197 - ชุมนุมอัจฉริยะ
197 - ชุมนุมอัจฉริยะ
“ร่างกายนี้มันอะไรกัน มันสามารถป้องกันอวตารของดวงจันทร์ที่เจิดจ้าเหนือทะเลได้จริงๆ!”
“มันจะเป็นไปได้อย่างไรกัน!”
ไม่มีใครสงสัยในอานุภาพแห่งดวงจันทร์อันเจิดจ้าเหนือท้องทะเล ดวงจันทร์ที่ปลิวไปอย่างรวดเร็วได้พิสูจน์พลังของมันด้วยการทำให้ภูเขาที่อยู่ด้านหลังสลายไปอย่างสิ้นเชิง!
สิ่งนี้ทำให้การแสดงออกของคนหลายคนเปลี่ยนไป อวตารของดวงจันทร์ที่เจิดจ้าได้รับการปกป้องจากผู้ฝึกตนนิรนาม มันไม่น่าจะเป็นไปได้?
อย่างไรก็ตามเย่ฟ่านก็กระเด็นออกไปกระแทกกับภูเขาที่อยู่ด้านหลังในระยะไกลเช่นกัน เขาไม่ได้รับบาดเจ็บมากมายอะไรแต่สภาพของเขาค่อนข้างทุลักทุเลเล็กน้อย
บนยอดหญ้าที่หอมกรุ่น อัจฉริยทั้งหมดพบว่ามันยากที่จะสงบสติอารมณ์ลงได้
“สิ่งนี้เกิดขึ้นได้อย่างไร เขาไม่มีแม้แต่อวตาร เขาจะป้องกันตัวจากอวตารของจี้ฮ่าวเยว่ได้อย่างไร”
“เขาสามารถมีร่างศักดิ์สิทธิ์ได้หรือไม่? มีข่าวลือว่ามีเพียงร่างกายศักดิ์สิทธิ์เท่านั้นที่สามารถต้านทานการโจมตีของอวตารของร่างศักดิ์สิทธิ์ได้”
ในขณะนี้หลี่เสี่ยวม่านตกตะลึง นางเป็นคนเดียวที่รู้ว่าเย่ฟ่านมีร่างกายศักดิ์สิทธิ์ดั้งเดิม เขาสามารถฝึกฝนได้สำเร็จ มันสามารถต้านทานร่างกายศักดิ์สิทธิ์ได้!
มันเป็นการต่อสู้ที่คู่ควร!
หลายคนมาถึงข้อสรุปดังกล่าว
จี้ฮ่าวเยว่ใช้ความแข็งแกร่งของผู้ฝึกฝนที่อาณาจักรกงล้อแห่งทะเลเพื่อปราบปรามเย่ฟ่าน ผลที่ได้คือดวงจันทร์ที่สว่างไสวถูกส่งออกไปและเย่ฟ่านก็ถูกกระแทกด้วยเช่นกัน
แม้กระทั่งการจับคู่กับร่างศักดิ์สิทธิ์ของดินแดนรกร้างทางทิศตะวันออก นี่เป็นสิ่งที่คาดไม่ถึงอย่างแน่นอน เพียงพอที่จะทำให้ผู้คนคุ้มคลั่ง!
ผู้ฝึกตนนิรนามมีร่างกายที่น่าสะพรึงกลัวอย่างนั้นหรือ? สายตาของผู้คนมากมายจับจ้องมาที่เขา
จี้ฮ่าวเยว่เป็นจุดสุดยอดของสวรรค์ จริงๆแล้วมีเด็กหนุ่มคนหนึ่งที่สามารถใช้ร่างกายของเขาเพื่อป้องกันอวตารของเขาได้
ทุกคนสามารถเห็นศักยภาพในตัวเย่ฟ่านอย่างชัดเจนและถ้าเขาได้รับการหล่อเลี้ยงอย่างเหมาะสม ในอนาคตก็เป็นไปได้ว่าเขาจะกลายเป็นผู้ยิ่งใหญ่ของแดนรกร้างตะวันออก!
สำหรับคนจำนวนมากนี่เป็นถึงต้นกล้าเซียน เขาอายุเพียงสิบสี่ปีเท่านั้นและอนาคตของเขาจะต้องสดใสโดยไม่มีอะไรขวางกั้น
“นี่มันเหลือเชื่อจริงๆ ถือได้ว่าเป็นปาฏิหาริย์”
“เหลือเชื่อจริงๆ เขาสามารถป้องกันอวตารร่างศักดิ์สิทธิ์ได้”
ดวงตาของทุกคนต่างจับจ้องมายังเย่ฟ่านราวกับกำลังมองของวิเศษ
การแสดงออกของฮั่วอวิ๋นเฟยสงบและเขาเขย่าพิณของเขาเบาๆ เพลงที่นุ่มนวลก็ถูกบรรเลงออกมาอีกครั้งและทำให้จิตใจของผู้คนสงบลง
การแสดงออกของหลี่เสี่ยวม่านซับซ้อนขณะที่นางเหลือบมองเย่ฟ่านก่อนที่จะกลับมานั่งที่เดิมอีกครั้ง จี้จื่อเยว่อยู่ข้างเย่ฟ่านนางไม่ได้ย้ายไปนั่งกับจี้ฮ่าวเยว่สิ่งนี้ทำให้จี้ฮ่าวเยว่ขมวดคิ้ว แต่เขาก็ยังเงียบ
สตรีศักดิ์สิทธิ์แสงโชติช่วงถูกแยกออกจากเย่ฟ่านด้วยโต๊ะเพียงโต๊ะเดียวและส่งต่อความปรารถนาดีของนางให้เขาอย่างนุ่มนวล
ในตอนนี้มีเพียงเย่ฟ่านเท่านั้นที่เข้าใจว่าทำไมเขาถึงสามารถป้องกันการโจมตีจากร่างศักดิ์สิทธิ์ได้ มันเป็นการตอบสนองตามธรรมชาติของร่างกายศักดิ์สิทธิ์บรรพกาล
ในระหว่างกระบวนการที่เขาถูกปราบปราม พลังพิเศษถูกปลดปล่อยออกมาจากภายในกงล้อแห่งทะเลของเขาเพื่อปิดกั้นอวตารของดวงจันทร์ที่เจิดจ้า แม้แต่เขาเองก็ไม่แน่ใจว่ามันเป็นพลังประเภทใด
โดยธรรมชาติแล้วเหตุผลพื้นฐานก็คือเพราะอีกฝ่ายได้ระงับการฝึกฝนของเขาเอง ทำให้ทั้งสองอยู่ในระดับเดียวกัน
จี้ฮ่าวเยว่มีการฝึกฝนที่มากกว่า และถ้าเขาจะใช้พลังเต็มที่ ไม่ว่าร่างกายของเย่ฟ่านจะมีลักษณะเฉพาะอย่างไร เขาก็ยังต้องตายอย่างน่าสยดสยอง
แต่เมื่อทั้งสองฝ่ายต่างอยู่ในอาณาจักรวงล้อและทะเลและจบลงด้วยผลเสมอกันหัวใจของเย่ฟ่านก็สั่นสะท้าน ร่างศักดิ์สิทธิ์ของดินแดนรกร้างตะวันออกช่างน่ากลัวจริงๆ
เย่ฟ่านไม่รู้ว่าจี้ฮ่าวเยว่ประหลาดใจมากแค่ไหนแต่คิดว่าเขาคงไม่ยอมเลิกราในระดับนี้อย่างแน่นอน
ครั้งแรกที่จีฮ่าวเยว่เห็นเย่ฟ่านร่างศักดิ์สิทธิ์ดินแดนรกร้างตะวันออกของเขามีปฏิกิริยาแปลกๆราวกับว่ามันได้พบกับศัตรูตัวฉกาจ
ดังนั้นเขาจึงเฝ้าติดตามความเคลื่อนไหวของเด็กหนุ่มคนนี้อยู่ตลอดเวลา
ฮั่วอวิ๋นเฟยสวมชุดสีฟ้า เสื้อผ้าของเขาพลิ้วไหวราวกับสายน้ำและเขายืนขึ้นพร้อมถ้วยสุราจากนั้นเขาก็ยิ้มแย้มกล่าวกับทุกคนว่า
“ทุกคนที่นี่เป็นอัจฉริยะของดินแดนรกร้างตะวันออก ในอนาคตชื่อของเราจะดังก้องไปทั่วแผ่นดิน เรามาจากภูมิภาคนี้หวังว่าเราจะไม่กลายเป็นศัตรูกัน”
ในความเป็นจริงพื้นที่รกร้างตะวันออกทั้งหมดนั้นกว้างใหญ่ไพศาลมาก กล่าวโดยเคร่งครัดที่ที่พวกเขาอยู่นั้นอยู่ตรงหัวมุมของภูมิภาคทางใต้เท่านั้น
ทุกคนยกถ้วยของพวกเขา นอกเหนือจากศิษย์ของยอดเขาดวงดาว คนที่เหลือสิบคนที่นี่ล้วนเป็นอัจฉริยะที่จะกลายเป็นผู้ยิ่งใหญ่ของแดนรกร้างตะวันออกในอนาคต
ทุกคนเข้าใจว่าเป็นไปไม่ได้ที่พวกเขาจะเป็นมิตรตลอดไป แต่ละนิกายต้องการขยายตัวและหากมีความขัดแย้ง อัจฉริยะเหล่านี้จะต้องเผชิญหน้ากันสักวันหนึ่งอย่างแน่นอน
อย่างไรก็ตาม ทุกคนยังคงให้เกียรติเมื่อพวกเขายกถ้วยของพวกเขา บรรยากาศเป็นกันเองและมีการกล่าวสนทนาเรื่องสนุกสนานมากมายโดยไม่เปิดเผยความลับที่แท้จริงใดๆ
“ชายชราผู้บ้าคลั่งนั้นไร้เทียมทานในสมัยก่อน ความแข็งแกร่งของเขาเพียงพอที่จะปราบปรามยอดฝีมือทุกคน ย้อนกลับไปในสมัยนั้นผู้นำของดินแดนศักดิ์สิทธิ์แสงโชติช่วงของเราก็พ่ายแพ้โดยที่ไม่อาจต่อต้านได้เลย
หกพันปีผ่านไปและเขาได้กลับคืนสู่เถ้าธุลีแล้ว อย่างไรก็ตาม ชายชราที่บ้าคลั่งยังคงมีชีวิตอยู่อย่างปกติสุข เรื่องนี้เป็นเรื่องที่คิดไม่ถึงจริงๆ”
จี้ฮ่าวเยว่พยักหน้า
“พลังแห่งกาลเวลานั้นไร้ความปราณี แม้แต่ร่างที่ไม่มีใครเทียบได้ก็พบว่ามันยากที่จะต้านทาน ในที่สุดก็ต้องกลับสู่พื้นดิน”
เมื่อพูดเช่นนี้แล้วเขาก็ถอนหายใจ
“ในสมัยก่อน ตระกูลจี้ของเรามีสามผู้ยิ่งใหญ่กล่าวต่อทุกท่านโดยปราศจากความละอาย พวกเขาได้ต่อสู้กับชายชราผู้บ้าคลั่งโดยใช้สามรุมหนึ่งเมื่อสี่พันปีก่อนแต่สุดท้ายพวกเขาก็ตายจนหมดสิ้น
เมื่อคิดดูแล้วเรื่องนี้น่าเหลือเชื่อจริงๆ ไม่รู้ว่าในช่วงเวลาที่ผ่านมามียอดฝีมือที่แข็งแกร่งเท่าไหร่ที่ร่วงหล่นจากการต่อสู้กับชายชราคนนี้”
แม้ว่าคนทั้งสองจะพูดในลักษณะยกย่องชายชรา แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าแดนศักดิ์สิทธิ์แสงโชติช่วงและตระกูลจี้จะไร้ประโยชน์
