189 - การมาเยือนของยอดฝีมือตระกูลจี้
189 - การมาเยือนของยอดฝีมือตระกูลจี้
หลังจากที่กลับมาถึงยอดเขารกร้างเย่ฟ่านเริ่มพูดกับหลี่รุ่ยหยู
“ข้าได้ทำให้มันหมุนเวียนหลายร้อยครั้ง แต่สามารถเปิดใช้งานทักษะลึกลับที่ไม่มีใครเทียบได้เพียงครั้งเดียว ผู้อาวุโสมีวิธีใดในการเพิ่มอัตราความสำเร็จของทักษะนี้หรือไม่?”
“เมื่ออาณาจักรบ่มเพาะของเจ้าเพิ่มขึ้น โอกาสของความสำเร็จก็จะเพิ่มขึ้นตามธรรมชาติ
นอกจากนี้เจ้ายังสามารถมองหาทักษะลึกลับที่ไม่มีใครเทียบได้มาฝึกเพิ่มเติม ทุกครั้งที่เจ้าฝึกฝนทักษะอื่นสำเร็จโอกาสในการใช้ทักษะนี้ก็จะเพิ่มมากขึ้น”
เย่ฟ่านตกใจกับสิ่งที่หลี่รุ่ยหยูพูด เหตุผลที่ว่าทำไมทักษะลึกลับทั้งเก้าจึงถูกมองว่าเป็นทักษะที่ไม่มีใครเทียบได้ เพราะพวกมันมีความพิเศษมากเกินไป
โดยไม่คำนึงถึงอีกแปดทักษะ แค่เพียงญาณวิเศษชนิดเดียวของยอดเขารกร้างก็สามารถทำให้คนคนหนึ่งกลายเป็นผู้ยิ่งใหญ่ของแดนรกร้างตะวันออกได้แล้ว
"นี้……. นี่มันเหลือเชื่อเกินไปแล้ว!”
“ใช่แล้ว เปลี่ยนสิ่งที่เน่าเปื่อยให้กลายเป็นเวทย์มนตร์”หลี่รุ่ยหยูพยักหน้า จากนั้นเขากล่าวต่อไปว่า
“แต่เรื่องนี้มันเป็นไปได้ยากมากเกินไป อาจเพราะว่าญาณวิเศษทั้งเก้านี้ท้าทายสวรรค์จนน่าเหลือเชื่อ สวรรค์จึงได้จับแยกพวกมันออกจากกันให้กระจัดกระจายไปคนละทิศคนละทาง”
“ใครมาที่ยอดเขารกร้างของข้า ทำไมเจ้าไม่แสดงตัว?” ในขณะนี้หลี่รุ่ยหยูก็ตวาดออกไป
บริเวณโดยรอบยังคงเงียบโดยไม่มีเสียงใดๆราวกับว่าไม่มีสิ่งผิดปกติ
บนยอดเขารกร้างไม่มีบุคคลอื่น มีเพียงศิษย์ใหม่สิบคนที่กำลังสร้างบ้านไม้ตามแนวภูเขา พวกเขาไม่ได้ยินเสียงของหลี่รุ่ยหยูและยังคงทำงานของตัวเองในความมืด
ทะเลสาบสีทองอันกว้างใหญ่ที่อยู่ตรงกลางคิ้วของเย่ฟ่านถูกปลดปล่อยออกมาสัมผัสศักดิ์สิทธิ์ของเขากระจายไปทุกทิศทุกทางเพื่อค้นหา
ทันใดนั้นเขาสัมผัสได้ถึงบางสิ่งบางอย่าง มันเป็นกลิ่นอายที่คุ้นเคยเพียงแต่เขาจำไม่ได้ว่ามันเป็นของมนุษย์หรือสัตว์หรือไม่ก็ของวิเศษชนิดใด
การแสดงออกของหลี่รุ่ยหยูกลับมาสงบอีกครั้ง พืชพันธุ์ที่อยู่บนยอดเขารกร้างเริ่มเติบโตขึ้นก่อนที่กิ่งก้านเถาวัลย์จะถูกยิงออกไปด้านนอก
“ยอดฝีมือของตระกูลจี้สมกับฉายาผู้ครอบครองความว่างเปล่า เจ้าสามารถเคลื่อนไหวไปมาอย่างไร้ร่องรอยทำให้ข้าผู้แซ่หลี่อดนับถือไม่ได้”
หลี่รุ่ยหยูเงยหน้าจ้องมองความว่างเปล่า น้ำเสียงของเขาเย็นชาอย่างยิ่ง ใต้เท้าของเขาเถาวัลย์เริ่มยื่นขึ้นไปในอากาศ บนยอดของเถาวัลย์มีดอกไม้ที่เป็นเหมือนกับมรกตอันงดงาม
นี่คือเต๋าธรรมชาติที่ยิ่งใหญ่ กลีบดอกไม้เป็นตัวแทนของความเป็นนิรันดร์และสามารถผนึกช่องว่างของมิติและเวลาได้!
“ยอดเขารกร้างยอดเยี่ยมสมคำร่ำลือ ยอดฝีมือผู้ไม่มีใครเทียบได้คนที่สองของยอดเขารกร้างกำลังจะปรากฏขึ้นหรือไม่?” ภายในความว่างเปล่าชายชราคนหนึ่งเดินออกมาด้วยรอยยิ้ม
บนยอดเขารกร้าง ปกคลุมไปด้วยเถาวัลย์ที่ทอดยาวขึ้นไปบนท้องฟ้าหลายร้อยวา ดอกไม้ขนาดมหึมากำลังเบ่งบานราวกับผลึกหลากสี เปล่งแสงระยิบระยับปลิวไสวไปตามสายลม
ท่ามกลางดอกไม้นานาพันธุ์ชายชราที่สวมชุดสีเขียวที่มีผมสีขาวราวหิมะ เขามีใบหน้าที่บอบบางเหมือนหยกไม่มีรอยย่นแม้แต่น้อย ดวงตาของเขามีความลึกที่หยั่งไม่ถึง
ข้างหลังเขา มันเป็นสีดำสนิทราวกับเปลี่ยนเป็นกลางคืน มันสามารถจินตนาการได้ว่าเป็นรูที่ไม่มีที่สิ้นสุดที่เชื่อมถึงความว่างเปล่าให้ความรู้สึกถึงความลึกซึ้งเต็มไปด้วยความลึกลับ
พลั่ว!
ดอกไม้ที่อยู่ใต้เท้าของเขาส่งเสียงแผ่วเบา กลีบดอกไม้มืดลง ราวกับพบกับหิมะที่ร่วงโรยอย่างรวดเร็ว ไม่นานหลังจากที่เถาวัลย์ก็ร่วงโรยและร่วงหล่น
ผู้อาวุโสของตระกูลจี้ไม่ได้เคลื่อนไหวแต่ความว่างเปล่าสีดำข้างหลังเขาเริ่มปล่อยแสงสีดำซึ่งปกคลุมพื้นที่ด้านบนลงมาสู่ยอดเขารกร้าง
เป็นหย่อมสีดำดุจเมฆดำเคลื่อนตัวลงมา มันดูโอ่อ่าตระการตาอย่างยิ่ง และทำให้คนๆหนึ่งรู้สึกอึดอัดราวกับว่าภูเขาสีดำขนาดใหญ่กำลังกดลงมา
หลี่รุ่ยหยูยืนอยู่ที่นั่นอย่างเงียบๆโดยไม่เคลื่อนไหว พืชรอบๆ เริ่มส่องแสงสีเขียวและต้นไม้ก็เริ่มแผ่กิ่งก้านสาขาอย่างรวดเร็ว อีกครั้ง
"ปัง!"
ทันใดนั้นตรีศูลสีดำก็ปรากฏขึ้นบนท้องฟ้ามันตัดต้นไม้สูงทิ้งไปในทันทีก่อนจะพุ่งเข้าหายอดเขารกร้าง มันยาวกว่าร้อยวาและดูเหมือนมันจะฉีกแผ่นดินเป็นชิ้นๆ
บนยอดเขารกร้างน้ำตกสีขาวพุ่งขึ้นไปบนฟ้ามันเคลื่อนไหวเหมือนกับมังกรเงินและชนกับตรีศูลสีดำในทันที ไม่มีเสียงการปะทะอย่างน่าทึ่งหรือแรงสั่นสะเทือนกระจายออกมา น้ำตกไหลไปตามตัวมีดอย่างอ่อนโยน
“เต๋าใหญ่แห่งธรรมชาติสมชื่อจริงๆ”
ยอดฝีมือของตระกูลจี้ร้องอุทาน ทันใดนั้นท้องฟ้าก็กลายเป็นความมืด เมฆมืดครึ้มพร้อมกับสายฟ้าผ่าสีม่วงก็ปกคลุมทั่วทั้งยอดเขารกร้าง
ในบริเวณรอบๆร่างกายของหลี่รุ่ยหยูพืชพรรณทั้งหมดเริ่มส่งกลิ่นหอมพร้อมกับกระจายแสงสีเขียวจำนวนนับไม่ถ้วนพุ่งขึ้นไปบนท้องฟ้า
นี่เป็นพลังธรรมชาติและอ่อนโยนที่เติมอากาศมันปกป้องยอดเขารกร้างในทุกทิศทุกทาง
“ชู่ว!” วิชาความว่างปล่าวอันยิ่งใหญ่ปรากฏขึ้น!
ผู้อาวุโสของตระกูลจี้ปรากฏตัวขึ้นอย่างเงียบๆที่ด้านหลังของหลี่รุ่ยหยูพร้อมกับตบฝ่ามือออกไป
"ปัง!"
หลี่รุ่ยหยูคล้ายกับมีดวงตาอยู่ข้างหลังเขาจับร่องรอยของวิชาความว่างเปล่าอันยิ่งใหญ่ได้ชัดเจนและขวามือของเขาก็ฟาดสวนกลับไปโดยไม่ต้องหันมอง
พลังอันมากมายมหาศาลสองชนิดที่ปะทะกันอย่างรุนแรงไม่ได้สร้างความเสียหายให้กับยอดของรกร้างแต่มันถูกกระแทกขึ้นสู่ท้องฟ้าโดยตรง
"ปัง! ปัง!"
เสียงกระทบกันดังสนั่นอย่างต่อเนื่องและพลังอันน่าสะพรึงกลัวแผ่ขยายออกไปด้านนอกราวกับสายฟ้าที่พุ่งทะยาน
ยอดฝีมือของตระกูลจี้ได้ใช้วิชาความว่างปล่าวอันยิ่งใหญ่ที่ลึกลับและลึกซึ้ง ทำให้เขาปรากฏตัวแบบสุ่มในพื้นที่ต่างๆ มันเป็นไปไม่ได้เลยที่จะทำนายการปรากฏตัวครั้งต่อไปของเขา
อย่างไรก็ตามหลี่รุ่ยหยูดูเหมือนจะมีการรับรู้ล่วงหน้าและเขาเคลื่อนไหวเหมือนน้ำไหลทุกสิ่งทุกอย่างเป็นไปตามธรรมชาติและร่างกายของเขาก็สามารถไล่ตามทันยอดฝีมือตระกูลจี้ในทุกครั้ง
“ปัง!”
ในที่สุดมือสีดำขนาดใหญ่ก็ปกคลุมท้องฟ้ามันกดลงมาห้อมล้อมยอดเขารกร้างทั้งหมดขณะที่มันพยายามจะถอนรากถอนโคนสิ่งมีชีวิตที่อยู่ที่นี่
ฉากที่น่าสะพรึงกลัวเช่นนี้ทำให้ทุกคนเริ่มตื่นตระหนก ความผันผวนอันน่าหวาดหวั่นสามารถสัมผัสได้จนถึงกระดูกของพวกเขา และหลายคนเริ่มสั่นสะท้านโดยไม่ได้ตั้งใจ
ฝ่ามืออันยิ่งใหญ่แห่งความว่างเปล่า!
วิชาที่น่าสะพรึงกลัวเช่นนี้ท้าทายความรู้สึกนึกคิดของพวกเขามากเกินไป ผู้ฝึกตนธรรมดาๆจะไม่สามารถขยับตัวได้คล้ายกับท้องฟ้าขนาดใหญ่ที่พังทลายลงมา
“ปัง!”
หลี่รุ่ยหยูรีบพุ่งไปข้างหน้าและปะทะเข้ากับฝ่ามือข้างนั้นตรงๆ
ในทันทีรัศมีธรรมชาติของยอดเขารกร้างก็ขยายออกไปด้านนอก แสงสีเขียวและแสงสีดำปะทะกันอย่างรุนแรง หลี่รุ่ยหยูถูกฝ่ามือสีดำขนาดใหญ่ห่อหุ้มอยู่ภายใน
เสียงกดขี่ยังคงดังก้องและยอดเขาโดยรอบสั่นไหว นี่เป็นฉากที่น่าทึ่งสำหรับทุกคนที่อยู่