ตอนที่ 16 ข่าวคราว
ตอนที่ 16
ข่าวคราว
ปึง ปึง ปึง!!
ในเช้าอันแสนเงียบสงบกลับมีเสียงประตูถูกทุบอย่างต่อเนื่องดังออกมาตั้งแต่เช้า ทว่า..เหล่าชาวบ้านที่อยู่รอบๆกลับไม่ได้ประหลาดใจกับเสียงทุบประตูเท่าไหร่ แต่กลับประหลาดใจเพราะประตูที่ถูกทุบเป็นประตูของบ้านตระกูลหลี่ต่างหาก
ผู้มาทุบประตูเป็นใครมาจากไหนไม่มีใครทราบ แต่สำหรับชาวบ้านในเมืองเมฆาหยกแล้วบ้านตระกูลหลี่เป็นสถานที่ที่ไม่ควรเข้าไปรบกวนที่สุด บางทีเจ้าคนที่กำลังทุบประตูอยู่นั่นอาจจะเบื่อชีวิตแล้วก็เป็นไปได้
“เจ้ามาทุบประตูแต่เช้าเช่นนี้ต้องการอะไรไม่ทราบ”หลังจากอดีตเจ้าสำนักราชาวิญญาณเคาะประตูอย่างต่อเนื่อง ในที่สุดก็มีคนเดินมาเปิดประตูเสียที ทว่าชายที่ออกมาเปิดประตูนั้นกลับอยู่ในชุดของบ่าวรับใช้หาใช่คนตระกูลหลี่แต่อย่างไร
“น้องชายข้าคืออดีตเจ้าสำนักราชาวิญญาณ ฝากเจ้าไปบอกเจ้านายเจ้าได้หรือไม่ว่าข้าอยากจะขอเข้าพบคนของตระกูลหลี่”ทันทีที่ได้พบคนในบ้านตระกูลหลี่ อดีตเจ้าสำนักราชาวิญญาณก็บอกความต้องการของตนอย่างเร่งรีบเพราะการเดินทางมายังเมืองเมฆาหยกใช้เวลานานกว่าที่คิด กลัวว่าบุตรชายจะทนไม่ไหวเสียก่อน
“สำนักราชาวิญญาณ สำนักเล็กๆเช่นนั้นมีสิทธิ์พบนายท่านด้วยงั้นหรือ”แต่ทว่า....คำตอบของบ่าวรับใช้ตระกูลหลี่กลับเป็นการดูถูกสำนักราชาวิญญาณเสียอย่างนั้น เล่นเอาอดีตเจ้าสำนักราชาวิญญาณหน้าชาไปเลย
“เจ้า...เป็นเพียงบ่าวรับใช้จะรู้เรื่องอะไร ไปตามเจ้านายของพวกเจ้ามาเดี๋ยวนี้ นายของพวกเจ้าทำร้ายคนหากไม่ออกมารับผิดชอบข้าจะเอาเรื่องพวกเจ้า”โดนบ่าวรับใช้คนหนึ่งดูถูก อดีตเจ้าสำนักราชาวิญญาณก็ชี้หน้าต่อว่าบ่าวรับใช้ตระกูลหลี่อย่างไม่ไว้หน้าทันที แต่บ่าวรับใช้ผู้นี้ก็ไม่ได้มีท่าทีตกใจไม่ ต่อให้อดีตเจ้าสำนักโจมตีเข้ามาบ่าวรับใช้ผู้นี้ก็ไม่คิดจะหวาดกลัวแม้แต่น้อย
“กังห่าว มีเรื่องอะไรงั้นหรือ”ระหว่างอดีตเจ้าสำนักกำลังต่อว่าบ่าวรับใช้อยู่ที่หน้าประตู ชายวัยกลางคนผู้หนึ่งก็เดินออกมาจากภายในตัวบ้านพอดีและได้ยินเสียงที่อดีตเจ้าสำนักราชาวิญญาณตะโกนใส่กังห่าวบ่าวรับใช้ของบ้านตนอีกด้วย
“ท่านเจ้าบ้าน ชายผู้นี้กล่าวหาว่าคนของเราไปทำร้ายคนและต้องการเรียกร้องความรับผิดชอบขอรับ”กังห่าวตอบพลางประสานคือก้มหัวคารวะอีกฝ่ายอย่างนอบน้อม เรียกได้ว่าท่าทีต่างจากตอนเผชิญหน้ากับอดีตเจ้าสำนักราชาวิญญาณอย่างสิ้นเชิง
“ทำร้ายคน? คนในตระกูลหลี่อยู่ที่บ้านกันหมดไม่มีใครออกไปไหน จะบอกว่าพวกข้าไปทำร้ายคนได้อย่างไร”เจ้าบ้านตระกูลหลี่ หรือ หลี่ซือหาน ขมวดคิ้วด้วยท่าทีประหลาดใจ ตอนนี้เหล่าบุตรหลานตระกูลหลี่เดินทางกลับมายังบ้านตระกูลหลี่กันทั้งหมด ไม่มีใครออกไปไหนเลยเป็นเวลา 2 อาทิตย์แล้ว จะไปทำร้ายคนได้อย่างไร แถมเจ้าคนที่มากล่าวหายังเป็นคนไม่คุ้นตา ไม่น่าใช่คนในเมืองเมฆาหยกเสียด้วยซ้ำ
“บุตรชายของข้าโดนฝ่ามือฝังวิญญาณอันเป็นวิชาของตระกูลท่าน แล้วจะบอกว่าไม่ใช่คนของพวกท่านได้อย่างไร”อดีตเจ้าสำนักว่าพลางหันไปทางลูกน้องที่ตามมาด้านหลัง เมื่ออดีตเจ้าสำนักส่งสัญญาณลูกน้องเหล่านั้นก็แบกเตียงที่มีร่างของเจ้าสำนักนอนอยู่ด้านบนเข้ามาที่หน้าประตูบ้านตระกูลหลี่ทันที
“ท่านเจ้าบ้าน คนของท่านทำร้ายคน ข้ามาก็เพื่อเรียกร้องความเป็นธรรมและการรักษา ท่านเป็นผู้นำตระกูลย่อมต้องมีคุณธรรมใช่หรือไม่”อดีตเจ้าสำนักอ้างเรื่องคุณธรรมเพื่อหวังกดดันให้หลี่ซือหานยอมรักษาบุตรชาย ในเมื่อขอร้องไม่มีทางได้ผลก็ต้องใช้วิธีเช่นนี้ล่ะ
“นี่มัน.....”หลี่ซือหานมองร่างของเจ้าสำนักราชาวิญญาณด้วยท่าทีประหลาดใจ ร่องรอยฝ่ามือเป็นวิชาฝ่ามือฝังวิญญาณของตระกูลหลี่ไม่ผิดแน่ แต่คนตระกูลหลี่ก็ไม่ได้ไปไหนจริงๆ เหตุใดถึงมีคนโดนฝ่ามือฝังวิญญาณได้
“เจ้าว่าเจ้ามาจากที่ใดนะ”หลี่ซือหานมองร่องรอยฝ่ามือและอาการของเจ้าสำนักราชาวิญญาณอยู่ครู่หนึ่งก็เหมือนจะคิดอะไรออก แต่คำถามของเขากลับเป็นการถามที่มาของอดีตเจ้าสำนักราชาวิญญาณเสียอย่างนั้น
“ข้าคืออดีตเจ้าสำนักราชาวิญญาณแห่งเมืองภูผาทองแดง”อดีตเจ้าสำนักไม่เข้าใจว่าทำไมเจ้าบ้านตระกูลหลี่ต้องถามเรื่องนี้ แต่ถึงอย่างนั้นก็ยอมตอบไปแต่โดยดี
“เข้าใจแล้ว”เจ้าบ้านตระกูลหลี่พยักหน้าช้าๆก่อนหันหลังเดินกลับเข้าไปในตัวบ้านโดยไม่ใส่ใจจะรักษาอาการของเจ้าสำนักราชาวิญญาณแม้แต่น้อย
“ท่าน....ท่านจะไปไหน”แน่นอนว่าอดีตเจ้าสำนักเห็นเช่นนั้นย่อมไม่ยินยอม ทันทีที่เห็นหลี่ซือหานเดินจากไปก็รีบเข้าไปขวางเอาไว้ทันที ทว่า...