จากมุมมองอื่นนี่เป็นความลึกลับของประวัติศาสตร์ ทุกคนรู้อยู่แล้วว่าชายชราผู้บ้าคลั่งนั้นเป็นยอดฝีมืออันดับหนึ่งของดินแดนรกร้างตะวันออก การพี่มีโอกาสได้ต่อสู้กับเขาก็เป็นเรื่องที่เหลือเชื่อมากแล้ว
ในความเป็นจริง มหาอำนาจเหล่านี้ที่มีมรดกตกทอดไปไกลถึงอดีตในสมัยโบราณ พวกเขาไม่จำเป็นต้องโอ้อวดถึงความแข็งแกร่งของตัวเองก็ไม่มีผู้ใดสามารถดูถูกพวกเขาได้
“การบ่มเพาะของชายชราผู้บ้าคลั่งนี้ไปถึงระดับใดก็ไม่มีผู้ใดทราบได้ บางทีอาจต้องเป็นคนภาคกลางเท่านั้นถึงจะมีผู้ที่สามารถต่อต้านเขา……” ฮั่วอวิ๋นเฟยถอนหายใจกล่าวต่อ
“เขาได้แกะสลักจารึกเต๋าภายในนิกายไท่ซวนของข้าโดยประสงค์จะสำรวจความว่างเปล่า ความลึกซึ้งของจารึกเหล่านั้นช่างพิเศษ เขาต้องการเดินทางไปยังที่ไกลแสนไกล เป็นไปไม่ได้เลยที่จะคาดเดาว่าเขาวางแผนจะไปที่ไหน”
หลังจากนั้นทั้งกลุ่มได้พูดคุยเกี่ยวกับดินแดนรกร้างโบราณต้องห้ามที่ซึ่งเป็นความพยายามร่วมกันของตระกูลจี้ ตระกูลเจียงและดินแดนศักดิ์สิทธิ์แสงโชติช่วงซึ่งสุดท้ายพวกเขาก็ถูกกวาดล้างทั้งหมด
ภายในกลุ่มเย่ฟ่านมีประสบการณ์เป็นการส่วนตัว แต่เขาไม่ได้แสดงท่าทางใดๆไม่เช่นนั้นจี้ฮ่าวเยว่และสตรีศักดิ์สิทธิ์แสงโชติช่วงจะต้องเสี่ยงชีวิตกับเขาอย่างแน่นอน
เมื่อพูดถึงดินแดนรกร้างโบราณต้องห้าม กลุ่มนี้อดไม่ได้ที่จะพูดถึงเหมืองต้นกำเนิดโบราณต้นกำเนิดที่ตั้งอยู่ในพื้นที่ทางตอนเหนือของ ดินแดนรกร้างตะวันออก
ด้วย 'ต้นกำเนิด' ในชื่อของมัน มันง่ายที่จะเดาว่าประวัติของมันนั้นยาวไกลมากแค่ไหน
เมื่อหลายปีก่อน เหมืองต้นกำเนิดโบราณเป็นเหมืองต้นกำเนิดที่มีชื่อเสียงที่สุดภายในดินแดนรกร้างตะวันออก หลังจากนั้นวัตถุมงคลก็ถูกขุดออกมามากมาย
ทำให้มันกลายเป็นหนึ่งในเจ็ดพื้นที่ต้องห้ามที่ยิ่งใหญ่ ตามตำนานเมื่อหลายปีก่อน มีการขุดต้นกำเนิดซึ่งไปกระทบกระเทือนกับสิ่งมีชีวิตโบราณที่อยู่ภายในเหมืองทำให้มันออกมาฆ่าคนมากมาย
“มีข่าวลือว่าเวลาที่จำเป็นในการสร้าง 'ต้นกำเนิด' นั้นยาวนานอย่างหาที่เปรียบไม่ได้ ครั้งล่าสุดเกิดขึ้นก็มาจากยุคโบราณ เราสามารถย้อนรอยย้อนไปถึงยุคมืดโบราณได้ มันไม่น่าเชื่อเลย…….”