EP 651 อาจถูกโยกย้าย!
EP 651 อาจถูกโยกย้าย!
By loop
ในวันถัดมา
เช้าตรู่ของวันอาทิตย์ แสงอาทิตย์สอดส่องขึ้นมาทางทิศตะวันเฉียงเหนือ
ในห้องนั่งเล่น ดงซูบินที่พึงตื่นก่อนที่จะเริ่มสวมเสื้อผ้าของเขาและมองไปที่ห้องนอนเล็ก ๆ เขาค่อยๆ เข้าห้องน้ำและแปรงฟัน หลังจากที่เขาออกมาจากห้องน้ำ ก็ยังไม่เห็นมีว่ามีการเคลื่อนไหวอะไรอยู่ในห้องเลย ในนี้ก็เกือบแปดโมงเช้าแล้วที่ ฉันเองก็เห็นถุงน่องของเธอแขวนอยู่ที่ผนัง เหมือนฉันจะจำได้ว่าพี่เสี่ยวหยางจะไปหาลูกชายของเธอในวันนี้ไม่ใช่หรอ
แต่นี้ก็นานแล้วทำไมไม่เห็นหวี่แววของเธออยู่ในห้องเลย?
เธอยังนอนอยู่หรือเปล่า? หรือเธอยังไม่ตื่นนอน?
ดงซูบินเดินไปและนั่งยอง ๆ ที่ประตูและลองเอาหูแนบกับประตูเพื่อฟังเสียงในห้อง ดูเหมือนจะไม่ได้ยินเสียงอะไรเคลื่อนไหวจริงๆ เขาเอื้อมมือออกไปเคาะประตู “พี่เสี่ยวหยาง ตอนนี้คุณยังนอนอยู่หรือเปล่า?”
ไม่มีใครตอบ
ดงซูบินต้องค่อยๆเปิดประตู ทันใดนั้น ร่างของเสี่ยวหยางก็ปรากฏขึ้นเหมือนว่าเธอยังคงหลับอยู่และเธอไม่ได้สวมเสื้อผ้า คงเป็นเพราะเรื่องเมื่อวาน เพราะเมื่อวานเองเธอไม่มีที่พัก ดงซูบินเลยให้เธอมาพักที่อพาทร์เม้นท์ในปักกิ่งก่อน ซึ่งปกติแน่นอนว่าคนที่ไม่ได้เตรียมตัวที่จะมาค้างคืนย่อมไม่ได้พกเสื้อผ้าติดตัวมาด้วยอย่างแน่นอน ตอนนี้เสี่ยวหยางเองสวมกางเกงใน สามเหลี่ยม สีเนื้อแบบอนุรักษ์นิยมมาก คลุมด้วยผ้าขนหนูเล็กน้อยที่เอว และเผื่อปิดปังส่วนหน้าอกของเธอ ซึ่งเธอสวมเพียงชุดเสื้อนอกของเธอเท่านั้น และดูเหมือนเธอจะไม่ได้ใส่ชุดชั้นในด้วย อีกทั้งเหมือนว่าเธอดูจะนอนไม่ค่อยสบายกับคืนที่ผ่านมา
ใหญ่จริงๆภาพตรงหน้าแทบจะทำให้เลือดกำเดาของดงซูบินพุ่งออกมา โชคดีที่ เสี่ยวหยางนั้นกำลังครึ่งหลับครึ่งตื่น โชคยังดีที่รูปร่างส่วนใหญ่ของเสี่ยวหยางนั้นถูกปิดอยู่มิฉะนั้น ดงซูบินคงตกใจจนล้มลงไปแน่ๆ เพราะภาพตรงหน้ามันดูทรงเสน่ห์และน่าลงไหลจริงๆ เขารีบล่ะสายตาจากร่างกายของเสี่ยวหยางทันที
เสี่ยวหยาง ตื่นขึ้นและมองเขาด้วยแบบกึ่งหลับกึ่งตื่น ซึ่งถ้าเธอเห็นดงซูบินมองเธอด้วยสายตาเช่นนี้เธอคงคิดว่าดงซูบินต้องเป็นพวกหื่นอย่างแน่นอน แน่นอนว่าเมื่อเธอลืมตาขึ้นมาเธอเองก็เอามือปิดด้านล่างไว้ และอีกมือหนึ่งหยิบผ้าเช็ดตัวมาคลุมตัว “เช้าแล้วหรอ นี้กี่โมงแล้ว พอดีเมื่อคืนฉันนอนไม่ค่อยหลับ”
“ตอนนี้แปดโมงเช้าแล้ว ตอนแรกผมนึกว่าคุณออกไปแล้วเสียอีก”
“พอดีเมื่อวานฉันนอนดึกไปหน่อย และก็นอนไม่ค่อยหลับด้วย”
“อย่างงั้น... ผมออกไปรอข้างนอกน่าจะสะดวกกว่า”
เสี่ยวหยางยิ้มและพูดว่า: "ไม่ต้องเกรงใจฉันหรอกซูบิน"
"ผมคิดว่าผมไปรอข้างนอกดีแล้ว" ดงซูบินปิดประตูทันทีและออกไป
เมื่อดงซูบินออกจากห้อง ดูเหมือนดงซูบินจะได้ยินเสียงของเสี่ยวหยางกำลังตื่นขึ้นมาเปลี่ยนเสื้อผ้า แต่ครู่หนึ่ง เสียงของรองเท้าส้นสูงก็ดังขึ้นเรื่อยๆ และประตูก็ถูกผลักออกจากด้านใน
ดงซูบินในครัวมองไปด้านข้าง “ตอนนี้บ้านของผมไม่มีวัตถุดิบอะไร คุณทานซุปไข่ได้ไหม?”
"เรื่องอาหารนายไม่ต้องกังวลหรอก" ผมยาวของ เสี่ยวหยางสวมเสื้อเชิ้ตของเมื่อวาน ยิ้มเข้าห้องน้ำ แล้วมีเสียงจากเสี่ยวหยางทดูเหมือนเธอจะพูดขึ้นมาว่า “ฉันมีนัดกับลูกชายตอนเก้าโมง ดูเหมือนมันจะสายไปหน่อย”
“เดียวผมจะไปส่งคุณเอง”
“ไม่ต้องหรอก แค่นี้เองฉันนั่งแท๊กซี่ไปก็ได้ นายเสียเวลากับฉันไปตั้งวันหนึ่งแล้ว นายกลับไปก่อนก็ได้นะ”
“ไม่เป็นไรหรอกครับช่วงนี้ผมว่าง เดียวผมจะรอรับคุณกลับไปด้วยช่วงเย็ฯเลย”
“ไม่ต้องสุภาพขนาดนั้นก็ได้ ฉันเกรงใจนายมากว่า”
“ไม่ต้องเกรงใจเลยครับ ผมยินดีอยู่แล้ว”
“ถ้าอย่างงั้นฉันไม่เกรงใจนายแล้วนะ ถ้าเสร็จแล้วฉันจะโทรหานะ”
เสียงแปรงฟันดังขึ้น
เมื่อ ดงซูบินใส่ไข่สองสามฟองที่ยืมมาจากป้าเพื่อนบ้านเมื่อคืนนี้ เขาทำซุปแล้วออกไป หลังจากล้างแล้ว เสี่ยวหยาง ก็ออกมาจากห้องน้ำเช่นกัน “มาทานข่าวกันครับ” ทันใดนั้นเขามองไปที่แก้วน้ำในห้องน้ำ มีแปรงสีฟันอยู่อันเดียว ดงซูบิน"โอ้ ผมลืมสนิทเลยผมไม่ได้ซื้อแปลงสีฟันมาเผื่อคุณเลย คุณ...... ... "
เสี่ยวหยางยิ้ม “ไม่เป็นอะไรหรอก ฉันใช้ของนายได้ นายมีปัญหาหรือเปล่า ฉันเป็นถึงแม่ทูนหัวของนายเลยนะ”
ดงซูบินรีบพูดว่า: "ไม่มีปัญหาเลยครับ ผมแค่กลัวว่าคุณ... เฮ้"
แปรงสีฟันนั่นดงซูบินเพิ่งใช้เมื่อไม่กี่นาทีที่แล้ว
ดูเหมือนเสี่ยวหยางจะไม่สนใจเท่าไรนัก “ฉันไม่สนหรอก หึ มาเถอะ ทานตอนมันร้อนๆ เ” เสี่ยวหยางจิบซุปเล็กน้อย "ซุปอร่อย"
เมื่อเห็นเช่นนั้นทำให้ดงซูบินรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย และเขาก็นั่งลงข้างๆ เธอและดื่มซุป เสี่ยวหยางเอง นี่ไม่ได้มองว่าเขาเป็นคนนอกจริงๆ ครั้งสุดท้ายที่ทั้งคู่ประลองฝีมือกันที่บ้านของเสี่ยวหยาง เขาเองก็ใช้ผ้าขนหนูซับเหงื่อของเธอเช็ดใบหน้าของเขา ครั้งนี้เธอเองกลับมาใช้แปรงสีฟันร่วมกับฉันด้วย ......
