ระบบทักษะพลิกชีวิต - ตอนที่ 5 ได้ผลดีมาก
ตอนที่ 5 ได้ผลดีมาก
“ลุงหวังครับ ลองชิมยาหม้อนี่ดูสิครับ แล้วดูว่าอาการไอของลุงจะดีขึ้นมั๊ย?”
เย่โม่ที่สัมผัสได้ถึงความสำเร็จของตัวเอง และไม่อาจนิ่งเฉยต่อไปได้ จึงรีบนำยาปี่แป่หยกน้ำค้างมาทั้งที่ยังอยู่ในกา และรีบเดินมาที่บ้านของลุงหวังซึ่งอยู่ข้างๆทันที
ทั้งสองครอบครัวค่อนข้างสนิทสนมกันมาก ทันทีที่เย่โม่ก้าวเดินเข้าไปด้านใน ก็พบลุงหวังกับป้าหลี่ภรรยาของเขากำลังนั่งหยอกเย้ากันอยู่ข้างในพอดี
แต่เมื่อป้าหลี่เห็นเย่โม่ผลุนผันเข้ามา เธอจึงรีบผลักร่างของสามีออกห่างทันที พร้อมกับร้องทักทายเย่โม่
“อ้าวเย่โม่ มีธุระอะไรเหรอจ๊ะ?”
“ห๊ะ?!”
ลุงหวังร้องอุทานออกมาพร้อมกับหันไปมองทันที แต่แล้วยังไม่ทันที่เย่โม่จะได้พูดอะไร เขาก็รีบร้องถามขึ้นว่า
“อ้าวโม่! มาถึงที่นี่คงตั้งใจจะมาหาลุงสินะ?”
ระหว่างที่ร้องบอกเย่โม่นั้น เขาก็ได้ขยิบตาให้เด็กหนุ่มด้วย เย่โม่เองก็เข้าใจภาษากายของลุงหวังได้ในทันที เห็นได้ชัดว่า ลุงหวังไม่ได้บอกเรื่องที่เอาเงินมาให้เขายืมกับป้าหลี่ เขาตั้งใจปิดบังป้าหลี่จึงต้องรีบส่งสัญญาณให้เย่โม่อย่าพูดเรื่องนี้ออกมา
“ลุงหวังครับลองดื่มยาต้มนี้ดูสิครับ!”
เย่โม่ยิ้ม พร้อมกับยื่นมืออีกข้างออกมาเปิดฝากาทันที
ลุงหวังดมกลิ่นอยู่สองสามครั้ง ก็ขยิบตาให้กับเย่โม่พร้อมกับพูดขึ้นว่า “นี่มันอะไรกัน กลิ่นหอมมากเลย!”
เย่โม่เอ่ยตอบด้วยสีหน้าจริงจัง “อย่าเพิ่งถามเลยครับ ดื่มเข้าไปก่อน ยาต้มนี่จะช่วยรักษาอาการไอเรื้อรัง แล้วก็โรคปอดที่เป็นมานานของลุงให้หายได้!”
ลุงหวังทำสีหน้าประหลาดใจ ก่อนจะยิ้มกว้างพร้อมตอบกลับไปว่า “โอโหหลานชาย เธอนี่ช่างมีน้ำใจจริงๆเลยนะ เอาล่ะๆ ฉันขอลองก่อนนะว่าจะได้ผลดีมากแค่ไหน?”
หลังจากพูดจบ ลุงหวังก็ได้รับกามาจากมือของเย่โม่ ก่อนจะรินลงใส่ปากตัวเองทันที
“ตาหวัง นี่ทำอะไร?”
ป้าหลี่ที่เห็นลุงหวังยอมดื่มยาต้มของเย่โม่ง่ายๆแบบนั้น ก็รีบร้องตะโกนออกมาเสียงดังทันที เธอยื่นมือออกไปคว้ากาน้ำใบนั้นมา พร้อมกับพูดขึ้นด้วยสีหน้าเคร่งเครียด
“ยังไม่รู้ว่าเป็นยาอะไรก็จะดื่มซะแล้ว ระวังเถอะจะตายไม่รู้ตัว! จะไปเชื่อเด็กนั่นได้ยังไง เด็กหนุ่มซื่อบื้อแบบนั้นจะรู้จักปรุงยาต้มรักษาคนเจ็บคนป่วยได้ยังไงกัน?”
แต่หลังจากหลุดปากพูดออกไปแล้ว ป้าหลี่ก็ได้แต่ชะงักไปเล็กน้อย แล้วจึงหันไปพูดกับเย่โม่ว่า “โม่! อย่าถือสาป้าเลยนะ ป้าเป็นคนพูดตรงๆ เธอนอนรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลตั้งหลายเดือนแบบนั้น ฉันจะสบายใจให้สามีดื่มยาที่เธอต้มได้ยังไง?”
“อีกอย่าง ปอดทั้งสองข้างของลุงหวังก็มีปัญหามาหลายปีแล้ว ขนาดหมอในโรงพยาบาลยังบอกว่ายากที่จะรักษาให้หายได้เลย แล้วยาต้มของเธอจะสามารถรักษาโรคของลุงหวังได้ยังไงกัน?”
“เอ๊ะ?! หรือว่าป้าเจียงหมินของเธอให้เธอใช้วิธีนี้มายืมเงินพวกเรา?”
หลังจากเอ่ยถามออกไป ป้าหลี่ก็จ้องมองเย่โม่ด้วยสีหน้าแววตาระแวงสงสัย
“ฮ่าๆๆ ป้าหลี่ครับ ป้าคิดมากเกินไปแล้ว!”
เย่โม่ร้องบอก และเมื่อเห็นว่าเธอคลางแคลงใจในยาต้มของตนเอง เย่โม่จึงได้อธิบายให้เธอฟังด้วยสีหน้าสงบนิ่ง
“นี่คือยาปี่แป่หยกน้ำค้าง ผมนำผลปี่แป่มาต้อมกับฝูหลิงและส่วนผสมอื่นๆ รับรองได้ว่าสสามารถรักษาอาการไอเรื้อรังของลุงหวังได้ชะงักแน่ครับ แล้วก็ยังสามารถช่วยรักษาโรคปอดของลุงได้ด้วย!”
ป้าหลี่ยังคงต้องการที่จะโต้แย้งอีก แต่ลุงหวังกลับแย่งกาน้ำไปจากมือของเธอ พร้อมกับจ้องมองหน้าภรรยาด้วยสีหน้าที่บ่งบอกว่าเริ่มอารมณ์ไม่ดี
“เอามานี่ มัวแต่พล่ามอยู่ได้!”
หลังจากพูดจบแล้ว เขาก็เงยหน้าขึ้นพร้อมกับค่อยๆ รินยาต้มในกาลงไปในปากสองสามอึก แต่เป็นเพราะรีบร้อนดื่มจนเกินไป จึงได้สำลักออกมาพร้อมกับไออย่างรุนแรง ลุงหวังไออยู่นานจนหน้าซีดหน้าเซียว ดูแล้วน่ากลัวอย่างมากเลยทีเดียว!
ป้าหลี่เห็นเข้าก็รีบตรงเข้าไปช่วยลูบแผ่นหลังของสามี ปากก็ตวาดใส่เย่โม่เสียงดัง “เห็นมั๊ยล่ะ เป็นความผิดของเธอแท้ๆเชียว!”
“หุบปากซักทีได้มั๊ย?”
เมื่อลุงหวังเห็นภรรยาของตนดุเย่โม่ไปแบบนั้น เขาก็หันไปตวาดภรรยาด้วยความโมโห เสียงของลุงหวังดังลั่นกว่าทุกๆครั้ง จนกระทั่งป้าหลี่ถึงกับตกใจกลัวจนตัวสั่น และแข้งขาแทบอ่อนทรุดลงไปกองกับพื้น
ลุงหวังเองก็ตกใจกับเสียงดังสนั่นกึกก้องของตัวเอง ที่ผ่านมา เขาไม่เคยสามารถพูดจาได้เสียงดังเช่นนี้มาก่อนเลย พูดไปได้สองสามคำก็ต้องไอแค๊กๆ เป็นอย่างนี้มาตลอด นับตั้งแต่เขาไปทำงานในเหมืองถ่านนั้น เขาก็จำไม่ได้อีกเลยว่า ตัวเองเคยพูดจาราบรื่นปราศจากเสียงไออีกตั้งแต่เมื่อไหร่
แต่ตอนนี้ หลังจากที่เขาดื่มยาต้มของเย่โม่เข้าไปเพียงแค่สองสามคำ กลับสามารถร้องตะโกนเสียงดังได้กว่าเดิม และยังไม่มีอาการไอขัดขึ้นมาเหมือนทุกครั้งอีกด้วย
ลุงหวังได้แต่ก้มลงสำรวจยาที่อยู่ในกาอย่างละเอียด ก่อนจะกรอกใส่ปากอีกสองสามอึก เพราะรสชาติหอมหวานของมันนั้น ทำให้เขาหยุดที่จะดื่มไม่ได้จริงๆ
ไม่เพียงแค่อาการไอที่หายใจ เขายังสามารถสัมผัสได้ว่า ลมหายใจของตนเองนั้นดูเหมือนจะราบรื่นขึ้นมาก และยิ่งเขาดื่มเข้าไปมากเท่าไหร่ ก็ดูเหมือนร่างกายจะมีพลังมากขึ้นเท่านั้น!
ลุงหวังหันไปมองเย่โม่ด้วยสีหน้าประหลาดใจ พร้อมกับร้องถามขึ้นว่า “โม่! นี่มันยาอะไรเหรอ? หลังจากที่ได้ดื่มเข้าไป ลุงรู้สึกเหมือนกับว่าลำคอและปอดของตัวเองได้รับการชำระล้างครั้งใหญ่ มันรู้สึกสบายอย่างบอกไม่ถูก อาการไอที่เคยเป็นหายไปเลย มิหนำซ้ำเสมหะในลำคอที่เคยมีมาก ก็กลับกลายเป็นไม่มีไปแล้ว!”
เย่โม่ยกมือขึ้นเกาศรีษะพร้อมตอบกลับไปว่า “นี่เป็นสูตรยาของคุณปู่ครับลุงหวัง ตอนเด็กๆ คุณปู่เคยท่องให้ผมฟังประจำ ผมก็เลยจำขึ้นใจครับ!”
ปู่ของเย่โม่นั้นเป็นหมอยาที่มีชื่อเสียงอยู่เมืองใกล้ๆ เรียกได้ว่า เขาได้ศึกษาเรื่องการแพทย์มาตั้งแต่ยังเด็ก และกลายเป็นแพทย์ที่เชี่ยวชาญตั้งแต่ยังหนุ่ม ชื่อเสียงทางด้านการแพทย์ของปู่เขานั้น โด่งดังไปถึงเมืองรอบข้างที่อยู่ใกล้ๆกับจินหม่าด้วย
ในสมัยที่เย่โม่ยังเด็ก เขาเองก็ได้เคยเรียนรู้เรื่องสมุนไพรมาจากปู่ไม่น้อย แต่น่าเสียดายที่ปู่ของเขานั้นได้รับอุบัติเหตุเสียชีวิต จึงยังไม่มีโอกาสถ่ายทอดความรู้ และทักษะทางการแพทย์ทั้งหมดให้กับเขาได้
อีกอย่าง เขาเองก็เป็นเพียงแค่เด็กนักเรียนอายุสิบแปดปีเท่านั้น มิหนำซ้ำยังต้องมานอนพักรักษาตัวด้วยอาการโคม่าอยู่ในโรงพยาบาลอีกหลายเดือนด้วย จู่ๆฟื้นขึ้นมาจะมีทักษะทางการแพทย์ที่สามารถรักษาผู้คนได้ยังไงกัน
ด้วยเหตุนี้ เย่โม่จึงได้ตัดสินใจใช้ปู่ที่ตายไปแล้วมาเป็นโล่ป้องกันตัว!
“ปู่ของเธอเป็นถึงหมอที่โด่งดังเก่งกาจ มิน่าล่ะ สูตรยาต้มของเขาถึงได้มีประสิทธิภาพล้ำเลิศแบบนี้!” ลุงหวังได้แต่เอ่ยชมจากใจจริง
ป้าหลี่เองก็ได้แต่พึมพำออกมาด้วยสีหน้างุนงง “นึกไม่ถึงว่าหลานชายจะสามารถปรุงยาได้จริงๆ!”
“ต่อไปก็อย่าพูดจาไร้สาระอีก ตอนนี้เห็นรึยังว่าฉันไม่ไออีกแล้ว!” ลุงหวังอดที่จะหันไปดุภรรยาอีกครั้งไม่ได้
ป้าหลี่ได้แต่หันไปมองเย่โม่ด้วยสีหน้าแววตาที่ไม่อยากจะเชื่อ ก่อนจะพูดกับเขาด้วยสีหน้ากระอักกระอ่วนใจ
“หลานชาย เมื่อครู่.. ป้า..”
เย่โม่กำลังดีอกดีใจที่ประสบความสำเร็จ มีหรือที่เขาจะโกรธป้าหลี่ จึงได้รีบยกมือขึ้นโบกมไปมาพร้อมกับร้องบอกไปว่า
“ป้าหลี่ครับ ไม่เป็นไรครับ ขอเพียงแค่ลุงหวังหายก็ดีแล้วครับ พรุ่งนี้ผมจะส่งยามาให้ลุงหวังอีกหม้อนะครับ!”
หลังจากนั้น เย่โม่ก็เดินกลับมาที่บ้านของตัวเอง และเมื่อนึกถึงผลลัพธ์ของสูตรยาปี่แป่หยกน้ำค้างแล้ว เขาก็อดที่จะนึกอัศจรรย์ใจไม่ได้
“มันสุดยอดมากจริงๆ! แต่นี่เป็นสูตรเข้มข้น ถ้าจะทำออกไปขายจริงๆ ฉันคงต้องเติมน้ำเปล่าเพื่อให้ยาเจือจางกว่านี้!”
หลังจากนั้น เย่โม่ก็เริ่มต้มยาหม้อที่สอง ที่เขาเติมน้ำเข้าไปนั้น ก็เพื่อให้ฤทธิ์ยาเจือจางลง แทนที่คนไข้จะกินหม้อเดียวแล้วหาย ก็ต้องกินเพิ่มเป็นหม้อที่สอง และหม้อที่สาม แต่จะค่อยๆดีขึ้นอย่างแน่นอน!
จนกระทั่งดึกดื่น เจียงหมิงกับเย่เจี้ยนกัวก็กลับมาบ้านด้วยใบหน้าเคร่งเครียด