743-744
5/8
Ep.743
ซูเฉินสังเกตได้ ว่ามีบางอย่างไม่ชอบมาพากล จังหวะที่เนี่ยซือเฉียนออกมาช่วย มันผิดปกติเกินไป
ขณะที่เขากำลังสงสัยอยู่นั้นเอง เห็นแค่เพียงเนี่ยซือเฉียนง้างแขน และขว้างลูกแก้วทรงกลมสีดำขนาดเท่าไข่ห่านออกไป
เมื่อลูกแก้วดำลอยเข้ามาใกล้ จู่ๆมันก็ระเบิดอย่างกะทันหัน
จากนั้น ดวงตาขนาดเท่าลูกบาสเก็ตบอลก็ปรากฏขึ้น ปราณชั่วร้ายจากในตัวมันแผ่กระจายไปทั่ว ชวนให้คนที่มอง เกิดอาการหนาวสั่นไปทั้งตัว
เห็นแค่เพียงลูกตากลอกไปมาเล็กน้อย ก่อนยิงประกายแสงจากนัยน์ตา ตรงเข้าหาซูเฉิน
“มันเล็งมาที่ฉัน!”
ซูเฉินอึ้งไปเล็กน้อย เมื่อได้สติ จิตสังหารก็ฟุ้งกระจายไปทั่วร่างเขา
ช่วงเวลานี้ ซูเฉินเข้าใจแล้ว ว่าเนี่ยซือเฉียนไม่ได้คิดช่วยเขาเลย แต่จะทำร้ายเขาต่างหาก!
ประกายแสงที่ลูกตาฉายออกมา ปะปนไปด้วยปราณชั่วร้าย ที่เหมือนกับของต้นผลกำเนิดมารและต้นม่านหมอกนรกทมิฬไม่มีผิดเพี้ยน และทั้งสองมีผลให้จิตสำนึกเกิดอาการปั่นป่วน
หากสัมผัสโดนปราณชั่วร้าย มีแนวโน้มว่าอาจตกอยู่ในสภาวะไร้สติเป็นระยะเวลาสั้นๆ ในกรณีนั้น ซูเฉินจะไม่ต่างจากปลาบนเขียง ปล่อยให้ผู้อื่นลงมือฆ่าตามสะดวก
อาจกล่าวได้เลยว่า เนี่ยซือเฉียนลงมือในเวลานี้ ก็มากพอแล้วที่จะพิสูจน์ว่าจิตใจของเธอเลวร้ายเพียงใด
หากเปลี่ยนเป็นคนอื่น เกรงว่าคงได้รับความเดือดร้อนจากพิษร้ายนี้ อย่างไรก็ตาม ร่างของซูเฉินมี [กายาเทพอสูรนิรันดร์] สามารถต้านทานสิ่งชั่วร้ายทั้งปวง
ดังนั้น การที่เนี่ยซือเฉียนคิดใช้วิธีร้ายกาจนี้จัดการกับเขา เห็นได้ชัดว่าคำนวณผิด!
ในเวลาเดียวกัน ข้างนอกเวที เสียงตะโกนด้วยความโกรธของฉางไช่หลีดังขึ้น
“หลิวเฉียนฉิน! ประมุขวังน้ำแข็งกล้าดียังไงมาทรยศเรา! ทั้งยังให้ลูกศิษย์ใช้เนตรปีศาจกับซูเฉิน! ช่างกล้าแส่หาที่ตาย!”
เฉินเฟิงและคนอื่นๆได้ยินคำ ‘เนตรปีศาจ’ สีหน้าของพวกเขากลายเป็นน่าเกลียดถึงขีดสุด
มีข่าวลือว่า เนตรปีศาจถูกสร้างขึ้นจากดวงตาของเทาเที่ย
เทาเที่ยคืออสูรร้ายจากโบราณกาล และการโจมตีที่รุนแรงที่สุดของมันคือปลดปล่อยแสงชั่วร้ายออกจากดวงตา มีผลทำให้จิตใจสับสน
ซึ่งเนตรปีศาจที่ถูกสร้างขึ้นจากดวงตาของเทาเที่ย นับเป็นสิ่งประดิษฐ์เทวะ ผู้ใดก็ตามที่ถูกลำแสงชั่วร้ายนี้ นอกเหนือจากระดับเทวะแล้ว ไม่มีใครสามารถหลบลี้จากการถูกควบคุมจิตใจได้
ขณะที่ซูเฉินอยู่แค่ขั้น 8 เท่านั้น เป็นไปไม่ได้เลยที่จะรอดพ้นจากประกายแสงชั่วร้ายนี้
เฉินเฟิงและคนอื่นๆเริ่มกระวนกระจาย ทั้งหมดพุ่งเข้าหาซูเฉินพร้อมกัน พยายามช่วยซูเฉินแก้สถานการณ์กลืนไม่เข้าคายไม่ออกตรงหน้า
“พวกนายคิดหรอว่าจะทันเวลา?”
