ตอนที่แล้ว691-692
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไป695-696

693-694


3/10

Ep.693

“มากมายขนาดนี้เชียว?”

ดวงตาของอู๋หยาจื่อเบิกกว้าง ต้องตะลึงอีกครั้ง

เพราะดินจักรพรรดิมิใช่กำหล่ำปลี มันคือสมบัติที่ประเมินค่ามิได้!

แต่ดูสีหน้าของซูเฉินตอนมอบมัน กลับไม่มีร่องรอยของความเสียใจหรือเจ็บปวดแม้แต่น้อย

“ซูเฉิน ข้าไม่ใช้เยอะขนาดนี้หรอก ขอแค่ 10 จินก็พอแล้ว ที่เหลือเจ้าเอาคืนไปเถอะ”  อู๋หยาจื่อถอนหายใจ

“ผู้อาวุโสโปรดรับไว้ ผมยังมีเจ้าสิ่งนี้อยู่อีกเยอะมาก” ซูเฉินไม่สนใจ

“เยอะมาก?” อู๋หยาจื่อสูดหายใจเย็นเยียบ ลอบคาดเดาในใจ ว่าซูเฉินคงไม่ได้ขุดเอาดินจักรพรรดิเอามาเก็บไว้ จนกองเท่าภูเขาหรอกใช่ไหม?

“ผู้อาวุโส ผมว่าถึงเวลาที่พวกเราต้องออกไปกันแล้ว” ซูเฉืนเตือน

เขาเข้ามาในหุบเขาซีหยาซักพักแล้ว หากไม่ออกไป เฉินเฟิงและคนอื่นๆจะเป็นห่วง

“ได้สิ ออกไปเดี๋ยวนี้เลย”

อู๋หยาจื่อหัวเราะ วาดมือคราหนึ่ง ปรากฏประตูแสงผุดขึ้นเบื้องหน้าทั้งสอง

จากนั้น ทั้งคู่ก้าวเข้าไปในประตูแสงพร้อมกัน หายวับไปจากมิติสันโดษ

เมื่อกลับมายังกระท่อมมุงจาก อู๋หยาจื่อถอดกำไลสีดำออกจากข้อมือเขา ยื่นถึงมือซูเฉิน กล่าวอย่างจริงจังว่า “ซูเฉิน ข้าได้ตัดขาดการเชื่อมต่อกับ [มิติสันโดษ] แล้ว นับจากนี้ไป มันเป็นของเจ้า”

“นี่ท่านให้ผม?”

ซูเฉินเผยอปากเล็กน้อย เกือบคิดว่าได้ยินผิดไป

[มิติสันโดษ] แม้ว่าจะยังไม่สมบูรณ์ แต่คุณค่าของมันไม่ด้อยไปกว่า [พื้นที่เพราะปลูก] และ [พื้นที่เลี้ยงสัตว์] เลย

แต่อู๋หยาจื่อพอบอกว่าจะให้ ก็ยื่นให้ง่ายๆแบบนี้เลยหรือ? นี่เขาจะใจกว้างไปหน่อยรึเปล่า?

อู๋หยาจื่อยิ้มและอธิบายว่า “ข้าต้องการกลับสู่ระดับเทวะอีกครั้ง จึงจำเป็นต้องหาสถานที่ปลอดภัยสำหรับการพักผ่อนอย่างสงบ และหาก [มิติสันโดษ] ซ่อมแซมเสร็จสิ้น  นั่นจะเป็นสถานที่ที่เหมาะสมที่สุด”

“ขณะที่ข้าอยู่ข้างในนั้น ก็จำเป็นต้องมีใครบางคนคอยปกป้อง [มิติสันโดษ] ถูกไหม? และเจ้าคือคนที่เหมาะสมที่สุด”

“เช่นนั้นก็ขอบคุณผู้อาวุโส” ซูเฉินกล่าวด้วยความปิติยินดี

[มิติสันโดษ] มีค่ามากสำหรับเขา ดังนั้นไม่ปฏิเสธ

“ซูเฉิน เจ้ามีแผนจะทำอะไรต่อจากนี้”

