ตอนที่แล้ว707-708
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไป711-712

709-710


9/10

Ep.709

สิ่งที่ทำให้ซูเฉินประหลาดใจก็คือ เปลวไฟใต้ฝ่าเท้าเขา มันปราศจากความรู้สึกร้อนใดๆ ตรงกันข้าม กลับแฝงไปด้วยความหนาวเหน็บเสียดลึกไปถึงกระดูก ค่อยๆแทรกซึมเข้าสู่หัวใจ ช่างน่าฉงนนัก!

“ซูเฉิน! รีบถอยออกไป! นั่นคือหนึ่งในสิบมหาเพลิงเอกลักษณ์ : โลกันต์เยือกแข็ง!” อู๋หยาจื่อร้องเตือนอีกครั้ง

ซูเฉินเดิมต้องการปลดปล่อยเวทย์น้ำแข็งต่อกรกับมัน แต่หลังจากได้ยินคำพูดของอู๋หยาจื่อ จึงยอมล้มเลิกความตั้งใจ รีบถอยออกมาอย่างรวดเร็ว

อย่างไรก็ตาม แม้เขาต้องการถอย แต่เสวี่ยหมิงมีหรือจะยินยอมให้เขาจากไปง่ายๆ

เห็นแค่เพียงกรโลกันต์เยือกแข็งลุกโชน ไล่ตามซูเฉินอย่างไม่ยอมลดละ

“คิดหรือว่าบิดาจะกลัว!”

ซูเฉินแค่นเสียงเย็นชา ระเบิดพลังจิตออกมา ขณะเดียวกันเหวี่ยงแขนและฟันออกไป

เห็นแค่เพียงกระแสคลื่นสีขาวเย็นเยียบแพร่กระจาย โถมเข้ากลืนโลกันต์เยือกแข็ง

ซี่ ซี่ ..!

พลังจิตปะทะโลกันต์เยือกแข็งก่อนเป็นอย่างแรก พริบตาเดียวถูกแช่แข็ง แหลกสลายเป็นชิ้นๆ –ปราการชั้นแรกพังทลายลง!

ต่อมา กระแสคลื่นสีขาวพัดกวาดไล่มาติดๆ แต่ทันทีที่มันเข้าปะทะ ก็ถูกทำลายลงอย่างง่ายดายเช่นกัน

เห็นฉากนี้ หนังตาของซูเฉินกระตุก แต่ก็ยังไม่ย่อท้อ

รอจนโลกันต์เยือกแข็งพุ่งเข้ามาประชิดเบื้องหน้า เจ้าตัวขว้างภูเขาลูกเล็กที่สาดประกายแสงห้าสีออกไป พริบตาเดียวขยายขนาดเป็นสิบจั้ง ขวางหน้าเอาไว้

ตูมมมมม!

โลกันต์เยือกแข็งปะทะกับ[ภูเขาหยวนเหออู่จี๋] บังเกิดเสียงดังหนักทึบ แทบจะในทันทีหลังจากนั้น มันก็ห่อหุ้ม [ภูเขาหยวนเหออู่จี๋] เอาไว้ พยายามแช่แข็ง

อย่างไรก็ตาม [ภูเขาหยวนเหออู่จี๋] คือสิ่งประดิษฐ์เทวะ นอกจากน้ำหนักมหาศาลแล้ว ในตัวมันเองยังแฝงไปด้วยห้าธาตุ  ภายใต้พลังป้องกันของธาตุทั้งห้า จึงสามารถสกัดโลกันต์เยือกแข็งเอาไว้ได้

กระนั้น โลกันต์เยือกแข็งคล้ายมีภูมิปัญญาทางจิต หลังจากพบว่ามันไม่สามารถโค่น[ภูเขาหยวนเหออู่จี๋] ก็อ้อมไปอีกทาง และพุ่งเข้าหาซูเฉินอีกครั้ง

“ไม่ต้องสู้กับโลกันต์เยือกแข็ง ระหว่างนี้ให้หนีไปเรื่อยๆ ข้าจะไปกำจัดเสวี่ยหมิงให้เอง!”

เห็นสถานการณ์ของซูเฉินไม่ค่อยดีนัก อู๋หยาจื่อร้องเตือน ทันใดนั้นตาข่ายสีดำขนาดใหญ่ปรากฏขึ้นในมือเขา เอี้ยวตัวไปข้างหลังและเหวี่ยงมัน คลี่ไปทางหลุมที่เสวี่ยหมิงจมอยู่เบื้องล่าง

“อู๋หยาจื่อ! เจ้าต้องการสู้กับเราราชาจริงๆหรือ?” เสวี่ยหมิงคำรามด้วยความโกรธ

อู๋หยาจื่อไม่หวั่นไหว ยังคงควบคุมตาข่ายยักษ์ บังคับรวบตัวเสวี่ยหมิง

“ให้ตายเถอะ!”

ดูเหมือนว่าเสวี่ยหมิงจะหวาดกลัวตาข่ายยักษ์นี้มาก เจ้าตัวกระโดดออกจากหลุม หลังจากกระโจนหลบไปมาอยู่หลายครั้ง ในที่สุดก็สามารถมุดเข้าไปในโลงศพเลือดได้สำเร็จ และปิดฝาโลงทันที

เห็นภาพนี้ คิ้วของอู๋หยาจือขมวดมุ่น

โลงศพสีเลือดนี้ มีชื่อเรียกว่า โลงศพโลหิตเก้ามังกร แม้ดูเหมือนธรรมดา แต่แท้จริงแล้วมันคือสิ่งประดิษฐ์ป้องกันชั้นยอด

ซึ่งด้วยความแข็งแกร่งในปัจจุบันของอู๋หยาจื่อที่ถูกสะกดไว้ในขั้น 10 ทำให้ไม่สามารถทำลายการป้องกันของโลงศพโลหิตเก้ามังกรได้

“ฮ่า ฮ่า ฮ่า … ไอ้เฒ่าอู๋ แน่จริงเจ้าก็ลองบุกเข้ามา!”

เสวี่ยหมิงพอสามารถมุดหัวอยู่ในโลงศพได้ ก็หัวเราะอย่างบ้าคลั่ง

อู๋หยาจื่อ แค่นเสียงเย็น ควบคุมตาข่ายยักษ์มัดโลงศพโลหิตเก้ามังกรเอาไว้

แม้เขาจะทำอะไรเสวี่ยหมิงไม่ได้ตอนนี้ แต่ก็ยังสามารถขังมันไว้ข้างในได้ชั่วคราว

จากนั้น เขารีบวิ่งไปทางซูเฉิน

ซูเฉินในตอนนี้ ภายใต้แรงกดดันจากโลกันต์เยือกแข็ง เขารู้สึกโกรธเกรี้ยวเป็นอย่างมาก ชัก [กระบี่แยกฟ้าแห่งความโกลาหล] สับกระบี่เดียวเปลวเพลิงหายไปครึ่งหนึ่ง

จากนั้นเรียกสัตว์เลี้ยงวิญญาณทั้งสี่และต้นหลิววัชระออกมา ปิดล้อมโลกันต์เยือกแข็งเอาไว้

แม้โลกันต์เยือกแข็งจะเป็นหนึ่งในสิบมหาเพลิงเอกลักษณ์ แต่หลังจากถูกโจมตีรุนแรงอย่างต่อเนื่อง และต้องเผชิญกับขบวนทัพที่ทรงพลังเช่นนี้ มันก็ไร้ซึ่งกำลังจะสู้กลับ

ปัจุบันได้แต่ขดตัวอยู่กับพื้น ถูกกระหน่ำโจมตีดั่งพายุคลั่ง ส่งเสียงร้องโหยหวนน่าสังเวช

“มีสัตว์เลี้ยงวิญญาณระดับสูงมากมายขนาดนี้เชียว?”

อู๋หยาจื่อที่รีบพุ่งเข้ามา หลังจากสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายที่แผ่ออกมาจากหงส์เพลิง และสัตว์เลี้ยงวิญญาณตนอื่นๆ ใบหน้าเขาสั่นไหวอย่างแรง

10/10

Ep.710

ณ ขณะนี้ อู๋หยาจื่อค่อยตระหนักถึงกำลังรบที่แท้จริงของซูเฉิน เขาอดไม่ได้ที่จะทอดถอนหายใจด้วยอารมณ์

“ไม่น่าแปลกใจเลย ว่าทำไมเขาถึงกล้าพูดว่าไม่มีใครในระดับต่ำกว่าเทวะสามารถสู้กับเขาได้ เพราะนอกเหนือจากความข็งแกร่งของตัวเองแล้ว เขายังมีสัตว์เลี้ยงวิญญาณระดับสูงอีกมากมายคอยช่วยเหลือ!”

ขอถามหน่อยเถอะ ว่าจะมีสักกี่คนที่สามารถต้านทานการโจมตีที่รุนแรงเช่นนี้ได้?

อู๋หยาจื่อจมอยู่ในภวังค์ไปชั่วขณะ หลังจากรู้สึกตัว ก็ตะโกนหาซูเฉินอย่างร้อนรนว่า “ซูเฉิน อย่าฆ่ามัน!”

“ทุกคนหยุด!”

ซูเฉินยกมือ ส่งสัญญาณให้สัตว์เลี้ยงวิญญาณทั้งหมดหยุด แต่สายตายังคงจ้องเขม็งไปยังโลกันต์เยือกแข็ง

ตราบใดที่มันขยับแม้เพียงเล็กน้อย เขาจะเริ่มกระทืบมันต่อ

อู๋หยาจื่อก้าวมาข้างหน้า เมื่อเห็นโลกันต์เยือกแข็งตัวหดลีบจนมีขนาดเท่ากำปั้น ลมหายใจรวยริน ก็ลอบส่ายหัวอย่างช่วยไม่ได้

โลกันต์เยือกแข็ง อย่างน้อยเป็นถึงหนึ่งในสิบมหาเพลิง แต่ปัจจุบันถูกทรมานจนมีสภาพเช่นนี้ ช่างน่าเศร้าจริงๆ

“ผู้อาวุโส เจ้าหมอนี่มีประโยชน์อะไร?”

ซูเฉินไม่เข้าใจว่าทำไมอู๋หยาจื่อถึงหยุดเขา

อู๋หยาจื่อยิ้มและกล่าวว่า “เจ้าน่าจะได้เห็นแล้วว่าโลกันต์เยือกแข็งแข็งแกร่งเพียงใด … เจ้าไม่อยากได้มันเป็นสัตว์เลี้ยงวิญญาณหรือ?”

หมายความว่ายังไง?

โลกันต์เยือกแข็งมองยังไงก็เป็นเปลวไฟชัดๆ นี่เขาสามารถกำราบมันเป็นสัตว์เลี้ยงวิญญาณได้ด้วยหรือ?

ซูเฉินรู้สึกสับสนเล็กน้อย มองไปยังอู๋หยาจื่อด้วยความงุนงง

อู๋หยาจื่อไม่ปล่อยให้ซูเฉินรอนาน อธิบายว่า “สิบมหาเพลิง ไม่ว่าจะเป็นตนไหน ยามถือกำเนิดล้วนมีภูมิปัญญาทางจิต โดยเฉพาะอย่างยิ่งโลกันต์เยือกแข็งที่ได้ยกระดับเป็นขั้น 10 แล้ว มันมีโอกาสสูงมากที่จะสามารถก้าวขึ้นเป็นเพลิงเทวะ ซึ่งอยู่ในตำแหน่งเดียวกับผู้แข็งแกร่งระดับเทวะ”

“สุดยอดขนาดนั้นเชียว?” ซูเฉินทอดถอนหายใจ

อู๋หยาจื่อกล่าวต่อว่า “เนื่องจากมหาเพลิงมีภูมิปัญญาทางจิต ดังนั้นโดยพื้นฐานแล้วมันสามารถทำให้เชื่องเหมือนพวกสัตว์กลายพันธุ์ได้”

ได้ยินแบบนั้น ซูเฉินเริ่มใช้สมอง เขาได้ประสบกับความร้ายกาจของโลกันต์เยือกแข็งมาแล้วด้วยตัวเอง อาจกล่าวได้ว่าในบรรดาสัตว์เลี้ยงวิญญาณทั้งสี่ รวมไปถึงต้นหลิววัชระ ล้วนไม่มีตนใดสามารถต่อกรกับมันได้

การดำรงอยู่ของตัวตนที่ทรงพลังเช่นนี้ แน่นอนว่าย่อมทำให้ซูเฉินรู้สึกหวั่นไหว

อย่างไรก็ตาม  เนื่องจากโลกันต์เยือกแข็งเชื่อฟังคำสั่งของเสวี่ยหมิง เช่นนั้นไม่ได้หมายความว่ามันคือสัตว์เลี้ยงวิญญาณของเสวี่ยหมิงหรอกหรือ? แล้วมันจะยอมให้เขากำราบได้อย่างไร?

ต่อให้บังคับดื่ม [โพชั่นสัตว์เลี้ยง] ก็ไม่น่าจะกำราบได้ ถูกไหม?

คิดถึงเรื่องนี้ ซูเฉินถามหยั่งเชิงว่า “ผู้อาวุโส โลกันต์เยือกแข็ง น่าจะเป็นสัตว์เลี้ยงวิญญาณของเสวี่ยหมิง แล้วผมจะทำให้มันเชื่องได้ยังไง?”

“จริงอยู่ว่ามันเป็นของเสวี่ยหมิง อย่างไรก็ตาม ตราบใดที่เจ้าสังหารเขา มันก็จะกลายเป็นไร้เจ้าของมิใช่หรือ?” อู๋หยานจื่ออธิบาย

ดวงตาของซูเฉินเปล่งประกายขึ้นทันที หันศีรษะไปทางโลงศพโลหิตเก้ามังกร จากนั้นเอ่ยถามว่า “ผู้อาวุโส ภูมิหลังของเสวี่ยหมิงเป็นมาอย่างไร?”

ในเมื่อเสวี่ยหมิงกับอู๋หยาจื่อรู้จักกัน เป็นได้ชัดว่ามิใช่คนนิรนาม

“เขาเคยเป็นผู้แข็งแกร่งระดับเทวะของเผ่าวิญญาณ แต่ต่อมาได้ยินว่าเจ้าตัวได้มาถึงบั้นปลายชีวิตแล้ว ใกล้ล่วงลับเต็มที ไม่นึกเลยว่าเจ้าหมอนี่จะปรารถนาในชีวิต ไม่เต็มใจตายถึงขนาดยอมกลายเป็นซอมบี้” อู๋หยาจื่ออธิบาย

“อ้อ”

ซูเฉินเข้าใจเรื่องราวในทันที เมื่อใกล้ถึงอายุขัย มีหลายคนยอมเลือกที่จะกลายเป็นซอมบี้ อย่างจิ่นเฟยซีของสถานชุมชนเทียนหนานก็เหมือนกัน เขาคือหนึ่งในผู้เลือกเส้นทางนี้

“แม้เสวี่ยหมิงจะกลายเป็นซอมบี้ และความแข็งแกร่งของเขาลดลงเหลือขั้น 10 อย่างไรก็ตาม โลงศพของเขาคืออุปกรณ์ป้องกันระดับสุดยอด หากต้องการทำลาย เป็นเรื่องยากเย็นยิ่ง” อู๋หยาจื่อกล่าวด้วยสีหน้าจริงจัง

“ยากเย็นไม่ได้หมายความว่าทำไม่ได้ ผมขอลองดูก่อน เดี๋ยวก็รู้เอง” ซูเฉินเอ่ยปาก

ทันใดนั้นอู๋หยาจื่อก็นึกขึ้นได้  ว่าซูเฉินมีกระบวนท่าสังหารอันน่าสะพรึงอยู่

เวลานั้นใน [มิติสันโดษ] แค่กระบวนท่าเดียว กระทั่งระดับเสมือนเทวะเช่นเขา ยังประสบกับความสูญเสียอย่างใหญ่หลวง

หากใช้กระบวนท่านั้นโจมตีโลงศพโลหิตเก้ามังกร ก็มีโอกาสสูงที่จะทำลายมัน

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด