751-752
5/10
Ep.751
อีกด้านหนึ่ง หลังจากซูเฉินเปิดใช้งาน [เทคนิคปลุกศูนย์รวมวิญญาณสวรรค์] เขาก็สามารถสังหารชาวครึ่งออร์คขั้น 9 ทั้งสี่ตนได้อย่างง่ายดาย
หลังจากเก็บชิ้นส่วนทั้งหมด เขาก็หิ้วชาวครึ่งออร์คขั้น 10 ที่ได้รับบาดเจ็บสาหัสกลับขึ้นรถ
“บอกทางไปยังเมืองเทียนตู้ ถ้ากล้าเล่นลูกไม้ ก็เตรียมลาโลกได้เลย!”
ซูเฉินจิกสายตามองชาวครึ่งออร์คขั้น 10 กล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นเยียบปานน้ำแข็ง
“ขอรับ”
ชาวครึ่งออร์คขั้น 10 รับคำ หวาดกลัวจนตัวสั่น
หลังจากนั้น [รถศึกอัจฉริยะ] ขับตรงไปยังทิศทางที่ถูกต้องของเมืองเทียนตู้
ซูเฉินเอนตัวลงเบาะคนขับ เริ่มคัดแยกชิ้นส่วน
ครั้งนี้มีพวกต่างเผ่าถูกสังหารไม่เยอะมาก แต่ชิ้นส่วนที่ดรอปมา สูงเกือบ 2,000 ชิ้น
“ฆ่าพวกต่างเผ่าขั้นสูงมันสนุกแบบนี้นี่เอง” ซูเฉินทอดถอนหายใจด้วยอารมณ์จากก้นบึ้งของหัวใจ
ครึ่งชั่วโมงต่อมา เขาคัดแยกชิ้นส่วนเสร็จสิ้น เปิด [ร้านค้าวันสิ้นโลก] ดู
เมื่อพบว่า [คุณสมบัติเลเวล 9 อย่างเต็มรูปแบบ] ต้องการ 7,000 แต้มพลังงาน เขาก็เริ่มขบคิด
ปัจจุบัน เขามีแต้มพลังงานทั้งหมดเพียง 5,000 กว่าแต้มเท่านั้น ยังขาดแต้มพลังงานอีกราวๆ 1,000 กว่าแต้มเพื่อแลกเปลี่ยนมัน
เมื่อพิจารณาว่าการเข้าสู่เมืองเทียนตี้เป็นเรื่องอันตรายมาก เขาเลยวางแผนที่จะยกระดับเป็นขั้น 9 ก่อนที่จะเข้าไป
ด้วยประการฉะนี้ นั่นหมายความว่าเขาจำเป็นต้องสะสมแต้มพลังงานอีก 1,000 กว่าแต้มให้ครบ
หากเปลี่ยนเป็นที่อื่น การหา 1,000 แต้มพลังงานเป็นเรื่องยากเย็นยิ่ง ต้องฆ่าซอมบี้หลายพันตัวหรือไม่ก็พวกต่างเผ่าหลายร้อยตัว
ทว่าในดินแดนที่ถูกทอดทิ้งน่ะไม่เหมือนกัน สถานที่แห่งนี้มีเพียงต่างเผ่าอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก หากเขาโชคดี แค่สังหารพวกมัน 3-5 ตน ก็น่าจะสะสมครบแล้ว
คิดได้แบบนี้ ซูเฉินเปลี่ยนใจที่จะไปเมืองเทียนตู้ทันที หันไปเอ่ยถามชาวครึ่งออร์คขั้น 10 ว่า “มีพวกต่างเผ่าอยู่แถวนี้รึเปล่า?”
ชาวครึ่งออร์คขั้น 10 ครุ่นคิดอยู่พักหนึ่ง ตอบกลับว่า “มีกลุ่มยักษ์ไททันอยู่ทางเขาเทียนชาง”
“ดีล่ะ งั้นไปที่ภูเขาเทียนชางกันก่อน” ซูเฉินเริ่มตื่นตัวเล็กน้อย
กำลังรบของเผ่ายักษ์ไททันแข็งแกร่งมาก เขาเคยสังหารพวกมันมาก่อนสี่ตน และพวกยักษ์ไททันทิ้งความประทับใจที่ไม่เลวสลักลงในใจเขา
แล้วอีกอย่าง ชิ้นส่วนที่ดรอปหลังจากสังหารพวกมัน มีเยอะมาก หากสามารถฆ่าไททันขั้น 10 ได้ตัวหนึ่ง ซูเฉินเดาว่าอาจดรอปชิ้นส่วนมากกว่า 1,000 ชิ้น
ภายใต้การนำทางของชาวครึ่งออร์คขั้น 10 [รถศึกอัจฉริยะ] เปลี่ยนทิศทาง ขับตรงไปยังภูเขาเทียนชาง
หนึ่งวันต่อมา [รถศึกอัจฉริยะ] มาถึงตีนเขาเทียนชาง และพบยักษ์ไททันถึงห้าตัว ผู้แข็งแกร่งที่สุดในนั้นอยู่ขั้น 10 ส่วนที่เหลืออีกสี่ตน อยู่ในขั้น 9
ซูเฉินและอู๋หยาจื่อร่วมมือกัน ระเบิดพลังปานสายฟ้าฟาด สังหารพวกมันสิ้นซากในลมหายใจเดียว
ซูเฉินสามารเก็บเกี่ยวชิ้นส่วน 2,000 กว่าชิ้น ซึ่งเกินความต้องการของเขา หลังจากแลกเปลี่ยนเป็นแต้มพลังงานแล้ว จำนวนแต้มทั้งหมดที่มีก็เกิน 7,000 แต้ม
เขาไม่รอช้า แลกเปลี่ยนมันกับชิ้นส่วน [คุณสมบัติเลเวล 9 อย่างเต็มรูปแบบ] ทะยานขึ้นเป็นผู้ฝึกตนทุกอาชีพขั้น 9 เต็มตัว
เวลานี้ ซูเฉินได้ลิ้มรสความหอมหวาน เขาตัดสินใจแล้ว ไม่ว่าหลีกุยหยางจะร่วมมือกับเขาหรือไม่ แต่พวกต่างเผ่าในดินแดนที่ถูกทอดทิ้งเหล่านี้ เขาจะไม่ยอมปล่อยพวกมันไปแม้แต่ตัวเดียว!!
…
สามวันต่อมา [รถศึกอัจฉริยะ] ดับเครื่อง จอดห่างเมืองเทียนตู้ไม่กี่ร้อยเมตร
เมืองเทียนตู้แม้ชื่อฟังดูเหมือนเมืองใหญ่ แต่สิ่งที่ปรากฏขึ้นตรงหน้าเขา เป็นแค่เมืองธรรมดา
เดิมซูเฉินคิดว่าคงถูกชาวครึ่งออร์คหลอกเอาอีกแล้ว อย่างไรก็ตาม หลังจากตรวจสอบผ่านหน้าจอควบคุมส่วนกลาง ก็สังเกตเห็นว่ามีเสมือนเทวะอยู่ข้างในจริงๆ เขาเลยเชื่อว่านี่คือเมืองเทียนตู้
จากนั้น เขาลงมือสังหารชาวครึ่งออร์คขั้น 10 อย่างไร้ปราณี นำทุกคนเข้าสู่ [มิติสันโดษ] เก็บ [รถศึกอัจฉริยะ] ใส่ถุงเก็บของ สุดท้ายแฝงตัวมุ่งหน้าไปทางสถานที่ที่เสมือนเทวะผู้นี้อยู่
6/10
Ep.752
ใช้เวลากว่าครึ่งชั่วโมง ซูเฉินถึงสามารถแฝงตัวเข้ามาในลานบ้านได้สำเร็จ
สถานที่แห่งนี้คือที่อยู่ของเสมือนเทวะผู้นั้น
แต่สิ่งที่ทำให้ซูเฉินต้องประหลาดใจก็คือ บริเวณลานบ้านกลับไม่มียามเลยแม้แต่คนเดียว
ไม่ทราบว่านี่เป็นเพราะอีกฝ่ายไม่หวาดกลัวสิ่งใด หรือเตรียมการมาดีแล้วกันแน่
ซูเฉินยืนอยู่ในลานบ้าน กวาดสายตามองสำรวจรอบๆอย่างตั้งใจ ขณะที่เขากำลังจะเดิเข้าไปในห้องๆหนึ่ง เสียงอันน่าเกรงขามก็ดังขึ้นในหูเขา
“แอบเข้ามาในคฤหาสน์ของข้า ขอยอมรับว่าเจ้ามีความกล้าไม่เลว”
ซูเฉินตระหนักได้ทันที ว่าเขาถูกจับได้ซะแล้ว
อย่างไรก็ตาม เจ้าตัวไม่สนใจ จุดประสงค์ของการมาที่นี่ก็เพื่อหลีกุยหยางอยู่แล้ว ไม่ช้าก็เร็วยังไงต้องพบกัน
“ที่กำลังพูดอยู่ เป็นท่านอาวุโสหลีกุยหยางใช่หรือไม่?”
ซูเฉินมองไปทางห้องเบื้องหน้า เปล่งเสียงสวนกลับไป
ข้างในห้องเงียบไปพักหนึ่ง ก่อนส่งเสียงดังขึ้นอีกครั้ง
“เป็นข้าเอง เข้ามาคุยกันก่อนเถิด”
“ขอบพระคุณผู้อาวุโส”
ซูเฉินตอบรับ ตรงเข้าไปในห้องทันที
ภายในห้อง ปรากฏร่างผอมบางยืนอยู่ ผิวหนังทุกส่วนของเขาเหี่ยวย่น คนผู้นี้ มิใช่ใครอื่น เป็นหลีกุยหยาง
เมื่อซูเฉินเข้ามา หลีกุยหยางกวาดสายตาสำรวจมอง ถามว่า “เจ้าคงมาจากภายนอกดินแดนที่ถูกทอดทิ้งใช่ไหม”
“เป็นอย่างที่ท่านว่า”
ซูเฉินไม่ได้ปิดบังอะไร
หลีกุยหยางพยักหน้าเล็กน้อย ก่อนเอ่ยต่อด้วยน้ำเสียงเคร่งเครียด “ว่ามาเถอะ เจ้ามาที่นี่มีเป้าหมายอะไร”
“ผมมาที่นี่เพื่อทำข้อตกลงกับผู้อาวุโส” ซูเฉินกล่าวอย่างตรงไปตรงมา
ข้อตกลง?
หลีกุยหยางหรี่ตา ใช้สายตาประเมินซูเฉินอีกครั้ง ก่อนที่มุมปากเขาจะผุดรอยยิ้ม “ว่าต่อสิ”
“ข้อตกลงมีอยู่ด้วยกันสองข้อ มาเริ่มจากข้อแรกกันก่อน”
ซูเฉินกระแอมในลำคอ ค่อยๆพูดอย่างช้าๆ
“ข้อแรกค่อนข้างง่าย ผมต้องการใช้อาหารแลกเปลี่ยนกับหินพลังงานขั้น 8 ของผู้อาวุโส”
พอได้ยินว่ามีอาหาร ดวงตาของหลีกุยหยางเปล่งประกายขึ้นทันใด
ในดินแดนที่ถูกทอดทิ้ง อาหารมีความสำคัญยิ่งกว่าทรัพยากรฝึกตนซะอีก
เพราะถ้าไม่มีอะไรกิน ไม่ช้าก็เร็วคุณจะอดตาย ต่อให้มีระดับสูงถึงเสมือนเทวะ ก็หลีกหลายข้อเท็จจริงนี้ไม่ได้เช่นกัน
ขณะที่หากไม่มีทรัพยากรฝึกตน อย่างมากที่สุดก็แค่ฐานฝึกตนไม่ก้าวหน้าเท่านั้น
นั่นเป็นเหตุผลที่ว่าทำไม ของอย่างแรกจึงสำคัญกว่าอย่างหลัง
“เจ้าสามารถแลกเปลี่ยนอาหารได้เท่าไหร่?” หลีกุยหยางถามด้วยน้ำเสียงร้อนรน
“ไม่ทราบผู้อาวุโสมีหินพลังงานขั้น 8 กี่ก้อน?” ซูเฉินถามกลับ
ดั่งวลีคุณจะได้รับในสิ่งที่คุณจ่าย ยิ่งจำนวนหินพลังงานขั้น 8 มีมากเท่าไหร่ ซูเฉินก็จะยิ่งให้อาหารเขามากเท่านั้น ในทางกลับกัน ถ้ามีน้อยเขาก็ให้น้อย
“ข้ามีแค่ 3 ก้อนเท่านั้น” หลีกุยหยางตอบอย่างไม่ลังเล
ซูเฉินรู้สึกผิดหวังเล็กน้อย ทอดถอนหายใจแล้วกล่าวว่า “ถ้ามีแค่ 3 งั้นผมให้ท่านได้แค่เนื้อสัตว์กลายพันธุ์ 3 ตัว”
หากเป็นข้างนอก ต่อให้แลกเปลี่ยนด้วยเนื้อสัตว์กลายพันธุ์ 300 ตัว ก็ยังเทียบไม่ได้กับหินพลังงานขั้น 8 สามก้อน
กระนั้น ในดินแดนที่ถูกทอดทิ้งน่ะต่างออกไป จากการสังเกตในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา รวมกับข้อมูลจากปากชาวครึ่งออร์ค
เขาสามารถมั่นใจได้ ว่าเนื้อของสัตว์กลายพันธุ์หนึ่งตัว มีค่าพอที่จะสามารถแลกเปลี่ยนหินพลังงานขั้น 8 หนึ่งก้อนได้จริงๆ
และซูเฉินเชื่อว่าหลีกุยหยางต้องเห็นด้วยอย่างแน่นอน
หลีกุยหยางครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง ทันใดนั้นประกายคมชัดสะท้อนวาบในแววตาเขา ก้าวเดินเข้าหาซูเฉิน เอ่ยเสียงแผ่วเบาราวกระซิบ “เจ้าน่าจะมีฐานฝึกตนต่ำกว่าขั้น 10 ถูกไหม?”
“ผมเพิ่งตัดผ่านขั้น 9 ได้เมื่อเร็วๆนี้” ซูเฉินกล่าวอย่างเป็นธรรมชาติ
ขั้น 9 งั้นหรอ? แถมเพิ่งตัดผ่านได้ไม่นาน?
หลีกุยหยางยกมือขึ้นลูบคาง หัวเราะเบาๆ “ในเมื่อเจ้ารู้ชื่อข้า เช่นนั้นก็น่าจะรู้ถึงความแข็งแกร่งของข้าด้วยถูกไหม”
ซูเฉินเป็นแค่ขั้น 9 แต่กล้ามาคนเดียว เอ่ยปากขอทำข้อตกลงแลกเปลี่ยนกับเขา อีกทั้งท่าทียังดูมั่นใจ ไม่หวาดกลัวสิ่งใด ตรงจุดนี้ทำให้เขารู้สึกเหลือเชื่อนัก
“ผู้อาวุโสคือเสมือนเทวะ เรื่องนี้ผมรู้อยู่ก่อนแล้ว” ซูเฉินตอบด้วยสีหน้าเรียบเฉย