705-706
5/10
Ep.705
เห็นได้ชัดว่าห้องหมายเลข 7 ให้ความสำคัญกับไข่มุกโลหิตวิญญาณเป็นพิเศษ แล้วแบบนี้ ซูเฉินจะปล่อยให้อีกฝ่ายชนะง่ายๆได้อย่างไร?
เมื่อราคาพุ่งสูงขึ้นเป็น 10,000 หินพลังงาน คู่แข่งรายอื่นต่างยอมแพ้
ผู้ที่เสนอราคานี้คือห้อง 7 และหากไม่มีใครสู้ราคาอีก ไข่มุกโลหิตวิญญาณก็จะตกเป็นของห้อง 7 ทันที
ซูเฉินเบ้ปากเล็กน้อย เสนอราคาเป็น 20,000 หินพลังงานทันที
“ดูนั่นสิ! ห้องหมายเลข 17 เคาะราคาอีกแล้ว!”
“เขาสู้กับห้อง 7 อีกครั้ง คราวนี้ใครจะชนะ?”
เห็นห้อง 17 เสนอราคา โถงชั้นแรกของงานประมูลเกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์ดังขึ้นอีกครั้ง
“เจ้านาย ท่านต้องการประมูลไข่มุกโลหิตวิญญาณด้วยหรือ?” โม่หรงถามด้วยความสงสัย
ไข่มุกโลหิตวิญญาณมีผลกับพวกเผ่าวิญญาณเท่านั้น ขณะที่ซูเฉินเป็นเผ่ามนุษย์ ต่อให้ได้มันมา ก็คงเป็นได้แค่เครื่องประดับ
“ฉันไม่ได้ต้องการมัน แค่ไม่อยากปล่อยให้เจ้าหมอนั่นได้ไปครองง่ายๆก็เท่านั้นเอง” ซูเฉินยิ้ม
โม่หรงเข้าใจทันที ซูเฉินต้องการใช้โอกาสนี้แก้แค้นห้องหมายเลข 7
ราคา 20,000 หินพลังงานอยู่ได้ไม่นาน ห้อง 7 ก็เสนอราคา 30,000 ทันที
ซูเฉินลังเลเล็กน้อย เคาะเป็น 40,000
พอเห็นราคานี้ ห้องหมายเลข 7 เงียบไปนาน ในขณะที่ทุกคนคิดว่าห้อง 17 จะชนะของชิ้นนี้ ห้อง 7 ก็เสนอราคาอีกครั้ง
และทันทีที่ราคาปรากฏขึ้น ทั่วทั้งโถงประมูลตกอยู่ในความเงียบงัน ไม่ได้ยินแม้เสียงหายใจ
กระทั่งซูเฉินและคนอื่นๆยังอ้าปากกว้างจนฉีกไปถึงใบหู
สิ่งที่ทำให้ทุกคนแสดงอาการแบบนี้ก็เพราะ–
–ห้องหมายเลข 7 ทุ่มประมูลด้วยราคา 100,000 หินพลังงาน!
นับแต่งานประมูลถูกจัดขึ้นในเมืองเทียนเฟิง ก็ไม่เคยมีใครให้ราคาสูงขนาดนี้มาก่อนเลย
เต็มเม็ดเต็มหน่วย 100,000 หินพลังงาน! นี่ทำให้ทุกคนช็อกจนอธิบายอะไรไม่ถูก
“เจ้าหมอนั่นคงไม่ได้บ้าไปแล้วใช่ไหม?” ซูเฉินเดาะลิ้น ปั่นความคิดเขาอย่างรวดเร็ว
ในฐานะมหาเศรษฐีผู้ร่ำรวย เขาเคยประมูลสมบัติมาก็ไม่น้อย แต่ก่อนหน้านี้ไม่เคยทุ่มเงินเกิน 100,000 ต่อสมบัติหนึ่งชิ้นเลย
เพราะของทุกชิ้นที่ปรากฏขึ้นในงานประมูล ไม่มีแม้แต่ชิ้นเดียวที่ล้ำค่าถึงขนาดนั้น ในขณะที่มูลค่าของไข่มุกโลหิตวิญญาณ อย่างมากสุดแค่ไม่เกิน 1-2 หมื่นหินพลังงานเท่านั้น
แล้วทำไมห้องหมายเลข 7 ถึงทุ่มราคาสูงขนาดนี้เข้าประมูล?
สถานการณ์ที่เป็นไปได้ มีอยู่ 2 อย่าง
หนึ่งคืออีกฝ่ายโกรธจนทนไม่ไหว
สองคือไข่มุกโลหิตวิญญาณโคตรสำคัญกับคนที่อยู่ในห้องหมายเลข 7
ซูเฉินครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง ก็ปัดข้อแรกทิ้งไป เพราะต่อให้โกรธเป็นฟืนเป็นไฟ ก็ไม่เห็นต้องอัพราคาโหดถึงขนาดนี้
เมื่อราคา 100,000 เสนอออกมา ก็ไม่มีใครโง่พอกล้าสู้ราคาอีก
และพอมาลองคิดดูดีๆ ไข่มุกโลหิตวิญญาณมีผลเฉพาะผู้ฝึกตนนอกรีตของเผ่าวิญญาณเท่านั้น ด้วยประการฉะนี้ หมายความว่าในห้องหมายเลข 7 คงเป็นผู้ฝึกตนนอกรีตอย่างไม่ต้องสงสัย
ซูเฉินสื่อสารกับ [รถศึกอัจฉริยะ] อย่างรวดเร็ว “เสี่ยวจือ ล็อคเป้าห้องหมายเลข 7 แล้วขยายภาพที”
“เจ้านาย ข้างในถูกปกคลุมไปด้วยหมอกเลือด ฉันไม่สามารถตรวจสอบได้” [รถศึกอัจฉริยะ] ตอบทันที
ได้ยินแบบนั้น คิ้วของซูเฉินขมวดเข้าหากัน จมสู่ห้วงความคิด
ในเวลานั้นเอง พิธีกรสาวตะโกนด้วยความตื่นเต้น “ห้องหมายเลข 7 เสนอราคาหินพลังงานหนึ่งแสนก้อน! มีท่านไหนต้องการสู้อีกหรือไม่?”
หลังจากรอพักหนึ่ง ก็เห็นว่าไม่มีใครเสนอประมูลอีก เธอเลยประกาศว่าห้อง 7 สามารถคว้ามันไปครอง
ไม่นานบริกรก็ถือไข่มุกโลหิตวิญญาณเข้าไปในห้อง 7
แต่ใครจะทันคิด ว่าบริกรเพิ่งเข้าไป ข้างในก็เกิดเสียงกรีดร้องน่าสังเวชดังขึ้น
ในเวลาเดียวกัน ได้ยินเพียงเสียงดังบรึ้มมม!
เห็นแค่เพียงห้องหมายเลข 7 ระเบิดเป็นเสี่ยงๆ กลิ่นคาวเลือดเข้มข้นฟุ้งออกมาจากด้านใน พริบตาเดียวกระจายไปทั่วโถงประมูล
6/10
Ep.706
ต้องเผชิญกับการเหตุการณ์พลิกผันอย่างฉับพลัน ทั่วทั้งงานประมูลตกอยู่ในความตื่นตระหนก
หนังตาของซูเฉินกระตุก ขณะที่เขากำลังจะก้าวออกไปดูสถานการณ์ ก็พบกับเสียงคำรามของมังกรดังกึกก้องไปทั่วโถงประมูล
สิ้นเสียงมังกรคำราม ปราณชั่วร้ายแผ่นซ่านไปทั่ว
“พี่เฉิน จู่ๆผมก็รู้สึกเวียนหัว …”
หยางฮ่าวส่ายโงนเงน คล้ายคนที่พร้อมล้มพับได้ทุกเมื่อ
ตันหลินและคนอื่นๆก็มีอาการวิงเวียนศีรษะเช่นกัน
“เฮียซู มีบางอย่างผิดปกติ” เฉินเฟิงกล่าวด้วยสีหน้าเคร่งเครียด เนื่องจากระดับฐานฝึกตนของเขาค่อนข้างสูง ตอนนี้เลยยังไม่แสดงอาการเหมือนหยางฮ่าวและคนอื่นๆ แต่ก้นบึ้งในใจคล้ายผุดเจตนาฆ่าขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก กระทั่งดวงตาทั้งคู่ก็ยังสาดประกายสีแดงเลือด
ซูเฉินคิดได้ทันที ว่าสถานการณ์นี้ต้องเกี่ยวข้องกับปราณชั่วร้ายที่กวาดเข้ามา
ตัวเขามี [กายาเทพอสูรนิรันดร์] สิ่งชั่วร้ายมิอาจคุกคาม แต่คนอื่นไม่ใช่ ต้องเร่งหาวิธีหยุดมัน
“เจ้านาย วิชาของฝ่ายตรงข้ามน่าจะเป็นพลังศักดิ์สิทธิ์สายโลหิตอันทรงพลังของเผ่าวิญญาณข้า พวกเราต้องรีบออกไปจากที่นี่เดี๋ยวนี้ มิฉะนั้นหากพวกเขาตกอยู่ในห้วงภวังค์ของมัน จะไม่สามารถสลัดหลุดได้อีกเลย” โม่หรงเตือน
พลังศักดิ์สิทธิ์สายโลหิตของเผ่าวิญญาณ?
นี่ต้องมีบางอย่างเกี่ยวข้องกับห้องหมายเลข 7 แน่ๆ
คิดได้แบบนี้ ซูเฉินเปิด [มิติสันโดษ] อย่างรวดเร็ว หันมาพูดกับทุกคนว่า “รีบเข้าไปข้างใน!”
พลังศักดิ์สิทธิ์สายโลหิต หากว่ากันตามปกติแล้ว มันเป็นอะไรที่แปลกและน่าทึ่งมาก ซูเฉินไม่กล้าปล่อยให้ทุกคนอยู่ข้างนอกเป็นเวลานาน
แม้ [มิติสันโดษ] ยังไม่เสร็จสมบูรณ์ แต่หากเข้าไปหลบภัยซักพักหนึ่งก็ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร และช่วงเวลาต่อจากนี้ เขาก็จะได้สู้กับผู้ฝึกตนนอกรีตจากเผ่าวิญญาณอย่างไม่ต้องกังวล
เนื่องจากสถานการณ์เร่งด่วน จึงไม่มีเวลาอธิบายอย่างละเอียด โชคดีที่ทุกคนไว้ใจเขา เลยไม่ถามมากความ ทั้งหมดวิ่งเข้าไปใน [มิติสันโดษ] พร้อมกัน
เมื่อทุกคนเข้าไปใน [มิติสันโดษ] ซูเฉินชกห้องส่วนตัวของเขา พริบตาเดียวผนังห้องระเบิดเป็นเศษไม้
ต่อมา ภาพที่เห็นในสายตาเขา มันราวกับมหาสมุทรโลหิต ไอคาวเลือดหนาทึบลอยฟุ้งไปทั่วโถงประมูล ต่อให้ตนมี [กายาเทพอสูรนิรันดร์] ก็ยังรู้สึกหายใจไม่ทั่วท้อง
“เป็นพลังศักดิ์สิทธิ์สายโลหิตที่น่ากลัวจริงๆ”
หัวใจของซูเฉินรู้สึกราวกับถูกบีบรัด หรี่ตากวาดมองไปรอบๆ และเห็นว่าทุกคนในโถงประมูลกำลังดิ้นรนอย่างเจ็บปวด หลายคนที่มีฐานฝึกตนต่ำ ไม่อาจทนไหว ตายลงทั้งๆแบบนั้น
ทว่าสิ่งที่แปลกก็คือ คนที่ตายไป แก่นโลหิตที่อยู่ในกายคล้ายถูกดึงออกมา ทั้งหมดลอยขึ้นไปที่ไหนสักแห่งในอากาศ
ซูเฉินเงยหน้า เลื่อนสายตาตาม แล้วคิ้วของเขาก็ต้องขมวดเข้าหากันอย่างช่วยไม่ได้
เห็นแค่เพียงเหนือโถงประมูล ปรากฏโลงศพสีเลือดขนาดใหญ่กำลังลอยตัว และมีชายคนหนึ่งในชุดคลุมเลือดยืนอยู่บนนั้น
พิจารณาจากกลิ่นอาย สมควรเป็นผู้ฝึกตนขั้น 8
อีกทั้งซูเฉินยังสังเกตเห็นว่า รอบๆโลงศพสีเลือด เวียนว่ายไปด้วยมังกรโลหิตขนาดเท่ากันถึง 9 ตัว
มังกรโลหิตแต่ละตัวมีความยาวประมาณ 100 เมตร รูปร่างหน้าตาดุร้าย ขณะนี้มันกำลังอ้าปาก และกลืนแก่นโลหิตที่ลอยขึ้นไปอย่างต่อเนื่อง
ยิ่งกลืนกินแก่นโลหิตไปมากเท่าไหร่ สีของโลงศพเลือดก็ยิ่งเข้มข้นขึ้นเท่านั้น อีกทั้งยังแผ่คลื่นพลังงานที่สามารถทำลายล้างได้ทั้งสวรรค์และปฐพีออกมา
“มนุษย์? เหตุใดภายใต้ค่ายกลวิญญาณโลหิตเก้ามังกรของข้า เจ้าถึงไม่สะทกสะท้านใดๆ?”
ชายในชุดคลุมเลือดพบว่าซูเฉินปลอดภัยไร้อันตราย ถึงกับต้องอุทานออกมา
ซูเฉินไม่พูดอะไรซักคำ สองตาค่อยๆหรี่ลง ย่อตัวงอเข่า ทะยานเข้าหาชายชุดคลุมเลือด
“แส่หาที่ตาย!”
เห็นซูเฉินกล้าเปิดฉากโจมตี ชายในชุดคลุมเลือดฉีกยิ้มดุร้าย ก่อนหันไปทางมังกรโลหิตข้างกาย เอ่ยเสียงขรึมว่า
“ฆ่ามันซะ!”