212 - วิญญาณศักดิ์สิทธิ์
212 - วิญญาณศักดิ์สิทธิ์
"ปัง!"
เย่ฟ่านเตะจี้เหรินที่กำลังกลิ้งอยู่บนพื้นกลับขึ้นไปในอากาศ
สับ!
"ปัง!"
เย่ฟ่านพุ่งขึ้นไปบนท้องฟ้า กวัดแกว่งกำปั้นสีทองของเขาเพื่อใช้การโจมตีที่ทรงพลังที่สุดโดยหวังจะจบชีวิตของจี้เหรินในครั้งเดียว
อย่างไรก็ตามเจ้าแก่คนนี้ไม่ธรรมดาจริงๆ พลังของเขานั้นยอดเยี่ยมมากแม้ว่าชีวิตของเขาเหมือนจะอยู่บนเส้นด้ายแต่ไม่ว่าเย่ฟ่านทุ่มเทการโจมตีแค่ไหนเจ้าแก่นี่ก็ไม่ยอมตายสักที!
เย่ฟ่านเดินตามหลังไปอย่างใกล้ชิด ความเร็วของเขาเป็นปรากฎการณ์ในขณะที่เขาเหยียบย่ำร่างกายของจี้เหรินอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้กระดูกและอวัยวะทั้งหมดของเขาถูกบดขยี้
แปดก้าวต่อมากระดูกในร่างกายของจี้เหรินก็แตกเป็นเสี่ยงๆไม่มีส่วนใดในร่างกายของเขาสามารถคงรูปอยู่ได้เลย
หมัดสุดท้ายของเย่ฟ่านถูกทุบลง จี้เหรินถูกกระแทกอย่างรุนแรงและเขานอนแน่นิ่งอยู่บนพื้นโดยไม่ขยับเขยื้อนราวกับสุนัขที่ตายแล้ว
วิธีการอาจดูโหดร้าย แต่เย่ฟ่านไม่ได้วางแผนที่จะเป็นคนใจอ่อน สุนัขตัวนี้แข็งแกร่งที่สุดเท่าที่เขาเคยพบ หากว่าเขาไม่ฆ่ามันให้ตายสุดท้ายมันจะแว้งกลับมากัดเขาอย่างแน่นอน
“อ๊าาาา!”
จี้เหรินคำรามออกมาอีกครั้ง แม้ว่าร่างกายจะถูกบดขยี้ราวกับเป็นเนื้อสับแต่เขาก็ยังไม่ตาย หัวใจของเย่ฟ่านสั่นสะท้าน อีกฝ่ายมีพลังมากเกินไป หากเป็นผู้ฝึกตนธรรมดาจะไม่มีทางที่จะรอดชีวิตได้เลย
เย่ฟ่านรู้สึกอับจนปัญญาเล็กน้อยที่ไม่สามารถฆ่าฝ่ายตรงข้ามได้ ทันใดนั้นเย่ฟ่านก็ปลดปล่อยคัมภีร์เต๋ากลายเป็นริ้วสีทองวาบอย่างรวดเร็วเพื่อให้มันสับร่างกายของชายชราที่อยู่ตรงหน้าให้แหลกเป็นชิ้นๆ
จารึกเต๋าหน้านี้ไม่ใช่อาวุธจริงแต่มันไม่ใช่สิ่งที่กระจกแปดเหลี่ยมทองแดงจะสามารถทัดเทียมได้ ในทะเลแห่งความทุกข์ของเขาหนังสือหน้านี้สามารถล่องลอยอยู่ในบริเวณเดียวกันกับก้อนทองเหลือง
สำหรับกระจกแปดเหลี่ยมทองแดง ร่มสวรรค์และสิ่งอื่นๆไม่สามารถเข้าใกล้ก้อนทองเหลืองได้ด้วยซ้ำ
จากมุมมองหนึ่ง แม้ว่าหน้าทองคำจะไม่ใช่อาวุธแต่ความแข็งแกร่งของมันก็มากมายมหาศาลกว่าอาวุธทุกชิ้นที่เขาครอบครอง
“ชิ!”
ใบมีดสีทองนั้นดูสะดุดตาอย่างยิ่ง กระดาษทองคำบางๆนั้นเทียบได้กับอาวุธที่แหลมคมที่สุดและตอนนี้มันกำลังหันศีรษะของจี้เหริน
เลือดภายในร่างกายของชายชราพุ่งออกมาราวกับน้ำพุสูงขึ้นไปบนฟ้าเกือบครึ่งวา ศีรษะที่แก่ชรานั้นกระเด็นออกไปด้านข้างแต่ใบหน้าของเย่ฟ่านกลับไม่มีความยินดีแม้แต่น้อย!
แม้จะอยู่ในสภาพเช่นนี้จี้เหรินก็ยังมีชีวิตอยู่จริงๆ! เย่ฟ่านรู้สึกหวาดกลัวมาก เขาไม่ได้รอช้า ตำราสีทองบินออกไปอย่างต่อเนื่องเพื่อสับร่างกายของจี้เหรินให้แหลกเป็นชิ้นๆ
เย่ฟ่านปฏิเสธที่จะเชื่อว่าปีศาจเฒ่าตัวนี้จะยังมีชีวิตอยู่ได้หากร่างกายของเขาถูกสับจนแหลกละเอียด!
“ชิ ชิ!”
หนังสือสีทองพุ่งเข้าไปในกงล้อแห่งทะเลลของจี้เหรินพร้อมกับบดขยี้น้ำพุแห่งชีวิตซึ่งเป็นที่กักเก็บพลังศักดิ์สิทธิ์ของเขาทั้งหมด
เมื่อสิ่งนี้ถูกทำลายไม่ว่าอีกฝ่ายจะแข็งแกร่งแค่ไหนเย่ฟ่านก็ไม่กลัว
“ชิ!”
เย่ฟ่านไม่หยุดในขณะที่เขายังคงส่งหนังสือสีทองที่บินออกไป โจมตีหัวที่หลุดออกมาอีกครั้ง เขาเชื่อว่าเมื่อมันถูกทำลาย มันเป็นไปไม่ได้ที่จี้เหรินจะสร้างอะไรขึ้นอีกต่อให้เขายังไม่ตายก็ตาม
“เวง”
อย่างไรก็ตามฉากที่น่าตกใจได้เกิดขึ้น ผมของจี้เหรินเริ่มส่องแสงหลากสี ขัดขวางการโจมตีของหนังสือสีทอง!
นั่นคือพื้นที่ที่ถูกผนึกด้วยพลังศักดิ์สิทธิ์อันทรงพลัง ป้องกันไม่ให้หนังสือสีทองก้าวไปข้างหน้า
ภายในแสงหลากสีที่ส่องประกายระยิบระยับ กระดูกที่หนาราวปิ่นปักผมที่มีกลิ่นอายลึกลับได้ปรากฏออกมา แท้จริงแล้วของสิ่งนี้เองที่มีพลังงานศักดิ์สิทธิ์คอยปกป้องศีรษะของจี้เหริน
ในเวลาเดียวกันกระดูกปิ่นปักผมเริ่มแตกเป็นเสี่ยงๆพร้อมกับแสงเจิดจ้าที่อยู่ในรูปลักษณ์ของนางเฒ่าจี้ฮุยได้หลบหนีออกจากสนามรบอย่างรวดเร็ว
“เกิดอะไรขึ้น?”
เย่ฟ่านรู้สึกได้ทันทีว่าหนังศีรษะของเขาชาด้าน แม้ว่าเขาจะเกลียดนางเฒ่าคนนี้และต้องการจะฆ่านางอยู่ตลอดเวลา แต่เขาก็รู้ดีว่าไม่มีทางที่เขาจะเป็นคู่ต่อสู้ของนางได้
“เจ้า……”
หลังจากที่แสงศักดิ์สิทธิ์ซึ่งอยู่ในรูปของจี้ฮุยปรากฏขึ้นก็ดูเหมือนว่านางจะมีความตกใจเป็นอย่างมาก
“ทำไมจี้เหรินไม่สามารถจัดการกับเจ้าได้ เขาตกอยู่ในสถานการณ์แบบนี้ได้อย่างไร!”
ใบหน้าของจี้ฮุยบิดเบี้ยวและไม่อยากจะเชื่อสายตา นี่มันน่าประหลาดใจเกินไป มันคล้ายกับการที่นางได้ยินว่าสิงโตตัวหนึ่งถูกมดกัดตาย!
เย่ฟ่านสงบลงอย่างรวดเร็ว เขาไม่ได้พูดอะไรและใช้ตำราทองคำของเขาฟันเข้าไปที่ใบหน้าของจี้ฮุย แต่ตำราสีทองของเขาก็ทะลุก้อนแสงนั้นโดยไม่สามารถทำอันตรายต่อวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ของจี้ฮุยได้
“เด็กน้อยเจ้ายังไร้เดียงสาเกินไป เจ้าไม่สามารถแยกความแตกต่างของตราประทับจิตสำนึกได้ ของวิเศษของเจ้าไม่เพียงพอที่จะทำร้ายข้า” เมื่อพูดเช่นนี้นางก็ตะโกนด้วยความโกรธ
“จี้เหริน เจ้าโง่ ตื่นเดี๋ยวนี้!”
“ชิ!
เมื่อตระหนักรู้ดังนั้นทะเลสาบสีทองก็ทะลักออกมาจากวางคิ้วของเย่ฟ่าน แสงสีทองมากมายมหาศาลพุ่งเข้าหาตราประทับวิญญาณของจี้ฮุย
หลังจากที่รู้ว่าอีกฝ่ายไม่ใช่ตัวตนที่แท้จริงเย่ฟ่านก็รู้สึกสบายใจ เขาเชื่อมั่นว่านอกจากบุคคลระดับราชานกยูงและผู้แข็งแกร่งอีกไม่กี่คนในดินแดนรกร้างตะวันออก จะไม่มีใครที่มีสัมผัสศักดิ์สิทธิ์แข็งแกร่งกว่าเขาอย่างแน่นอน!
“อ๊าาาา!”
ภาพฉายของจี้ฮุยคำรามและริบหรี่ลงอย่างรวดเร็ว ทุกอย่างเกินความคาดหมาย สัมผัสศักดิ์สิทธิ์ของเย่ฟ่านมีพลังมากเกินไป ตรงกันข้ามกับอาณาจักรบ่มเพาะปัจจุบันของเขาอย่างสิ้นเชิง
“ชิ!”
เช่นเดียวกับการโยนเหล็กร้อนสีแดงลงในทะเลสาบที่เย็นยะเยือก ภาพของจี้ฮุยเริ่มพร่ามัวและมันก็ถูกทำลายจนเกือบหมดสิ้น
“นางเฒ่าที่น่าตาย แม่ว่าตอนนี้ข้าจะฆ่าเจ้าไม่ได้ก็ต้องทำลายตราประทับวิญญาณของเจ้าก่อน!”
เย่ฟ่านรังเกียจหญิงชราผู้ชั่วร้ายคนนี้อย่างถึงที่สุด แม้ว่าเขาจะไม่สามารถฆ่านางได้แต่ขอเพียงได้ทำลายตราประทับวิญญาณของนางก็ถือเป็นการระบายอารมณ์ชนิดหนึ่งเช่นกัน!
"เจ้า……."
จี้ฮุยกำลังโกรธเคือง แต่นางรู้ว่าความรู้สึกศักดิ์สิทธิ์ของอีกฝ่ายดังนั้นนางไม่มีทางเลือกอื่นได้แต่หลบหนีออกจากสถานที่แห่งนี้ให้ไวที่สุดเท่าที่จะเร็วได้
เย่ฟ่านจะไม่ให้โอกาสนาง หากรอยประทับนี้สามารถกลับไปได้หญิงชราคนนั้นจะรู้ที่อยู่ของเขาและสุดท้ายเขาก็จะตายอย่างแน่นอน
“นังเฒ่า ข้าคิดว่าเจ้าชอบไล่ตามคนอื่นซะอีก?” เย่ฟ่านรีบวิ่งไปข้างหน้าพร้อมกับตะโกน
“วันนี้ ถึงตาข้าที่จะไล่ตามเจ้าแล้ว!”
“ชิ!”
ภายในทะเลสาบสีทอง ความรู้สึกศักดิ์สิทธิ์ก่อตัวขึ้นอีกครั้งขณะที่มันตัดแขนของจี้ฮุย
“ชิ!”
กระบี่ที่ก่อตัวขึ้นจากความรู้สึกศักดิ์สิทธิ์ถูกสับอีกครั้ง ฟันศีรษะของจี้ฮุยลงมา
“เจ้าหนูน้อย เจ้ากล้าที่จะดูถูกข้า!”
“เพ้อเจ้อแล้วนางเฒ่า! เจ้าวางแผนที่จะฆ่าข้าเอง มีหรือที่บิดาจะแสดงความเมตตาเจ้าได้!”
“เป้ง!”
หมัดทองคำทุบหัวของจี้ฮุย ทำให้ภาพฉายแสงของนางสลายไปในทันที
ในที่สุดรอยประทับของจี้ฮุยก็เปล่งเสียงคำรามแห่งความขุ่นเคืองก่อนที่จะสลายไปอย่างทั่วถึง
เมื่อทุกอย่างจบลงเย่ฟ่านหันกลับมาและใช้ตำราทองคำของเขาสับร่างกายของจี้เหรินอีกครั้ง
ในขณะนี้ดวงตาที่มองของจี้เหรินดูเหมือนจะเปล่งประกายขึ้นอีกครั้ง
“เจ้าแก่บ้า ตายยากตายเย็นจริงๆ…….”
เย่ฟ่านส่งสมุดทองคำศัพท์ร่างกายของจี้เหรินเป็นร้อยครั้ง เมื่อทุกอย่างแหลกละเอียดเย่ฟ่านก็เดินไปข้างหน้าเพื่อค้นหาของวิเศษที่ชายชราคนนี้ครอบครอง!