HO บทที่ 107 งานเลี้ยง PART 3
"ไม่มีประโยชน์ที่จะจ้องมอง" วอนเดอร์ริ่งซาวด์กล่าว “ฉันคิดว่าคนที่ถูกเรียกว่านายกเทศมนตรี เขาคงจะไม่ทำพลาดอีกครั้งง่าย ๆ”
ซินหยาหันกลับไปมองหน้าทุกคนและพูดว่า "ถูกต้อง ฉันคิดว่าเราต้องการวิธีที่จะทำให้นายกเทศมนตรีตัวปลอมนี้ เผยโฉมหน้าที่แท้จริงออกมา"
“นายมีความคิดที่จะทำอย่างไรกับเขาแล้วงั้นเหรอ?” เว่ยถาม
“ตอนนี้ยังไม่มีแต่ขอเวลาคิดฉันสักหน่อย ไว้ถึงตอนนั้นฉันน่าจะได้อะไรมาบ้าง” ซินหยาตอบ
เมลติ้งสโนว์สะกิดแขนของซินหยาและพูดอย่างร่าเริงว่า "ผมจะช่วยพี่เอง รับรองแผนของพี่ต้องไปได้สวยแน่"
“ฉันรู้ว่าเธอทำได้” ซินหยาพูดขณะลูบหัวเมลติ้งสโนว์
พวกเขาทั้งสี่เริ่มคุยกันถึงสิ่งที่พวกเขาควรทำเพื่อเริ่มต้นภารกิจ แต่หลังจากผ่านไปหนึ่งชั่วโมง ก็ไม่มีใครมีความคิดที่ดีเลย เมลติ้งสโนว์รู้สึกว่าบางทีพวกเขาอาจจะไม่สามารถเรียกภารกิจได้ แม้ว่าเขาจะโหยหาการผจญภัยแต่เขาก็ไม่รังเกียจที่จะรอครั้งต่อไป ขอแค่ได้อยู่กับดริฟติ้งคลาวด์ก็เพียงพอแล้ว
เมื่อเห็นว่าพวกเขาจะไม่ได้คิดอะไรในเร็ว ๆ นี้ ซินหยาคิดว่าพวกเขาควรจะพยายามสนุกกับตัวเอง
ใครจะรู้ว่าบางทีเมื่อพวกเขาเอาความคิดของพวกเขาออกจากปัญหา ทางแก้จะมาหาพวกเขาเอง
อีกเหตุผลหนึ่งที่เขาคิดว่าพวกเขาน่าจะสนุกกันสักหน่อยก็คือเว่ย ซินหยาเห็นว่าเธอมองดูคู่ชายหญิงบนฟลอร์เต้นรำอย่างโหยหาในขณะที่พวกเขากำลังคุยกันอยู่ เขารู้ว่าเธอกำลังคิดอะไรอยู่ ชายหญิงที่เต้นรำหมุนตัวไปมา เคลื่อนไหวตามจังหวะเพลงอย่างกลมกลืน ดูเหมือนอะไรบางอย่างในเทพนิยาย
ซินหยารู้ว่านั่นดึงดูดใจเธอเพียงใดและเขาไม่รู้ว่าพวกเขาจะมีโอกาสได้ไปงานประเภทนี้อีกหรือไม่ แม้ว่าจะมีภารกิจแต่ก็ไม่ได้หมายความว่าพวกเขาไม่สามารถสนุกกับตัวเองได้เช่นกัน
“ถ้างั้นเราหยุดคิดเกี่ยวกับภารกิจที่เป็นไปได้นี้ซักพักก่อนดีกว่า” ซินหยาเริ่ม “เราคิดมาพักใหญ่แล้ว เราควรไปพักผ่อนกันซักพักสักหน่อย อาจจะมีไอเดียเข้ามาหาเราในตอนนั้นก็ได้”
วอนเดอร์ริ่งซาวด์พยักหน้าเห็นด้วยกับเขา "ที่ดริฟติ้งคลาวด์พูดมานั้นถูกต้อง บางทีในขณะที่เรากำลังเพลิดเพลินกับตัวเองนั้น โอกาสอาจจะปรากฏขึ้นมา"
“ถูกต้อง เราควรไปสนุกกันเถอะ!” เว่ยพูดเร็วเกินไปราวกับเธอรอไม่ไหวที่จะทำอย่างอื่น
ซินหยามองดูเธอและยิ้มอย่างรู้ว่าเธอกำลังคิดอะไรอยู่ “ฉันรู้สึกว่ามีบางอย่างที่เธออยากไปทำ จริงไหมโรมมิ่งวินด์?”
“นายกำลังพูดเรื่องอะไร?” เว่ยพูดอย่างเขินอาย “ฉันแค่เห็นด้วยกับพวกคุณทั้งสองเท่านั้นเอง”
"แน่ใจนะว่าใช่" ซินหยาหัวเราะคิกคัก
วอนเดอร์ริ่งซาวด์เหลือบมองดริฟติ้งควลาวด์อย่างสงสัย ว่าเขากำลังสื่อถึงอะไร เมื่อเห็นการชำเลืองของเขา ซินหยาก็ยิ้มและมองตรงไปยังผู้คนที่กำลังเต้นรำ ดวงตาของวอนเดอร์ริ่งซาวด์เบิกกว้างและมองไปที่โรมมิ่งวินด์อย่างเข้าใจ
วอนเดอร์ริ่งซาวด์ลุกขึ้นยืนข้างหน้าเก้าอี้ของเว่ยและยื่นมือออกมา “โรมมิ่งวินด์ คุณจะให้เกียรติฉันเต้นรำกับฉันได้ไหม?”
“นะ...แน่นอน” เว่ยพูดติดอ่าง หน้าแดงเล็กน้อยขณะที่เธอจับมือของวอนเดอร์ริ่งซาวด์
ขณะที่ซินหยามองขณะที่เว่ยและวอนเดอร์ริ่งซาวด์ เดินไปที่ฟลอร์เต้นรำก็มีรอยยิ้มเล็ก ๆ ปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเขา นี่คือช่วงเวลาแห่งเจ้าหญิงของเว่ย ช่วงเวลาที่เด็กหญิงตัวเล็ก ๆ ทุกคนใฝ่ฝัน ทันทีที่พ่อแม่ปล่อยให้พวกเขาดูหนังเรื่องเจ้าหญิงเรื่องแรก
พวกเธอใฝ่ฝันที่จะไปงานบอลและได้เจ้าชายที่ใฝ่ฝันชวนไปเต้นรำ ยังไงซะ ผู้หญิงส่วนใหญ่บางคนก็อยากจะเป็นเหมือนเจ้าหญิงจอมแก่น บางคนก็อยากจะทำทั้งสองอย่าง ซินหยารู้ว่าเว่ยต้องการทั้งคู่เสมอ
เมื่อมองดูพวกเขาสองคนหมุนวนไปรอบ ๆ ฟลอร์เต้นรำ ทำให้ซินหยามีความสุข แต่ในขณะเดียวกัน เขาก็รู้สึกเหงาเล็กน้อย เขาไม่คิดว่าเขาจะหาใครซักคนเพื่อตัวเองได้ด้วยปัญหาที่ยังติดค้างอยู่ในใจของเขา
ในขณะที่เขากำลังจะจัดงานเลี้ยงที่น่าสงสารสำหรับตัวเอง เมลติ้งสโนว์ก็สะกิดเขา
“พี่ดริฟ พี่คิดว่าพวกเขาจะเอาอาหารออกมาเมื่อไหร่? ผมอยากลองชิมมันสักคำ ผมอยากรู้ว่ามันจะสู้ของพี่ได้มั้ย?” เมลติ้งสโนว์กล่าว
เมื่อมองไปรอบ ๆ ซินหยาพบว่าโต๊ะจัดเลี้ยงที่ควรเต็มไปด้วยอาหารยังไม่ได้จัดวาง งานเลี้ยงไม่มีอาหาร มันไม่ใช่งานเลี้ยงเลย เป็นความคิดของซินหยา ขณะที่เขามองไปรอบ ๆ คิดว่าบางทีคงเป็นความต้องการของนายกเทศมนตรีที่ยังไม่เสิร์ฟอาหารตอนนี้
“บางทีเราอาจจะได้เห็นจูนิเปอร์เพราะเขาอาจจะเป็นหนึ่งในเชฟที่นำอาหารมา” เมลติ้งสโนว์กล่าว
มันเหมือนกับว่าจู่ ๆ หลอดไฟในหัวของซินหยาได้สว่างขึ้นมา “ใช่แล้ว!! เธอคืออัจฉริยะจริง ๆ เมลติ้งสโนว์”
“อืม มันแน่นอนอยู่แล้ว” เมลติ้งสโนว์ลำพองตัวและถามอย่างสับสนว่า "ว่าแต่ทำไมผมถึงเป็นอัจฉริยะ?"
"ฉันเพิ่งรู้ว่าเราจะเรียกภารกิจนี้ได้อย่างไรและจูนิเปอร์คือกุญแจที่เราต้องการ" ซินหยาอธิบาย
เมลติ้งสโนว์ถามด้วยความสงสัย “พี่หมายความว่าอย่างไร”
ซินหยาเริ่มอธิบายรายละเอียดเกี่ยวกับไอเดียของเขาและเหตุใดจึงจำเป็นต้องมีจูนิเปอร์ แผนนี้จะสำเร็จได้ก็ต่อเมื่อจูนิเปอร์นำอาหารออกมา ถ้าเขาไม่มา ซินหยาคงจำเป็นต้องใช้แผนอื่น...
สิบห้านาทีก่อนหน้านี้
เมื่อวอนเดอร์ริ่งซาวด์ขอเต้นรำกับเว่ย เธอรู้สึกตื่นเต้นมากแต่จนกระทั่งพวกเขาอยู่ที่ฟลอร์เต้นรำเธอก็รู้ว่าเธอเต้นไม่ได้ เธอสงสัยว่าเธอควรทำอย่างไร เธอไม่สามารถบอกวอนเดอร์ริ่งซาวด์ได้เลยว่าเธอไม่อยากเต้นอีกต่อไปแล้ว
ราวกับสัมผัสได้ถึงความตื่นตระหนกของเธอ วอนเดอร์ริ่งซาวด์ถามว่า "มีอะไรผิดปกติหรือเปล่าโรมมิ่งวินด์?"
“ฉันเพิ่งรู้ว่าฉันเต้นไม่ได้” เว่ยตอบและตัดสินใจบอกความจริงกับวอนเดอร์ริ่งซาวด์ “บางทีเราควรกลับไปที่โต๊ะ”
เสียงเริงร่ายิ้มแสยะโอบเอวเธอและดึงเธอเข้ามาใกล้ “ไม่ต้องกังวล ถ้าคุณเต้นไม่ได้ก็ไม่เป็นไร ให้ฉันเป็นคนนำคุณนะ”
“ก็ได้” เว่ยพูดขณะที่วอนเดอร์ริ่งซาวด์เริ่มเคลื่อนที่ไปรอบ ๆ ฟลอร์เต้นรำพร้อมกับเธอ
ขณะที่วอนเดอร์ริ่งซาวด์เริ่มหมุนเธอไปรอบ ๆ ฟลอร์เต้นรำ เธอแทบไม่เชื่อเลยว่าเธอทำได้ดีแค่ไหน จนกระทั่งเธอได้รับการแจ้งเตือนว่าเธอเพิ่งเรียนรู้ทักษะการเต้น นั่นคือตอนที่เธอจำได้ว่าเธออยู่ในเกมและแน่นอนว่าเธอเรียนรู้ได้เร็วกว่าโลกแห่งความเป็นจริง
เธอเริ่มสนุกกับตัวเองอย่างแท้จริงเมื่อรู้ว่าเธอจะไม่เหยียบเท้าวอนเดอร์ริ่งซาวด์
ทันใดนั้นวอนเดอร์ริ่งซาวด์ก็หมุนเธอไปรอบๆ ก่อนที่เขาจะนำเธอเข้าไปในท่าเต้นที่ซับซ้อนมากขึ้น ตอนนี้ราวกับเธอกำลังอยู่ในฉากหนึ่งในหนัง
ขณะที่เขาดึงเธอขึ้นช้าๆ ดึงเธอเข้ามาใกล้มากพอที่ใบหน้าของพวกเขาจะสัมผัส เขากระซิบกับเธอว่า "คุณสนุกไหม?"
ก่อนที่เว่ยจะตอบกริ่งดังขึ้น ทำให้เสียงเพลงหยุดลง นายกเทศมนตรีเรียกทุกคนให้ความสนใจอีกครั้ง
“เชิญนั่งกันก่อนทุกคน” นายกเทศมนตรีเริ่ม “อาหารกำลังจะนำมาเสิร์ฟแล้ว”
...
ฉากที่ถูกตัดออก
ขณะที่วอนเดอร์ริ่งซาวด์และเว่ยหมุนวนไปรอบ ๆ ฟลอร์เต้นรำ อยู่ ๆ วอนเดอร์ริ่งซาวด์ก็เริ่มร้องเพลงขึ้นมา
"เธอหมุนวนรอบ ๆ ตัวผม หมุนอย่างกับแผ่นเสียงวนไปวนมา..."[1]
“เสียงของคุณไพเราะดีนะ” เว่ยพูดโดยไม่รู้จะพูดอย่างไรดี เธอเริ่มคิดว่ามีบางอย่างผิดปกติกับเขา
[1] เป็นเนื้อเพลงของ Dead Or Alive - You Spin Me Round (Like a Record)