ตอนที่แล้ว727-728
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไป731-732

729-730


9/10

Ep.729

“ฉันยอมรับข้อเสนอ”

หลี่ซือโม่ไม่อาจระงับความโกรธภายในใจได้อีกต่อไป  อ้าปากตะโกนขึ้น

“ฉันก็ยอมรับเหมือนกัน” สีหน้าของชิวอิ๋งเองก็เต็มไปด้วยความโกรธเคือง

เมื่อเห็นว่าการต่อสู้ครั้งนี้คงไม่สามารถหลีกเลี่ยง คนที่เหลือได้แต่ถอยออกไปพร้อมกัน เปิดสนามประลองให้ทั้งสาม

“พวกแกสองคนลงมือได้เลย”

ซูเฉินหรี่ตา กล่าวด้วยใบหน้าดูแคลน

หลี่ซือโม่กับชิวอิ๋งส่งสายตานัดแนะ พรวดเข้าหาซูเฉินในเวลาเดียวกัน

ระหว่างที่ทั้งสองค่อยๆใกล้เข้ามา มุมปากของซูเฉินยกโค้งขึ้น ปลดปล่อยพลังแห่งจิตวิญญาณสวนออกไป

“นี่มันพลังจิตขั้นไหนกัน?”

รับรู้ได้ถึงพลังมหาศาลที่มองไม่เห็นโถมกดเข้ามา ใบหน้าของหลี่ซือโม่และชิวอิ๋งแปรเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง

ทั้งสองคนมีฐานฝึกตนอยู่แค่ขั้น 7 เท่านั้น ในทางกลับกัน พลังจิตของซูเฉินเทียบได้เลยกับขั้น 9 แล้วพวกเขาจะต้านทานมันได้อย่างไร?

ในพริบตาเดียว ทั้งสองสูญสิ้นความสามารถในการเคลื่อนไหวไป กระทั่งเปลือกตายังขยับไม่ได้

“ผู้ฝึกตนขั้น 8!”

สัมผัสได้ถึงกลิ่นอายอันบ้าคลั่งที่แผ่ออกมาจากร่างของซูเฉิน สีหน้าของเนี่ยซือเฉียนเปลี่ยนไปอย่างมาก

เฉินเฟิงและคนอื่นๆต่างก็สับสนเช่นกัน เพราะพวกเขาจำได้ดี เมื่อไม่กี่วันก่อนซูเฉินยังอยู่ในขั้น 7 อยู่เลย ไหงตอนนี้ถึงกลายเป็นขั้น 8 ไปได้

อย่าบอกนะว่าในช่วงทที่ผ่านมา เขาสามารถตัดผ่านไปอีกขั้นได้แล้ว?

ซูเฉินอยู่ในขั้น 8 เรื่องนี้กู่เทียนฮวารู้ก่อนคนอื่นๆตั้งนานแล้ว แต่ช่วงเวลานี้ เขาไม่มีจังหวะอธิบาย

“ฉันก็บอกแล้วไงว่าพวกแกมันก็แค่มดปลวก แต่ดันไม่เชื่อ”

ซูเฉินขยับเท้าเดียว ปรากฏกายเบื้องหน้าชิวอิ๋งราวกับภูติผี จากนั้นตบฉาดหนึ่ง เกิดเสียงเพี๊ยะ! ดังกึกก้อง

ชิวอิ๋งถูกตบหน้า ครึ่งซีกแดงก่ำและเริ่มบวมเป่ง

โชคดีที่ซูเฉินระงับพละกำลังเอาไว้หลายส่วน เธอเลยแค่หน้าคว่ำลงกับพื้นเท่านั้น ไม่ถึงขั้นจบชีวิต

หลังจากมอบบทเรียนให้ชิวอิ๋งเสร็จ เขาก็หันมาเผชิญหน้ากับหลี่ซือโม่ มุมปากเขาปรากฏรอยยิ้มหยอกเย้า

“อื้อ .. อื้อ ..!”

