ตอนที่แล้วตอนที่ 88 ไทเลอร์บาดเจ็บหนัก
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 90 เรื่องเล่ารอบกองไฟ

ตอนที่ 89 มุ่งหน้าสู้ทุ่งหญ้ากิรา


ตอนที่ 89 มุ่งหน้าสู้ทุ่งหญ้ากิรา

ราวสี่ทุ่มกว่าเมญ่าก็มาถึงโรงพยาบาลก่อนเวลาที่กายบอกไว้พอสมควร เธอเป็นห่วงไทเลอร์จึงพักผ่อนแค่ไม่กี่ชั่วโมงและรีบมาที่โรงพยาบาล หลังจากเมญ่ามาถึงก็เห็นว่ากายนั่งพักผ่อนอยู่

“เขาเป็นยังไงบ้าง”

“ไม่มีอาการแทรกซ้อนอะไร หมอพึ่งมาตรวจไปเมื่อสักครู่นี้เอง” กายลุกขึ้นนั่งตอบเมญ่า จากนั้นก็หันไปความเสื้อโค้ตมาสวมและหยิบหน้ากากกันฝุ่นก่อนจะหันไปบอกกับเมญ่า “ผมต้องรีบไปก่อนนะ ถ้าไทเลอร์ฟื้นขึ้นมาหรือมีอะไรสามารถโทรมาบอกผมได้เลย”

“อืม” เมญ่าตอบรับ แต่สายตาของเธอเอาแต่เฝ้ามองไปที่ไทเลอร์

เฮ้อ... กายได้แต่ทอนหายใจ ก่อนจะนั่งรถไปที่ร้านเกมเสมือนจริงหมายเลข 8 ตอนนี้ร้านยังมีคนเล่นเกมอยู่จำนวนมากและคึกคักเหมือนเช่นทุกวัน กายเปิดประตูเข้าไปในร้านเดินเบียดตัวไปหยุดอยู่หน้าเคาน์เตอร์และทักทายซาเรียตามปกติ

“สวัสดีครับเจ้ซาเรีย”

“อืม...หมอนั่นเป็นยังไงบ้าง” ซาเรียพยักหน้าตอบและถามเรื่องของไทเลอร์

“เขาพึ่งเข้าผ่าตัดใหญ่และตอนนี้อาการพ้นขีดอันตรายแล้ว แต่ยังไม่ฟื้น เจ้รู้อะไรเกี่ยวกับกลุ่ม...” กายคิดจะถามเรื่องกลุ่มต่อต้าน แต่ในตอนนั้นเขาก็สังเกตเห็นว่าเจ้ซาเรียสั่นศีรษะเบา ๆ ก่อนจะมองไปรอบ ๆ เป็นการบอกว่าที่นี่คนเยอะเกินไป

“เรื่องนี้อันตรายทางที่ดีนายอย่าสนใจหรือสืบเรื่องของพวกเขาดีกว่า” เจ้ซาเรียเงียบไปก่อนจะพูดต่อ “นายควรไปนอนสักพัก ก่อนจะเข้าไปเล่นในโลกราชัน”

กายคิ้วขมวดชนกันไม่รู้ตัว แม้จะรู้ว่าเจ้ซาเรียไม่อยากให้เขาเข้ามายุ่งและหวังดีกับเขา แต่ครั้งนี้ไทเลอร์เกือบตาย มันทำให้กายรู้สึกโกรธมาก

เจ้พูดว่าพวกเขา หรือว่าเจ้จะรู้จักพวกกลุ่มต่อต้าน

กายอ้ำอึ้งอยู่สักพัก เมื่อเห็นสีหน้าที่จริงจังของเจ้ซาเรีย

“ผมจะไม่ยุ่งกับพวกเขา” กายตอบกลับก่อนจะเสริมในใจว่า...แค่ตอนนี้เท่านั้น

หลังจากนั้นกายก็เข้าไปที่ห้องเกมส่วนตัว ก่อนที่จะตั้งนาฬิกาปลุกและงีบหลับไปสักพัก

...

เวลา 00.00 น. ของวันที่ 1 เดือน พฤษภาคม ปีที่ 70 ในโลกความจริง

วันนี้คือวันที่ 24 เดือน 2 ปีดาราที่ 997 วันนี้คือวันสำคัญในการเริ่มทำภารกิจเลือนชั้นปี 2 ของผู้ชนะสิบอันดับแรกในการทดสอบที่ผ่านมา

กายจัดการเก็บข้าวของใช้ที่จำเป็น พร้อมทั้งไปรับม้าทั้งสองตัวที่ฝากเลี้ยงไว้ที่คอกม้าเฟรเดริกมาที่ร้านไร้ขอบเขต ก่อนจะจัดการผูกสัมภาระอันประกอบด้วยกล่องที่ใส่ธนูโลหะหนักหนึ่งกล่อง กล่องที่ใส่ดาบหักสังหารอีกหนึ่งกล่อง ซึ่งทั้งสองผูกไว้ที่ข้างลำตัว

ส่วนกล่องสุดท้ายนั้นเป็นพวกเสื้อผ้า ชุดสำรองพร้อมกับถุงเงินที่เต็มไปด้วยเหรียญทองที่กายขายของได้ในช่วงที่ผ่านมา

ในกล่องไม้นั้นยังมีค้อนที่ได้จากบ้านบนเขาที่ใช้สร้างอาวุธมาตลอดเก็บอยู่ด้วย กายเคยชินกับการมีค้อนชิ้นนี้ไปไหนมาไหนด้วยแล้ว เขาจึงหอบมันไปด้วย เพราะอาจจะได้ใช้งาน

หลังจากตรวจสอบทุกอย่างแล้วกายก็จับสายบังเหียนของ “เจ้าถึก” ซึ่งเป็นชื่อของม้าสายพันธุ์คลายเดสเดลที่กายซื้อมาเดินไปหาม้าอีกตัวที่ทางร้านเรียกมันว่า 16 กายก็จัดการเปลี่ยนชื่อมันเป็น “เจ้าหมอก” เพราะสีเทาของมัน

กายผูกสายบังเหียนไว้กับเจ้าหมอก จากนั้นเขาก็เดินไปทางด้านซ้ายของมัน เท้าเหยียบโกลนม้ากระโดดขึ้นไปบนหลังเจ้าหมอก ก่อนจะตบเท้ากระทุ้งท้องม้าเบา ๆ บอกให้มันเริ่มออกเดินทาง เจ้าถึกด้านหลังรู้หน้าที่รีบเดินตามเจ้าหมอกไป

ท่ามกลางสายหมอกที่ลงในช่วงเช้าทำให้อากาศยามเช้าของนครดาราฟ้านั้นเย็นสบาย มีน้ำค้างจับที่เกราะเกล็ดทมิฬที่กายสวมใส่เล็กน้อย กายยกมือขึ้นสัมผัสกับหมอกเย็น ๆ ก่อนจะตบเข้าแรงความเร็วของเจ้าหมอกตรงไปที่สถาบันศาสตร์นักรบ เพื่อรายงานตัว

เมื่อไปถึงที่สถาบันศาสตร์นักรบกายคิดว่าตนเองอาจจะมาถึงเป็นคนแรก แต่กลับไม่ใช่ เพราะว่าที่นี่มีคนมารออยู่ก่อนแล้ว

ผู้ที่มารออยู่ก่อนแล้วนั้นก็คือ วิลเลียม ลูคัส และโจชัว พวกเขาจับกลุ่มยืนด้วยกัน ด้านข้างยังมีเอเรน เบลลี ชายหนุ่มผู้มีผมสีทอง ผิวขาว สูงโปร่ง หน้าตายิ้มแย้ม ดูสุภาพ ม้ามืดที่ได้อันดับ 4 ชายคนนั้นหันมาพยักหน้าทักทายกาย กายจึงพยักหน้าตอบกลับไปเพื่อไม่ให้เป็นการเสียมารยาท

นอกจาก 4 คนนี้ เขาคือคนที่ 5 ที่มาถึง หลังจากรอสักพักมีอาและลิลี่ก็มาถึงกายทักทายมีอาและลิลี่อย่างเป็นกันเอง และพูดคุยกันตามปกติ จนกระทั่ง อาลีน่าและลูก้ามาถึงเช่นกัน

ตอนนี้เวลาใกล้จะหกโมงเช้าแล้วในที่สุดคนสุดท้ายในสิบอันดับแรกของการทดสอบก็มาถึง

โบเวน วาธ นั้นเป็นชายผมดำ คิ้วคมหน้าเข้ม หล่อเหลาไม่แพ้เอเรน เบลลี เป็นคนจริงจังและเงียบขรึม เดินจูงม้าที่แบกสัมภาระเข้ามายังจุดที่พวกเขายืนอย่างไม่พูดไม่จามากนัก

ซึ่งเป็นเวลาเดียวกับที่อาจารย์คาเตอร์เดินออกมาหาพวกเขาพอดี

“พวกเจ้ามาพร้อมแล้วสินะ ภารกิจของพวกเจ้าในการเลือนชั้นปี 2 คือ การตามล่าโจรที่ทุ่งหญ้ากิรา โดยกำหนดค่าหัวของโจรคือค่าหัว 1,000 เหรียญทองจำนวน 3 คน และ โจรค่าหัวจำนวน 3,000 เหรียญทองอีกหนึ่งคน ส่วนเวลาในภารกิจนั้นคือไม่เกินสองเดือน พวกเจ้าเข้าใจหรือไม่” อาจารย์คาเตอร์หยุดถามพวกเขา

ทุกคนพยักหน้าอย่างไม่มีปัญหาอะไร ก่อนที่อาจารย์คาเตอร์จะกล่าวต่อ “ก่อนไปพวกเจ้าจะได้รับเอกสารยืนยันตัวตนในฐานะนักล่าค่าหัวและสุดท้ายนี้ ข้าหวังว่าหลังจากจบภารกิจพวกเจ้าจะกลับมาที่นครดาราฟ้าอย่างปลอดภัยทุกคน”

มันไม่มีพิธีอะไรมาก พวกเขาต่างหยิบเอกสารยืนยันตัวตนของนักล่าค่าหัวมาเก็บเข้าไว้ด้วยกันกับหนังสือยืนยันตัวตนในหน้าหลังสุด

กายทำตามคนอื่น ๆ ก่อนจะสอดมันเข้าไปเก็บไว้ในช่องลับในเกราะเกล็ดทมิฬ คนอื่น ๆ แยกตัวไปขึ้นม้าของตนเองและออกเดินทางในทันที เพราะใครก็ตามที่ไปถึงก่อน ก็จะได้เริ่มล่าค่าหัวพวกโจรก่อน

ในตอนนั้นเองมีอาก็บังคับม้าเดินเข้ามาใกล้ ๆ กาย

“เราไปด้วยกันเลยไหม”

“แน่นอนอยู่แล้ว” กายยิ้มตอบกลับเธอ

ขณะเดียวกันอาลีน่าและลูก้าก็เดินมาหาพวกเขาทั้งสามคนเช่นกัน

“พวกเราไปด้วยได้หรือไม่ การเดินทางไปที่ทุ่งหญ้ากิรานั้นอันตรายแต่ถ้าไปด้วยกันมันจะปลอดภัยมากขึ้น” ลูก้าพูดออกมา ขณะที่อาลีน่ายืนอยู่ไม่พูดอะไรอยู่ด้านข้าง

“แน่นอนแล้วเจ้าจะมาหรือไม่” กายหันไปถามอาลีน่า

“เจ้าอย่าพาพวกเราไปตายก็พอ” อาลีน่าตอบกลับกายอย่างกวน ๆ

“แน่นอน ถ้างั้นเราก็ออกเดินทางกันเถอะ”

การออกเดินทางไปทุ่งหญ้ากิราในครั้งนี้กลุ่มของกายมีกันอยู่ 5 คนคือ มีอา ลิลี่ อาลีน่า ลูก้า และตัวเขาด้วย แต่ละคนมีม้าอยู่สองตัวเหมือนกับกาย ทำให้กลุ่มดูใหญ่พอสมควร

พอออกจากนครดาราฟ้า พวกเขาก็มุ่งหน้าไปทางตะวันออกเฉียงใต้เพื่อไปที่ทุ่งหญ้ากิรา ด้วยเส้นทางที่ทั้งไกลและเส้นทางที่อันตรายทำให้พวกเขาคาดการว่าต้องเดินทางถึง 3 วัน

สามวันในการเดินทางไปที่ทุ่งหญ้ากิรานั้นถือว่าไวมากแล้วถ้าพวกเขาใช้รถม้าในการเดินทางมันคงต้องใช้เวลามากกว่า 7 วัน

กายสังเกตไปรอบ ๆ ทุ่งหญ้ากิราท้องฟ้าเริ่มเปลี่ยนเป็นสีแดงส้มสภาพอากาศยังคงร้อนแห้งอย่างต่อเนื่องทำเอาพวกเขาหอบหายใจด้วยความเหนื่อยอ่อน แต่พอผ่านไปสักพักอากาศก็เริ่มเย็นตัวลงอย่างช้า ๆ นั้นทำให้ทั้งหมดใช้โอกาสนี้ในเร่งเดินทางอีกครั้ง

จนกระทั่งเวลา 5 โมงเย็นกายก็แนะนำให้ทุกคนหาที่พักกันได้แล้ว

“เราควรไปพักที่นั่น ตรงนั้นมีบ่อน้ำบาดาลเก่าอยู่” กายชี้ไปยังต้นไม้ใหญ่ ด้านหน้าเป็นเพียงหญ้าแห้ง ๆ ซึ่งไม่มีวี่แววว่าจะมีหนอกน้ำแม้แต่น้อย

“เจ้าแน่ใจนะว่ามีบ่อน้ำบาดาลตรงนั้น” อาลีน่าถามอย่างไม่ค่อยเชื่อ เพราะเธอไม่เคยได้ยินมาก่อน

“แน่นอน”

กายไม่รอช้าบังคับม้าเดินเข้าไปทางนั้นทันที จุดต้นไม้ใหญ่ที่กายมานั้นมีร่องรอยของกองไฟอยู่หลายจุด พวกมันดูเหมือนจะเป็นจุดพักผ่อนที่นิยมของคนที่เดินทางแถบนี้

ชายหนุ่มผูกม้าไว้กับต้นไม้ กระโดดลงจากหลังม้าด้วยความเคยชินดังตุบ! พื้นที่เท้าจมเป็นรอยเท้าของกาย เพราะน้ำหนักของค้อนสั่นสะเทือนที่แบกไว้บนหลัง ก่อนจะถือถุงน้ำและเดินไปทางพุ่มไม้ด้านหลังของต้นไม้

อยู่ตรงไหนนะ ตามที่อ่านมาจากข้อมูลที่เจ้ซาเรียหามาจากผู้เล่นมันน่าจะอยู่แถว ๆ นี้...กายเดินเข้าไปเจ็ดแปดเมตรก็เจอกับกองกิ่งไม้แห้งที่สุ่มรวมกันอยู่ เขารองใช้เท้าเขี่ย ๆ มันออก เมื่อเห็นว่าไม่เป็นอันตรายก็นั่งลงใช้มือปัดใบไม้ออก

“ข้าเจอบ่อน้ำบาดาลแล้ว” กายตะโกนบอกคนอื่น ๆ ลุก้ารีบจั้มเท้าเข้ามาหากาย

“หืม มีบ่อน้ำบาดาลจริง ๆ ด้วย”

“เจ้าเคยมาที่นี่ก่อนอย่างนั้นเหรอ” มีอาเดินเข้ามาเช่นกัน ก่อนที่คนอื่น ๆ จะทยอยมาดูบ่อน้ำบาดาลเก่า

“ข้าเคยอ่านเจอ” กายเสริมในใจว่า...ในข้อมูลของผู้เล่นที่เดินทางเส้นนี้บ่อย ๆ ละนะ

“บ่อนี้เก่ามา มีไม้ปิดไว้อยู่ แต่ดูเหมือนไม้นี่จะมีคนพึ่งเอามาปิดมัน คงเป็นจุดพักในเส้นทางนี้” อาลีน่าเดินไปรอบ ๆ บ่อน้ำก่อนจะทำท่ายกแผ่นไม้ออก

ลิลี่รีบเข้าไปช่วยอาลีน่าทันที แผ่นไม้ไม่ได้หนักมากนัก แค่พวกเธอสองคนก็สามารถยกมันออกได้อย่างไม่อยากเย็น

หลังบ่อน้ำบาดาลถูกเปิดออก ก็เผยให้เห็นบ่อที่ลึกลงไป 20 กว่าเมตร ด้านล่างสุดมีน้ำสะอาดอยู่ล่างสุดมันมืดน้อยแต่ก็พอมองเห็นน้ำได้อย่างชัดเจน

“ไม่เห็นมีอะไรใช้ตักน้ำเลย หรือจะให้พวกเรากระโดดลงไปเอาน้ำขึ้นมา” ลิลี่พูดออกมาอย่างเซ็งๆ ในตอนนั้นเองกายก็เดินไปที่ต้นไม้ใหญ่ก่อนจะกลับมาพร้อมกับถังน้ำที่ปลายอีกด้านผูกเชือกปานเส้นยาวไว้ด้วย

“ไม่ต้องลงไปหรอกเราใช้นี่ในการตักน้ำได้” กายยิ้มบอกลิลี่

“มาข้าทำเอง” ลิลี่เห็นดังนั้นก็รีบไปคว้าถังน้ำมาและหย่อนมันลงไปตักน้ำขึ้นมา เธอยกถังน้ำขึ้นมาอย่างง่ายดายราวกับมันไม่มีน้ำหนักอะไร กายเห็นว่างานที่ใช้แรงก็มีคนอาสาทำไปแล้ว เขาจึงกลับออกไปก่อกองไฟด้วยความรวดเร็วให้สมกับช่างโลหะทั่วไป

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด