “อีกสักพักผมจะเข้าไปในหุบเขากุ้ยหยาง ขอให้พวกท่านจัดการกับหูจวิ้นอย่างสบายใจ เพราะผมมั่นใจว่าสามารถฆ่าฮันห่าวหยางได้แน่นอน”
หลีกุยหยางถึงกับอ้าปากค้าง ขณะที่เขาต้องการจะเกลี้ยกล่อมอีกรอบ ก็ถูกอู๋หยาจื่อขัดจังหวะ
“เฮียหลี เชื่อใจซูเฉินเถอะ กำลังรบของเขา แข็งแกร่งยิ่งกว่าที่เฮียเคยเห็นซะอีก”
หมายความว่ายังไง?
หลีกุยหยางตกตะลึง อย่าบอกนะว่าตอนที่ซูเฉินสู้กับเขา อีกฝ่ายยังซ่อนความแข็งแกร่งเอาไว้
เมื่อย้อนนึกถึงฉากนี้ซูเฉินบดขยี้เขาก่อนหน้านี้ แล้วนึกถึงเรื่องที่ว่าซูเฉินยังคงเก็บงำกำลังรบไว้อีกจริงๆ เช่นนั้นแล้วพลังที่แท้จริงของซูเฉินจะแข็งแกร่งถึงขนาดไหนกัน?
ซูเฉินไม่ได้อธิบายอะไรเพิ่มเติม ปิด [มิติสันโดษ] เริ่มยกเท้าย่ำขึ้นไปในอากาศทีละก้าว
เมื่อความสูงถึงระดับที่คิดว่าเหมาะสม เขาก็วิ่งเป็นเส้นตรง มุ่งสู่ส่วนลึกของหุบเขากุ้ยหยางอย่างรวดเร็ว
5-6 นาทีต่อมา เขามาหยุดอยู่บนท้องฟ้ากลางหุบเขากุ้ยหยาง ลอยเหนือลานบ้านที่หูจวิ้นกับฮันห่าวหยางอยู่พอดิบพอดี และ … ทิ้งดิ่งลงไป!
โครมมมม!
วินาทีถัดมา ซูเฉินกระแทกลงกับพื้น สองเท้าย่ำลงสุดแรงจนยุบตัวลงเป็นหลุมลึก
เสียงดังสนั่นนี้ ดึงดูดความสนใจของหูจวิ้นกับฮันห่าวหยางในทันที
เมื่อเห็นว่ามีมนุษย์รุ่นเยาว์ปรากฏขึ้นต่อหน้า สีหน้าของทั้งสองก็กลายเป็นมืดมน
“มนุษย์ เจ้าเข้ามาที่นี่ได้อย่างไร?”
ฮันห่าวหยางจับจ้องซูเฉิน เอ่ยถามด้วยน้ำเสียงเย็นชา
การป้องกันของหุบเขากุ้ยหยางแน่นหนามาก แล้วมนุษย์เข้ามาเหยียบที่นี่ได้อย่างไร?
เรื่องนี้ทำให้เขาสับสนมาก
ซูเฉินเบ้ปากเล็กน้อย “คนใกล้ตาย … ไม่จำเป็นต้องรู้มากขนาดนั้น!”
สิ้นเสียง เขาเปิด [มิติสันโดษ] อย่างรวดเร็ว ทันทีที่อู๋หยาจื่อกับหลีกุยหยางออกมา ทั้งคู่ก็พุ่งเข้าจู่โจมหูจวิ้นโดยตรง
“หลีกุยหยาง! บังอาจนัก! กล้าดียังไงถึงพาคนเข้ามาลอบสังหารในอาณาเขตของข้า ช่างไม่รู้จักที่ตาย!”
ฮันห่าวหยางขบฟันแน่น ร้องคำรามออกมา ขณะที่เขากำลังจะโจมตีหลีกุยหยาง น้ำเสียงเย็นเยียบของซูเฉินก็ดังเข้ามาในหูเขา
“ฮันห่าวหยาง คู่ต่อสู้ของแกคือฉัน!”
“อาศัยเพียงเจ้า?”
ใบหน้าของฮันห่าวหยางฟุ้งไปด้วยความดูแคลน ในสายตาเขา ซูเฉินมีฐานฝึกตนไม่เกินขั้น 10 แน่ๆ
ผู้ฝึกตนขั้น 10 กล้าดียังไงมาแข็งข้อกับเขา–
–นี่ไม่เท่ากับเป็นการรนหาที่ตายหรอกหรือ?
4/10
Ep.760
ซูเฉินไม่เคยสู้กับปรมาจารย์มนตราระดับเสมือนเทวะมาก่อน ณ ขณะนี้บังเกิดจิตต่อสู้อันแรงกล้า
พริบตานั้นเอง ร่างเขาสูงชะลูดขึ้นเป็น 10 จั้ง เมื่อยกระดับสู่ขั้น 10 เจ้าตัวง้างสุดแขน ขว้าง [ภูเขาหยวนเหออู่จี๋] ออกไป
มาถึงก็ใช้กระบวนท่าสังหารลงมือทันที!
“สิ่งประดิษฐ์เทวะ!?”
ฮันห่าวหยางตื่นตัวขึ้นเล็กน้อย ขณะที่ [ภูเขาหยวนเหออู่จี๋] โถมทับเข้ามา เห็นแค่เพียงเกราะสีม่วงปรากฏขึ้นบนตัวเขา ทุกลำแสงสีม่วงที่กระเพื่อมออกมา เต็มไปด้วยกลิ่นอายโบราณ ให้ความรู้สึกหนักอึ้งกดดัน
วินาทีถัดมา [ภูเขาหยวนเหออู่จี๋] ปะทะตัวเขาอย่างจัง ทว่ามันกลับถูกชั้นพลังสีม่วงรองรับเอาไว้ได้อย่างน่าฉงน หยุดนิ่งกลางอากาศ
เห็นภาพนี้ ซูเฉินถึงกับอ้าปากค้าง ในอดีตที่ผ่านมา เมื่อเขาใช้ [ภูเขาหยวนเหออู่จี๋] ผลลัพธ์คือล้วนสามารถบดขยี้ศัตรูด้วยน้ำหนักมหาศาลของมัน
ไม่นึกฝันเลย ว่าพอใช้กับฮันห่าวหยาง กลับไร้ประโยชน์อย่างสิ้นเชิง
นี่แสดงให้เห็นว่า ชุดเกราะระดับเทวะของฮันห่าวหยางแข็งแกร่งจริงๆ
“เจ้าหนู เจ้าคิดว่าจะสังหารข้าได้เพียงเพราะเจ้ามีสิ่งประดิษฐ์เทวะอย่างนั้นหรือ? ช่างไร้เดียงสา!”
ฮันห่าวหยางแสยะยิ้ม เหยียดมือยิงลูกไฟขนาดเท่าโอ่งมังกรออกไป
วู้มมม
ทันทีที่ลูกไฟปรากฏขึ้น อุณหภูมิโดยรอบพุ่งสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว อากาศคล้ายถูกเผาไหม้ ลานบ้านทั้งหลังราวกับตกลงไปในภูเขาไฟที่ใกล้ปะทุ อาคารใกล้เคียงถูกหลอมเป็นเถ้าถ่าน
อู๋หยาจื่อและคนอื่นๆที่เดิมกำลังต่อสู้กัน ณ ขณะนี้หยุดเคลื่อนไหว ทั้งหมดมองมาทางซูเฉินและฮันห่าวหยาง
เวทย์ลูกไฟที่ฮันห่าวหยางปลดปล่อยออกมา หลอมรวมเข้ากับอัคคีผลาญแปดทิศ พลังทำลายล้างยากหาตัวจับ ต่อให้เป็นเสมือนเทวะก็ยังยากที่จะรับมือ
ขณะที่ซูเฉินมีฐานฝึกตนเพียงขั้น 10 เท่านั้น แล้วเขาจะสามารถทนได้หรือ?
ทั้งอู๋หยาจื่อและหลีกุยหยางเริ่มกังวลแทนซูเฉิน
“มนุษย์ขั้น 10 คิดแข็งข้อกับฮันห่าวหยาง ช่างมุทะลุสิ้นดี!” หูจวิ้นแผดเสียงหัวเราะอย่างไม่อาจควบคุม
ในความคิดเขา เวทย์ลูกไฟของฮันห่าวหยางสามารถฆ่าซูเฉินได้อย่างแน่นอน
เมื่อซูเฉินตาย ฮันห่าวหยางย่อมไม่มีผู้ใดฉุดรั้ง ถึงเวลานั้นอีกฝ่ายก็จะกระโจนเข้ามาช่วยเขา แล้วหลีกุยหยางกับอู๋หยาจื่อทั้งคู่ก็จะพบจุดจบ!
“ขอดูหน่อยเถอะ ว่ากระบวนท่าสังหารที่แข็งแกร่งที่สุดของแก มันจะเจ๋งซักแค่ไหน!”
สีหน้าของซูเฉินกลายเป็นเคร่งขรึม กุม [ดาบเสริมมนตรา] ไว้ในมือ แล้วกวาดมันออกไป
ทันใดนั้นกระแสคลื่นสีขาวกระพือไปข้างหน้า โถมเข้าปะทะลูกไฟที่พุ่งเข้ามาอย่างรุนแรง
ทั้งสองพัวพันกันครู่หนึ่ง ก่อนระเบิดออก กลายเป็นพลุไฟบานสะพรั่ง ดุจดั่งความงดงามที่ผู้คนไม่อาจจับจ้องได้ตรงๆ
รอจนแสงเจิดจ้าพรั่งพราวหมดสิ้นลง เห็นเพียงกลุ่มก้อนเปลวไฟสองกลุ่ม หนึ่งดำ หนึ่งน้ำเงิน กำลังต่อสู้กันอย่างดุเดือดในอากาศ
“นี่เจ้าเองก็มีมหาเพลิงเอกลักษณ์ด้วย?” ฮันห่าวหยางอุทานออกมา
ตอนแรกเขาไม่เข้าใจ ว่าเหตุใดเวทย์ลูกไฟของตนจึงถูกสกัดกั้นได้อย่างง่ายดาย แต่เมื่อเห็นกลุ่มก้อนไฟแปลกๆ ก็ฉุกคิดได้ทันที
อู๋หยาจื่อกับหลีกุยหยางเห็นว่าซูเฉินสามารถหยุดการโจมตีของฮันห่าวหยางได้จริง อาการตื่นตกใจก็มลายหายไป
ในทางตรงกันข้าม เป็นหูจวิ้น ที่ขณะนี้ใบหน้าของเขาปั้นยากอย่างถึงที่สุด
หากซูเฉินสามารถรับมือกับฮันห่าวหยางได้ จะเท่ากับว่าเขาต้องเผชิญหน้ากับการปิดล้อมของสองเสมือนเทวะ สถานการณ์ไม่สู้ดีนัก บางทีอาจถึงขั้นต้องจบชีวิตเลยก็เป็นได้
อีกด้านหนึ่ง ซูเฉินถอนหายใจโล่งอก ปลดปล่อยพลังจิตออกมาเพื่อแยกโลกันต์เยือกแข็งและอัคคีผลาญแปดทิศออกจากกัน
จากนั้นเปิด [พื้นที่เลี้ยงสัตว์] เรียกเหล่าสัตว์เลี้ยงวิญญาณออกมา แล้วออกคำสั่ง “พวกนาย หยุดเจ้าก้อนเปลวไฟนี่ไว้”
อัคคีผลาญแปดทิศเป็นเพียงมหาเพลิงขั้น 8 เท่านั้น หากให้เหล่าสัตว์เลี้ยงวิญญาณและโลกันต์เยือกแข็งร่วมมือกัน เป็นแค่เรื่องง่ายดาย
“นี่เจ้าคิดช่วงชิงมหาเพลิงไปจากข้า?”
หัวใจของฮันห่าวหยางแผดเผาไปด้วยความวิตกกังวล ขณะที่เขากำลังคิดปลดปล่อยเวทมนต์เพื่อช่วยเหลืออัคคีผลาญแปดทิศ
ทันใดนั้นร่างหนึ่งก็ปรากฏขึ้นเบื้องหน้าเขา
“ไอ้แก่ ถึงตาแกต้องลิ้มรสพลังของฉันบ้างแล้ว!”
ในพริบตา เสียงหวีดหวิวดังก้องเข้ามาในหูของฮันห่าวหยาง