หลี่ซือโม่บังเกิดความหวาดกลัวจนมิอาจบอกบรรยาย กรีดร้องในลำคออย่างเอาเป็นเอาตาย แต่กลับไม่มีเสียงใดเล็ดลอดออกมา

“ศิษย์น้องซู โปรดเมตตาด้วย!”

เห็นหลี่ซือโม่ตกอยู่ในอันตราย  เนี่ยซือเฉียนร้อนใจ เปล่งเสียงตะโกน

ซูเฉินทำเป็นหูทวนลม  จุดประสงค์ของเขาคือการมอบบทเรียน ดังนั้นไม่มีวันรามือง่ายๆ

เจ้าตัวแค่นเสียงเบาๆ  ควบคุมพลังจิตอาละวาดโจมตีหลี่ซือโม่อย่างไร้ความปราณี

กร๊อบ กร๊อบ กร๊อบ ..!

ตามมาด้วยเสียงลั่นดังฟังชัด กระดูกตามร่างของหลี่ซือโม่แตกเป็นเสี่ยงๆในทุกตารางนิ้ว ใบหน้าของเขาบิดเบี้ยวด้วยความเจ็บปวด

“ช่างเป็นกำลังรบอันน่าหวาดกลัว! อีกทั้งวิธีโจมตียังโหดเหี้ยมทารุณ!”

เนี่ยซือเฉียนกัดไฟ หัวใจเธอสั่นสะท้าน ลอบเอ่ยชมซูเฉินอย่างลับๆ

ขณะที่หลี่ซือโม่ใกล้จะหมดสติเต็มที ซูเฉินก็ถอนพลังแห่งจิตวิญญาณออก

โครม!

หลี่จื่อโม่ทรุดตัวลงกับพื้นอย่างอ่อนแรง หอบหายใจหนักหน่วง สีหน้าเต็มไปด้วยความเจ็บปวด สายตาที่มองซูเฉิน เวลานี้เหลือแค่ความหวาดกลัว

“ขอบคุณศิษย์น้องซูที่เมตตา!”

เนี่ยซือเฉียนก้าวไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว เธอไม่เพียงไม่กล่าวโทษซูเฉินว่าลงมือโหดเหี้ยม แต่ขอบคุณเขาแทน

เพราะแม้สภาพของหลี่ซือโม่จะดูน่าสังเวช แต่ไม่ต้องกังวลถึงชีวิต หากพักฟื้นเป็นเวลาหนึ่งหรือสองเดือน ก็จะกลับคืนเป็นปกติได้อสมบูรณ์ดังเดิม

ซึ่งเท่ากับว่าซูเฉินเมตตาเขาแล้วจริงๆ

ซูเฉินพยักหน้าอย่างเฉยเมย จากนั้นหันไปหากู่เทียนฮวา  กล่าวด้วยน้ำเสียงยืนกรานว่า “ศิษย์พี่กู่ ในเมื่อหลี่ซือโม่ได้รับบาดเจ็บ งั้นก็ไม่จำเป็นต้องให้โควต้าในรอบคัดเลือกแก่เขา”

กู่เทียนฮวาพยักหน้า แสดงว่าเข้าใจ

ซูเฉินบอกแต่แรกแล้วว่าจะยึดโควต้างานประลองทั้งหมด  และตามแผนเดิม เขาจะเหลือที่ว่างสองตำแหน่งไว้สำหรับคนจากวังน้ำแข็ง

ตอนนี้หลี่ซือโม่กลายเป็นแบบนี้ไปแล้ว คงไม่สามารถลงสนามประลองได้อีก จึงไม่จำเป็นต้องเหลือโควต้าให้เขา

ต่อมา ซูเฉินเหลือบสายตามองชิวอิ๋ง จากนั้นกล่าวว่า “สำหรับชิวอิ๋ง เธอไม่จำเป็นต้องเข้าร่วมงานประลองอีก เพราะท้ายที่สุดแล้วกำลังรบของเธออ่อนแอเกินไป ถูกตบทีเดียวก็หน้าจูบพื้นแล้ว หากปล่อยให้ลงสนาม จะกลายเป็นความอัปยศของวังสุริยันจันทราของพวกเรา!”

10/10

Ep.730

“แกมีคุณสมบัติอะไรมาตัดสินใจแทน?”

ชิวอิ๋งลุกขึ้นจากพื้น ร้องโวยวายด้วยความไม่พอใจ

หลังจากได้เห็นความแข็งแกร่งของซูเฉิน เธอก็หวาดกลัวจนขวัญหนีดีฝ่อ แต่โควต้ารอบคัดเลือกนั้นหมายถึงการได้เข้าสู่มิติท้ารบ มีความสำคัญเป็นอย่างมาก

แม้จะเสี่ยงต่อการถูกซูเฉินอัดจนหมอบอีกครั้ง แต่เธอก็ต้องสู้เพื่อสิทธิของตัวเอง

“ศิษย์น้องซู นายช่วยลองคิดดูอีกทีได้ไหม?” เฉินเฟิงและคนอื่นๆพยายามเกลี้ยกล่อมเขา เพราะถึงอย่างไรชิวอิ๋งก็แข็งแกร่งที่สุดในหมู่พวกเขา หากไม่ได้เข้าร่วมงานประลองรอบคัดเลือก จะถือเป็นความสูญเสียอย่างใหญ่หลวงสำหรับวังสุริยันจันทรา

“ฉันได้ตัดสินใจแล้ว ต่อให้ท่านประมุขอยู่ที่นี่ ก็ไม่สามารถเปลี่ยนใจฉันได้!”

เสียงของซูเฉินเย็นเยียบราวกับน้ำแข็ง กล่าวด้วยน้ำเสียงห้ามปฏิเสธ

เมื่อจากได้ยินคำพูดของซูเฉิน  หัวใจของเนี่ยซือเฉียนสั่นสะท้านอย่างรุนแรง

เธอไม่เข้าใจจริงๆ ซูเฉินเป็นเพียงศิษย์คนหนึ่ง เหตุใดถึงกล้าเอ่ยวาจาใหญ่โตเช่นนี้

แปลความหมายจากในคำพูดของเขา เหมือนกำลังบอกว่าประมุขแห่งวังสุริยันจันทรายังต้องเชื่อฟังเขาเลย

แต่ซูเฉินเป็นแค่ผู้ฝึกตนขั้น 8 เท่านั้น! ต่อให้แข็งแกร่งและมีพรสวรรค์ขนาดไหน ก็ไม่น่าจะอยู่เหนือกว่าประมุขวังได้ ถูกไหม?

เฉินเฟิงและคนอื่นๆมองหน้ากัน เกิดความรู้สึกอึดอัดเล็กน้อย

พวกเขารู้อุปนิสัยของซูเฉินดี ว่าเมื่อตัดสินใจแล้ว ก็ไม่มีใครสามารถหยุดได้

หากยังคงเถียงต่อไป มีแนวโน้มว่าอาจทำให้ซูเฉินโกรธ และนั่นไม่คุ้มค่ากับสิ่งที่จะเสียไป

กู่เทียนฮวาครุ่นคิดอยู่พักหนึ่ง สุดท้ายกัดฟันกล่าวว่า “ถ้าอย่างนั้น … ก็ตามที่ศิษย์น้องซูต้องการ”

เขารู้จักแยกแยะได้ว่าเรื่องไหนหนักเรื่องไหนเบากว่ากัน ยังไม่พูดถึงเรื่องที่ว่า ตอนแรกเป็นชิวอิ๋งที่หาเรื่องซูเฉินเอง ตอนนี้ถูกเตะออกจากเกม ก็ถือเป็นความรับผิดชอบของเธอเช่นกัน

“ศิษย์พี่กู่ นี่ท่าน …”

ชิวอิ๋งคาดไม่ถึงว่ากู่เทียนฮวาจะเห็นด้วยจริงๆ จมูกย่นเต็มไปด้วยความโกรธ

“เอาล่ะศิษย์น้องหญิง หยุดล้อเล่นได้แล้ว”

กู่เทียนฮวาใบหน้าบึ้งตึง กล่าวด้วยน้ำเสียงบูดบึ้ง

วันนี้ เดิมเขาแค่จะพาคนมาทำความรู้จักกับซูเฉิน แต่ไม่นึกเลยว่าจะเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น และคนผิดในครั้งนี้คือชิวอิ๋งกับหลี่ซือโม่ สำหรับเรื่องนี้ ในใจเขาเองก็เต็มไปด้วยไฟโทสะเช่นกัน  ไม่คิดอารมณ์ดีกับชิวอิ๋งอีกต่อไป

“พวกแกทั้งหมดรังแกฉัน! ฉันจะไปฟ้องท่านอาจารย์! ขอให้ท่านผู้เฒ่ามอบความยุติธรรมคืนให้ฉัน!”

ชิวอิ๋งกรีดร้อง หันหลังและวิ่งออกจากหุบเขาไป

รอจนชิวอิ๋งลับสายตา  เนี่ยซือเฉียนก็คารวะขอตัวลา พาหลี่ซือโม่ออกไปจากที่นี่

แม้หลี่ซือโม่จะไม่ถึงขั้นตกอยู่ในอันตรายถึงชีวิต แต่อาการบาดเจ็บของเขาค่อนข้างสาหัส หากไม่รีบรักษา เกรงว่าอาจทิ้งผลกระทบไปถึงภายภาคหน้า

“ศิษย์น้องซู ขออย่าได้เก็บเรื่องในวันนี้ไปใส่ใจเลย” เฉินเฟิงเดินมาข้างซูเฉิน แสดงท่าทีว่าขอโทษ

“สบายใจได้ ฉันไม่ถือสาการกระทำของสาวน้อยอยู่แล้ว”ซูเฉินพูดอย่างเป็นกันเอง

เฉินเฟิงถึงกับอ้าปากค้าง ลอบกล่าวในใจ ‘ไม่ถือสา แต่นายเพิ่งริบโควต้าประลองของเธอไป นี่เรียกว่าไม่ถือสาจริงๆน่ะหรอ?’

แน่นอน เขาไม่กล้าพูดประโยคนี้ออกมาเด็ดขาด ได้แต่ว่าร้ายในใจ

“ศิษย์พี่เฉิน อาวุธของคุณ ผู้อาวุโสอู๋ปรับแต่งให้เสร็จแล้วนะ”

จู่ๆซูเฉินก็นึกเรื่องหนึ่งขึ้นมาได้ หยิบอาวุธของเฉินเฟิงและคนอื่นๆออกจากถุงเก็บของ

เนื่องจากเหลิงมู่เย่มีภารกิจเลยไม่ได้มา  ซูเฉินจึงฝากอาวุธไว้กับเฉินเฟิง

“ศิษย์น้องซู ฝากขอบคุณปรมาจารย์อู๋หยาจื่อแทนพวกเราทุกคนด้วย!”

เฉินเฟิงกับเซี่ยจิงอี้รู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่ง

ซูเฉินพยักหน้า จากนั้นเดินไปข้างๆกู่เทียนฮวา กล่าวด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา “ศิษย์พี่กู่ ความสัมพันธ์ระหว่างวังสุริยันจันทรากับนิกายกิเลนเป็นอย่างไร?”

กู่เทียนฮวาไม่รู้ว่าซูเฉินจะถามทำไม แต่ก็ยังบอกตามความจริงว่า “นิกายกิเลนเป็นกลางในหุบเขาหวังเฉียว ความสัมพันธ์กับขุมกำลังต่างๆอยู่ในระดับเท่าเทียมกัน”

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด