713-714
3/10
Ep.713
อู๋หยาจื่อถอนหายใจ อธิบายว่า “ก็ก่อนหน้านี้เจ้าเกือบดับชีวิตน้อยๆของมัน ยังคงสามารถรักษาฐานฝึกตนขั้น 8 เอาไว้ได้ ก็นับว่าดีมากแล้ว”
“หา?”
ซูเฉินอึ้งไปเล็กน้อย และรู้สึกโกรธตัวเอง หากรู้แต่แรกว่าสามารถกำราบโลกันต์เยือกแข็งเป็นสัตว์เลี้ยงวิญญาณได้ เขาคงไม่ทำร้ายมันจนปางตายแบบนี้
แต่เห็นได้ชัดว่ามาเสียใจเอาตอนนี้ มันก็สายเกินไปแล้ว
เห็นซูเฉินแสดงท่าทีหดหู่ อู๋หยาจื่อยิ้มและกล่าวว่า “โลกันต์เยือกแข็งคือสิบมหาเพลิงเอกลักษณ์ ต่อให้อยู่ขั้น 8 เจ้าก็ไม่ควรประเมินพลังของมันต่ำไป นอกจากนี้ หากให้มันกินแร่ธาตุไฟอย่างต่อเนื่อง ด้วยศักยภาพของมัน ใช้เวลาไม่นานก็ควรจะกลับมาอยู่ที่ขั้น 10 ได้อีกครั้ง หรือกระทั้งเลื่อนขั้นเป็นเพลิงเทวะ ก็ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้”
ซูเฉินพยักหน้า อารมณ์ดีขึ้นเยอะ จากนั้น เขาเก็บสัตว์เลี้ยงวิญญาณทั้งหมดเข้าไปใน[พื้นที่เลี้ยงสัตว์] แล้วออกจากงานประมูลพร้อมอู๋หยาจื่อ
เมื่อเสวี่ยหมิงถูกฆ่าตาย หมอกโลหิตที่ปกคลุมโถงประมูลก็ค่อยๆสลายไป ผู้คนในงานเริ่มกลับมามีสติแจ่มใส เขาไม่ต้องการรั้งอยู่ต่อ เพราะอาจเป็นการดึงดูดความสนใจ จึงเร่งออกจากงาน
ซูเฉินรีบหยิบ [รถศึกอัจฉริยะ] ออกมา หลังจากขึ้นรถ ก็เปิด [มิติสันโดษ] เรียกพวกเฉินเฟิงกับคนอื่นๆออกมาทันที
[มิติสันโดษ] ถึงอย่างไรยังไม่สมบูณณ์ ซูเฉินกังวลว่าพวกเขาอาจมีปัญหาหากปล่อยให้อยู่ข้างในนานเกินไป
เมื่อเห็นว่าทุกคนไม่บุบสลาย เขาก็โล่งใจมากขึ้น
“เฮียซู เกิดอะไรขึ้นในงานประมูล?” เฉินเฟิงถาม
ซูเฉินไม่ได้ปิดบัง อธิบายสรุปสั้นๆว่าเกิดอะไรขึ้น
พอได้ยิน ทุกคนต่างแสดงออกถึงความหวาดกลัว
พวกเขาสามารถจินตนาการได้ หากไม่มีซูเฉินอยู่เคียงข้าง เกรงว่าวันนี้คงถูกฝังอยู่ในงานประมูลแล้ว
“ซูเฉิน ข้าเตรียมวัสดุทั้งหมดสำหรับซ่อมแซม [มิติสันโดษ] เอาไว้แล้ว หลังจากนี้ตั้งใจจะซ่อมมันจนสมบูรณ์”
รอจนทุกคนสงบลง อู๋หยาจื่อก็เอ่ยปากขึ้น
“ถ้าอย่างงั้นคงต้องรบกวนผู้อาวุโสแล้ว” ซูเฉินพยักหน้า เปิด [มิติสันโดษ] ส่งอู๋หยาจื่อเข้าไปข้างใน
ต่อมา เขาเบนสายตาไปยังหน้าจอควบคุมส่วนกลาง หลังจากไตร่ตรองอยู่พักหนึ่ง ก็ออกคำสั่งกับ [รถศึกอัจฉริยะ] ว่า “เสี่ยวจือ ค้นหาตำแหน่งของวังสุริยันจันทราบนหุบเขาหวังเฉียว แล้วไปที่นั่น”
อีก 20 วันก็จะถึงงานประลองรอบคัดเลือกของขุนเขาหวังเฉียวแล้ว จะต้องรีบไปที่นั่นให้เร็วที่สุด
“รับทราบ”
[รถศึกอัจฉริยะ] ล็อคตำแหน่งวังสุริยันจันทรา เดินเครื่องไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว
หลังจากนั้น ซูเฉินติดตั้งศิลาทลายมิติที่เหลือให้กับ [รถศึกอัจฉริยะ] แล้วสนทนากับมัน
“เสี่ยวจือ ด้วยฟังก์ชั่นข้ามเขตแดนของนาย สามารถเข้าสู่ทวีปเผ่าวิญญาณได้ไหม?”
เมื่อพิจารณาถึงเรื่องที่ว่าหลังจากงานประลองรอบคัดเลือกในขุนเขาหวังเฉียวจบลง ซูเฉินยังเหลือเวลาอีกหนึ่งปีกว่าจะถึงงานประลองของทวีปเสวียนเทียน ด้วยระยะเวลาที่ยาวนานเช่นนี้ ไม่ควรปล่อยทิ้งไว้ให้สูญเปล่า หากเป็นไปได้ก็อยากเข้าสู่ทวีปเผ่าวิญญาณแล้วนำหินต้นกำเนิดพลังงานขั้น 9 มาไว้ในครอบครอง
“เจ้านาย ด้วยรูปแบบในปัจจุบันของฉัน เป็นการยากที่จะเข้าสู่ทวีปใหญ่เช่นของเผ่าวิญญาณ จำเป็นต้องอัพเกรดเป็นขั้น 8 เสียก่อน ถึงจะทำได้” [รถศึกอัจฉริยะ] ตอบตามความจริง
[รถศึกอัจฉริยะ] ปัจจุบันอยู่ในขั้น 7 แล้ว หากต้องการอัพเกรดเป็นขั้น 8 ต้องใช้หินพลังงานหรือหินต้นกำเนิดพลังงานขั้น 8
ซึ่งซูเฉินไม่มีติดตัวเลยแม้แต่ก้อนเดียว
หลังจากครุ่นคิดอยู่พักหนึ่ง เขาก็เอ่ยถามเฉินเฟิงว่า “พี่เฉิน พอจะรู้ไหมว่ามีหินพลังงานขั้น 8 อยู่ที่ไหนบ้าง?”
“ในวังสุริยันจันทราของพวกเรามีอยู่จำนวนหนึ่ง แต่ไม่มากนัก นอกเหนือจากนั้น ก็น่าจะอยู่ในมือของขุมกำลังอื่นในขุนเขาหวังเฉียว” เฉินเฟิงกล่าว
ซูเฉินพยักหน้าว่าเข้าใจแล้ว หันมาพูดกับ [รถศึกอัจฉริยะ] ต่อ “เสี่ยวจือ นายต้องการหินพลังงานเท่าไหร่ถึงจะอัพเกรดเป็นขั้น 8 ได้”
“20 ก้อน” [รถศึกอัจฉริยะ] ตอบกลับทันที
4/10
Ep.714
20 ก้อน?
ซูเฉินถึงกับอ้าปากค้าง เพราะเขาจำได้ดี ว่าตอนอยู่ทวีปเผ่าราชวงศ์อสูร เจ้าตัวต้องใช้ความพยายามเป็นอย่างมากถึงสามารถหาหินพลังงานขั้น 8 จนครบสามก้อน
จากจุดนี้แสดงให้เห็นว่า หินพลังงานขั้น 8 แต่ละก้อน หาได้ยากเย็นถึงขนาดไหน
กระนั้น การอัพเกรด [รถศึกอัจฉริยะ] เป็นขั้น 8 ก็เป็นสิ่งจำเป็น และแลกเปลี่ยนยังไงก็คุ้ม
ในเมื่อเป็นแบบนี้ หากได้มันมาโดยวิธีตามปกติก็แล้วไป แต่ถ้าไม่ได้จริงๆต่อให้ปล้นชิงก็ต้องทำ
หินพลังงานขั้น 8 กระจายอยู่ตามเจ็ดขุมกำลังใหญ่ของขุนเขาหวังเฉียว เขาจะต้องรวบรวมพวกมันมาให้จงได้
หลังจากนั้น [รถศึกอัจฉริยะ] วิ่งไปตลอดเส้นทาง โดยไม่มีอุปสรรคใดๆ
ระหว่างนี้ อู๋หยาจื่อซ่อมแซม [มิติสันโดษ] เสร็จเรียบร้อยแล้ว อาวุธของพวกเฉินเฟิงและคนอื่นๆได้ถูกปรับแต่งใหม่เช่นกัน
แต่ขณะที่พวกเขากำลังจะเข้าสู่เขตของขุนเขาหวังเฉียว [รถศึกอัจฉริยะ] ก็ร้องเตือนขึ้น “เจ้านาย มีมนุษย์มากกว่าสิบคนซ่อนตัวอยู่สองข้างทางถนนเบื้องหน้า”
ขุนเขาหวังเฉียวคือเทือกเขากว้างใหญ่ไร้ที่สิ้นสุด และมีเจ็ดขุมกำลังกระจายตัวอยู่ตามจุดต่างๆ
ทว่าหากต้องการเข้าสู่วังสุริยันจันทรา จะมีแค่หนทางเดียวเท่านั้น
ซึ่งบนถนนสายนี้ ดันมีมนุษย์ซ่อนตัวอยู่ วัตถุประสงค์ของพวกมันย่อมชัดเจน
–เห็นได้ชัดว่ามีเจตนาจะทำอะไรบางอย่างกับพวกเขาที่กำลังผ่านทาง
ซูเฉินได้ล่วงเกินขุมกำลังอื่นไปมากมาย เขาเดาไม่ออกว่าใครเป็นคนตระเตรียมลอบโจมตีในครั้งนี้ เขาออกคำสั่งแก่ [รถศึกอัจฉริยะ] ว่า “เสี่ยวจือ ล็อคเป้าพวกมันไว้ แล้วขยายภาพที”
“รับทราบ”
[รถศึกอัจฉริยะ] ล็อคเป้าศัตรู สะท้อนขึ้นบนหน้าจอควบคุมส่วนกลาง
ซูเฉินหรี่ตาและกวาดมอง พบว่าเป็นชายแปลกหน้าสิบกว่าคน ทั้งหมดรวมกลุ่มกัน สนทนาอะไรบางอย่าง
“พี่เฉิน คุณรู้จักพวกเขาไหม?” ซูเฉินถาม
เนื่องจากพวกมันปรากฏตัวในอาณาเขตของขุนเขาหวังเฉียว ซูเฉินเลยเดาว่าคนที่ซุ่มโจมตีน่าจะมากจากหนึ่งในเจ็ดขุมกำลังใหญ่ของขุนเขาเช่นกัน
ในฐานะที่ฉินเฟิงเป็นสมาชิกของวังสุริยันจันทรา เขาก็น่าจะรู้จักพวกมัน
แต่ใครจะคาดคิด ว่าเฉินเฟิงเพียงเพ่งมองอย่างตั้งใจอยู่พักหนึ่ง ก็ส่ายหัวออกมาและกล่าวว่า “ฉันไม่รู้จักพวกเขา”
คำตอบนี้เหนือความคาดหมายของซูเฉิน ดังนั้นหันไปขอคำชี้แนะจากเหลิงมู่เย่และเซี่ยจิงอี้
แต่คำตอบที่ได้รับกลับมาก็เหมือนเดิม
“หรือว่าพวกมันจะมาจากขุมกำลังอื่น?” ซูเฉินพึมพำในใจ
เพราะท้ายที่สุดแล้ว ราชวงศ์เฝิงซี , จักรวรรดิเฉินเชิ่ง และ วิหารศักดิ์สิทธิ์หมานหยู ล้วนมีปัญหากับเขา เป็นไปได้ว่าอีกฝ่ายอาจส่งคนมาซุ่มโจมตีเขาที่นี่
หลังจากครุ่นคิดอยู่พักหนึ่ง ซูเฉินก็เอ่ยถาม [รถศึกอัจฉริยะ] ว่า “เสี่ยวจือ ฐานฝึกตนของพวกมันอยู่ขั้นไหน?”
“มีผู้วิวัฒนาการขั้น 8 หนึ่งคน ส่วนที่เหลือเป็นผู้วิวัฒนาการขั้น 7” [รถศึกอัจฉริยะ] ตอบทันควัน
“เอ๋?”
ซูเฉินขมวดคิ้วเล็กน้อย ฐานฝึกตนของอีกฝ่ายต่ำเกินไป เลยบังเกิดข้อสงสัยว่าพวกมันใช่มาที่นี่เพื่อซุ่มโจมตีตนจริงๆน่ะหรือ?
เพราะด้วยความแข็งแกร่งที่ซูเฉินเคยแสดงออกไป หากคิดฆ่าเขา อย่างน้อยสมควรเรียกผู้ฝึกตนขั้น 9 หรือสูงกว่าออกมาจัดการมิใช่หรือ?
ส่งแค่ขั้น 7 กับ 8 มา นี่ไม่เท่ากับโยนเหยื่อให้เขารึไง?
‘หรือว่าฉันจะคิดมากไป?’
ซูเฉินส่ายหัว ถ่ายทอดคำสั่ง “เสี่ยวจือ ขับต่อไปไม่ต้องสนใจ”
ไม่ว่าอีกฝ่ายจะมีจุดประสงค์อะไร เอาไว้เดี๋ยวขับผ่านก็รู้เอง
[รถศึกอัจฉริยะ] ได้รับคำสั่ง ก็ค่อยๆแล่นต่อไปข้างหน้า
เมื่อมาถึงจุดซุ่มโจมตี ผู้คนนับสิบก็กระโจนออกมายืนขวางถนนอย่างสง่าผ่าเผย ปิดกั้นเส้นทางของ [รถศึกอัจฉริยะ] เอาไว้
“พวกมันมาสร้างปัญหาจริงๆด้วย”
ซูเฉินประหลาดใจมาก เขาไม่เข้าใจจริงๆ อาศัยเพียงมดปลวกไม่กี่ตัว เหตุใดถึงกล้าลงมือโจ่งแจ้งเช่นนี้? เป็นไปได้ไหมว่าความจริงพวกมันคือโจรเร่ร่อนจากสถานที่อื่น และไม่รู้จักตัวตนของซูเฉิน
อย่างไรก็ตาม ซูเฉินโยนข้อสันนิษฐานนี้ทิ้งไปอย่างรวดเร็ว เพราะผู้วิวัฒนาการขั้น 7 หรือ 8 ไม่ว่าอยู่ในขุมกำลังใดก็ล้วนแข็งแกร่งทั้งสิ้น แล้วพวกเขาจะเป็นแค่โจรเร่ร่อนได้อย่างไร?
เมื่อนึกยังไงก็ไม่เข้าใจสถานการณ์ ซูเฉินตัดสินใจเปิดประตู ก้าวลงจากรถ