181 - หาทางหนี
181 - หาทางหนี
ที่ด้านหน้าประตูนิกายผู้คนจำนวนมากกำลังรวมตัวกัน มีผู้อาวุโสหลายคนรออยู่ที่นี่ด้วยสีหน้าจริงจัง
ศิษย์สิบคนจากยอดเขาดวงดาวที่ถูกกักตัวไว้บนภูเขามีสีหน้าบิดเบี้ยวอย่างยิ่งตอนแรกพวกเขาไม่สนใจยอดเขารกร้าง ไม่คิดว่าศิษย์ผู้มีพรสวรรค์มากมายของยอดเขาอื่นต่างก็ต้องการเป็นลูกศิษย์ของยอดเขารกร้างจริงๆ
เย่ฟ่านเดินไปและปล่อยตราประทับบนร่างกายของพวกเขาพร้อมกับอนุญาตให้พวกเขาลงจากภูเขาไป อย่างไรก็ตามคนแปลกหน้าทั้งสิบคนลังเล ดูเหมือนพวกเขาจะไม่อยากจากไปไหนตอนนี้
มีกฎเกณฑ์อยู่ในสายเลือดต่างๆของนิกายไท่ซวน หากใครเข้าร่วมกับยอดเขาหลักอื่น พวกเขามีโอกาสเลือกมรดกอื่น
อย่างไรก็ตามเมื่อเข้าร่วมยอดเขารกร้าง สิ่งนี้ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ เป็นเช่นนี้มานานแล้ว เห็นได้ชัดว่าการได้เข้าร่วมยอดเขารกร้างตอนนี้นั้นพิเศษเพียงใด
หลี่รุ่ยหยูมาที่หน้าประตูนิกายสายตาของเขาจับจ้องไปยังกลุ่มคนที่อยู่ด้านล่าง
“พวกเจ้าเต็มใจที่จะเข้าร่วมยอดเขารกร้างของข้า?”
“พวกเราเต็มใจ!” หลายคนตะโกนตอบกลับ
ในขณะนี้รัศมีของหลี่รุ่ยหยูไม่ได้ทรงพลังเหมือนก่อนหน้านี้และดูเหมือนเป็นเพียงผู้อาวุโสในหมู่บ้านธรรมดาเท่านั้น สิ่งนี้ทำให้ศิษย์หลายคนสงสัย
ผู้อาวุโสบางคนจากยอดเขาหลักอื่นๆเดินไปข้างหน้าเพื่อทักทายหลี่รุ่ยหยูด้วยความสุภาพ ผู้อาวุโสเหล่านี้ไม่ใช่คนโง่พวกเขาตระหนักดีว่าสัมผัสศักดิ์สิทธิ์ของพวกเขาไม่อาจมองผ่านหลี่รุ่ยหยูได้
พวกเขาเข้าใจโดยธรรมชาติว่าขอบเขตของหลี่รุ่ยหยูนั้นทะลุทะลวงขึ้นไปอีกขั้น และพวกเขาก็มั่นใจอย่างยิ่งว่าภายใต้การนำของหลี่รุ่ยหยูยอดเขารกร้างจะผงาดขึ้นมาอีกครั้ง
“ที่จริงไม่ต้องเป็นแบบนี้ก็ได้” หลี่รุ่ยหยูมองไปที่ใบหน้าของทุกคนก่อนจะกล่าวต่อไปว่า
“ทุกคนมีเต๋าที่แตกต่างกัน ยอดเขารกร้างอาจไม่เหมาะกับพวกเจ้า”
“หัวหน้านิกายพูดแล้วลูกศิษย์สามารถเลือกได้เอง” ผู้อาวุโสอีกคนพยักหน้า
“พวกเราเต็มใจที่จะเข้าร่วมยอดเขารกร้าง”
ลูกศิษย์หลายคนมีไหวพริบไม่น้อย พวกเขาเดินไปข้างหน้าพร้อมกับคุกเข่าแสดงความเคารพหลี่รุ่ยหยู
เย่ฟ่านพูดไม่ออกเดิมทียอดเขารกร้างว่างเปล่าโดยสิ้นเชิง เมื่อมรดกถูกเปิดใช้งาน คนจำนวนมากจึงเข้ามารุมล้อม
“อย่าปิดกั้นข้า ข้าเป็นศิษย์ดังเดิมของยอดเขารกร้าง”
ในขณะนั้นก็มีเสียงที่ชัดเจนดังขึ้น จี้จื่อเยว่ที่หายตัวไปเป็นเวลาหลายวันในที่สุดก็ปรากฏตัวขึ้น ดวงตาโตของนางมีความสดใสและรอยยิ้มแสนหวานก็ถูกฉาบอยู่บนใบหน้าของนาง
ลักยิ้มเล็กๆสองอันปรากฏขึ้นบนใบหน้าของจี้จื่อเยว่ นางแสดงความเคารพแล้วกล่าวว่า
“ผู้อาวุโสหลี่ข้ากลับมาแล้ว”
“ดี ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปเจ้าเป็นศิษย์ของยอดเขารกร้างของข้า” หลี่รุ่ยหยูพยักหน้าให้นาง
จี้จื่อเยว่ได้ผ่านเก้าขั้นตอนสู่สวรรค์แล้ว พรสวรรค์ของนางนั้นยอดเยี่ยมมาก
ตอนนั้นนางต้องการอยู่กับยอดเขารกร้าง หากไม่ใช่เพราะผู้อาวุโสของยอดเขาดวงดาวนางก็คงจะเป็นเหมือนเย่ฟ่านและพร้อมที่จะอยู่ที่นี่ ชายชรารู้สึกประทับใจในตัวนางมาก
“ผู้อาวุโส พวกเราเต็มใจที่จะเข้าร่วมยอดเขารกร้าง” ชายหนุ่มสองสามคนที่อยู่หน้าประตูนิกายแสดงความเคารพอีกครั้ง
“พวกเจ้าทุกคนที่อยู่ที่นี่สามารถพยายามทำความเข้าใจภายใต้ ยอดเขารกร้าง หากเจ้าได้รับบางสิ่งบางอย่างภายในครึ่งเดือน เจ้าสามารถเข้าร่วมยอดเขารกร้างได้”
หลี่รุ่ยหยูพูดก่อนจะเดินกลับขึ้นไปบนภูเขาโดยมีผู้อาวุโสหลายคนติดตามเขาไป
ในขณะนี้ผู้อาวุโสของยอดเขาดวงดาวได้ถ่ายทอดเสียงไปยังหลี่รุ่ยหยู
“หญิงสาวคนนั้นเป็นทายาทของตระกูลจี้ เจ้าไม่สามารถส่งต่อมรดกให้กับนางได้”
………….
ในวันต่อมาลูกศิษย์รุ่นเยาว์แห่กันไปที่ยอดเขารกร้าง มีลูกศิษย์จำนวนหนึ่งจากยอดหลักร้อยแปดยอดที่พุ่งเข้ามาที่นี่
ขณะนี้มีข่าวลือภายในนิกายไท่ซวนว่าอาวุโสหลี่รุ่ยหยูได้รู้แจ้งเต๋าผู้ยิ่งใหญ่ โดยธรรมชาติแล้วอีกไม่กี่ปีเขาจะกลายเป็นยอดฝีมือระดับต้นๆของแดนรกร้างตะวันออก
หากผู้ใดได้รับอาจารย์เช่นนี้อนาคตของพวกเขาจะการันตีความยิ่งใหญ่อย่างแน่นอน
หนึ่งร้อยแปดยอดเขาหลัก ปรมาจารย์หลายคนของยอดเขาหลักมาเยี่ยมหลี่รุ่ยหยูเป็นการส่วนตัว ปรมาจารย์หลายคนยังมองเช่นนี้ ลูกศิษย์คนอื่นจะลังเลได้อย่างไร?
เย่ฟ่านไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่ายอดเขารกร้างที่แห้งแล้งและรกร้างจะกลายเป็นคนเย่อหยิ่งในทันใด สิ่งนี้ทำให้คนคร่ำครวญ โลกแห่งการฝึกฝนเป็นเหมือนโลกมนุษย์ มันไม่มีความแตกต่างกันแม้แต่น้อย
จี้จื่อเยว่รู้สึกหดหู่และไม่มีความสุข หลี่รุ่ยหยูได้ถามนางโดยตรงว่านางเป็นทายาทของตระกูลจี้หรือไม่ นางไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องยอมรับมัน
ชายชราพูดอย่างตรงไปตรงมาว่าเขาไม่สามารถสอนทักษะลับให้นางได้
“เด็กน้อย เจ้าไม่ได้เรียนรู้ทักษะลับนั้นจริงๆหรือ? ข้าไม่เชื่อ!”
ดวงตากลมโตของจี้จื่อเยว่จ้องไปที่เย่ฟ่าน รอยยิ้มของนางช่างอ่อนหวานและน่าหลงใหล
“ในตอนนั้นวันที่มรดกปรากฏออกมาเจ้าก็อยู่บนภูเขา พูดได้ว่าเจ้ามีความสัมพันธ์ที่ดีกับมันมาก อย่ามาหลอกข้าเจ้าต้องได้รับอะไรบางอย่างมาอย่างแน่นอน?”
“หืม ข้าได้เรียนรู้เต๋าผู้ยิ่งใหญ่เพียงเล็กน้อย” เย่ฟ่านหัวเราะ
“เจ้าสามารถใช้คัมภีร์แห่งความว่างปล่าวเพื่อแลกเปลี่ยนได้”
“เจ้าอยากถูกตี!”
จี้จื่อเยว่บีบจมูกของนางขณะที่นางเริ่มกัดฟัน ความทรงจำในตอนที่นางถูกเย่ฟ่านจับตัวไว้ปรากฏออกมาอีกครั้ง
“ลืมมันไปซะ ข้าจะสอนให้”
เย่ฟ่านเริ่มพูดถึงเต๋าผู้ยิ่งใหญ่เพื่อเปลี่ยนเรื่อง เขาไม่กล้าพูดหรือสั่งสอนคนอื่นด้วยทักษะลับ หลี่รุ่ยหยูพูดกับเขาอย่างจริงจังเกี่ยวกับเรื่องนี้
หลังจากที่ตัวตนของนางถูกเปิดเผยจี้จื่อเยว่ก็ไม่สนใจที่จะปิดบังตัวตนของตัวเองอีก เมื่อนิกายไท่ซวนรู้ถึงตัวตนของนางแล้วพวกเขาก็ต้องทำทุกอย่างเพื่อปกป้องนาง
สำหรับเรื่องของจี้ปี้เยว่นั้นไม่มีทางที่นางจะกล้ามาทวงคนในนิกายไท่ซวน
ในเวลาไม่นานยอดเขารกร้างก็มีลูกศิษย์ใหม่มากกว่าสามสิบคน พวกเขาถูกส่งมาที่นี่โดยผู้อาวุโสคนอื่นๆและหลี่รุ่ยหยูก็อดไม่ได้ที่จะยอมรับพวกเขา
จี้จื่อเยว่ไม่มีความสุขมาก มีหลายคนที่ล้อมรอบนางตลอดเวลา ติดตามนางทุกที่ที่นางไป ทำให้นางรู้สึกรำคาญมาก
นางเข้าใจว่าตัวตนของนางต้องถูกเปิดเผย คนเหล่านี้พยายามเข้าใกล้นางมากขึ้นเพื่อให้มีความสัมพันธ์กับตระกูลขุนนางโบราณ
สำหรับเย่ฟ่านเขาหลีกเลี่ยงนางทุกวันและทำการศึกษาคัมภีร์เต๋ารวมถึงทักษะลับที่เพิ่งได้รับใหม่ จี้จื่อเยว่ยิ่งรู้สึกรำคาญมากขึ้นทุกวันสหายคนนี้แปลกเกินไป
ตามปกติแล้วคนอื่นจะไล่ตามนางอยู่ตลอดเวลาแต่เขากลับพยายามหลบหน้านาง อย่างน้อยที่สุดในช่วงสองสามวันนี้นางก็ไม่ได้เจอเขาแม้แต่ครั้งเดียว
“เด็กน้อย เจ้ากล้าที่จะหลีกเลี่ยงข้าจริงๆ……”
จี้จื่อเยว่กัดฟันขู่ เจตนาร้ายทำให้ดวงตาของนางแดงก่ำ หากไม่ได้รับทักษะลับการมาอยู่ในสำนักไท่ซวนของนางก็นับว่าเปล่าประโยชน์
เย่ฟ่านหายตัวไปอย่างรวดเร็ว เขาไม่ต้องการที่จะเป็นศัตรูกับลูกศิษย์คนอื่นๆที่ถูกใช้มาโดยจี้จื่อเยว่ ตอนนี้เขาเริ่มมีความคิดที่จะจากไปแล้ว
ในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมาเขาเที่ยวตามหาค่ายกลเคลื่อนย้ายเพื่อจะเดินทางไปที่ดินแดนศักดิ์สิทธิ์ทะเลสาบหยก
เย่ฟ่านได้ออกจากยอดเขารกร้างอีกครั้งโดยใช้เวลาส่วนใหญ่ในการสำรวจนิกายไท่ซวน มียอดเขาหลักหลายแห่ง แต่เขาหาประตูเคลื่อนย้ายไม่พบมันไม่รู้ว่ามันอยู่ที่ไหนกันแน่
หลังจากที่ได้รวบรวมข้อมูลบางอย่างจากเหล่าศิษย์คนอื่นๆเย่ฟ่านถึงได้ทราบว่าพวกเขาจะต้องสะสม 'ต้นกำเนิด' จนเพียงพอนิกายถึงจะอนุญาตให้พวกเขาใช้ค่ายกลเครื่องย้าย