711-712
1/10
Ep.711
“ดี! เจ้าลงมือได้เลย!” อู๋หยาจื่อเห็นด้วย
“พวกนายคอยจับตาดูเจ้าหมอนี่เอาไว้ให้ดี ถ้ามันกล้าเคลื่อนไหว ก็ตีให้ตายแทนฉันได้เลย!” ซูเฉินสั่งเหล่าสัตว์เลี้ยงวิญญาณ จากนั้นทะยานไปหาโลงศพโลหิตเก้ามังกรพร้อมกับอู๋หยาจื่อ
รออู๋หยาจื่อคลายตาข่ายดำออก ซูเฉินก็เปิดใช้งาน [ทักษะต่อสู้หมื่นแสงสิบเงาสะท้อน] ทันที
พริบตานั้นเอง ซูเฉินทั้ง 11 ร่าง โจมตีโลงศพโลหิตเก้ามังกรพร้อมกัน
และในคราวนี้ กระทั่งกระบี่ยักษ์สีน้ำตาลดินก็ยังถูกใช้ร่วมด้วย
ตูมมมม!
บังเกิดเสียงสนั่นหวั่นไหว ซูเฉินทั้ง 11 ร่างโจมตีลงโลงศพโลหิตเก้ามังกร
เห็นแค่เพียงโลงศพสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง ปรากฏรอยปริร้าวขึ้นบนฝาโลง แตกระแหงเป็นใยแมงมุม
เห็นภาพนี้ อู๋หยาจื่อรู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่ง
แม้ว่าจะไม่สามารถทําลายโลงศพโลหิตเก้ามังกรในการโจมตีเพียงครั้งเดียว แต่ก็ยังสร้างความเสียหายร้ายแรง แบบนี้ขอแค่โจมตีอีกไม่กี่ครั้ง ก็สามารถเอาชนะได้อย่างแน่นอน
“หยุดมือ!”
ในเวลานั้นเอง เสวี่ยหมิงข้างในโลงศพร้องตะโกนขึ้น “อู๋หยาจื่อ พวกเรามิได้ขุ่นข้องหมองใจใดๆต่อกัน นี่เจ้าต้องการสังหารข้าจริงๆน่ะหรือ?”
เผชิญกับการโจมตีที่น่าสะพรึงของซูเฉิน เสวี่ยหมิงบังเกิดความหวาดกลัวอย่างลึกล้ำ ในเวลาเดียวกัน ก็ตระหนักว่า ด้วยการป้องกันของโลงศพโลหิตเก้ามังกร คงต้านทานกระบวนท่านี้ได้อีกแค่ไม่กี่ครั้ง
และเมื่อโลงศพโลหิตเก้ามังกรถูกทำลาย เขาคงมิแคล้วต้องถูกปิดล้อมโจมตีโดยอู๋หยาจื่อและซูเฉินในเวลาเดียวกัน และหนทางเดียวที่รออยู่ คือความตาย
“ไม่มีความขุ่นข้องหมองใจต่อกันหรือ? บัดซบเถอะ! แกคงลืมไปแล้ว ว่าในตอนแรก เป็นแกเองที่โจมตีบิดา!”
ซูเฉินตวาดเสียงเย็น ตั้งท่าเตรียมลงมืออีกครั้ง
“ช้าก่อน”
ภายใต้สถานการณ์วิกฤติ เสวี่ยหมิงเปล่งเสียงดัง “เรื่องที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้เป็นความผิดข้าเอง ข้ายินยอมชดใช้”
“แกจะให้อะไรฉัน?”
ซูเฉินถามเสียงเย็น ไม่ว่าเสวี่ยหมิงจะให้อะไรเขา เขาก็จะฆ่ามันอย่างแน่นอน แต่เหตุผลที่ยังไม่ลงมือทันที เป็นเพราะ[ทักษะต่อสู้หมื่นแสงสิบเงาสะท้อน] ต้องใช้เวลาพักฟื้นครู่หนึ่ง จึงจะใช้งานได้อีกครั้ง
“ข้ามีหินพลังงานมากมายในตัว และศิลาทลายมิติเช่นกัน ข้ายอมมอบทั้งหมดให้แก่เจ้า” เสวี่ยหมิงกล่าวอย่างร้อนรน
ศิลาทลายมิติ?
ดวงตาของซูเฉินเป็นประกายขึ้นมาทันที เขาอาจจะไม่สนใจหินพลังงาน แต่ศิลาทลายมิติน่ะสำคัญมาก จำเป็นต่อการเปิดฟังก์ชั่นข้ามเขตแดนของ [รถศึกอัจฉริยะ]
แม้แค่ 5 ก้อนก็เพียงพอแล้ว แต่ยิ่งติดตั้งศิลาทลายมิติมากเท่าไหร่ ความสามารถในการข้ามเขตแดนก็จะยิ่งแข็งแกร่งขึ้นเท่านั้น
“ส่งของมาให้ฉันก่อน ฉันต้องรู้ว่าแกพูดความจริงรึเปล่า”
ซูเฉินพยายามระงับความตื่นเต้น กล่าวเสียงเรียบ
“ไม่ เจ้าต้องสาบานต่อสวรรค์ว่าจะไว้ชีวิตข้า แล้วข้าจะยอมมอบของแก่เจ้า”
เสวี่ยหมิงไม่ได้โง่ กรณีที่มอบของออกไป แล้วซูเฉินพลิกลิ้นโจมตี ถึงเวลานั้นเขาจะทวงถามความยุติธรรมได้จากใคร?
