WS บทที่ 241 การเปลี่ยนรูป
“พ่อมดแมทธิว ฉันเกรงว่าพลังปีศาจแพนโดร่านี้อาจไม่ส่งผลดีใด ๆ ต่อตระกูลของคุณแต่มันจะนำหายนะมาสู่ตระกูลของคุณแทน!”
เมอร์ลินมองไปที่พ่อมดแมทธิวอย่างเย็นชา ตระกูลนักเวทย์เหล่านี้ไม่สามารถต้านทานการยั่วยวนของพลังปีศาจแพนโดร่าได้ เนื่องจากพวกเขาเป็นตระกูลนักเวทย์ที่อ่อนแอดังนั้นพลังปีศาจแพนโดร่าย่อมส่งผลร้ายมากกว่าผลดี
เมอร์ลินมองไปที่ปฏิกิริยาของเอเลน่าต่อคำตอบที่สุภาพของเขาและเพิกเฉยต่อพ่อมดแมทธิว จากนั้นเขาตัดสินใจออกจากคฤหาสน์ตระกูลเดลแมนไป
เอเลน่าเดินตามเขาไปและกล่าวขอโทษอย่างเชื่องช้า “เมอร์ลิน ได้โปรดให้อภัยพวกเราด้วย ฉันเคยพยายามแนะนำพ่อของฉันมาก่อนแล้วแต่พลังปีศาจแพนโดร่านั้นเย้ายวนใจเกินไป นั่นคือเหตุผลที่ท่านพ่อเสนอข้อแลกเปลี่ยนเมื่อกี้นี้”
เอเลน่าส่ายหัวเบา ๆ ด้วยพลังของมันแม้แต่ตระกูลนักเวทย์ที่แข็งแกร่งกว่าก็ยังต้องการมัน นับประสาอะไรตระกูลนักเวทย์ที่อ่อนแอที่สุดในเมืองโฟลตติ้ง
และหากครอบครองมัน มันจะทำให้ตระกูลต้องเผชิญกับหายนะอย่างที่หลีกเลี่ยงไม่ได้
“เมอร์ลิน คุณจะอยู่ในเมืองโฟลตติ้งนานแค่ไหน คุณเพิ่งฆ่านักเวทย์จากออสมูไป ฉันกังวลว่าคุณอาจตกอยู่ในอันตราย” เอเลน่าถาม
"อันตราย?"
เมอร์ลินขมวดคิ้ว เขาทราบถึงข้อตกลงระหว่างออซมูและองค์กรนักเวทย์ หากออสมูไม่ได้วางแผนที่จะทำลายข้อตกลงของพวกเขา แน่นอนว่าพวกเขาจะไม่ส่งนักเวทย์ระดับสี่สองสามคนมาหาเขาในระยะเวลาอันสั้นนี้
หากไม่ใช่นักเวทย์สี่หรือสูงกว่า เมอร์ลินมั่นใจว่าเขาจะสามารถจัดการกับพวกเขาได้โดยไม่มีปัญหามากนัก เขาค่อย ๆ มั่นใจในตัวเองเมื่อความแข็งแกร่งของเขาดีขึ้นอย่างมาก
เมอร์ลินมองไปที่เอเลน่า เห็นได้ชัดว่ากังวลและพยักหน้า “ฉันจะออกจากเมืองโฟลตติ้งในไม่ช้า แต่ก่อนอื่น ฉันจะไปที่อาคารสเตอร์ลิ่งก่อนเพื่อซื้อส่วนผสมยาบางอย่าง”
เอเลน่าถอนหายใจด้วยความโล่งอก เมอร์ลินปฏิเสธเธอในฐานะบริวารไปแล้วแต่ตราบใดที่เธอยังคงรักษาความสัมพันธ์กับเขาเอาไว้ได้ สถานนะของเธอในตระกูลก็จะไม่เปลี่ยนแปลง มันอาจจะดีขึ้นด้วยซ้ำ
ดังนั้น เอเลน่าจึงไม่ต้องการให้เมอร์ลินประสบปัญหาใด ๆ เป็นการดีที่สุดถ้าเขาออกจากเมืองโฟลตติ้งโดยเร็วที่สุดในขณะที่ยังปลอดภัยเช่นนี้
อย่างไรก็ตาม เอเลน่ารู้ว่าเมื่อเมอร์ลินออกจากเมืองโฟลตติ้งไป เขาน่าจะยังไม่กลับไปยังดินแดนมนต์ดำทันที ธุระของเขาในเมืองโฟลตติ้งคือการสะสางปัญหาของเขากับรีเซน เขายังเหลือธุระอีกอย่างคือ การตามหาเลอแรนก้าเพื่อทำตามสัญญา
…
เมอร์ลินยืนอยู่เบื้องหน้าอาคารสเตอร์ลิ่ง พ่อมดบัสสันที่เคยต่อสู้กับไวส์ได้ออกมาด้านหน้าอาคารแทบจะทันทีที่ทราบว่าเมอร์ลินมาที่นี่
พ่อมดบัสสันดูไม่สบายใจเมื่อเห็นเมอร์ลิน เขาเองก็รู้ผลของการต่อสู้ระหว่างเมอร์ลินกับไวส์เช่นกัน การปะทะกันระหว่างสองพลังปีศาจแพนโดร่าก็ทำให้นักเวทย์ระดับสี่อย่างเขาตัวสั่นได้เช่นกัน
แม้ว่าเขาจะเป็นนักเวทย์อาคารสเตอร์ลิ่งแต่เขาไม่เคยมีพลังปีศาจแพนโดร่ามาก่อน
“พ่อมดเมอร์ลิน ทำไมคุณถึงมาที่อาคารสเตอร์ลิ่งวันนี้ คุณอยากจะซื้ออะไรหรือไม่?” พ่อมดบัสสันให้การต้อนรับเมอร์ลินเป็นการส่วนตัวซึ่งเป็นการแสดงความเคารพต่อเมอร์ลิน
เมอร์ลินได้เตรียมรายการส่วนผสมที่จำเป็นสำหรับน้ำยามนตราอสูรแล้วมอบให้กับทางอาคารสเตอร์ลิ่งเนื่องจากที่ดินอดนมนต์ดำไม่มีส่วนผสมเหล่านี้ ดังนั้นเมอร์ลินจึงต้องซื้อจากอาคารสเตอร์ลิ่ง
“หือ? ส่วนผสมเหล่านี้หายากมาก ตอนนี้เรายังมีไม่มากแต่ถ้าคุณรอสักสองสามเดือน เราจะมีการจัดส่งจำนวนมากกว่านี้ให้คุณ” พ่อมดบัสสันขมวดคิ้วขณะดูรายการโดยละเอียด
"สองสามเดือน?" เมอร์ลินส่ายหัวแล้วพูดว่า "ฉันไม่มีเวลามากพอที่จะรอ ถ้าอย่างนั้นเอาเท่าที่พวกคุณมีก็พอ"
เมอร์ลินไม่กังวลว่าจะไม่มีหินธาตุเพียงพอ เขาเพิ่งฆ่าไวส์และรีเซนแน่นอนว่าแหวนของรีเซนมีหินธาตุจำนวนมาก
เนื่องจากรีเซนต้องซื้อสมบัติที่หายากเพื่อฝึกฝนเพลิงวินาศ เขาเลยมีหินธาตุจำนวนมาก อย่างไรก็ตาม สมบัติที่จำเป็นสำหรับการฝึกเพลิงวินาศ มันอยู่ในโบราณสถานเท่านั้น แม้แต่อาคารสเตอร์ลิ่งก็ไม่มี ดังนั้นรีเซนจึงไม่เคยใช้หินธาตุเลย ทำให้เมอร์ลินสามารถใช้จ่ายได้อย่างคล่องมือ
แม้ว่าไวส์จะไม่ได้มีหินธาตุมากเท่ากับรีเซนแต่เขาก็ยังมีความมั่งคั่งอีกด้วย จึงทำให้ตอนนี้เมอร์ลินรวยมากและเขาสามารถซื้อส่วนผสมยาเพิ่มได้อีก
“เข้าใจแล้ว พ่อมดเมอร์ลิน โปรดรอสักครู่ ฉันจะรีบนำของที่คุณต้องการมาให้เร็วที่สุด”
พ่อมดบัสสันเรียกนักเวทย์คนอื่น ๆ ในอาคารสเตอร์ลิ่งและขอให้พวกเขาเตรียมส่วนผสมยาที่เมอร์ลินต้องการ
ผ่านไปครู่หนึ่ง พ่อมดบัสสันก็จ้องมองเมอร์ลิน ดูเหมือนเขาจะมีเรื่องอยากจะพูด เขาดูอ้ำอึ้งอยู่พักใหญ่ ในที่สุด เขาก็หยุดตัวเองไม่ได้และพูดออกมา
“พ่อมดเมอร์ลิน คุณช่วยเอาพลังปีศาจแพนโดร่าในแหวนของคุณออกมาได้หรือไม่?”
ในที่สุด พ่อมดบัสสันก็อดไม่ได้และตั้งคำถามของเขา เขารู้สึกอยากได้พลังปีศาจแพนโดร่าที่เมอร์ลินมีอยู่ในวงแหวนของเขา อย่างไรก็ตาม เขาได้เห็นพลังของเมอร์ลินด้วยตาของเขาเอง แม้แต่นักเวทย์ระดับสี่จากอาคารสเตอร์ลิ่งก็ยังไม่กล้าที่จะต่อต้านเมอร์ลิน
เมอร์ลินยิ้ม เขาไม่ได้ปฏิเสธพ่อมดบัสสันแต่กลับยิ้มในขณะที่เขาพูดว่า "พ่อดบัสสัน คุณต้องตระหนักถึงความหายากของพลังปีศาจแพนโดร่า ถ้าหากคุณมีพลังปีศาจแพนโดร่าอีกอันที่เท่าเทียม ฉันก็ยินดีที่จะทำการค้าขายกับคุณ"
“พลังปีศาจแพนโดร่าอีกอัน?”
พ่อมดบัสสันได้ยินดังนั้นใบหน้าของเขาลดลงด้วยความผิดหวังในขณะที่เขาส่ายหัว ถ้าเขามีพลังปีศาจแพนโดร่าอีกอัน เขาคงไม่อยากได้พลังปีศาจแพนโดร่าของเมอร์ลิน
“พ่อมดบัสสัน ของที่ท่านสั่งครบแล้วขอรับ”
ทางอาคารสเตอร์ลิ่งได้ใส่ส่วนผสมทั้งหมดของเมอร์ลินไว้ในแหวนของเขา
“พ่อมดเมอร์ลิน ลองตรวจสอบของดูก่อน”
พ่อมดบัสสันมอบแหวนให้เมอร์ลิน เมอร์ลินตรวจสอบทันที เขาสังเกตเห็นว่ามีส่วนผสมมากมายในแหวน มากกว่าที่เขาต้องการในตอนแรก ด้วยจำนวนเท่านี้ เขาสามารถเตรียมน้ำยามนตราอสูรสักสองสามโหลก็ยังได้
แม้ว่าพ่อมดบัสสันจะบอกว่าพวกเขามีส่วนผสมของยาน้อยมากแต่เขาไม่คิดว่าเขาจะได้มามากขนาดนี้ ทำให้เขาพอใจมากและพยักหน้าขณะที่พูดว่า “ไม่เลว ส่วนผสมเท่านี้น่าจะเพียงพอแล้ว”
จากนั้นเมอร์ลินก็จ่ายหินธาตุจำนวนมหาศาล จากนั้นเขาก็ลุกขึ้นจากอาคารสเตอร์ลิ่ง
พ่อมดบัสสันมองดูร่างของเมอร์ลินจากไปและส่ายหัว เขาลังเลเล็กน้อยขณะพูดว่า “อันที่จริง อาคารสเตอร์ลิ่งมีพลังปีศาจแพนโดร่า มันอยู่ที่ท่านพ่อมดสเตอร์ลิง ท่านได้เชี่ยวชาญพลังปีศาจแพนโดร่า อย่างไรก็ตาม ด้วยตำแหน่งของฉันไม่สามารถยื่นข้อเสนอนี้ได้ด้วยตัวเอง…”
พ่อมดบัสสันถูกล่อลวงโดยพลังปีศาจแพนโดร่าที่เมอร์ลินมีแต่เขารู้ดีว่าเขาไม่สามารถจัดการกับเมอร์ลินด้วยศักยภาพในปัจจุบันของเขา แม้ว่าเขาจะโจมตีด้วยทั้งหมดที่มี ก็ยังมั่นใจว่าชะตากรรมของเขาจะจบลงเช่นไวส์
…
“ถ้าฉันยังอ่อนแอและไม่มีเรี่ยวแรงเพียงพอ ไม่สำคัญว่าจะเป็นพ่อมดแมทธิวหรือพ่อมดบัสสัน ใครก็ตามที่รู้เรื่องนี้ พวกเขาก็พร้อมที่จะเข้าแย่งมันไปจากฉัน!” เมอร์ลินกลับไปที่ตระกูลเดลแมนและพักอยู่ในห้องของเขาเพียงลำพัง
พลังปีศาจแพนโดร่ามีพลังที่เหนือชั้นและน่าเหลือเชื่อ มันดึงดูดนักเวทย์จำนวนมาก แม้ว่าเมอร์ลินจะยังคงอยู่ในเมืองโฟลตติ้งแต่ก็ยังไม่มีใครทำมาโจมตี นี่เป็นเพราะว่าความสามารถที่แท้จริงของพลังปีศาจแพนโดร่าที่ถูกเปิดเผยในตอนที่เขาฆ่าไวส์!
มันคงคล้ายกับไม่มีใครกล้าเอาดวงตาแห่งความมืดของพ่อมดลีโอ
“ฉันควรตรวจสอบแหวนของไวส์และดูว่ามีพลังปีศาจแพนโดร่าธาตุลมหรือไม่”
เมอร์ลินหยิบแหวนของไวส์ออกมา ก่อนหน้านี้ เขาพักอยู่ในห้องและใช้หินธาตุเพื่อฟื้นฟูพลังเวทย์มนตร์ของเขา เขาไม่มีโอกาสได้ดูแหวนของไวส์และดูว่ามันบรรจุสมบัติอะไรอยู่
แน่นอน สิ่งล้ำค่าที่สุดของพวกมันทั้งหมดก็คือพลังปีศาจแพนโดร่าของไวส์ซึ่งออสมูใช้เพื่อเกลี้ยกล่อมไวส์ให้เข้าร่วม
เมอร์ลินครุ่นคิดเล็กน้อย และทันใดนั้น เขาก็มองดูแหวนด้วยความตกใจ
"มันมีอยู่จริงด้วย!"
เมอร์ลินรีบดึงหนังสือที่มีเส้นลายแปลก ๆ ออกมา ในสองสามหน้าแรกมันบันทึกข้อมูลของพลังปีศาจแพนโดร่าธาตุลม
นอกจากนี้ยังมี วิธีการฝึกฝนพลังปีศาจแพนโดร่า ประวัติ ความแข็งแกร่ง และอื่นๆ ทั้งหมดถูกบันทึกไว้อย่างชัดเจนในหนังสือเล่มนี้ มันมีรายละเอียดมากกว่าดัชนีเยือกแข็งและเพลิงวินาศซะอีก
เมอร์ลินพลิกดูหน้าอย่างรวดเร็ว หลังจากนั้นสักพักสีหน้าของเขาเผยสีหน้าออกมาไม่ค่อยดี
“น่าเสียดาย! ฉันไม่สามารถฝึกฝนมันได้!”
เมอร์ลินดูผิดหวัง พลังปีศาจแพนโดร่าของไวส์ถูกเรียกว่า สายแห่งการทำลาย ดูจากชื่อแล้วเห็นได้ชัดว่านี่พลังปีศาจแพนโดร่าสายโจมตี
เพื่อที่จะฝึกฝนสายลมแห่งการทำลาย เงื่อนไขเบื้องต้นคือการสร้างคาถาธาตุลมสายโจมตี ถึงเมอร์ลินจะเป็นนักเวทย์หกธาตุและได้สร้างคาถาธาตุลมแล้ว อย่างไรก็ตาม มันเป็นคาถาความเร็ว ไม่มีทางที่เขาจะสามารถบรรลุข้อกำหนดในการฝึกฝนสายลมแห่งทำลายได้
ดังนั้นแม้ว่าเมอร์ลินจะได้รับสายลมแห่งทำลายมาแต่เขาไม่มีทางที่จะฝึกฝนมันได้
เมอร์ลินคิดทบทวนอยู่ครู่หนึ่ง แม้ว่าเขาจะไม่สามารถฝึกฝนมันได้ แต่เขายังคงครอบครองพลังปีศาจแพนโดร่า เขาสามารถกลับไปยังดินแดนมนต์ดำและขอแลกเปลี่ยนมันกับพลังปีศาจแพนโดร่าอันอื่นได้
ที่ดินแดนมนต์ดำให้ความสำคัญกับการฝึกของเมอร์ลินและผลที่ตามมาก็คือเขาสามารถเปิดเผยความลับบางอย่างในดินแดมนต์ดำได้ ที่นั่นมีประวัติศาสตร์อันยาวนานและพวกเขาก็มีพลังปีศาจแพนโดร่าด้วยเช่นกัน อย่างไรก็ตาม พวกมันหาได้ไม่ง่ายนักและถูกเก็บไว้ในหอสมุดซึ่งมันเป็นไปไม่ได้ที่จะแลกเปลี่ยน
เฉพาะผู้ที่มีผลงานโดดเด่นในดินแดมนต์ดำหรือสมาชิกทางการเท่านั้นที่จะมีโอกาสได้รับพลังปีศาจแพนโดร่าของดินแดนมนต์ดำ
พลังปีศาจแพนโดร่าในองค์กรนักเวทย์ไหนก็ตาม พวกมันถูกเก็บไว้อย่างลับ ๆ ไม่เหมือนกับออสมูที่จะแจกจ่ายพลังปีศาจแพนโดร่าเพื่อเกลี้ยกล่อมเหล่านักเวทย์เข้าร่วม
เมอร์ลินเก็บวางสายลมแห่งการทำลายเข้าไปในแหวน จากนั้นเขาก็ตรวจสอบแหวนของไวส์อย่างระมัดระวังอีกครั้งแต่ก็ไม่พบของมีค่าอย่างอื่นเลย
เมอร์ลินกำลังจะเก็บแหวนของไวส์แต่ทันใดนั้นอุปกรณ์เวทมนต์รูปหูกระต่ายบนหน้าอกของเขาเริ่มเต้นเป็นจังหวะอย่างต่อเนื่องขณะที่ค่อยๆ ปลดปล่อยพลังงานอันอบอุ่นออกมา
เมอร์ลินหยุดชั่วคราวและนำอุปกรณ์เวทมนต์ที่เต้นเป็นจังหวะออกจากหน้าอกของเขา ขณะที่ใบหน้าของเขาเปล่งประกายอย่างน่าสนใจ