สีหน้าของเนี่ยซือเฉียนฉายแววร้ายกาจ กล่าวเย้ยหยัน
ในเวลานี้ ซูเฉินถูกแสงจากเนตรปีศาจปกคลุมไปทั้งตัวแล้ว และตัวเขาคล้ายตกอยู่ในสภาวะมึนงงขาดสติ
เฉินเฟิงและคนอื่นๆคิดช่วยเหลือตอนนี้ เห็นได้ชัดว่าสายเกินไป
“ตายซะ!”
ขณะเดียวกันนั้นเอง หยางเหวินเซวียนที่รวมร่างกับกระบี่ พุ่งเข้าสังหารซูเฉิน
ขณะที่ปลายแหลมกำลังจะเข้าถึงตัว พริบตานั้นลำแสงห้าสีปรากฏขึ้นเบื้องหน้าซูเฉิน ภายใต้รังสีแสงของมัน ภูเขาทองขนาดสิบจั้งขยายใหญ่ขึ้นบดบังร่างเขาเอาไว้
กึ้งงงงงง!
วินาทีถัดมา หยางเหวินเซวียนในร่างกระบี่แทงลงบน [ภูเขาหยวนเหออู่จี๋] เสียงเหล็กดังสะท้อนกึกก้องไปทั่ว
ภายใต้แรงกระแทกมหาศาล [ภูเขาหยวนเหออู่จี๋] สั่นไหว ลำแสงทั้งห้าสายกระเพื่อมอย่างรุนแรง คล้ายได้รับความเสียหายไม่น้อย
อย่างไรก็ตาม มันสามารถป้องกันกระบวนท่าสังหารของหยางเหวินเซวียนเอาไว้ได้อย่างเหนียวแน่น
“ทำไมถึงทำอะไรมันไม่ได้เลย?”
ด้วยการโจมตีเพียงครั้งเดียว ร่างที่แท้จริงของหยางเหวินเซวียนถูกเปิดเผยออกมา จ้องมองไปยัง [ภูเขาหยวนเหออู่จี๋] ด้วยอาการเหม่อลอย
“ทุกคนที่พยายามฆ่าฉัน พวกมันต้องตายด้วยน้ำมือฉัน ต่อให้เป็นแกก็ไม่มีข้อยกเว้น!”
ระหว่างที่หยางเหวินเซวียนกำลังตกอยู่ในห้วงภวังค์ ทันใดนั้นเสียงเย้ยหยันดังลอดเข้ามาในหูเขา
6/8
Ep.744
“ท่าไม่ดีแล้ว!”
หยางเหวินเซวียนตระหนักถึงอันตราย ชักฝีเท้าถอยกลับอย่างรวดเร็ว
กระนั้น ล่าถอยได้แค่ไม่กี่ก้าว รอบด้านก็ปรากฏพลังมหาศาลที่มองไม่เห็นกดทับเข้ามา
เจ้าตัวรู้สึกคล้ายสองเท้าจมลงไปในหล่มโคลน ทุกการเคลื่อนไหวกลายเป็นเชื่องช้าซบเซา
“พลังจิตขั้น 10! เป็นไปได้ยังไง!?”
สัมผัสได้ว่าเป็นพลังจิตขั้น 10 พันธนาการตนเองเอาไว้ สีหน้าของหยางเหวินเซวียนแปรเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง ขณะเดียวกัน สิ่งที่เห็นในสายตาเขา คือยักษ์ขนาด 10 จั้ง ที่กำลังยกเท้าข้างหนึ่งขึ้น เตรียมเหยียบย่ำศีรษะเขา
ยักษ์ตนนี้มิใช่ใครอื่น เป็นซูเฉินที่เปิดใช้งาน [เทคนิคปลุกศูนย์รวมวิญญาณสวรรค์]
“ไม่!”
มองไปยังเท้าของซูเฉินที่ย่ำลงจากเบื้องบน หยางเหวินเซวียนเปล่งเสียงร้องด้วยความสิ้นหวัง
ตูมมม!
ตามมาด้วยเสียงสะเทือนดังแสบแก้วหู หยางเหวินเซวียนถูกเหยียบเต็มเท้า กลายเป็นเนื้อบดบนเวทีประลอง ตายในสภาพมิอาจตายได้อีก
เหตุการณ์พลิกผันอย่างกะทันหันนี้ ทำให้ทุกคนตกตะลึง
ณ ตอนนี้ พวกเขาไม่เพียงตกใจกับความแข็งแกร่งของซูเฉินเท่านั้น แต่ยังคงสับสนงงงวย
เห็นอยู่ชัดๆว่าซูเฉินถูกแสงชั่วร้ายห่อหุ้มเอาไว้ แต่ทำไมเขาถึงไม่ได้รับผลกระทบใดๆเลย?
หลังจากสังหารหยางเหวินเซวียน เขาหันขวับกลับมา จ้องเขม็งไปยังเนี่ยซือเฉียนไม่วางตา ข้างในดวงตาเต็มไปด้วยประกายเย็นเยียบ
“ศิษย์น้องซู .. ได้โปรดให้โอกาสสักครั้ง! ไว้ชีวิตฉันด้วย!”
ภายใต้การจับจ้องของซูเฉิน ร่างของเนี่ยซือเฉียนสั่นงันงก ลมหายใจเธอแทบจะขาดห้วง
“นังแพศยา!”
ซูเฉินแค่นเสียงเย็น สองเท้าสาดประกายสีม่วงระยิบระยับ เหินทะยานด้วยความเร็วอันน่าตกใจ พุ่งเข้ามายังเบื้องหน้าเนี่ยซือเฉียน ง้างแขนและทุบลงทันที
เนี่ยซือเฉียนถูกข่มโดยแรงกดดันของซูเฉิน ทั้งคนทั้งร่างแข็งค้าง นิ่งงันอยู่ที่เดิมราวกับคนโง่เขลา กระทั่งความกล้าที่คิดหลบหนี ก็ยังไม่อาจเรียกได้
หลิวเฉียนฉินนอกเวทีไม่ยินยอมเห็นเนี่ยซือเฉียนถูกฆ่า ขยับกายวูบไหว กระโจนขึ้นไป หมายเข้าขวาง
อย่างไรก็ตาม ทุกการกระทำของเธอ เดิมถูกฉางไช่หลี่จับตามองตั้งแต่แรกแล้ว ดังนั้นยังไม่ทันถึงเวที เธอก็ถูกกิ่งไม้หลากสีของฉางไช่หลีส่งปลิวออกไป
“ฉางไช่หลี่! ถ้าเจ้ากล้าหยุดข้าอีกครั้ง ข้าขอสาบานว่าจะทำลายวังสุริยันจันทราของเจ้า!” หลิวเฉียนฉินร้องคำรามเดือดดาล
แต่พอสิ้นเสียง เธอก็ไออย่างรุนแรง อ้าปากพ่นโลหิตออกมาเป็นสาย
เห็นได้ชัด ว่าตอนถูกฉางไช่หลี่โจมตี เธอได้รับบาดเจ็บไม่น้อย
“อาศัยเพียงเจ้าน่ะหรือ?”
ดวงตาของฉางไช่หลี่เย็นชา ผุดยิ้มหยามหยั่น
ตูมมมม!
ในเวลนั้นเอง เสียงระเบิดรุนแรงดังขึ้นบนเวทีประลอง
เห็นแค่เพียงร่างของเนี่ยซือเฉียนจมหายลงในหมัดซูเฉิน
“อ๊าาาา!”
เห็นฉากนี้ หลิวเฉียนฉินกรีดร้องด้วยความโศกเศร้า ร่างเธอสั่นคลอนอยู่พักหนึ่ง เกือบจะเป็นลมล้มพับลงกับพื้น
ซูเฉินฆ่าเนี่ยซือเฉียนเสร็จ ก็หันกลับไปมองคนอื่นๆที่ถูกแช่แข็ง ขณะที่เขากำลังจะลงมือสังหารพวกมันให้สิ้นซาก ก็เกิดการเปลี่ยนแปลงบางอย่างขึ้นอย่างกะทันหัน
จู่ๆเขาก็พบว่าตลอดทั้งเวทีเปล่งแสงเจิดจ้า ในเวลาเดียวกัน คลื่นพลังงานขนาดใหญ่แผ่กระจายไปทั่วพื้นที่
“ค่ายกลเคลื่อนย้าย?”
หนังตาซูเฉินกระตุก
หลังจากได้ใช้งานค่ายกลเคลื่อนย้ายมาหลายครั้ง เพียงมองก็ทำให้เขาสามารถตระหนักได้ทันที ว่านี่คือกระบวนการของมัน
การเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นบนเวที คือสัญญาณของการเปิดค่ายกลเคลื่อนย้าย และในเวลานี้ ต่อให้คิดกระโจนหนีออกจากเวทีประลอง เห็นได้ชัดว่าเป็นไปไม่ได้
เมื่อไม่ทราบว่าจะถูกส่งไปที่ใด ซูเฉินเปิด [มิติสันโดษ] อย่างรวดเร็ว รวบเอาพวกเฉินเฟิงและคนอื่นๆเข้าไป
วินาทีต่อมา ซูเฉินรู้สึกราวกับฟ้าหมุน จากนั้นทั้งร่างเขาก็สลายเป็นไอระเหย หายวับไปจากบนเวทีประลอง
“นี่พวกเจ้าส่งเขาไปที่ใด?”
เห็นซูเฉินถูกส่งตัวออกไป ฉางไช่หลี่มองหลิวเฉียนฉินและคนอื่นๆด้วยความโกรธ
“ฮ่า ฮ่า ฮ่า!”
ในตอนนั้นเอง ชายชราเคาแดงก้าวออกมาข้างหน้า หัวเราะอย่างบ้าคลั่ง เอ่ยปากกล่าวด้วยน้ำเสียงมืดมนว่า “เขาถูกส่งไปยังดินแดนที่ถูกทอดทิ้ง”
ได้ยินคำ ‘ดินแดนที่ถูกทอดทิ้ง’ ใบหน้าของฉางไช่หลี่และพวกเดียวกันซีดเผือดทันที