หลังอาหารเช้า
ดงซูบินขับรถไปส่งเสี่ยวหยางและขับกลับมาที่อพาร์ทเม้นท์ช่วงสิบโมง
เมื่อเข้าไปในบ้าน ดงซูบินผลักประตูไปที่ห้องนอนเล็กโดยตรง และไปที่เตียงที่เสี่ยวหยางคลุมไว้ก่อนหน้านี้ และที่ด้านข้างก็ได้กลิ่น ของกลิ่นกายของเสี่ยวหยาง
นี้มัน!
ดงซูบินทุบหน้าผากของเขาเหมือนว่าเขาจะจำบางเรื่องได้ ก่อนจะหยิบมือถือขึ้นมาทันที ทันใดนั้นเขาก็จำสิ่งที่ เสี่ยวหยาน พูดเมื่อวานนี้และดวงตาของเขามั่นใจ เขาโทรหาคณะกรรมการพรรคหวังอันซีทันที แน่นอนว่านี้การโทรในครั้งนี้เพื่อกระชับความสัมพันธ์ระหว่างเขากับเลขาหวังให้ดีมากยิ่งขึ้น
เสียงโทรศัพท์กำลังเชื่อมต่อไปที่ปลายสาย
ดูเหมือนจะเป็นเสียงผู้หญิงรับ
ดงซูบินได้ยินมัน “คุณนายหยางหรือเปล่าครับ ผมเองดงซูบินไม่ทราบว่าเลขาหวังอยู่ที่บ้านหรือเปล่าครับ”
คุณนายหยางเธอกล่าวว่า “อ๋อ ซูบินเองหรอ ตอนนี้พี่หวังไม่อยู่บ้าน มีอะไรหรือเปล่า?”
“ไม่มีอะไร ผมแค่จะโทรมาถามอาการป่วยของเลขาหวังนะครับ”
“ขอบคุณมากนะ ซูบิน ช่วงสองวันมานี้อาการป่วยของเขาดีขึ้นมากเลย และดูเหมือนเขาจะแข็งแรงขึ้นด้วยซ้ำ ทักษะการนวดของคุณนี้สุดยอดจริงๆ”
“ได้ฟังเช่นนี้ผมก็สบายแล้วครับ ถ้าเกิดว่าอาการป่วยของเลขาหวังกำเริบขึ้นมาอีก คุณโทรมาหาผมได้เลยนะครับ”
เมื่อวางโทรศัพท์มือถือ ดงซูบินก็ไม่รู้จะทำอะไรต่อไป เขาแค่หาวและนอนลงบนเตียง เพราะเมื่อคืนเขาหลับไม่พอเนื่องจากเขาต้องนอนบนโซฟา มันไม่ค่อยสบาย เสี่ยวหยางเองเมื่อคืนเธอนอนบนเตียง เขาพยายามนวดคลายเส้นตัวเอง เขาใช้เวลานี้แค่รอเสี่ยวหยาง
ด้วยบรรยายกาศทำให้เขาเคลิ้มหลับไป
ฉันไม่รู้ว่าต้องใช้เวลานานแค่ไหน เมื่อ ดงซูบินลืมตาขึ้น พระอาทิตย์กำลังตกดิน และเวลาที่แสดงบนโทรศัพท์คือหนึ่งทุ่มพอดี
โอ้ฉันนอนไปกี่ชั่วโมงกันเนี่ย
มีสามสายที่ไม่ได้รับบนโทรศัพท์มือถือ ซึ่งทั้งหมดเป็นหมายเลขโทรศัพท์มือถือของเสี่ยวหยาง
ดงซูบินโทรหาเสี่ยวหยางทันที “สวัสดีครับ พี่เสี่ยวหยาง พอดีผมหลับไปเลยไมได้ยินเสียงโทรศัพท์ คุณอยู่ที่ไหน เดียวผมจะไปรับคุณ” เสียงรถในโทรศัพท์ดังมาก “ไม่ต้องห่วงฉัน พี่สาวของคุณเพิ่งได้ยินเรื่องบางอย่างในตอนบ่าย มีข่าวลือในพื้นที่ของคุณว่าคุณอาจต้องไปเข้าอบรมในโรงเรียนของพรรคเพื่อรับการฝึก”
“โรงเรียนของพรรค!?”
“ฉันเองก็พึงได้ยินข่าวนี้มาเช่นกัน”
“ผมเข้าใจแล้ว!”
วางโทรศัพท์ลง สีหน้าของดงซูบินเปลี่ยนไปในทันที!
ทำไมเขาต้องไปเข้าฝึกอบรมที่โรงเรียนของพรรคด้วย? ?
หากข่าวนี้เป็นความจริง ก็เป็นสัญญาณที่ชัดเจนอยู่แล้ว มีคนในมณฑลที่ต้องการย้ายดงซูบิน ไม่สิ นี้อาจถึงเวลาที่เหมาะสมที่เขาต้องย้ายออกไปแล้วก็ได้! .