ตอนที่ 93 จัดการซากหมาป่า
ตอนที่ 93 จัดการซากหมาป่า
ซากของหมาป่านอนตายอยู่ทั่วทั้งพื้นที่รอบต้นไม้ใหญ่เปลวไฟและเถ้าท่านเริ่มมอดดับลงไป กายเดินไปลากท่อนไม้ที่ติดไฟมารวมกัน เพื่อให้มันกลายเป็นกองไฟใหม่ ส่วนลูก้านั้นเดินดับไฟที่ลามออกไปยังด้านนอกพื้นที่ เพราะถ้าเกิดปล่อยไว้มันคงไม่ดี ไฟพวกนี้อาจจะเผาทั้งทุ่งหญ้าได้
หลังจากกองไฟถูกจัดการกายและลูก้าก็ไปช่วยมีอา อาลีน่า และลิลี่ในการลากซากหมาป่ามากองรวมกัน
“เราจะเอายังไงกับซากหมาป่าพวกนี้”
“ปล่อยทิ้งไว้ไหม”
“เผาทิ้งเลยดีกว่า ปล่อยไว้พวกมันอาจจะเน่าจนส่งกลิ่นเหม็นไปทั่ว”
“แบบนั้นยุ่งยากเกินไป ข้าว่าคนที่จัดการได้ดีที่สุดในหมู่พวกเราคือเดวิน” มีอาหันมาหากาย ลิลี่ก็พึ่งนึกขึ้นได้จึงหันมามองที่เขาด้วย
“ทำไมถึงต้องเดวิน” อาลีน่าและลูก้าถามออกมาพร้อมกันด้วยความสงสัย
“เพราะเขาคือช่างโลหะฝึกหัดที่ทำงานอยู่ที่โรงตีเหล็กไร้เวลา น่าจะพอมีไอเดียจัดการกับหมาป่าพวกนี้มากกว่าพวกเรา” ลิลี่บอกกับทั้งสองคน
อาลีน่าและลูก้าต่างมองไปที่กายอย่างไม่อยากจะเชื่อสักเท่าไหร่
“ที่จริงข้าเป็นช่างโลหะทั่วไปแล้ว ยังเปิดร้านขายอาวุธ ชื่อร้านขายอาวุธไร้ขอบเขต ถ้าสนใจก็แวะไปได้ มันอยู่ที่ถนน บีท ทางตะวันออกเฉียงใต้ของนครดาราฟ้าได้” กายยิ้มแก้คำพูดของลิลี่
นั้นทำให้ทั้ง 4 คนทึ่งในความสามารถของกาย พวกเขาไม่อยากจะเชื่อว่ากายนั้นจะเป็นช่างโลหะทั่วไปแล้ว
“เดวิน เจ้าให้ดาบเดซี่กับมีอาแล้ว ถ้าอย่างนั้นสร้างอาวุธให้ข้าบ้างสักชิ้นสิ เอาค้อนแบบนี้ก็ได้” ลิลี่มองไปที่ค้อนด้วยความอยากได้ เธอคิดว่าถ้ารวมกับพลังของเธอค้อนนี้จะกลายเป็นอาวุธทำลายล้างที่น่ากลัวไม่ต่างจากหมัดทั้งสองของตัวเองอย่างแน่นอน
อาลีน่าลอบมองค้อนสั่นสะเทือนในมือของกายและดาบเดซี่ของมีอาและคิดในใจว่า...ถ้าอย่างนั้นค้อนในมือของเขาและดาบเล่มนั้นคือสิ่งที่เขาเป็นผู้สร้างขึ้นมาสินะ
“เรื่องนั้นคงต้องไว้หลังจากจบภารกิจเลื่อนชั้นปีก่อน ตอนนี้เรามาจัดการเรื่องซากหมาป่าพวกนี้ก่อนดีกว่า เนื้อของหมาป่าทั้งเหม็นสาบและเปรี้ยวคงไม่เหมาะเอามากินสักเท่าไหร่ อีกอย่างเราคงขนพวกมันไปด้วยไม่ ดังนั้นเราเอาไปแค่หนังของมันก็แล้วกัน ข้ารู้มาว่าหนังหมาป่านั้นขายได้ราคาดีในทุ่งหญ้ากิรา หนังพวกนี้มันให้ความอบอุ่นในตอนกลางคืนที่หนาวเย็นและระบายความร้อนในตอนกลางวันที่ร้อนแผดเผาได้ดี อีกอย่าง อีกอย่างเขี้ยวหมาป่าชิ้นหนึ่งราคาประมาณ 1 เหรียญทอง พวกนักรบมักซื้อหาไปใส่กัน เพราะเชื่อว่ามันทำให้นักล่าเกรงกลัวได้” กายบอกความคิดของตัวเองไป ตั้งแต่เรื่องที่เขาติดต่อร่วมมือกับร้านเครื่องหนังกายก็พยายามเรียนรู้วิธีทำพวกเครื่องหนังและการสร้างด้ามกับซองอาวุธ
ซึ่งในเรื่องพวกนี้มันคือความรู้พื้นฐานของช่างโลหะที่จะต้องมีติดตัวไว้ไม่มากก็น้อย
หลังจากได้ยินความเห็นเห็นของกาย คนอื่น ๆ ก็เห็นด้วย เพราะการจะปล่อยเหรียญทองนับร้อย ๆ เหรียญทิ้งไปก็ไม่ใช่เรื่อง ลูก้านั้นกระตือรือร้นสุดเมื่อได้ยินว่าเขี้ยวของหมาป่าขายได้ เขาก็จัดการถอนเขี้ยวของหมาป่าไม่หยุดในทันที
คนอื่น ๆ ก็ลงมือถลกหนังหมาป่ากันอย่างขะมักเขม้น ส่วนกายนั้นเขาลองยกตัวหมาป่าที่โดนค้นสั่นสะเทือนสังหารขึ้นมา มันเหมือนกับตัวแรกที่โดนค้อนสั่นสะเทือนฟาดไปเต็มแรง เลือดและเนื้อไหลออกจากปากจนเหลือแต่เพียงผืนหนังที่ว่างเปล่า
“สะดวกดีแฮะ” กายจับหนังหมาป่าไปมา ผืนหนังก็ยังดีอยู่ทุกอย่างไม่มีรอยของบาดแผลหรือรอยฉีกขาดแม้แต่น้อย กายโยนหนังหมาป่าไปรวมกันกองของคนอื่น ๆ
ส่วนอื่น ๆ ของหมาป่าที่พวกเขาไม่เอา กายจัดการขุดหลุมโยนลงไปและกลบฝั่งเพื่อไม่ให้กลิ่นดึงดูดสัตว์ร้ายมาที่นี่อีก
ตั้งแต่หมาป่ารอบโจมตีจนถึงฆ่าพวกมันทั้งฝูงและจัดการเก็บกวาดรอบ ๆ ตอนนี้ก็เป็นเวลาเที่ยงคืนแล้ว กายรู้สึกง่วงนอนแล้ว คนอื่น ๆ ก็ง่วงไม่แพ้กัน ดังนั้นพวกเขาจึงพากันตักน้ำมาล้างเนื้อล้างตัว ก่อนจะหาที่นอนที่ไม่มีกลิ่นคาวเลือดแรงมากนัก
กายเดินเช็กดูม้าที่ตอนนี้หายตื่นตกใจแล้ว โดยเฉพาะเจ้าหมอก มันเดินไปดม ๆ เลือดก่อนจะลองเลียดูด้วยซ้ำ มันไม่ค่อยตกใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นมากนักเหมือนกลับม้าตัวอื่น ๆ
กายพาเจ้าหมอกมานอนลงกับพื้นตรงจุดหนึ่ง ก่อนที่เขาจะทิ้งตัวนั่งลงและนอนพิงมัน ในอากาศที่เย็นแบบนี้นอกจากความอบอุ่นของกองไฟแล้ว การนอนพิงม้าก็ให้ความอบอุ่นที่ไม่แพ้กัน
“เราผลัดเวรเฝ้ายามกันจนถึงเช้าก็แล้วกัน ข้าจะเฝ้าคนแรกเอง”
“ข้าคนสอง”
“ข้าคนสามเอง”
มีอา อาลีน่าและลิลี่ตกลงกันเสร็จสรรพ กายและลูก้าจึงรับเวรต่อจากนั้น โดยผลัดหลังสุดนั้นเป็นของกาย นั้นทำให้กายนอนหลับได้อย่างเต็มอิ่มในทันที อีกสี่ถึงห้าชั่วโมง
กายหลบตาลงด้วยถอนหายใจด้วยความเหนื่อย คืนนี้แม้จะดูง่าย แต่ก็ไม่ง่ายอย่างที่คิด กายใช้ศิลปะการต่อสู้ไปหลายครั้งมาก ทำให้สูญเสียพลังสมาธิไปมาก
ตอนตีห้ากว่าลูก้าเดินเข้ามาจะปลุกกายแต่กายลืมตาขึ้นมาเอง เพราะอย่างที่บอกผู้เล่นนั้นแม้จะดูเหมือนนอนหลับ แต่ก็ยังมีสติอยู่ในระดับหนึ่ง
“ที่เหลือข้าเฝ้ายามต่อเอง”
“หาว...ฝากด้วยแล้วกันข้าไปนอนก่อน” ลูก้าอ้าปากหาวเล็กน้อยก่อนจะเดินไปนอน
กายลุกขึ้นมาบิดตัวสองสามครั้งก่อนจะเดินไปล้างหน้าล้างตา ในวันนี้หมอกลงเยอะพอสมควรโลกดีว่าเหนือหัวพวกเขามีผ้าบาง ๆ ผูกขึงไว้ก่อนนอนอยู่แล้ว ทำให้ป้องกันน้ำค้างจากหมอกได้พอสมควร
สาว ๆ สามคนนั้นหลับไปแล้ว กายมองไปที่มีอานั้นนอนด้วยท่าทางที่ธรรมดาในอ้อมกอดมีดาบเดซี่อยู่ เขาเฝ้ามองใบหน้าที่หลับสนิทและเสียงหายใจที่แผ่วเบาและสม่ำเสมอของเธอ กายมองดูมีอาและหวนนึกถึงสัญญาเกี่ยวก้อยในตอนนั้น เขาก็ยิ้มออกมาอย่างโง่งม
“ย้า...” ในตอนนั้นเสียงลิลี่ก็ดังขึ้นกายหันหน้าหนีใบหน้าของมีอาด้วยความตกใจ ก่อนจะหันไปมองลิลี่ที่พึ่งจะละเมอ เธอนอนดิ้นมาจากจนตกไปนอกผ้าที่ปูรองพื้นไว้ พร้อมกับมีน้ำลายมุมปากเล็กน้อย
“นางเหมือนกับเด็กน้อยจริง ๆ” กายส่ายหัวไปมา ก่อนจะหันไปมองอาลีน่าที่นอนพิงต้นไม้ แต่เขาก็ต้องสะดุ้งเพราะสายตาของอาลีน่านั้นจับจ้องมาที่เขาอยู่ กายตกใจเล็กน้อยแกล้งกระแอมกระไอสองสามทีเพื่อกลบเกลื่อน ก่อนจะถามเธอ
“เจ้าตื่นตั้งแต่เมื่อไหร่”
“สักพักแล้วทำให้เห็นอะไรหลายอย่าง” อาลีน่ายิ้มมุมปากจนกายรู้สึกอยากจะบ้าตายที่ดันทำเรื่องน่าอายแบบนั้นให้อาลีน่าเห็นซะได้
“ข้าไปเดินดูรอบ ๆ หน่อย” กายไม่แก้ตัวแต่รีบหนีออกไปจากตรงนี้ทันที โดยที่ไม่สังเกตเลยว่ามุมปากของมีอาก็ยิ้มออกมาทั้งที่เธอหลับตาอยู่
รอบ ๆ ต้นไม้ใหญ่หลังจากผ่านการเผามาเมื่อคืนไฟก็ดับหมดแล้วเหลือเพียงเถ้าสีดำเปียกชื้นน้ำค้างให้เห็นเท่านั้น กายเดินเข้าไปในพุ่มป่าไม้ด้านในที่มีบ่อน้ำบาดาลอยู่ที่นี้มีไฟไหม้อยู่บ้าง แต่มันก็สุดแค่บ่อน้ำบาดาลตรงนี้ เพราะเมื่อคืนพวกเขาดับไฟได้ทัน
กายเดินมาถึงมุมหนึ่งก็รู้สึกว่าที่พื้นมีรอยเท้าเล็ก ๆ คล้ายกับรอยของลูกสุนัข เขาก้มลงไปดูในทันที
เมื่อคืนนี้ไม่มีซากของลูกหมาป่านี่...หรือจะมีตัวที่ซ่อนอยู่ที่นี่ และคงจะหนีไปแล้ว แต่ก็ช่างเถอะกว่าที่มันจะโตมาแก้แค้นได้ ข้าก็คงจะออกจากทุ่งหญ้าไปแล้ว
เขาเลิกสนใจลอยเท้าเล็ก ๆ นี้เพราะต่อให้สนใจ แต่เขาก็คงไม่เสียเวลาไปตามล่ามัน
...
เช้าของวันที่สองในการออกเดินทางอีกครั้ง พวกเขาแบ่งหนังหมาป่าใช่ม้ากันคนละสิบผืนและออกเดินทางต่อ
กายให้เจ้าถึกแบ่งหนังหมาป่าไป ด้วยอากาศที่ร้อนมากขึ้นหนังหมาป่าจึงแห้งอย่างรวดเร็วและไม่ส่งกลิ่นเหม็นมากนัก
ตลอดการเดินทางทั้งวันนี้กายเจอกับซากมนุษย์สองสามคนที่โดนสัตว์ร้ายฆ่าตาย ไม่ต้องเดาก็รู้ว่ามันคือฝูงหมาป่าที่โจมตีพวกเขาเมื่อคืนที่ผ่านมา
“ดูเหมือนหมาป่าพวกนี้จะมาจากทุ่งหญ้ากิรา” ลูก้ากล่าวออกมา
“พวกมันคงหนีการต่อสู้ของพวกทหารกับโจรกะโหลกแดงมา” อาลีน่าตอบกลับลูก้าก่อนจะกล่าวเสริมอีกว่า “แต่อาจจะไม่ใช่ทั้งหมด เพราะที่นั่นก็มีการต่อสู้จำนวนมากในทุกวันอยู่แล้ว ดังนั้นน่าจะเพราะที่ทุ่งหญ้าแห้งแล้งกว่าทุกปีก็ได้ ฝูงหมาป่าจึงพากันอพยพขึ้นมาทางนี้เพื่อหาอาหาร”
ขณะที่ทั้งสองพูดคุยกันอยู่นั้น ทางด้านของลิลี่ก็ถามกายขึ้นมาว่า “เดวิน เมื่อคืนตอนที่เจ้าเล่าเรื่องของทุ่งหญ้ากิรา หลังจากมีปีศาจพวกนั้นโผล่มาแล้วเกิดอะไรขึ้น ช่วยเล่าต่อได้ไหม”
คนอื่นก็ยังค้างค่าใจกับเรื่องเล่าของกายที่เล่ายังไม่ทันจบก็มีหมาป่าเข้ามาโจมตีพวกเขาแล้ว
“ได้แน่นอน หลังจากที่มีชาวบ้านที่ใบหน้ามีแต่รอยยิ้มโผล่มา พวกมันก็เข้าสังหารคณะสำรวจที่เคยอยู่ในบ้านหลังที่สองจนหมด เหลือแต่คนที่อยู่ในบ้านพลังแรกที่ยังมีชีวิตรอด ในตอนนั้นทุกคนที่รอดอยู่ต่างมองไปที่พวกปีศาจที่กำลังดื่มฉลองเลือดเนื้อกันอย่างเต็มอิ่ม ก่อนจะแบ่งบางส่วนมาให้กับคนกลุ่มแรก แต่พวกเขาเหล่านั้นต่างตกอยู่ในอาการหวาดกลัว และแทบจะสิ้นสติ ก่อนที่พวกที่เหลือจะพากันหมดสติไป”