บทที่ 341 ทำลายตระกูลโหลว
บทที่ 341 ทำลายตระกูลโหลว
เกาะกลางทะเลสาบไม่ได้เปลี่ยนไปมากนัก นับตั้งแต่เย่จงหมิงมาเยือนครั้งก่อน เพียงแต่มันดูทรุดโทรมกว่า และสิ่งที่เพิ่มเติมมาก็คือ…ความวุ่นวาย
อย่างน้อยก็เมื่อมองดูจากท้องฟ้า
ในขณะนี้เย่จงหมิงอยู่บนท้องฟ้า
เขากำลังอยู่บนเครื่องร่อนวิเศษปีกเหล็กที่คว้ามาจากกองทัพเหยา มาที่บ้านตระกูลโหลว
ครั้งสุดท้ายที่เย่จงหมิงมาที่นี่ เป็นธรรมดาที่เขาจะรู้ว่า เขากับบ้านตระกูลโหลวต้องเข่นฆ่าล้างแค้นกันไม่ช้าก็เร็ว แต่ด้วยช่องว่างขนาดใหญ่ของความแข็งแกร่งระหว่างอวิ๋นติ่งวิลล่ากับบ้านตระกูลโหลวในตอนนั้น จึงทำให้เย่จงหมิงไม่ได้ให้ความสนใจกับเรื่องนี้อย่างเพียงพอ
ยิ่งไปกว่านั้น หลังจากที่เขาช่วยเซี่ยไป๋ออกมาได้ เขาก็พบกับการโจมตีของคลื่นซอมบี้ และต้องกลับไปที่อิงเฉิงอีกครั้ง ซึ่งทำให้เย่จงหมิงเพิกเฉยต่อกองกำลังเล็กๆ ที่เข้ามาเกะกะสายตาของเขาไป
แต่ครั้งนี้ บ้านตระกูลโหลวพบโอกาสที่ดีที่สุด และพบผู้ช่วยเหลือที่ดีที่สุด พวกเขาจึงได้ไปที่อวิ๋นติ่งวิลล่าด้วยความโหดเหี้ยม
บ้านตระกูลโหลวอยู่ใกล้กับความสำเร็จมาก การละเลยเพียงเล็กน้อยก่อนหน้านี้ของเย่จงหมิง ได้กลายเป็นความผิดพลาดครั้งใหญ่
ไม่มีใครที่สมบูรณ์แบบ จึงเป็นธรรมดาที่เย่จงหมิงย่อมต้องทำหลายสิ่งที่ผิดพลาด อย่างไรก็ตามความผิดพลาดบางอย่างต้องได้รับการชดเชยด้วยเลือด
ก่อนหน้านี้ เย่จงหมิงขับมอเตอร์ไซค์ที่ซื้อมาจากทีมลี่โห่ว ซึ่งได้รับการดัดแปลงด้วยทักษะอาชีพของเหล่าลี่ ไปที่เรือนจำอิงเฉิง น่าเสียดายที่พบแต่เพียงอาคารที่ว่างเปล่า จางต้าหลงได้พาผู้คนของเขาอพยพออกไปแล้ว และไม่มีใครรู้ว่าพวกเขาพากันไปอยู่ที่ไหน
ตั้งแต่คนเหล่านั้นออกจากอวิ๋นติ่งวิลล่าจนถึงเย่จงหมิงกลับมาในอีกสี่วันให้หลัง ด้วยระยะเวลาไม่กี่วันนี้ บวกกับข่าวสารที่ถูกปิดกั้นจากวันโลกาวินาศเพียงพอที่จะให้จางต้าหลงหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย
ในขณะที่รู้สึกเสียดาย เย่จงหมิงก็รู้สึกชื่นชมในไหวพริบปฏิภาณและความมุ่งมั่นของจางต้าหลง ไม่ใช่ทุกคนที่กล้าละทิ้งฐานที่สร้างมากับมือจากอันตรายที่ยังไม่รู้ว่าจะเกิดขึ้นหรือไม่ แต่จางต้าหลงทำได้ เขาเลือกอพยพอย่างไม่ลังเล แม้กระทั่งสิ่งของมีค่าบางอย่างก็ไม่ได้ถูกนำไปด้วย เห็นได้ชัดว่าพวกเขารีบร้อนจากไปขนาดไหน
เมื่อไม่พบตัวจางต้าหลง เย่จงหมิงก็ตรงไปที่บ้านตระกูลโหลว ภายใต้ความเร็วของมอเตอร์ไซค์ดัดแปลงของเหล่าลี่ เย่จงหมิงจึงมาถึงบ้านตระกูลโหลวภายในเวลาเพียงสั้นๆ
บ้านตระกูลโหลวไม่ได้มีความกล้าหาญเหมือนจางต้าหลงกับผู้คนของเรือนจำอิงเฉิง แม้ผู้คนของบ้านตระกูลโหลวจะตระหนักได้ถึงอันตราย อย่างไรก็ตามเนื่องจากที่นี่ไม่ได้เป็นเพียงแค่ฐานที่สร้างขึ้นหลังจากวันสิ้นโลก แต่ที่นี่เป็นสถานที่ๆพวกเขาอาศัยอยู่มาหลายชั่วชีวิตคน หากพวกเขาต้องการอพยพก็จะต้องประสบกับการต่อต้านขนานใหญ่
ความวุ่นวายที่เย่จงหมิงเห็น เป็นผลมาจากความขัดแย้งจากความคิดที่ต่างกันสองขั้วที่เกิดขึ้นในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา
บ้านตระกูลโหลวแยกออกเป็นสองฝ่าย ฝ่ายหนึ่งต้องการอพยพไปจากที่นี่โดยเร็วที่สุด เพราะว่าอวิ๋นติ่งวิลล่าอยู่ใกล้กับที่นี่มากเกินไป หากอวิ๋นติ่งวิลล่าต้องการตอบโต้ บ้านตระกูลโหลวจะไม่มีเวลาแม้แต่จะต้านรับ พวกเขาเชื่อว่า การแก้แค้นจะมาถึงไม่ช้าก็เร็ว แทนที่จะจากไปอย่างพ่ายแพ้ในภายหลัง ก็ให้ไปตั้งแต่ตอนนี้และไปเริ่มต้นใหม่อีกครั้งในสถานที่ใหม่ อพยพไปเร็วขึ้นหนึ่งวัน การเริ่มต้นใหม่ก็จะเร็วขึ้นหนึ่งวัน
ส่วนอีกฝ่ายคิดว่า การปกป้องเกาะกลางทะเลสาบไม่ใช่ปัญหาใหญ่ เป็นไปไม่ได้ที่คนของอวิ๋นติ่งวิลล่าจะมาถึงที่นี่ แม้คนเหล่านั้นจะมีเรือก็ตาม พวกเขาก็สามารถกวาดล้างคนเหล่านั้นได้ และสถานที่นี้เป็นสถานที่บรรพบุรุษ ที่พวกเขาได้อาศัยอยู่และสืบเผ่าพันธุ์มาหลายชั่วชีวิตคน จะพูดว่ายอมแพ้โดยไม่สนใจแม้แต่ศาลบรรพชนได้อย่างไร? ยิ่งไปกว่านั้น ที่นี่ยังมีรูเล็ตระดับ 3 อยู่ด้วย และเวลานี้ก็เป็นเวลาที่จะใช้ประโยชน์จากมันได้แล้วอีกด้วย
ด้วยเหตุผลดังกล่าว ทำให้ทั้งสองฝ่ายมีความไม่ลงรอยกัน ซึ่งนำไปสู่การทะเลาะวิวาท และในช่วงสองวันที่ผ่านมา ได้เกิดการปะทะกันด้วยอาวุธ ซึ่งมีผู้ได้รับบาดเจ็บหลายคน
แต่ไม่ว่าจะอะไรเกิดขึ้น พวกเขาก็ถูกลากยาว จนกระทั่งเย่จงหมิงมาถึง
เครื่องร่อนวิเศษปีกเหล็กระดับสีขาวดูโดดเด่นอยู่กลางอากาศ ทำให้เย่จงหมิงถูกค้นพบตั้งแต่แรกที่มาถึงเกาะกลางทะเลสาบ เมื่อต้องเผชิญกับบุคคลที่ใช้เครื่องร่อนบินเข้ามา คนของบ้านตระกูลโหลวจึงไม่สามารถจัดการได้ ดังนั้นเย่จงหมิงจึงลงสู่พื้นโดยไม่ได้รับการขัดขวางใดๆ
“แก…”
ฉัวะ!
นักรบของบ้านตระกูลโหลวถูกดาบส่องจันทร์บั่นคอจนเลือดสาดกระเซ็น เขาถูกสังหารภายในไม่กี่วินาที
แล้วการต่อสู้ก็เริ่มต้นขึ้น
แต่นี่ไม่อาจนับว่าเป็นการต่อสู้ เพราะไม่มีใครสามารถเป็นภัยคุกคามต่อเย่จงหมิงได้เลยแม้แต่น้อย แม้แต่ผู้วิวัฒนาการระดับ 2 ดาวที่อยู่ตรงหน้าของเย่จงหมิง มีเพียงไม่กี่คนที่สามารถยืดหยัดได้ถึงห้าวินาที พวกเขาทำได้อย่างมากที่สุดก็คือ ทุ่มเททักษะความสามารถของพวกเขาออกไป จากนั้นก็ถูกฆ่า
ในช่วงสิบนาทีแรก ผู้คนของบ้านตระกูลโหลวยังรีบออกมาต่อต้าน แต่เมื่อเย่จงหมิงเดินข้ามซากศพและกองเลือดเข้ามา ไม่ว่านักรบของบ้านตระกูลโหลวจะแข็งแกร่งเพียงใดก็ตาม แต่เมื่อต้องเผชิญกับพลังที่ไม่มีใครต่อต้านได้ ความกลัวก็ทำให้พวกเขาพังทลายลง
การต่อสู้จึงเปลี่ยนเป็นการไล่ล่า…สังหาร
เนื่องจากเย่จงหมิงกำลังจะเข้าสู่อาณาจักรลับ เขาจึงเปลี่ยนตัวเองให้กลายเป็นเพชฌฆาต เพื่อสร้างสภาพแวดล้อมภายนอกที่ดีที่สุดให้กับอวิ๋นติ่งวิลล่า ไม่ต้องพูดถึงบ้านตระกูลโหลวที่เข้าโจมตีอวิ๋นติ่งวิลล่าโดยตรง ขโมยผลงานมาจากเว็บ ThaiNovel ก่อนหน้านี้ แม้แต่กองกำลังในอิงเฉิงที่บรรลุข้อตกลงชั่วคราวกับกองทัพเหยาที่ยังไม่ทันได้ทำอะไรเลย เย่จงหมิงก็ยังไม่มีความเมตตาให้
ไม่ยุติธรรม? ถูกต้อง มันไม่ยุติธรรมอย่างยิ่งหากใช้มาตรฐานทางศีลธรรมของยุคแห่งสันติ แต่การล่าสังหารของเย่จงหมิงไม่มีการเลือกปฏิบัติ
แต่ในวันโลกาวินาศ เหตุผลเหล่านี้เพียงพอแล้ว ที่จะทำให้หลั่งเลือด
บางทีถ้าหากมังกรปีศาจยังโกสไม่ปรากฏตัว เย่จงหมิงก็อาจไม่ถูกบังคับให้ใช้กุญแจลับเปิดอาณาจักรลับ และเขาก็คงไม่ตัดสินใจอย่างเด็ดขาดที่จะกำจัดกองกำลังเหล่านั้น ทั้งหมดทั้งมวลอาจเป็นเพราะ … โชคของคนเหล่านั้นเลวร้ายมาก
“เย่จงหมิง แกต้องการอะไร!
ในที่สุด โหลวเจิ้งเซี่ยวก็ปรากฏตัวขึ้นต่อหน้าเย่จงหมิง พร้อมกับใครบางคน เจ้าบ้านตระกูลโหลวมีดวงตาแดงก่ำ ตัวสั่นเล็กน้อย ตอนที่รู้ข่าวเขาก็รีบวิ่งมา และได้เห็นซากศพของลูกหลานตระกูลโหลวในระหว่างทาง คนเหล่านี้เป็นรากฐานของตระกูลที่เขาฝึกฝนมาอย่างดี เมื่อเวลาผ่านไป คนเหล่านี้จะกลายเป็นผู้วิวัฒนาการระดับ 2 ดาว ระดับ 3 ดาว และกลายเป็นนักรบที่มีวิวัฒนาการในระดับที่สูงขึ้นไป แต่ตอนนี้คนเหล่านี้กลายเป็นร่างไร้วิญญาณที่มีอวัยวะไม่ครบสามสิบสอง!
“โอ้ มาแล้วเหรอ” เย่จงหมิงหันหน้ามามองโหลวเจิ้งเซี่ยว แล้วพูดต่อไปว่า “งั้นตายซะ”
ตราประทับดาบภูผาถูกเปิดใช้งาน โหลวเจิ้งเซี่ยวเพียงยกหอกพู่แดงในมือขึ้นเท่านั้น แล้วร่างของเขาก็ถูกบั่นออกเป็นสองซีก
หลังจากสูญเสียลูกชายทั้งสามไป โหลวเจิ้งเซี่ยวได้ใช้ทรัพยากรของตระกูลโหลวไปอย่างบ้าคลั่ง เพื่อให้ได้รับยาวิวัฒนาการระดับ 3 ดาว พอได้กลายเป็นผู้วิวัฒนาการระดับ 3 ดาว เขาก็คิดว่า เขามีสิทธิ์ที่จะล้างแค้นแล้ว แม้กระทั่งตอนที่เข้าโจมตีอวิ๋นติ่งวิลล่า เขาก็ยังมีความคิดที่จะเผชิญหน้ากับเย่จงหมิง
แต่ในชั่วขณะจิตสุดท้าย โหลวเจิ้งเซี่ยวจึงรู้ว่า คู่ต่อสู้ของเขาแข็งแกร่งเพียงใด
การปรากฏตัวและการตายของโหลวเจิ้งเซี่ยว เกิดขึ้นเพียงชั่วขณะเดียวเท่านั้น ในขณะที่ร่างของเขาล้มลงกับพื้น การต่อต้านสุดท้ายของบ้านตระกูลโหลวก็หายไป เหลืออยู่เพียง เสียงร่ำร้องคร่ำครวญ ขอความเมตตา และเสียงสาบแช่งก่อนตาย
แล้วบ้านตระกูลโหลวก็ถูกทำลาย โดยไม่ต้องรอคลื่นสัตว์ร้ายที่ทำให้พวกเขาทั้งหมดเสียชีวิตเหมือนในชีวิตก่อน ในชีวิตนี้พวกเขาถูกกำจัดออกจากโลกนี้ ด้วยน้ำมือของมนุษย์ที่กลับมาเกิดใหม่
อีกด้านหนึ่งของเกาะกลางทะเลสาบ โหลวเสี่ยวหลิงคุกเข่าอยู่บนชายฝั่ง จ้องมองบ้านที่มีเปลวไฟกำลังลุกไหม้ เธอจิกนิ้วลงบนพื้นแข็งๆ จนเล็บหัก กระดูกนิ้วแตก แต่สิ่งเหล่านี้ไม่ได้ทำให้เธอรู้สึกเจ็บปวดเลยแม้แต่น้อย ตอนนี้มีเพียงความคิดเดียวที่อยู่ในหัวของเธอ
แก้แค้น
*****
ผู้แปล - บ้านตระกูลโหลว หมายถึง ตระกูลโหลวบวกกับเครือญาติสกุลอื่นๆ ที่อาศัยอยู่ร่วมกัน