รอจนซูเฉินหยดเลือดเพื่อยืนยันสิทธิ์ความเป็นเจ้าของ และสวมกำไล [มิติสันโดษ] บนข้อมือเขา อู๋หยาจื่อค่อยเอ่ยถาม

ซูเฉินไม่ได้ปิดบังอะไรเลย เขาบอกแผนการหลังจากนี้ออกไป

ได้ยินที่เล่ามา อู๋หยาจื่อครุ่นคิดเล็กน้อย ก่อนเอ่ยปากว่า “อันดับแรกเจ้าต้องไปที่เมืองเทียนเฟิง ส่วนข้าหลังจากจัดการเรื่องในที่นี้ แล้วจะไปรวมตัวกับเจ้าอีกครั้ง”

“เข้าใจแล้ว งั้นพวกเราค่อยพบกันใหม่ที่เมืองเทียนเฟิง”

ซูเฉินตอบกลับ ก้าวเดินออกจากกระท่อมมุงจาก ตรงไปยังส่วนนอกของหุบเขาซีหยา

เมื่อเห็นซูเฉินเดินกลับมา เฉินเฟิงและศิษย์จากวังสุริยันจันทราก็ก้าวไปต้อนรับเขา เอ่ยถามว่า “น้องซู เป็นอย่างไรบ้าง? ได้เจอปรมาจารย์อู๋หยาจื่อไหม?”

ซูเฉินยิ้ม “ขึ้นรถก่อนแล้วค่อยว่ากัน”

สิ้นเสียง เขาก็เดินนำคนอื่นๆไปยัง [รถศึกอัจฉริยะ]

เฉินเฟิงและคนอื่นๆมองหน้ากัน ตามหลังซูเฉินไปติดๆ

ซูเฉินสั่ง [รถศึกอัจฉริยะ] เป็นอันดับแรก “เสี่ยวจือ มุ่งหน้าไปเมืองเทียนเฟิง”

รอจน [รถศึกอัจฉริยะ] สตาร์ทเครื่อง ออกจากุบเขาซีหยา ซูเฉินก็กล่าวกับเฉินเฟิงว่า “พี่เฉิน เรื่องการปรับแต่งอาวุธของคุณ ไม่ใช่ปัญหาใหญ่อีกต่อไป แต่เอาไว้ถึงเมืองเทียนเฟิงก่อน แล้วพวกเราค่อยว่ากัน”

ได้ยินแบบนั้น เฉินเฟิงและคนอื่นๆรู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่ง แต่ไม่นานก็บังเกิดข้อสงสัยอีกครั้ง

เพราะอาวุธของพวกเขา ไม่ใช่สิ่งที่คนธรรมดาจะสามารถปรับแต่งได้ เกรงว่าคงมีเพียงปรมาจารย์ด้านการหลอมอาวุธอย่างอู๋หยาจื่อเท่านั้นที่มีฝีมือมากพอ แล้วพวกเขาจะออกจากหุบเขาซีหยาไปเมืองเทียนเฟิงทำไม?

หรือจะมีปรมาจารย์ด้านการหลอมอาวุธอยู่ที่นั่น?

เฉินเฟิงและอีกสองคนรู้สึกงงงวย แต่เห็นซูเฉินไม่พูดอะไรมาก พวกเขาเลยไม่ถามอะไรเพิ่มเติม

ระหว่างทาง ซูเฉินเรียกเฉินเมิ่งเฟยมาคุย

“เฉินเมิ่งเฟิย นี่คือขวดยาสำหรับเพิ่มระดับฝึกตนของเธอ ตอนนี้เธอออกไปได้แล้ว”

ตามข้อตกลงในตอนแรก เมื่อพบต้นผลจำลองจิต เขาจะยอมปล่อยเฉินเมิ่งเฟยไป

เห็นแก่เฉินเมิ่งเฟยที่ทำผลงานได้ดีในช่วงหลายวันที่ผ่านมา เขาเลยตัดสินใจมอบ [โพชั่นกายภาพเลเวล 4 ] ให้แก่เธอขวดหนึ่ง

4/10

Ep.694

เฉินเมิ่งเฟยกัดริมฝีปาก ไม่ได้ยื่นมือไปรับ [โพชั่นกายภาพ] แต่เอ่ยแทนว่า “ผู้อาวุโส ฉันอยากอยู่ที่นี่ ได้โปรดอย่าไล่ฉันไป”

ความโหดร้ายในวันสิ้นโลก เธอประสบด้วยตัวเองมาแล้ว หากต้องการหาสถานที่ปลอดภัยเป็นหลักแหล่ง มันยากพอๆกับการปีนป่ายขึ้นสู่สวรรค์

แต่ตอนอยู่กับซูเฉิน เธอไม่ต้องกังวลเรื่องที่ซุกหัวนอนและอาหารการกิน หรือกระทั่งตอนตกอยู่ในอันตราย ซูเฉินก็ยังสามารถแก้ปัญหาได้อย่างง่ายดาย

โดยเฉพาะอย่างยิ่ง หากอยู่กับซูเฉิน ยังมีโอกาสได้รับน้ำยายกระดับฝึกตนอีกด้วย ขอถามหน่อยเถอะ บนโลกใบนี้ ยังมีสถานที่ดีๆเช่นนี้ได้ที่ไหนอีก?

“เอ๋?”

ซูเฉินขมวดคิ้วเล็กน้อย เพราะเขาจำได้ดี ว่าเมื่อก่อน  เฉินเมิ่งเฟยร่ำร้องและตะโกนว่าต้องการจะจากไป แต่ทำไมตอนนี้เธอถึงเปลี่ยนใจเสียเล่า?

“ซูเฉิน ขอให้พี่สาวเมิ่งเฟยอยู่ต่อเถอะ” ตันหลินเดินมาข้างซูเฉิน พยายามโน้มน้าวเขา

หยางเฉียนและสือตั้วตั้วเองก็ก้าวเข้ามา ช่วยพูดให้เฉินเมิ่งเฟยเช่นกัน หลายวันที่ผ่านมา พวกเธอเข้ากันได้ดีกับเฉินเมิ่งเฟย และทนไม่ได้ที่จะเห็นเธอถูกขับไล่ออกไป

“ผู้อาวุโส ได้โปรดให้โอกาสฉัน” เฉินเมิ่งเฟยมองซูเฉินด้วยสายตาวิงวอน

ซูเฉินไม่ใช่คนใจแข็งอะไร เมื่อย้อนนึกไปก็จะพบความจริงที่ว่าเฉินเมิ่งเฟยช่วยเหลือเขาไว้มากจริงๆ บวกกับคำขอร้องของตันหลินและพวกสาวๆ เขาจึงยอมตกลง

“อยากอยู่ก็อยู่เถอะ”

ซูเฉินโบกมือ โยน [โพชั่นกายภาพ] ให้เฉินเมิ่งเฟย

“ขอบพระคุณผู้อาวุโส” เฉินเมิ่งเฟยดีใจมาก รีบก้มหัวให้เขา

ซูเฉินพยักหน้า แล้วเดินไปหาพวกเฉินเฟิงและศิษย์แห่งวังสุริยันจันทราอีกครั้ง หารือกัน

“พี่เฉิน หลังจบงานประลองรอบคัดเลือกของทางขุนเขาหวังเฉียวแล้ว สถานที่ประลองรอบต่อไป จะจัดขึ้นที่ไหนบนทวีปเสวียนเทียน?”

“สถานที่จัดงานยังไม่แน่นอน ต้องรอให้งานประลองรอบคัดเลือดของขุมกำลังใหญ่สิ้นสุดลงก่อน ถึงจะกำหนดสถานที่จัดงานได้ แต่โดยทั่วไปแล้ว คงไม่พ้นเป็นสถานที่ของหนึ่งในสี่ขุมกำลังใหญ่” เฉินเฟิงอธิบาย

“มีผู้เข้าร่วมงานประลองทั้งหมดกี่คน? แล้วจะประลองกันด้วยวิธีไหน?” ซูเฉินยังคงถามต่อ

เพื่อรับโควต้าเข้าสู่มิติท้ารบ ต้องผ่านด่านงานประลองทวีปเสวียนเทียน ซูเฉินจึงให้ความสนใจเป็นพิเศษเกี่ยวกับเรื่องนี้

“มีทั้งหมด 50 คน แล้วดูเหมือนจะเป็นการต่อสู้ชุลมุน” เฉินเฟิงกล่าวตามตรง

“มีคนเยอะขนาดนั้นเชียว?” ซูเฉินรู้สึกประหลาดใจไม่น้อย

เพราะสถานที่เช่นขุนเขาหวังเฉียวซึ่งคัดเลือกจาก 7 ขุมกำลัง ยังมีเพียง 10 เท่านั้น แสดงว่าอีกสามขุมกำลังใหญ่ก็มีคนละไม่เกิน 10 โควต้าถูกไหม? แล้วอีก 10 โควต้าสุดท้ายเล่า เป็นของใคร?

“เฮียซูคงยังไม่รู้ ว่าผู้เข้าร่วมประลองไม่ได้มีเพียงสี่ขุมกำลังใหญ่ของทวีปเสวียนเทียนเท่านั้น แต่ยังมีตัวแทนจากเกาะต่างๆอีกมากมาย พวกเขาก็มีโควต้าเป็นของตัวเองเช่นกัน”

“อ้อ”

ซูเฉินค่อยเข้าใจ จากนั้นก็สนทนากันเรื่องอื่นต่อ

สามวันต่อมา [รถศึกอัจฉริยะ] มาถึงเมืองเทียนเฟิงได้อย่างราบรื่น

ขนาดของเมืองเทียนเฟิงไม่ใหญ่นัก แต่ชื่อเสียงค่อนข้างโด่งดัง สาเหตุก็เพราะ ที่นี่คือหนึ่งในสองงานประมูลที่ดีที่สุดในทวีปเสวียนเทียน

แต่ละครั้งที่มีงานประมูล มักมีสมบัติล้ำค่าหนึ่งถึงสองชิ้นปรากฏขึ้นเสมอ ซึ่งครั้งหนึ่งเคยเป็นศิลาทลายมิติ

ผลที่ตามมาเลยกลายเป็นว่า ทุกครั้งที่งานประมูลจัดขึ้น สามารถดึงดูดผู้คนได้เป็นจำนวนมาก

เมื่อซูเฉินและคนอื่นๆเข้าสู่เมืองเทียนเฟิง ก็พบว่าที่นี่พลุกพล่านไปด้วยผู้คน มีชีวิตชีวามาก

หลังจากสอบถามเล็กๆน้อยๆ ก็ได้ความว่างานจะถูกจัดขึ้นในวันพรุ่งนี้ หลายคนมาที่นี่เพื่อประมูล

และก็ได้ยินข่าวสำคัญมากมาด้วยเช่นกัน ว่าในงานครั้งนี้ ยังมีศิลาวิญญาณวายุ และสมบัติอื่นๆอีกหลายชิ้นเข้าร่วมประมูล

ซูเฉินอาจไม่สนใจอย่างอื่น แต่ศิลาวิญญาณวายุน่ะไม่ใช่

ศิลาวิญญาณวายุเป็นสิ่งที่สามารถช่วยเพิ่มความเร็วในการบินแก่ [รถศึกอัจฉริยะ] ได้ ฉะนั้นว่าเขาจะไม่ยอมปล่อยให้มันหลุดมือไป

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด