WS บทที่ 242 พื้นที่มิติของเบลล์
เมอร์ลินถืออุปกรณ์เวทมนต์รูปหูหระต่ายไว้ในมือ มันเป็นหนึ่งในสองอุปกรณ์เวทมนต์ที่พ่อมดเบลล์ได้สร้างขึ้นมา
อุปกรณ์เวทมนต์รูปหูกระต่ายเริ่มปล่อยพลังงานอันอบอุ่นออกมา ดูเหมือนว่าจะพบอุปกรณ์เวทมนต์อันอื่น
มันเป็นอุปกรณ์เวทมนต์แบบประกอบกันได้ซึ่งหมายความว่าเครื่องมือนี้ทำขึ้นจากส่วนประกอบหลายชิ้นเพื่อให้เป็นชิ้นเดียว จนถึงตอนนี้ เมอร์ลินได้รวบรวมเพียงสองอันเท่านั้นซึ่งเมื่อรวมกันจึงกลายเป็นอุปกรณ์เวทมนต์รูปหูกระต่ายอันที่เขาใช้จนถึงทุกวันนี้
ในตอนแรกอุปกรณ์เวทมนต์อันนี้เป็นจี้ห้อยคอมีความสามารถในการเก็บคาถา เมื่อเขาจับคู่มันกับอุปกรณ์เวทมนต์อันอื่น มันกลายเป็นอุปกรณ์เวทมนต์รูปหูกระต่ายที่มีความสามารถในการเสริมพลังคาถา มันสามารถเพิ่มพลังป้องกันของคาถาระดับแรกของเขาได้อย่างมาก ทำให้เทียบได้กับคาถาป้องกันระดับสาม
ตอนนี้ อุปกรณ์เวทมนต์รูปหูกระต่ายเกิดปฏิกิริยาอีกครั้ง เป็นที่ชัดเจนว่าภายในแหวนของไวส์หรือรีเซนมีอุปกรณ์เวทมนต์อีกชิ้นหนึ่งที่สามารถประกอบเข้ากับอุปกรณ์เวทมนต์รูปหูกระต่ายได้
เมื่อค้นดูวงแหวนทั้งสองอีกครั้ง เมอร์ลินก็พบอุปกรณ์เวทมนต์รูปสามเหลี่ยมที่แปลกประหลาด เขาหยิบมันออกมาและทันทีใดนั้นอุปกรณ์เวทมนต์รูปหูกระต่ายก็เปล่งแสงจ้าอันรุนแรง
"ดูเหมือนว่าอุปกรณ์เวทมนต์นี้เป็นส่วนประกอบที่สามของอุปกรณ์เวทมนต์แบบประกอบ!"
เมอร์ลินไม่รู้ว่ามีส่วนประกอบเหลืออยู่มากมายที่จะเพิ่มเข้าไปในอุปกรณ์เวทมนต์ชิ้นนี้แต่เขารู้อย่างคลุมเครือว่าเมื่อเพิ่มแต่ละครั้ง มันจะมีความสามารถใหม่เข้ามาแทนที่อันเก่า
เมอร์ลินครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง เขาไม่แน่ใจว่าเขาควรหลอม ส่วนประกอบที่สามและสูญเสียเอฟเฟกต์ของอันเก่าไปดีหรือไม่
เมื่อประกอบแล้ว มันอาจจะไม่ใช่อุปกรณ์เวทมนต์แบบเสริมพลังอีกต่อไป ดังนั้นจึงไม่สามารถเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับรูปปั้นผู้พิทักษ์ได้อีก สิ่งนี้จะส่งผลกระทบอย่างมากกับเมอร์ลิน แม้ว่าความแข็งแกร่งในพลังโจมตีของเขาจะรุนแรงก็ตามแต่เขาก็ยังขาดความสามารถในการป้องกัน
แต่ทว่าเสื้อคลุมที่เขามีการป้องกันในระดับหนึ่งซึ่งมันไม่น่าเป็นปัญหาใหญ่โตอะไร
“ฉันมีเสื้อคลุมที่สามารถทนต่อเวทย์มนตร์ระดับสามได้ เอฟเฟกต์การเสริมพลัง คงไม่จำเป็นอีกต่อไปแล้วไปแล้ว”
เมอร์ลินชั่งน้ำหนักข้อดีและข้อเสีย เขาพบว่ารูปแบบการเสริมพลังนั้น มันไม่มีประโยชน์อีกต่อไป ยิ่งกว่านั้น ถ้าเขาเพิ่มพลังจิตของเขาเล็กน้อย เขาจะสามารถสร้างคาถาระดับสองได้
ถ้าเขาสร้างคาถาระดับสองธาตุดินและใช้มันแบบเสริมพลัง มันจะไม่ด้อยไปกว่าคาถาระดับสาม
ด้วยเหตุนี้ เมอร์ลินจึงตัดสินใจและเตรียมที่จะรวมอุปกรณ์เวทมนต์รูปหูกระต่ายและส่วนประกอบที่สามเข้าด้วยกันเพื่อสร้างอุปกรณ์เวทมนต์อันใหม่
เมอร์ลินสูดหายใจเข้าลึก ๆ ขณะที่เขาวางอุปกรณ์เวทมนต์รูปหูกระต่ายและอุปกรณ์เวทมนต์รูปสามเหลี่ยมเข้าด้วยกัน
ทันใดนั้น มีแสงจ้าปรากฏขึ้นจากอุปกรณ์เวทมนต์รูปหูกระต่ายและห่อหุ้มส่วนประกอบที่สามไว้ด้วย
เมอร์ลินไม่สามารถมองเห็นได้ชัดเจนว่าเกิดอะไรขึ้นในแสงจ้าแต่เขารู้ว่าทั้งสองชิ้นต้องหลอมรวมเข้าด้วยกัน
หลังจากผ่านไปครึ่งชั่วโมง แสงจ้าจากเครื่องมือหล่อจะกะพริบอย่างรวดเร็วและหายไป บนโต๊ะวางอุปกรณ์เวทมนต์รูปวงรีที่มันวาวมาก ด้านบนมีรูเล็ก ๆ ที่เชือกสามารถร้อยผ่านและสวมไว้ที่หน้าอกได้
เมอร์ลินหยิบอุปกรณ์เวทมนต์ขึ้นมาใหม่ มันยังอุ่นอยู่ อย่างไรก็ตาม พื้นผิวค่อนข้างไม่เรียบเนื่องจากมีอักษรรูนลึกลับสลักอยู่
ไม่มีทางบอกประโยชน์ของอุปกรณ์เวทมนต์เพียงแค่ดูมัน เป็นการดีที่สุดที่จะใช้พลังจิตเพื่อค้นหาความสามารถที่แท้จริงของอุปกรณ์เวทมนต์ใหม่นี้
ดังนั้น เมอร์ลินจึงเพ่งพลังจิตและตรวจสอบอุปกรณ์เวทมนต์แบบใหม่
*บูม!*
พลังจิตของเมอร์ลินเพิ่งห่อหุ้มอุปกรณ์เวทมนต์ใหม่และทันทีที่พลังจิตของเขาเข้าสู่กระแสน้ำวน เขาถูกส่งไปยังพื้นที่ที่ไม่คุ้นเคย
ในพื้นที่มืดสนิทแต่พลังจิตของเมอร์ลินไม่ได้รับผลกระทบและเขาสามารถมองเห็นสภาพแวดล้อมได้อย่างชัดเจน
พื้นที่นั้นใหญ่มากและไม่เหมือนกับพื้นที่ภายในวงแหวน พลังจิตของเมอร์ลินสามารถสัมผัสได้ถึงความแตกต่างบางอย่างแต่เขาไม่สามารถบอกได้ว่ามันคืออะไรกันแน่
“นี่คือเอฟเฟกต์ของอุปกรณ์เวทมนต์รูปวงรีใช่ไหม?”
เมอร์ลินอยากรู้อยากเห็น เขาไม่ได้คาดหวังว่านี่จะเป็นพลังของอุปกรณ์เวทมนต์ ทันใดนั้นความทรงจำก็ปรากฏขึ้นในใจของเขา
ความทรงจำนั้นเหนือความคาดหมายมาก ราวกับว่ามันปรากฏขึ้นจากอากาศ มันเป็นข้อมูลเกี่ยวกับอุปกรณ์เวทมนต์ใหม่
จากข้อมูลได้อธิบายว่า มันพื้นที่มิติที่สร้างโดยอุปกรณ์เวทมนต์เปลี่ยนให้เป็นสถานที่ที่สามารถเข้าไปได้โดยใช้พลังจิตเท่านั้น มันเป็นพื้นที่ที่สามารถจำลองคาถาใด ๆ หรือแม้แต่พลังปีศาจแพนโดร่าได้
นอกจากนี้ ยังมีประโยชน์อีกประการหนึ่ง คือ อนุญาตให้พลังจิตดำรงอยู่ภายในอย่างอิสระและตัวพลังจิตที่ถูกจำลองนั้นสามารถกลับที่ตัวผู้ใช้และเพิ่มพลังจิตได้ในที่สุด
เมอร์ลินประหลาดใจ แม้ว่าจะเป็นเพียงข้อมูลเพียงเล็กน้อยแต่ก็เป็นสิ่งที่น่าอัศจรรย์อย่างยิ่ง
"พื้นที่มิตินี้เป็นของจริง! เวทมนตร์และพลังปีศาจแพนโดร่าสามารถจำลองได้ในพื้นที่นี้อย่างสมบูรณ์ ต้องมีความแข็งแกร่งอย่างไม่น่าเชื่อจึงจะสามารถผลิตพื้นที่เช่นนี้ได้!"
เมอร์ลินยังคงตกตะลึง แม้แต่พ่อมดผู้ยิ่งใหญ่ก็ไม่สามารถควบคุมความแข็งแกร่งด้านมิติให้แปรเปลี่ยนกลายเป็นในรูปของอุปกรณ์เวทมนต์ได้
บางทีอาจมีนักเวทย์เพียงไม่กี่คนในยุคทองที่เชี่ยวชาญด้านมิติและสร้างมันออกมา
ดูเหมือนว่าพ่อมดเบลล์จะเป็นบุคคลที่ค่อนข้างซับซ้อน เดิมทีเมอร์ลินเชื่อว่าพ่อมดเบลล์เป็นพ่อมดผู้ยิ่งใหญ่ในประวัติศาสตร์แต่ที่จริงแล้วเขาน่าจะเป็นนักเล่นแร่แปรธาตุผู้ยิ่งใหญ่มากกว่า
ตอนนี้ อุปกรณ์เวทมนต์ทั้งสามได้รวมตัวกันและกลายเป็นพื้นที่มิติ สิ่งนี้ล้ำหน้ากว่าความสามารถของพ่อมดผู้ยิ่งใหญ่ เมอร์ลินนึกไม่ออกเลยว่าพ่อมดเบลล์จะทรงพลังขนาดไหน ท้ายที่สุดแล้ว เมอร์ลินรู้ว่าพ่อมดเบลล์เป็นพ่อมดผู้ยิ่งใหญ่ที่ทรงพลังที่สุด
"มาทดสอบกันเพื่อดูว่าพื้นที่มิติของเบลล์จะสามารถจำลองอะไรก็ได้จริงหรือไม่?"
เมอร์ลินจดจ่ออยู่กับพลังจิตของตนไปที่พื้นที่มิติและภายในเวลาไม่นาน ร่างหนึ่งก็ได้ก่อตัวขึ้นเพื่อให้ดูเหมือนกับเมอร์ลินพอดี
"สร้างโครงสร้างคาถา" เมอร์ลินพยายามใช้พลังจิตอันซับซ้อนเพื่อสร้างคาถาระดับศูนย์ ลูกไฟทันที
*หวู่ม!*
พลังจิตอันซับซ้อนของเมอร์ลินเพิ่งพยายามสร้างแบบจำลองคาถาของลูกไฟแต่โครงสร้างนั้นพังลงในทันที
เมอร์ลินขมวดคิ้ว เขาพยายามอีกสองสามครั้งแต่เหมือนครั้งแรก พลังจิตอันซับซ้อนจะพังทลายลงในทันที อย่างไรก็ตาม ด้วยความพยายามแต่ละครั้ง เมอร์ลินก็เริ่มตระหนักถึงบางอย่างอย่างช้า ๆ
“ลูกไฟอาจเป็นคาถาระดับศูนย์แต่ก็ยังต้องใช้พลังจิตอยู่บ้าง บางทีนี่อาจเป็นเพราะพลังจิตของฉันในพื้นที่มิติตอ่อนแอเกินไป มันไม่สามารถตอบสนองความต้องการพลังจิตของลูกไฟจึงล้มเหลว”
นี่คือการคาดเดาของเมอร์ลิน ดังนั้นครั้งนี้เขาจึงเพิ่มพลังและส่งพลังจิตอันเหลือเชื่อไปยังพื้นที่มิติ
พลังจิตดั้งเดิมของเมอร์ลินเป็นเพียงหนึ่งในเปอร์เซ็นต์ของสิ่งที่เขามีในตอนนี้ มันเป็นเพียงเศษเสี้ยวเดียวเท่านั้น แต่ตอนนี้ เมอร์ลินมีพลังจิตที่สามารถเทียบได้กับนักเวทย์สาม พลังจิตหนึ่งเปอร์เซ็นต์นี้สามารถสร้างคาถาระดับศูนย์ ลูกไฟได้
ในความเป็นจริง เมอร์ลินอยากจะส่งพลังจิตเข้าไปในพื้นที่มิติมากกว่านี้ อย่างไรก็ตาม ระหว่างความพยายามของเขา เมอร์ลินสังเกตเห็นปัญหา ทุกครั้งที่พลังจิตของเขาเข้าสู่พื้นที่มิติ มันจะลดลงทันที นี่หมายความว่าหากพลังจิตของเมอร์ลินที่ส่งไปในพื้นที่มิติได้พังทลายลง พลังจิตของเมอร์ลินก็จะหายไปในที่สุด
ถ้าเมอร์ลินกล้าที่จะส่งพลังจิตในส่วนที่ใหญ่ขึ้นไปยังพื้นที่มิติ พลังจิตของเขาก็จะลดลงในระดับหนึ่งทันที มันจะส่งผลให้โครงสร้างเวทมนต์สูญเสียการควบคุมและพังทันที
เมอร์ลินรู้เรื่องนี้และไม่เสี่ยงที่จะส่งพลังจิตเข้าไปในพื้นที่มิติมากเกินไป
จากนั้นเมอร์ลินก็ใช้พลังจิตสร้างสร้างแบบจำลองคาถาของคาถาระดับศูนย์ ลูกไฟ อีกครั้ง
*พรึ่บ!*
คราวนี้ ร่างกายของเมอร์ลินสั่นและในไม่ช้าร่างกายของเขาก็เริ่มผันผวนด้วยธาตุไฟจาง ๆ สิ่งนี้สร้างขึ้นโดยพลังจิตของเขาที่
พลังจิตอันซับซ้อนของเมอร์ลินได้สร้างแบบจำลองคาถาลูกไฟและมันก็ไม่ต่างกับตอนที่เมอร์ลินสร้างมันด้านนอก
เมอร์ลินตระหนักว่าการจำลองในพื้นที่ลึกลับนี้มีความสมจริง เขาอดไม่ได้ที่จะตะโกนออกมาว่า
"ฉันสามารถใช้พลังจิตของฉันได้อย่างอิสระด้วยความช่วยเหลือจากพื้นที่มิตินี้! เป็นไปได้ไหมที่จะสร้างแบบจำลองคาถาล่วงหน้าแบบไม่เป็นอันตรายถึงชีวิต!"
ในที่สุดเมอร์ลินก็ตระหนักถึงพลังที่แท้จริงของพื้นที่มิติของเบลล์