“ท่านเจ้าบ้านยังไม่อนุญาตให้เจ้าเข้ามา เจ้าก็ผ่านประตูบ้านนี้ไปไม่ได้”ก่อนที่ร่างของอดีตเจ้าสำนักจะเลยผ่านประตู กังห่าวก็เข้ามาขวางเอาไว้เสียก่อนทำให้อดีตเจ้าสำนักตามหลังหลี่ซือหานไปไม่ได้
“ท่านเจ้าบ้าน คนของท่านทำร้ายคนท่านจะไม่สนใจเลยหรืออย่างไร ท่านยังเป็นคนอยู่หรือไม่”อดีตเจ้าสำนักฝ่าเข้าไปไม่ได้ก็ตะโกนต่อว่าหลี่ซือหานมันตรงนั้น น่าเสียดายที่ฝ่ามือฝังวิญญาณมีผู้รักษาได้น้อยมากหากพลาดโอกาสนี้ไปก็มีแต่ต้องให้บุตรชายตายจากไปเท่านั้น เรื่องนี้อดีตเจ้าสำนักไม่มีวันยอมเป็นแน่
“ถูกต้อง คนตระกูลหลี่เป็นผู้ลงมือโจมตีบุตรชายของเจ้าจริง แต่....”โดนต่อว่าเช่นนี้หลี่ซือหานก็ชะงักไปเช่นกัน ผู้นำของสำนักราชาวิญญาณช่างกล้าหาญเสียเหลือเกินที่ใช้คำพูดเช่นนี้กับหัวหน้าตระกูลหลี่ คิดว่าสำนักเล็กๆเช่นนั้นมีกำลังจะทำอะไรได้หรืออย่างไร
“หากตระกูลหลี่ลงมือทำร้ายผู้ใดย่อมมีเหตุผล เช่นนั้นลูกชายของเจ้าก็คงก่อเรื่องแล้วโดนเล่นงานมาเป็นแน่ วันนี้บุตรชายของเจ้ามีแต่ต้องรับกรรมเท่านั้น”หลี่ซือหานว่าพลางปล่อยพลังวิญญาณของตนออกมาช้าๆ เพียงสัมผัสพลังวิญญาณที่ปล่อยออกมานี้ก็ทำให้อดีตเจ้าสำนักเริ่มนึกขึ้นได้แล้วว่าฐานะของตนกับตระกูลหลี่ห่างชั้นกันแค่ไหน
“ส่วนเจ้า.....ก็ต้องรับกรรมที่เจ้าก่อเช่นกัน”หลี่ซือหานโดนหาว่าไม่ใช่คนย่อมมีโทสะอยู่แล้ว ยิ่งคำต่อว่ามาจากปากอดีตเจ้าสำนักที่ไหนก็ไม่ทราบอีกต่างหากทำให้หลี่ซือหานไม่อาจอดทนได้ พริบตานั้นร่างของหลี่ซือหานก็พุ่งเข้าไปหาอดีตเจ้าสำนักราชาวิญญาณพร้อมฝ่ามือที่มีสีแดงไปทั้งฝ่ามือ
เปรี้ยง!!
ร่างของอดีตเจ้าสำนักลอยออกไปจากหน้าประตูข้ามผ่านหัวของเหล่าลูกน้องไปอย่างงดงาม ยามนี้ที่อกของอดีตเจ้าสำนักปรากฏรอยฝ่ามือไม่ต่างจากของบุตรชายเลย แต่รอยฝ่ามือของอดีตเจ้าสำนักกลับมีรอยแดงรอบๆเหมือนร่างกายกำลังร้อนจัดต่างจากของบุตรชายที่ร่างซีดเซียวราวกับกำลังโดนแช่แข็ง แน่นอนนั่นเพราะฝ่ามือของหลี่ซือหานแฝงไปด้วยพลังธาตุไฟ เมื่อฝังพลังธาตุเข้าไปในร่างแล้วอดีตเจ้าสำนักย่อมมีอาการราวกับไฟเผาแทนที่จะหนาวเหน็บอย่างไม่ต้องสงสัยเลย
“กังห่าว ทำความสะอาดหน้าบ้านด้วย”หลี่ซือหานหันไปสั่งบ่าวรับใช้ก่อนจะเดินกลับเข้าไปในตัวบ้านเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ในเมื่อโดนคนตระกูลหลี่เล่นงานมาก็หมายความว่าพวกมันทำตัวเป็นศัตรูกับตระกูลหลี่ แล้วจะให้รักษาพวกมันงั้นหรือ ไม่มีทางเสียหรอก
“พี่ใหญ่ ไม่ทราบหน้าบ้านมีเรื่องอะไรงั้นหรือขอรับ”หลังจากเดินกลับเข้ามาในบ้าน เสียงโหวกเหวกโวยวายของอดีตเจ้าสำนักย่อมทำให้คนในบ้านรู้แล้วว่ามีเรื่องอะไรเกิดขึ้น เมื่อหลี่ซือหานกลับมาย่อมพากันมาถามเพื่อรอคำตอบอยู่แล้ว
“นับว่าสวรรค์ยังมีตา อยู่ๆก็มีคนนำเบาะแสของน้องห้ามาให้พวกเราถึงที่”หลี่ซือหานยิ้มออกมาก่อนจะเดินนำน้องสาม หรือ หลี่เหวิน กลับเข้าไปในตัวบ้าน
“น้องห้า...พี่ใหญ่พูดจริงหรือขอรับ”หลี่เหวินได้ยินเช่นนั้นก็ตาเบิกกว้างด้วยท่าทีตกใจ น้องห้าอย่างหลี่ซุนหายตัวไปกว่าสิบปีแล้ว ไม่ยอมส่งข่าวหรือรับข่าวสารจากบ้านหลักเลย ยามนี้เหล่าพี่น้องไม่ทราบจะตามตัวเขากลับมาอย่างไร แม้ส่งคนตามหาก็ยังไม่พบเจอ ยามนี้เหล่าพี่น้องต่างถอดใจไม่นึกว่าจะอยู่ๆจะมีเบาะแสออกมาเช่นนี้
“มีคนโดนฝ่ามือฝังวิญญาณมาขอให้ข้ารักษา ฝ่ามือแฝงวิญญาณที่ใช้พลังธาตุน้ำแบบนั้นหากไม่ใช่น้องห้าลงมือแล้วจะเป็นใครไปได้”หลี่ซือหานตอบออกมาอย่างมั่นใจไม่น้อย ฝ่ามือฝังวิญญาณมีอาการ 7 วัน ไม่มีทางที่คนในตระกูลหลี่ที่อยู่ในบ้านหลักจะออกไปลงมือได้แน่ๆ เช่นนั้นแล้วก็มีเพียงหลี่ซุนที่ไม่ได้อยู่ในบ้านหลักคนเดียวเท่านั้นที่จะลงมือได้
“เป็นเช่นนี้นี่เอง งั้นคนพวกนั้นมาจากที่ไหนหรือขอรับพวกเราจะได้ไปตามตัวน้องห้ากลับมาได้”หลี่เหวินได้ยินเช่นนั้นก็คิดว่าสิ่งที่พี่ใหญ่คิดนั้นมีโอกาสเป็นไปได้สูงทีเดียว หากทราบว่าคนพวกนั้นมาจากที่ไหนอาจจะตามรอยของน้องห้าเจอก็เป็นได้
“เมืองภูผาทองแดง”หลี่ซือหานตอบพลางถอนหายใจออกมา คนตระกูลหลี่ส่งคนออกไปตามหาตั้งมากมาย เดินทางไกลเป็นเดือนๆเพื่อตามหาเบาะแส แต่น้องห้ากลับซ่อนตัวอยู่ในเมืองที่ใช้เวลาเดินทางไม่ถึงอาทิตย์เสียได้ ช่างน้าขำเสียเหลือเกิน
“ใกล้ขนาดนี้เชียว งั้นพวกเราก็รีบออกตามหากันเถอะขอรับ”หลี่เหวินเองก็ตกใจเรื่องระยะทางไม่แพ้กัน พวกเขาไม่คิดเลยว่าน้องห้าจะยังอยู่ใกล้เช่นนี้ แต่เรื่องนี้ก็นับเป็นเรื่องดีเพราะหากน้องห้าอยู่ห่างไกลกว่านี้อาจจะกลับมาไม่ทันก็เป็นได้
“ไปตามเขากลับมาเถอะ ก่อนที่เขาจะต้องเสียใจไปทั้งชีวิต”หลี่ซือหานพยักหน้าอย่างเห็นด้วยก่อนจะเรียกรวมตัวเหล่าสมาชิกตระกูลให้มารวมตัวกันที่โถงประชุมในบ้านอย่างพร้อมเพรียงกัน ยามนี้สมาชิกตระกูลหลี่อยู่กันครบ แค่ตามหาคนคนหนึ่งในเมืองภูผาทองแดงย่อมไม่ใช่เรื่องยาก ยิ่งได้ทราบแล้วด้วยว่าสำนักราชาวิญญาณมีความเกี่ยวข้องยิ่งง่ายดายเข้าไปใหญ่
.
.
.
“อย่างนี้นี่เอง ที่แท้นายท่านก็เป็นคนตระกูลใหญ่มาก่อนสินะ”ระหว่างทางกลับบ้าน เสี่ยวหงที่กำลังเดินตามสองพี่น้องฝาแฝดก็เพิ่งจะได้มีโอกาสถามคำถามเรื่องหลี่ซุนเป็นครั้งแรก และคำตอบที่ได้รับก็คือสองพี่น้องต่างทราบอยู่แล้วว่าบิดาของตนเป็นคนของตระกูลหลี่ที่หนีออกมาแต่งงานกับแม่แล้วแยกตัวออกมา แน่นอนที่เป็นเช่นนี้ก็เพราะโชคชะตาที่เทพสูงสุดสรรสร้างขึ้นมานั่นเอง ก่อนจะลงมาเกิดเพื่อให้หลินเยว่ได้รับสายเลือดของตระกูลหงสานิรันดร์เทพสูงสุดต้องพยายามชักจูงให้หลี่ซุนกับหลี่เอ้อหลางมาพบกันและพบรักกันให้ได้ ไม่อย่างนั้นสายเลือดในตำนานอย่างหงสานิรันดร์ก็แทบไม่มีทางออกมายังโลกภายนอกได้เลย
“เจ้าก็น่าจะเห็นแล้วว่าท่านแม่มีสายเลือดที่พิเศษมาก หากท่านพ่อเป็นคนธรรมดาจะมีโอกาสพบรักกับท่านแม่ได้อย่างไรเล่า”ลู่ชิงตอบพลางส่ายหน้าช้าๆออกมา เรื่องแค่นี้ก็น่าจะดูออกนี่นา
“ก็ช่วยไม่ได้นี่ สายเลือดหงสานิรันดร์สำหรับข้าแล้วก็ไม่ต่างจากสายเลือดทั่วไปหรอก ข้าเลยไม่ได้สนใจอะไรนายหญิงเป็นพิเศษนี่นา”เสี่ยวหงตอบพลางทำหน้าบึ้งออกมากับท่าทีของลู่ชิง สำหรับนางแล้วสายเลือดในโลกๆเดียวก็เป็นเพียงโชคชะตาเล็กน้อยเท่านั้น ว่าแต่คนตระกูลใหญ่ออกมาใช้ชีวิตคนเดียวแบบนี้ไม่มีใครตามหาเลยหรือ....