“เป็นแกเองนะที่ไม่รู้จักชั่วดี!” ซูเฉินปาดจมูก ดวงตาค่อยๆมืดมนและเย็นชา
“ในเมื่อหมอนี่มันดื้อด้าน งั้นเจ้าก็ไม่จำเป็นต้องไว้หน้าเขา” อู๋หยาจื่อแค่นเสียง หยิบค้อนทองคำขนาดใหญ่ออกมาจากถุงเก็บของของเขา ทุบลงบนโลงศพโลหิตเก้ามังกร
เขาเองก็มีความคิดเช่นเดียวกับซูเฉิน ไม่ตั้งใจจะปล่อยเสวี่ยหมิงไปตั้งแต่แรกแล้ว และแน่นอนว่าจะไม่ยอมสาบานต่อสวรรค์เช่นกัน
เคร้งงงง!
ค้อนทองคำกระแทกลงบนโลงศพโลหิตเก้ามังกร สร้างแรงสั่นสะเทือนไปทั่วทั้งโลง
อย่างไรก็ตาม แม้โจมตีรุนแรงถึงขนาดนี้ แต่ก็ยังไม่เพียงพอที่จะทำลายการป้องกันของโลงศพโลหิตเก้ามังกรลงได้
ซูเฉินเห็นแบบนั้น ก็หยิบเอา [ภูเขาหยวนเหออู่จี๋] ออกมา แล้วทุ่มมันลงจากเบื้องบน
ตูม ตูม บรึ้มมม!
หลายลมหายใจทีเดียว ที่ตลอดทั้งโถงประมูลสะท้อนไปด้วยเสียงปะทะกึกก้องรุนแรง
ซูเฉินกับอู๋หยาจื่อร่วมมือกันโจมตีเป้นร้อยครั้ง ในที่สุดก็สามารถทำลายการป้องกันของโลงศพโลหิตเก้ามังกรลงได้
ทันทีที่ฝาโลงแตก เสวี่ยหมิงทะยานขึ้นสู่ท้องฟ้า
ซูเฉินเตรียมพร้อมไว้ก่อนแล้ว ปลดปล่อยพลังจิตแผ่ซ่านไปทุกทิศทาง โอบล้อมอีกฝ่ายเอาไว้ แม้ไม่ถึงขั้นหยุด แต่ก็ช่วยให้เชื่องช้าลง
ขณะเดียวกัน อู๋หยาจื่อกางตาข่ายดำในตอนแรกออกไป คลุมร่างของเสวี่ยหมิงเอาไว้
2/10
Ep.712
ตาข่ายดำของอู๋หยาจื่อดูเหมือนจะมีประสิทธิภาพในการใช้กักขังซอมบี้ ทันทีที่เสวี่ยหมิงถูกพันธนาการ ก็มีควันสีขาวลอยฟุ้ง เจ้าตัวส่งเสียงร้องด้วยความเจ็บปวด
ซูเฉินไม่พลาดโอกาสนี้ ใช้หมัดเดียวระเบิดหัวเสวี่ยหมิง
พริบตานั้นเอง ชิ้นส่วนนับพันสาดแสงออกมาจากร่างไร้ศีรษะ
ซูเฉินเปิด [ฟังก์ชั่นเก็บอัตโนมัติ] รวบรวมชิ้นส่วนทั้งหมด จากนั้นค้นศพ จนพบถุงเก็บสมบัติของเสวี่ยหมิง
หลังจากเปิดมัน ก็พบว่าภายในมีหินพลังงาน แร่ วัตถุดิบวิญญาณ ฯลฯ อีกมากมาย
แต่เป้าหมายหลักของซูเฉินคือศิลาทลายมิติ เขาเขี่ยสมบัติอื่นๆออกไปก่อน
ไม่นาน ซูเฉินก็พบศิลาทลายมิติมากถึง 5 ก้อน มุมปากของเขาอดยกยิ้มอย่างช่วยไม่ได้
“ซูเฉิน เจ้าจะทำอย่างไรกับโลงศพโลหิตเก้ามังกรที่เสียหายนี้?”
ระหว่างนั้นเอง อู๋หยาจื่อเอ่ยถามขึ้น
ซูเฉินกวาดสายตาไปยังโลงศพโลหิตเก้ามังกร ส่ายหัวเล็กน้อย “ผมเก็บมันไว้ก็ไม่มีประโยชน์อะไร ถ้าผู้อาวุโสชอบ โปรดรับมันไว้”
อู๋หยาจื่อพยักหน้า ใส่มันลงในถุงเก็บของของตัวเอง
แม้โลงศพโลหิตเก้ามังกรจะชำรุดเสียหาย แต่ถึงอย่างไรมันก็เป็นสิ่งประดิษฐ์เทวะ วัสดุที่ใช้ในการหลอมล้ำค่ามาก หากนำกลับไปปรับแต่งใหม่ บางทีอาจสามารถสร้างอุปกรณ์ที่มีพลังป้องกันชั้นเลิศได้
หลังจากนั้น ซูเฉินและอู๋หยาจื่อกลับมาที่เดิม เริ่มจัดการกับโลกันต์เยือกแข็ง
“เจ้านายของเจ้าตายแล้ว ยังไม่รีบคืนร่างจริงอีก?”
อู๋หยาจื่อสาดสายตาเย็นชาไปยังโลกันต์เยือกแข็ง
ทันใดนั้นเอง จู่ๆก็มีเสียงร้องตอบกลับมา เห็นแค่เพียงภายใต้เสียงคำรามดั่งฟ้าผ่าของอู๋หยาจื่อ โลกันต์เยือกแข็งสั่นเทาอย่างรุนแรง ต่อมา มันก็เริ่มกลายร่างเป็นสัตว์อสูรขนาดเท่าฝ่ามือ จมูกเล็กตาโต ขดตัวกลม ดูน่ารักไม่น้อย
กระนั้น ในแววตาของมันกลับฉายแววคมกริบ คล้ายกำลังเตือนซูเฉินและคนอื่นๆ ว่าอย่าได้ทำร้ายมันอีก
โลกันต์เยือกแข็งแม้ตกอยู่ในสถานะนี้ ยังกล้าแสดงท่าทีดื้อรั้น ซูเฉินรู้สึกไม่พอใจเล็กน้อย ยื่นเท้าออกไป เหยียบลงบนตัวมัน แล้วออกแรงบี้จนจมดิน
“อื้อ อื้อ …”
โลกันต์เยือกแข็งไร้กำลังจะต่อต้าน ทั้งยังไม่กล้าขัดขืน ได้แต่คร่ำครวญด้วยความเจ็บปวด
“ซูเฉิน พอได้แล้ว เดี๋ยวมันทนไม่ไหว”
อู๋หยาจื่อกังวลว่าซูเฉินจะเผลอขยี้มันจนตาย จึงร้องเตือน
ซูเฉินยกเท้าขึ้น จิกสายตามองโลกันต์เยือกแข็ง กล่าวเสียงเย็นว่า “ฉันจะมอบโอกาสให้แกมีชีวิตต่อ –แกจะยอมจำนน แล้วกลายเป็นสัตว์เลี้ยงวิญญาณของฉันหรือไม่?”
ภายใต้สายตาของซูเฉิน โลกันต์เยือกแข็งลังเลเล็กน้อย สุดท้ายพยักหน้าและกล่าวว่า “ข้ายินยอม”
“นี่แกก็พูดได้ด้วย?”
ซูเฉินชะงักไปครู่หนึ่ง แต่ก็ไม่คิดมากอะไร จากนั้นหยิบ [โพชั่นสัตว์เลี้ยง] ออกมาสามขวด แล้วเทมันมันดื่ม
เมื่อดื่มจนหมด โลกันต์เยือกแข็งก็ยอมศิโรราบ แววตาของมันดูเชื่องขึ้นทันที
ก่อนหน้านั้น แม้มันทำตัวว่าง่าย แต่เหตุผลหลักๆเพราะหวาดกลัวซูเฉิน ทว่าตอนนี้ เห็นได้ชัดว่ามันแสดงท่าทีเชื่องแล้วจริงๆ กระทั่งอู๋หยาจื่อยังรู้สึกได้ เขาตกใจมาก
หากว่ากันตามปกติแล้ว การกำราบสัตว์เลี้ยงวิญญาณเป็นกระบวนการแบบค่อยเป็นค่อยไป อย่างโลกันต์เยือกแข็ง เสวี่ยหมิงน่าจะใช้เวลานานกว่าจะทำให้เชื่องได้
แต่ซูเฉินกลับทำได้อย่างง่ายดายด้วยน้ำยาเพียงสามขวด ช่างน่าอัศจรรย์ใจนัก!
ซูเฉินเล่นกับโลกันต์เยือกแข็งอยู่พักหนึ่ง จู่ๆคิ้วของเขาก็ขมวดเข้าหากันเล็กน้อย หันมาถามอู๋หยาจื่อว่า “ผู้อาวุโส ไหนท่านบอกว่าเสี่ยวกู่ตัวนี้เป็นโลกันต์เยือกแข็งขั้น 10 ไง? ทำไมผมถึงรู้สึกว่ามันอยู่แค่ขั้น 8?”
ความแตกต่างระหว่างขั้น 8 กับขั้น 10 ห่างชั้นราวฟ้ากับเหว
ตอนนี้ เมื่อกำราบโลกันต์เยือกแข็งให้กลายเป็นสัตว์เลี้ยงวิญญาณได้แล้ว เป็นธรรมดาที่ซูเฉินจะคาดหวังให้มันอยู่ในสภาวะที่ทรงพลังที่สุด