749-750
3/10
Ep.749
“เป็นแบบนี้นี่เอง” ซูเฉินเข้าใจขึ้นมาทันที
มีผู้ฝึกตนหลายคนเหมือนกัน ที่เมื่อใกล้สิ้นอายุขัย แต่เพื่อความอยู่รอด พวกเขาไม่ลังเลเลยที่จะเปลี่ยนตัวเองให้กลายเป็นซอมบี้
ขนาดยอมกลายเป็นซอมบี้ยังมี ฉะนั้นเรื่องการเข้ามายังดินแดนที่ถูกทอดทิ้งด้วยความสมัครใจ เป็นอะไรที่เข้าใจได้
“ในดินแดนที่ถูกทอดทิ้ง มีสัตว์กลายพันธุ์ระดับสูงบ้างไหม?” ซูเฉินถามคำถามที่สำคัญที่สุด
“ผู้อาวุโสหมายถึงสัตว์กลายพันธุ์ขั้นไหน?” ชาวครึ่งออร์คถามหยั่งเชิง
“ขั้น 8 ขึ้นไป” ซูเฉินพูดตรงๆ
“สัตว์กลายพันธุ์ระดับสูงสุดในดินแดนที่ถูกทอดทิ้งอยู่แค่ขั้น 3 เท่านั้น ไม่มีขั้น 8 หรือสูงกว่าอีกแล้ว” ชาวครึ่งออร์คตอบกลับอย่างมั่นใจ
“ไม่มีซักตัวเลยหรือ?”
สีหน้าของซูเฉินเริ่มหนักอึ้ง
ไม่มีสัตว์กลายพันธุ์ขั้น 8 งั้นก็ไม่มีทางได้รับหินพลังงาน หรือก็คือไม่มีทางออกไปจากสถานที่แห่งนี้ได้
และนั่นคือสิ่งที่เขาไม่ต้องการจะเห็น
อย่างไรก็ตาม เนื่องจากมีแมลงสัตว์ร้ายขั้น 7 อยู่ที่นี่ งั้นทำไมถึงไม่มีสัตว์กลายพันธุ์ระดับสูงตัวอีกแม้แต่ตัวเดียวเล่า?
ซูเฉินยังคงถามต่อไปว่า “ที่นี่ไม่เคยมีสัตว์กลายพันธุ์ขั้นสูงอาศัยอยู่มาก่อนเลยหรือ?”
“ก่อนหน้านี้ก็มีอยู่ไม่น้อย ยังไงก็ตาม เมื่อผู้คนเริ่มเดินทางเข้าสู่ดินแดนที่ถูกทอดทิ้งมากขึ้นเรื่อยๆ อาหารในที่นี้ก็เริ่มขาดแคลน สัตว์กลายพันธุ์เหล่านั้นจึงถูกล่า โดนจับไปทำเป็นอาหารหมดแล้ว” ชาวครึ่งออร์คอธิบาย
ได้ยินแบบนั้น ดวงตาของซูเฉินเปล่งประกายขึ้นทันที
เพราะหลังจากที่สัตว์กลายพันธุ์ถูกฆ่า แน่นอนว่าต้องมีหินพลังงาน และพวกที่ตายไป อาจมีหินพลังงานขั้น 8 รวมอยู่ด้วย
“มีหินพลังงานขั้น 8 อยู่ในดินแดนที่ถูกทอดทิ้งรึเปล่า?” ซูเฉินถามต่อ
“มี แต่ปริมาณน้อยมาก และทั้งหมดที่ว่าอยู่ในมือของผู้แข็งแกร่งสูงสุดทั้งสาม” ชาวครึ่งออร์คตอบอย่างรวดเร็ว
ผู้แข็งแกร่งสูงสุด?
สูงสุดที่ว่านั่นขั้นไหนกัน?
ถึงจุดนี้ ซูเฉินเริ่มตระหนักถึงปัญหาร้ายแรง เพราะท้ายที่สุดแล้ว สถานที่แห่งนี้ไม่ใช่ทวีปแผ่นดินใหญ่ –คงไม่มีระดับเทวะอาศัยอยู่หรอกนะใช่ไหม?
ด้วยความแข็งแกร่งในปัจจุบันของเขา อย่างมากสุดสามารถสู้ได้กับเสมือนเทวะ หากเป็นระดับเทวะ ไม่สามารถเอาชนะได้อย่างแน่นอน
ถ้าหินพลังงานขั้น 8 อยู่ในมือของระดับเทวะ เกรงว่าคงเป็นปัญหาใหญ่แล้ว!
คิดถึงเรื่องนี้ ซูเฉินเอ่ยถามอย่างร้อนรนว่า “ผู้แข็งแกร่งสูงสุดที่แกพูดถึง พวกเขาอยู่ในระดับไหน?”
“เหนือกว่าขั้น 10 แต่ยังไม่ถึงระดับเทวะ” ชาวครึ่งออร์คตอบ
“ถ้างั้นก็เป็นเสมือนเทวะ” ซูเฉินถอนหายใจโล่งอก
หากเป็นเสมือนเทวะ เขากับอู๋หยาจื่อผนึกกำลังกัน ย่อมสามารถไล่สังหารได้ทีละตน
แน่นอน เว้นแต่ว่านั่นจะเป็นทางเลือกสุดท้าย เขาไม่อยากจะทำมัน
เพราะท้ายที่สุดแล้ว เสมือนเทวะคือผู้แข็งแกร่งสูงสุดของที่นี่ นั่นหมายความว่าจะต้องมีผู้ฝึกตนขั้น 10 จำนวนมากอยู่ใต้อาณัติ
หากพวกมันแห่กันเข้ามาปิดล้อม ต่อให้เป็นซูเฉินกับอู๋หยาจื่อร่วมมือกัน ก็มิอาจต้านทานได้
“บอกข้อมูลของผู้แข็งแกร่งสูงสุดทั้งสามให้ฟังอย่างละเอียดซิ” ซูเฉินถามเสียงขรึม
ชาวครึ่งออร์คกล่าวอย่างช้าๆ “หลีกุยหยางแห่งเมืองเทียนตู้ , หูจวิ้นแห่งเมืองไป่ตี้ สุดท้าย ฮันห่าวหยางแห่งหุบเขากุ้ยหยาง”
ซูเฉินจดจำทีละคน แล้วถามอีกครั้งว่า “พวกเขามาจากเผ่าพันธุ์ไหนบ้าง?”
“หลีกุยหยางเป็นเผ่ามนุษย์ , หูจวิ้นเป็นเผ่าปีศาจราตรี , ฮันห่าวหยางเป็นเผ่ามายา” ชาวครึ่งออร์คตอบตามความจริง
“ที่แท้หนึ่งในนั้นก็มีเผ่ามนุษย์รวมอยู่ด้วย?”
หัวใจของซูเฉินเริ่มเต้นแรง เพราะหากคิดทำข้อตกลง เป็นธรรมดาที่จะเลือกทำกับเผ่าพันธุ์เดียวกัน
“ในสามฝ่ายนี้ ขุมกำลังไหนแข็งแกร่งที่สุด?” ซูเฉินถามแล้วถามอีก
“เดิมเมืองเทียนตู้แข็งแกร่งที่สุด แต่ตอนนี้พวกเขาถูกกดดันจากการร่วมมือกันของเมืองไป่ตี้กับหุบเขากุ้ยหยาง ตกอยู่ในสถานการณ์ล่อแหลม” ชาวครึ่งออร์คขบคิดแล้วตอบ
ได้ยินแบบนั้น สมองซูเฉินเริ่มปั่นความคิด
เมืองเทียนตู้ตกอยู่ในสภาวะวิกฤติ หากเขาขอร่วมมือ ก็มีความเป็นไปได้สูงที่จะพลิกสถานการณ์ ตอบโต้เมืองไป่ตี้กับหุบเขากุ้ยหยางแทนได้
เมืองไป่ตี้และหุบเขากุ้ยหยางล้วนเป็นขุมกำลังของพวกต่างเผ่า หากสังหารพวกมันทั้งหมด คงดรอปชิ้นส่วนได้เป็นจำนวนมหาศาล
คิดได้แบบนี้ ซูเฉินตัดสินใจทันที ว่าเขาจะร่วมมือกับหลีกุยหยาง
4/10
Ep.750
“แกพอจะรู้ตำแหน่งของเมืองเทียนตู้ไหม?” ซูเฉินถามเบาๆ
“ข้ารู้” ชาวครึ่งออร์คพยักหน้าตอบ
“งั้นก็ช่วยนำทางที พาพวกเราไปยังเมืองเทียนตู้”
ซูเฉินหิ้วชาวครึ่งออร์คขึ้นรถ
หลังจากนั้น ภายใต้คำแนะนำของชาวครึ่งออร์ค [รถศึกอัจฉริยะ] ขับตรงดิ่งไปทิศทางเดียว
ใช้เวลาประมาณครึ่งชั่วโมง ก็ปรากฏหมู่บ้านเล็กๆขึ้นเบื้องหน้า สภาพของมันดูทรุดโทรมมาก
“ที่นี่คงไม่ใช่เมืองเทียนตู้หรอกมั้ง? นี่แกจงใจล่อพวกเรามาใช่ไหม?”
ซูเฉินหรี่ตาลง จับจ้องชาวครึ่งออร์คด้วยแววตาเย็นยะเยือก
“เจ้านาย! ตรวจพบชาวครึ่งออร์ค 7 ตนอยู่ในหมู่บ้าน ในบรรดาพวกมัน มีผู้ฝึกตนขั้น 9 สี่ตน ผู้ฝึกตนขั้น 10 สามตน และทั้งหมดกำลังมุ่งหน้ามาหาพวกเรา” [รถศึกอัจฉริยะ] แจ้งเตือน
ได้ยินแบบนั้น ซูเฉินก็เข้าใจในทันที ว่าจุดประสงค์ของชาวครึ่งออร์คที่ถูกจับตัวมานั้นชัดเจน –มันแค่ต้องการตามหาพรรคพวกเพื่อขอความช่วยเหลือ!
ผู้ฝึกตนทั้งเจ็ดล้วนอยู่ในขั้น 9 ขึ้นไป ด้านกำลังรบถือว่าแข็งแกร่งมาก และซูเฉินไม่กล้าประมาท หันมาหาอู๋หยาจื่อ แล้วถามว่า “ผู้อาวุโส ท่านสามารถใช้พลังสูงสุดในที่นี้ได้ไหม?”
อู๋หยาจื่ออยู่ในระดับเสมือนเทวะ หากเขาลงมือได้อย่างเต็มที่ การสังหารขั้น 10 ซักสามคนก็ไม่น่าจะใช่เรื่องยากเกินไป
“วางใจเถอะ เรื่องนั้นไม่มีปัญหา” อู๋หยาจื่อหัวเราะ
ซูเฉินรู้สึกโล่งใจ หิ้วชาวครึ่งออร์คก้าวลงจากรถพร้อมอู๋หยาจื่อ
ชาวครึ่งออร์คทั้งเจ็ดดาหน้าเข้ามา เมื่อเห็นสมาชิกเผ่าถูกจับ ก็ร้องตะโกนขึ้นทันใด “มนุษย์! รีบปล่อยคนของพวกเราเดี๋ยวนี้! ไม่งั้นข้าจะทำให้เจ้าต้องตายทั้งเป็น!”
“ฮ่า ฮ่า ฮ่า ..! พรรคพวกของข้ามีผู้ฝึกตนขั้น 10 อยู่ด้วยถึงสามตน รู้แบบนี้แล้วยังไม่รีบปล่อยข้าไปอีก!”
ชาวครึ่งออร์คที่ถูกซูเฉินหิ้วตามลงมา หลังจากหัวเราะเยาะเย้ยเขา มันก็เอ่ยปากขู่อย่างไม่หวั่นเกรง
ในความคิดของมัน แม้ซูเฉินจะแข็งแกร่งมาก แต่มากสุดก็คงไม่เกินขั้น 9 เท่านั้น แล้วแบบนี้จะเป็นคู่ต่อสู้ของผู้ฝึกตนขั้น 10 ถึงสามตนได้อย่างไร?
สำหรับคนในรถ กลิ่นอายของพวกเขาอ่อนแอมาก ไม่มีใครอยู่ในขั้น 9 ไม่จำเป็นต้องสนใจ
ซูเฉินถูจมูกเขา เหวี่ยงชาวครึ่งออร์คลงกับพื้นอย่างแรง แล้วกระทืบกะโหลกมันแหลกคาเท้า!
ด้วยอุปนิสัยของเขา พวกที่กล้ามาข่มขู่ ย่อมไม่พบจุดจบที่ดี
ชาวครึ่งออร์คตนนี้ที่เพิ่งถูกสังหารไป เป็นตัวอย่างที่ดี
“ไอ้สารเลว! เจ้ามันแส่หาที่ตาย!”
ชาวครึ่งออร์คที่เหลือโกรธจัด แหกปากปรี่เข้าสังหารซูเฉิน
“ผู้อาวุโสอู๋ รบกวนปล่อยให้พวกมันรอดชีวิตไว้สักตัวหนึ่ง”
ซูเฉินเอ่ยเสียงกระซิบ จากนั้นตรงเข้าสังหารชาวครึ่งออร์คขั้น 9 ทั้งสี่ตน ส่วนขั้น 10 ที่เหลือมอบให้อู๋หยาจื่อ
“ไม่มีปัญหา”
อู๋หยาจื่อหัวเราะเบาๆ กลิ่นอายบนร่างเขาพุ่งทะยานขึ้นอย่างรวดเร็ว เมื่อมันพุ่งถึงขีดสุด หมัดหนึ่งก็ถูกชกออกไปจากระยะไกล
พริบตานั้นเอง กระแสดาราทอประกายระยิบระยับพัดผ่านเบื้องหน้า ชาวครึ่งออร์คขั้น 10 ทั้งสามตนสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายของอู๋หยาจื่อ ต้องสั่นสะท้านไปทั้งตัว
ณ เวลานี้พวกมันตระหนักได้อย่างชัดเจน ว่าชายชราร่างเตี้ยที่ลงมือ คือยอดฝีมือระดับเสมือนเทวะ
ซึ่งแม้ขั้น 10 กับระดับเสมือนเทวะจะห่างกันแค่ก้าวเดียว ทว่ามันคือความห่างชั้นชนิดฟ้ากับเหว ช่องว่างแตกต่างกันมากเกินไป
“ผู้อาวุโส โปรดไว้ชีวิตพวกเราด้วย!”
เผชิญกับการจู่โจมของระดับเสมือนเทวะ สามชาวครึ่งออร์คขั้น 10 ไม่เหลือความคิดที่จะต่อต้าน ร้องอ้อนวอนขอความเมตตาเสียงดัง
อู๋หยาจื่อไม่หวั่นไหว ควบคุมกระแสคลื่นดาราโถมเข้าบดขยี้ ชาวครึ่งออร์คขั้น 10 สองตัวแรกถูกทำลายเป็นผุยผง ตนสุดท้ายแม้ยังไม่ตาย แต่ก็ถูกทำร้ายได้รับบาดเจ็บสาหัส ล้มฟุบลงกับพื้น สูญเสียความสามารถในการต่อสู้
“ปรมาจารย์อู๋หยาจื่อแข็งแกร่งขนาดนี้เชียว!?”
ทุกคนบนรถศึกต่างตื่นตะลึง
ในตอนแรก พวกเขาคิดว่าอู๋หยาจื่อเป็นแค่ผู้ฝึกตนขั้น 10
แต่หลังจากที่อู๋หยาจื่อลงมือเมื่อครู่ ทั้งหมดก็ตระหนักได้ ว่าอู๋หยาจื่อไม่ใช่อะไรง่ายดายอย่างผู้ฝึกตนขั้น 10 อย่างแน่นอน