203 - ราชานกยูงมาถึงแล้ว?
203 - ราชานกยูงมาถึงแล้ว?
ไม่นานหลังจากนั้น ผู้ฝึกฝนยอดฝีมือหลายคนสามารถค้นหาพื้นที่ภูเขานี้ได้ พวกเขาได้ติดตามเบาะแสมากมายที่ทิ้งไว้เบื้องหลังก่อนที่คนกลุ่มนี้จะมาถึงต้นไม้โบราณในที่สุด
“รังนก……. แย่แล้ว!” ชายคนหนึ่งกรีดร้อง “นี่คือที่อยู่อาศัยของนกสายฟ้าหงส์ สัตว์ชนิดนี้ไม่สามารถยั่วยุได้ หากรู้สึกว่าเราต้องการขโมยไข่ มันจะไล่ตามเราไปจนตาย”
ภายในรังนกขนาดมหึมานั้นมีไข่สี่ฟอง เปลือกของพวกมันเปล่งประกายราวกับหลอมจากทองคำส่องแสงระยิบระยับ
“ไปกันเถอะ อสูรทรงพลังชนิดนี้จะจดจำความแค้น หากเราติดอยู่ที่นี่ผลลัพธ์จะเลวร้ายถึงขีดสุด!”
พวกเขาลังเลอยู่นานเกินไปและสุดท้ายนกสายฟ้ามงกุฎหงส์ก็บินกลับมาด้วยความโกรธ
เย่ฟ่านและจี้จื่อเยว่จ้องมองจากภูเขาที่อยู่ห่างไกล เมื่อเห็นสายฟ้าปกคลุมท้องฟ้าในบริเวณนั้น พวกเขาก็ไม่คิดจะรอดูผลสุดท้ายของศัตรูและรีบหนีออกจากบริเวณนี้อย่างรวดเร็ว
ในวันที่สองเย่ฟ่านเห็นเด็กหนุ่มอายุประมาณสิบเจ็ดปีกำลังเดินทอดน่องชมทิวทัศน์ด้วยความสงบ เขาแต่งกายด้วยเสื้อผ้าเรียบง่ายและดูอ่อนโยนอย่างยิ่ง
ร่างของเขาค่อนข้างบอบบาง ทำให้มีภาพลักษณ์ที่ละเอียดอ่อน ดวงตาของเขาเป็นประกายเหมือนน้ำในทะเลสาบ และผมสีดำนุ่มของเขาพลิ้วไหว
นี่คือชายหนุ่มรูปงามที่สุดเท่าที่เย่ฟ่านเคยพบมาตลอดชีวิตสามสิบปีของเขา
ภายในพื้นที่ภูเขาที่ปราศจากชีวิตมนุษย์ การได้พบกับเด็กหนุ่มเช่นนี้เป็นเรื่องที่แปลกประหลาดอย่างยิ่ง แต่ถึงกระนั้นเขาก็เดินเข้าไปหาฝ่ายตรงข้ามแล้วถามด้วยรอยยิ้ม
“น้องชาย ข้าขอทราบสถานที่แห่งนี้ได้ไหม?”
เด็กหนุ่มคนนั้นยืนอยู่ที่นั่นอย่างเงียบๆ ผมสีดำเรียบของเขาโบกสะบัดไปกับสายลมเขาหันหน้ากลับมาและตอบด้วยน้ำเสียงราบเรียบว่า
“เทือกเขาซีเซี่ยตั้งอยู่ภายในอาณาจักรจิน”
“น้องชาย รูปลักษณ์ของเจ้าดูสุภาพ อ่อนโยนแต่สามารถอาศัยอยู่เพียงลำพังในหุบเขาแห่งนี้นั่นแสดงว่าเจ้าเป็นผู้บ่มเพาะใช่หรือไม่” เย่ฟ่านยิ้มขณะที่เขาถาม
"ถูกต้อง." ชายหนุ่มพยักหน้า
ที่ด้านหลังใบหน้าของจี้จื่อเยว่เป็นสีขาวซีด เสียงของนางสั่นขณะที่นางตะโกน
“เด็กเหลือขอ…… รีบกลับมาเดี๋ยวนี้!”
เย่ฟ่านมองย้อนกลับไป เมื่อเห็นใบหน้าของนางเต็มไปด้วยความหวาดกลัว ดวงตาของนางสั่นเทา เขารู้สึกทันทีว่ามีบางอย่างผิดปกติและเขาถอยหลัง
"เกิดอะไรขึ้น? เขาคือใคร?"
“เขาคือ……ราชานกยูง!” เสียงของจี้จื่อเยว่ไม่สามารถปิดบังความหวาดกลัวได้
"อะไร?!"
เย่ฟ่านตกใจจนแทบเสียสติ เด็กหนุ่มคนนี้คือราชานกยูง? นี่เป็นเรื่องที่น่าประหลาดใจเกินไป
“ราชานกยูงท่านเป็นยอดฝีมือสูงสุดของดินแดนรกร้างตะวันออก แม้ว่าทุกคนจะบอกว่าอสูรเป็นพวกชั่วช้าเลวทรามแต่ข้าเชื่อว่าพวกท่านมีคุณธรรมมากกว่าพวกเราเผ่าพันธุ์มนุษย์เรา
ท่านไม่ควรฆ่าคนบริสุทธิ์สุ่มสี่สุ่มห้า ชายหนุ่มคนนี้ไม่เกี่ยวข้องอะไรด้วยได้โปรดปล่อยเขาไป” จี้จื่อเยว่ก้าวไปข้างหน้าก่อนจะคุกเข่าลงและอ้อนวอนขอชีวิตเย่ฟ่าน
ชื่อของราชานกยูงดังก้องไปทั่วภาคใต้ของดินแดนตะวันออก แม้แต่ผู้นำของดินแดนศักสิทธิ์แสงโชติช่วงเมื่อแปดร้อยปีก่อนก็ไม่สามารถจัดการเขาได้ ไม่มีใครรู้ว่าเขามีชีวิตอยู่มากี่ปีแล้ว
จากการประมาณการ ตั้งแต่ที่เขาเกิดเป็นนกยูงตัวน้อยจนกระทั่งฝึกฝนได้ร่างกายมนุษย์เขาควรจะมีชีวิตมาถึงสองพันปี หากเทียบกับกรอบเวลาที่อีกฟากหนึ่งของดวงดาว เขาจะเป็นคนในสมัยฉินและฮั่น
อย่างไรก็ตาม เด็กหนุ่มที่อยู่ข้างหน้าเขาดูเหมือนอายุเพียงสิบหกถึงสิบเจ็ดปี สายตาของเขาชัดเจนราวกับน้ำโดยปราศจากความรู้สึกโบราณ เป็นการยากที่ใครจะเชื่อมโยงเขากับราชานกยูงผู้โหดเหี้ยม
ก่อนหน้านี้จี้จื่อเยว่พูดถึงความแข็งแกร่งอันยิ่งใหญ่ของเขา การเป็นหนึ่งเดียวกับสวรรค์และปฐพี การเคลื่อนภูเขาและแม่น้ำด้วยเสียงคำรามเพียงครั้งเดียวนั้นเป็นสิ่งที่เย่ฟ่านไม่สามารถจินตนาการได้
ตามความเข้าใจของเย่ฟ่านราชานกยูงต้องสง่างามราวกับภูเขาที่มีพลังอำนาจ แม้ว่าจะไม่ได้เป็นชายชราก็สมควรจะเป็นชายวัยกลางคนที่มีรูปร่างสูงใหญ่
อย่างไรก็ตาม เขาไม่ได้คาดหวังว่าฝ่ายตรงข้ามจะเป็นเพียงเด็กหนุ่มสุภาพอ่อนโยนคนนี้
เมื่อคิดถึงวิธีที่เขาพูดกับราชานกยูงในฐานะน้องชายเย่ฟ่านรู้สึกว่าหนังศีรษะของเขาเริ่มชาด้าน นี่เป็นยอดฝีมือที่มีพลังจิตวิญญาณที่ไม่อาจหยั่งรู้ได้ ต่อให้นับทั่วดินแดนรกร้างตะวันออกคนที่อยู่ระดับเดียวกับเขาก็คงมีไม่เกินห้าคน!
ชายหนุ่มที่ดูอ่อนแอและงดงามเช่นนี้จริงๆแล้วคือราชานกยูงที่มีชื่อดังก้องไปทั่วบริเวณทางใต้ของ เรื่องนี้ช่างน่าประหลาดใจเกินไป
เมื่อเผชิญกับยอดฝีมือโบราณเช่นนี้ เย่ฟ่านไม่ได้ก็มีเจตนาจะขัดขืนใดๆ อีกฝ่ายสามารถกวาดล้างทั้งดินแดนภาคใต้ด้วยการใช้เพียงนิ้วเดียว ถ้าฝ่ายตรงข้ามต้องการฆ่าเขากับจี้จื่อเยว่มันเป็นไปไม่ได้ที่พวกเขาจะหลบหนีอยู่แล้ว
"ข้าอยู่ที่นี่เพื่อเจ้า"
การแสดงออกของราชานกยูงสงบนิ่งราวกับสระน้ำขณะที่เขาจ้องมองไปยังเย่ฟ่าน ที่ด้านหลังดวงตากลมโตของจี้จื่อเยว่เบิกกว้างขณะที่นางถามอย่างลังเล
“ท่านไม่ได้มาที่นี่เพื่อฆ่าข้าเหรอ?”
ราชานกยูงไม่ตอบ เขาเงียบมากราวกับต้นหยกที่ปกคลุมไปด้วยหิมะ ทำให้คนๆหนึ่งรู้สึกสงบ เขาดูไม่เหมือนตัวแทนที่มีพลังวิญญาณที่น่าสะพรึงกลัว
“ผู้อาวุโสมาหาข้าทำไม” เย่ฟ่านคาดเดาในใจได้แล้ว
“หัวใจศักดิ์สิทธิ์ของจักรพรรดิอสูร” ราชานกยูงเพียงกล่าวคำเหล่านี้ มันเป็นสิ่งที่เย่ฟ่านคาดไว้อย่างแม่นยำ
สิ่งนี้ทำให้ลำไส้ของเขาบินเข้าหากัน ตอนนั้นเขาพยายามที่จะบีบเลือดศักดิ์สิทธิ์ออกมา หัวใจของจักรพรรดิอสูรไม่สามารถทนรับความอัปยศได้และมันก็บินหนีออกไปตั้งแต่นั้น
“ข้าจะพูดยังไงดี……. มันบินหนีไปเอง”
เย่ฟ่านทำได้เพียงกัดฟันอธิบาย คำอธิบายนี้ค่อนข้างจะเข้าใจยากจริงๆ อย่างไรก็ตามราชานกยูงเพียงพยักหน้า
"ท่านเชื่อข้า?"
“ข้าเชื่อเจ้า ข้าเห็นมันบินกลับไปอยู่ในมือของทายาทของจักรพรรดิด้วยตาของตัวเอง”
เย่ฟ่านตกตะลึง หัวใจดวงนั้นช่างมหัศจรรย์จริงๆมันสามารถกลับไปหาเอี๋ยนรุ่ยหยูได้และเขาก็อดไม่ได้ที่จะถาม
“ในเมื่อมันกลับไปแล้ว ทำไมท่านถึงยังตามหาข้าอยู่ล่ะ?”
“ข้าอยากจะเข้าใจว่าทำไมมันถึงบินหนีไป”
ราชานกยูงหัวเราะเบาๆ เขาจ้องไปที่ทะเลแห่งความทุกข์ของเย่ฟ่านคล้ายกับต้องการดูว่าในร่างกายของเขาซุกซ่อนความลับอะไรไว้กันแน่
แม้ว่าเย่ฟ่านจะรู้เรื่องนี้ เขาก็ไม่สามารถป้องกันตัวจากบุลคลที่มีพลังมหาศาลนี้ได้ อย่างไรก็ตามเขาไม่ได้ต้องการให้คนอื่นรู้ความลับของเขาโดยง่ายพลังศักดิ์สิทธิ์ภายในกงล้อแห่งทะเลของเขาถูกเก็บซ่อนไว้อย่างดี
ราชานกยูงยังคงมีรอยยิ้มบนใบหน้าในขณะที่เขาเดินเข้าหาเย่ฟ่านอย่างอ่อนโยน ไม่มีแรงกดดันใดๆที่น่ากลัวปรากฏออกมาจากร่างกายของเขา ซึ่งไม่ได้สร้างความกดดันอะไรให้กับเย่ฟ่าน
จี้จื่อเยว่รีบกล่าวออกมาอย่างรวดเร็วว่า
“ผู้อาวุโสเป็นบุคคลในระดับตำนาน ท่านไม่ควรรังแกพวกเราเด็กรุ่นหลังแบบนี้ หากท่านมีความกล้าหาญท่านควรไปหาประมุขของดินแดนศักดิ์สิทธิ์แสงโชติช่วงถึงจะเป็นเรื่องเหมาะสม”
“แล้วถ้าข้ามองหาประมุขตระกูลจี้ของเจ้าแทนล่ะ?”
ราชานกยูงมีรอยยิ้มจางๆบนใบหน้าของเขา ตรงกันข้ามกับรูปลักษณ์ของชายหนุ่มอายุสิบหกสิบเจ็ดปี รอยยิ้มของเขาทำให้เย่ฟ่านและจี้จื่อเยว่หวาดกลัวถึงขีดสุด
“ทักษะการเคลื่อนไหวของเจ้าใครเป็นคนสอนให้?” รอยยิ้มของราชานกยูงจางหายไปและเขาถามออกมาด้วยสีหน้าจริงจัง
“ชายชราผู้บ้าคลั่ง” เย่ฟ่านตอบอย่างตรงไปตรงมา
“มันเป็นเขาจริงๆ เขาสอนเจ้าจริงๆ!”
แสงระยิบระยับสองสายดูเหมือนจะเปล่งประกายจากดวงตาของราชานกยูง
“ผู้อาวุโสน่าจะได้พบชายชราผู้บ้าคลั่งแล้ว ปัจจุบันเขาอยู่ที่นิกายไท่ซวน”
เย่ฟ่านมีความมั่นใจอย่างยิ่งในชายชราที่บ้าคลั่ง เขามีชีวิตอยู่มาหกพันปีโดยไม่มีปัญหาใดๆ แม้ว่าราชานกยูงจะแข็งแกร่งกว่านี้อีกสิบเท่าก็ไม่มีทางที่จะตอแยชายชราคนนั้นยาก
“น่าเสียดายที่ข้าไม่ได้พบเขา เขาหายตัวไปเมื่อหลายวันก่อน” สามารถมองเห็นความเสียใจบนใบหน้าของราชานกยูง
ชายชราผู้บ้าคลั่งถูกห่อหุ้มด้วยรังไหมและหมดสติ จู่ๆเขาหายตัวไปได้อย่างไร? เขาแยกตัวออกจากรังไหม? ถ้าเป็นเช่นนั้นเขาไปที่ไหน? เย่ฟ่านอยากรู้จริงๆ
“ร่างกายของเจ้าน่าสนใจมากข้าต้องการนำมันไปศึกษา แต่ในเมื่อจะได้รับความโปรดปรานจากผู้อาวุโสคนนั้นข้าจะไม่สร้างความยุ่งยากให้กับเจ้า”
ที่ด้านข้างดวงตากลมโตของจี้จื่อเยว่เป็นประกาย ชายชราที่บ้าคลั่งคนนี้แข็งแกร่งแค่ไหนกันแน่? เพราะแม้แต่ราชานกยูงก็ยังมีความรู้สึกหวาดกลัวต่อเขา