ตอนที่ 12 "รักเธอ"
ตอนที่ 12 "รักเธอ"
กงหมิงเฟย ถอดโทรศัพท์มือถือของเขาออกมาจากตัวล็อคสำหรับการถ่ายทอดสด ในโทรศัพท์มือถือของเขามีแอพพลิเคชั่นซึ่งมีเครื่องดนตรีเกือบทุกชนิดทั่วโลก หลังจากนั้นนิ้วมือของเขาก็ขยับบนแอพพลิเคชั่นนั้นอย่างรวดเร็ว!
ภาพการถ่ายทอดสดค้างไปชั่วขณะหนึ่ง เนื่องจากกงหมิงเฟยมีโทรศัพท์มือถือเพียงเครื่องเดียวและสเปคของมันก็ไม่ค่อยจะดีมากนัก เมื่อต้องเปิดการถ่ายทอดสดและทำงานบนแอพพลิเคชั่น การประกอบดนตรีไปพร้อมๆกัน มันจึงส่งผลต่อระบบการประมวลผลของโทรศัพท์มือถือในทันที
ผู้ชมในห้องถ่ายทอดสดเห็นเพียงแค่ฉากของกงหมิงเฟยแข็งค้างขณะที่กำลังแต่งเพลงอยู่เพียงเท่านั้น พวกเขาจึงค่อนข้างรู้สึกหงุดหงิดกับสเปคโทรศัพท์มือถือของกงหมิงเฟยกันเล็กน้อย
[เหลากงนี่ขี้งกจริงๆ! ครึ่งเดือนมานี้เขาหาเงินได้ค่อนข้างมาก ทำไมเขาไม่ซื้อโทรศัพท์มือถือที่ดีๆกว่านี้มาใช้ซะทีนะ]
[ใช่! สมควรจะซื้อสมาร์ทโฟนตัวท็อปเอาไว้สัก 2 เครื่อง เพื่อที่พวกเราจะได้เห็นกระบวนการการแต่งเพลงของเขาได้ด้วย]
[ฉันตื่นเต้นจริงๆ~~ ไม่รู้ว่าสามีจะแต่งเพลงแบบไหนออกมา]
[LS นายบอกว่าประมาณ 10 นาทีใช่หรือไม่? ฉันขอไปที่ร้านสะดวกซื้อเพื่อซื้อขนมก่อนนะ]
[เพื่อนชั้นบน! ฉันฝากซื้อเบียร์ น้ำแร่ ถั่วลิสง เมล็ดแตงโมและนักเก็ตด้วยสิ!]
[เฮ้ๆๆ! พวกที่นั่งแถวหน้าน่ะ หัดเกรงใจกันบ้างซิ! ที่นี่มันในโรงภาพยนตร์นะ พวกนายจะส่งเสียงดังกันได้ยังไง]
ระหว่างที่หน้าจอการถ่ายทอดสดแข็งค้างอยู่นั้น กลุ่มแฟนคลับก็ส่งข้อความพูดคุยและหยอกล้อกันเล่นเพื่อแก้เบื่อ
สิบนาทีต่อมา กงหมิงเฟยเสร็จสิ้นการสร้างดนตรีประกอบเนื้อเพลง หลังจากนั้นเขาก็ปิดแอพพลิเคชั่น และในที่สุดหน้าจอการถ่ายทอดสดก็กลับมาเป็นปกติ
กงหมิงเฟยไอเล็กน้อยและถามว่า "พี่ชาย คุณยังฟังอยู่ไหม?"
หลังจากที่เขาถามสองครั้งติดต่อกัน อีกฝ่ายก็ส่งเสียงตอบรับออกมาเบาๆ และจากนั้นก็มีเสียงแทรกคล้ายกับเสียงน้ำไหลและยังมีเสียงคล้ายกับเสียงของลมที่พัดแรงๆอยู่อีกด้วย?
กงหมิงเฟย หยิบกีตาร์ขึ้นมาและเปิดดนตรีประกอบเพลงที่เขาทำเสร็จและบันทึกเอาไว้ในโทรศัพท์ หลังจากนั้นไม่นานเสียงของดนตรีก็ค่อยๆดังขึ้นมา
กงหมิงเฟย หาที่ว่างบนรถเข็นแล้วนั่งห้อยขาและเริ่มเล่นกีต้าร์ตามเสียงดนตรีประกอบของเนื้อเพลง ดวงตาของเขายังคงชื้นและเป็นสีแดงอยู่เล็กน้อยขณะที่ดีดกีตาร์
~~จับมือก้าวเดินไปด้วยกันด้วยรอยยิ้ม~~
~~ไม่มีครั้งไหนที่รู้สึกเหนื่อยและท้อใจ ขอแค่มีเธอคอยส่งรอยยิ้มอยู่ข้างๆ~~
~~ดวงตาที่สดใสและรอยยิ้มที่ไร้เดียงสาของเธอในครั้งเยาว์วัย ยังคงฝังลึกอยู่ในความทรงจำ~~
~~แม้กาลเวลาจะผ่านมาเนิ่นนาน จนสามารถเปลี่ยนแปลงใจของผู้คนไป~~
~~แต่เด็กสาวตัวเล็กๆ ที่ใจดีบริสุทธิ์และไร้เดียงสา ยังคงส่งยิ้มหวานอยู่ในใจของฉันไม่เคยเปลี่ยน~~
~~ยั่งยืนไม่เปลี่ยนผันไป ภาพของเธอและฉันในครั้งเยาว์วัยที่สดใส วิ่งไปบนทุ่งหญ้าจับมือแล้วหัวเราะไปด้วยกัน~~
เสียงร้องเพลงของกงหมิงเฟย นุ่มนวลแผ่วเบาราวกับว่าเขากำลังกระซิบพูดคุยกับคนรักของเขา มุมปากของเขาเผยรอยยิ้มออกมาบางๆ
~~ท่ามกลางแสงไฟที่สวยงามดั่งสรวงสวรรค์ของเมืองใหญ่ แต่จิตใจของผู้คนไม่ได้สวยงามดั่งเช่นนั้น~~
~~มันกัดกินลากลึกลงสู่ห้วงกระแสสังคม ที่ยากจะฉุดดึงรั้งไว้~~
~~รักที่บริสุทธิ์อยู่ที่ใด เด็กหนุ่มสาวที่คอยยิ้มให้กำลังใจแก่กัน ต้องผันแปรเปลี่ยนตามกระแสแห่งวัตถุนิยม~~
~~รอยยิ้มที่แสนสดใสบนทุ่งหญ้า เลือนลางจางหายไป กลายเป็นรอยยิ้มที่เสแสร้งของหญิงสาวแห่งเมืองหลวง~~
กลุ่มแฟนคลับที่กำลังชมการถ่ายทอดสดอยู่ ต่างตั้งใจฟังและจ้องมองไปที่หน้าจอโดยแทบจะไม่กระพริบตา
พวกเขาไม่รู้ว่ามันเป็นภาพลวงตาหรือไม่? แต่ชั่วครู่หนึ่งพวกเขาเหมือนกับว่าได้เห็นภาพของวัยรุ่นหนุ่มสาวคู่หนึ่ง จูงมือกันวิ่งออกไปบนทุ่งหญ้าที่กว้างใหญ่ ทั้งคู่ต่างหัวเราะและหันมายิ้มให้แก่กัน มันเป็นความรักที่บริสุทธิ์ของวัยรุ่นหนุ่มสาวอย่างแท้จริง!
ในขณะเดียวกันภาพจอที่มืดทางด้านขวาก็มีเสียงสะอื้นเล็ดลอดออกมาเบาๆ
~~เด็กสาวที่ใจดียังคงอยู่ เธอยังส่งยิ้มอยู่ในใจของฉันตลอดไป~~
~~แม้ในวันที่ต้องจากลา สิ่งที่ฉันเสียใจคือทำให้เธอได้ไม่ดีพอ~~
~~แม้รอยยิ้มในยามที่ส่งเธอ จะเปรอะเปื้อนไปด้วยคราบน้ำตา~~
~~หากมีโอกาสอีกครั้งฉันจะทำให้ดีกว่านี้ และเมื่อส่งเธอไปฉันจะไม่ร้องไห้~~
~~จะส่งรอยยิ้มแห่งความปรารถนาดี เพื่อให้เธอสุขสมหวังในทุกสิ่ง~~
~~แค่เพียงอยากให้เธอรู้ว่า ฉันนั้นสบายดี~~
~~ยังคงมีเด็กสาวที่ใสซื่อคนนั้นส่งยิ้มอยู่ในใจของฉันอยู่เสมอ~~
เสียงร้องเพลงและการเล่นกีตาร์ของกงหมิงเฟยยังคงถ่ายทอดอารมณ์จากเนื้อเพลงได้อย่างต่อเนื่อง
จังหวะการดีดกีต้าร์ของเขาหยุดลงเล็กน้อย ในขณะเดียวกันซาวด์ดนตรีที่เขาสร้างขึ้นก็สอดแทรกออกมาได้อย่างลงตัว
ผู้ชมในห้องถ่ายทอดสดบางคนหลับตาลงพร้อมกับฟังเสียงเพลง ภาพในจินตนาการของพวกเขาฉายออกมาเป็นเรื่องราวคล้ายกับที่ชายคนนั้นได้เล่าออกมาตั้งแต่เริ่มต้น
~~เนิ่นนาน ยังคงไม่เปลี่ยน ยังคงรักเธออยู่เสมอ~~
~~แม้ความฝันที่ก้าวเดินร่วมกันจะพังทลายลงไป แต่คำว่ารักยังคงอยู่มิรู้ลืม~~
~~ไม่ว่าเมื่อไหร่ตรงนี้จะมีที่พักใจให้เธออยู่เสมอ~~
~~ต่อให้กาลเวลาจะเปลี่ยนแปลงไป แต่ไม่อาจพลากความทรงจำที่สวยงามเหล่านั้นของฉันไปได้~~
~~อยากหยุดเวลาและหลับตาลงอยู่ในช่วงเวลานั้น~~
~~ไม่อยากจะตื่นขึ้นมาพบความเป็นจริง และได้รับรู้ว่าหัวใจของฉันได้จากไปแล้ว~~
เนื้อเพลงที่ผสมผสานกับเสียงดนตรีและเสียงกีต้าร์ของกงหมิงหมิงเฟย คล้ายกับเป็นเข็มแหลมคมนับพันนับหมื่นเล่มที่กำลังพุ่งทะลุทะลวงหัวใจของผู้ที่ได้รับฟังแต่ละคนอย่างต่อเนื่อง!
ความรักในวัยรุ่นหนุ่มสาวที่สวยงามและบริสุทธิ์เหล่านั้น! คงจะเกือบทุกคนที่ได้เคยก้าวผ่านประสบการณ์เดียวกันมา! ต่อให้ไม่เคยมีคู่รัก! แต่วัยรุ่นหนุ่มสาวทุกๆคนก็ต้องเคยแอบรักและเคยได้หลงรัก!
และเนื้อเพลงในท่อนประโยคที่ว่า 'อยากหยุดเวลาและหลับตาลงอยู่ในช่วงเวลานั้น' หลายคนเคยคิดเหมือนกันว่าหากพวกเขาสามารถหยุดเวลาอยู่กับคนรักของเขาในช่วงเวลานั้นได้มันจะวิเศษมากเพียงใด?
แม้ว่าเพลงนี้จะไม่ตรงกับประสบการณ์ของใครอีกหลายคน แต่เนื้อเพลงและเสียงดนตรีก็ยังมีพลังมากพอที่ทำให้คนฟังรู้สึกถึงความรักอันเต็มเปี่ยมจากบทเพลง เพลงนี้ได้
~~ฉันรักเธออยู่เสมอ แม้จะบาดเจ็บและบอบช้ำ~~
~~จับมือกันก้าวเดินไปจนแก่เฒ่า คงเป็นได้เพียงแค่จินตนาการและความฝัน~~
~~ถึงแม้ว่าในความเป็นจริงที่ตรงนี้จะไม่มีเธออีกต่อไปแล้ว~~
~~คนรักของฉันจะยังคงอยู่ในใจของฉันตลอดไป~~
~~รักเธอ อธิบายได้เพียงเท่านี้~~
~~รักเธอ แม้ไม่ได้ยิ่งใหญ่และมากมายเหมือนใครๆ~~
~~รักเธอ เพราะเธอคือที่สุดแล้วของลมหายใจและห้วงหัวใจดวงนี้~~
เสียงคอรัสและท่อนฮุกของเนื้อเพลงยังคงดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ด้วยเสียงที่แหบเล็กน้อยและเต็มไปด้วยเสน่ห์ของ กงหมิงเฟย ที่ได้รับทักษะความสามารถมาจากระบบ เขาสามารถดึงดูดผู้ฟังให้เข้าถึงอารมณ์เพลงได้เป็นอย่างดี ขณะเดียวกันผู้ชมที่อยู่หน้าจอการถ่ายทอดสดก็เหมือนกับถูกตอกตรึงให้อยู่กับที่จนแทบจะไม่สามารถขยับเขยื้อนได้
และยังมีอีกหลายคนที่กำลังแอบ
ปาดน้ำตา บางคนก็แอบดูการถ่ายทอดสดจากที่ทำงาน พวกเขาเผลอร้องไห้ออกมาเสียงดังจนดึงดูดความสนใจจากเพื่อนร่วมงาน
~~ต่อให้เสียใจเพราะรักแล้วอย่างไร แค่รู้ว่าได้รักใครอย่างสุดใจก็เพียงพอแล้ว~~
~~ความรักในวัยที่ผ่านพ้นมา ไม่มีใครสามารถมาทำลายความทรงจำเหล่านั้นได้~~
~~รอยยิ้มแห่งความสุข แม้จะมีน้ำตาในฉากลาตอนบทสุดท้าย~~
~~ฉันก็ยังคงเต็มใจจะทำมันอีกครั้ง~~
~~เมื่อถึงเวลา ทุกอย่างก็ต้องมีจุดจบและการจากลา~~
~~รักเธอเสมอใจ แม้ว่าเธอจากลาฉันไปไกล~~
~~หมดทั้งห้องของหัวใจ ฉันจะยังคงรักเธอเสมอตลอดไป~~
ไม่เพียงแต่ผู้ฟังเท่านั้นแม้แต่ตัวกงหมิงเฟยผู้ที่เป็นคนร้องเพลงด้วยตัวเอง ก็ยังก้มศีรษะลงและพูดไม่ออกเป็นเวลานาน อารมณ์ของเขาในตอนนี้ค่อนข้างจะผันผวนเป็นอย่างมาก
ด้วยแต่เดิมลักษณะนิสัยของกงหมิงเฟยเป็นคนอารมณ์ที่อ่อนไหวมากอยู่แล้ว เมื่อใดก็ตามที่เขาร้องเพลง ระบบความสามารถของทักษะนักร้องมืออาชีพเบื้องต้นจะดึงเขาเข้าสู่อารมณ์ของบทเพลงโดยอัตโนมัติ
ฉะนั้นมันจึงไม่แปลกอะไรที่เขาจะอินและสามารถเข้าสู่อารมณ์ของเนื้อเพลงได้ทุกบทเพลงในขณะที่เขาขับร้องและถ่ายทอดอารมณ์ของบทเพลงออกมา
ในขณะเดียวกันเสียงสะอื้นก็ดังมาจากหน้าจอทางด้านขวาที่เป็นสีดำ กลุ่มผู้ที่ชมในห้องถ่ายทอดสดรวมทั้งกงหมิงเฟยก็ได้ยินเสียงร้องไห้สะอึกสะอื้นของผู้ชายคนนั้นอย่างชัดเจน
หลังจากนั้นไม่นานภาพมืดทางด้านขวามือก็ค่อยๆสว่างขึ้น!
บนภาพบนหน้าจอในตอนนี้นั้นเป็นภาพท้องฟ้าและผืนน้ำ ที่หน้าจอเป็นสีดำในก่อนหน้านี้คงจะเป็นเพราะว่าผู้ชายคนนี้คงใส่โทรศัพท์มือถือของเขาเอาไว้ในกระเป๋าเสื้อด้านบน
เมื่อเขาหยิบโทรศัพท์มือถือออกมาทุกคนจึงสามารถมองเห็นสถานที่ที่เขายืนอยู่ได้ชัดถนัดตา?
ในตอนนี้เขากำลังยืนอยู่บนรั้วของขอบสะพาน! ข้างใต้ของเขาเป็นแม่น้ำสายใหญ่ที่ไหลแรงและปั่นป่วน! ไม่น่าแปลกใจเลยที่นี่ก่อนหน้านี้ทุกคนต่างได้ยินเสียงของกระแสลมและเสียงของสายน้ำไหล!
ข้อความในห้องถ่ายทอดสดเดือดพล่านและร้อนระอุขึ้นมาในทันที!
[เฮ้ยๆ! ที่นี่คือสะพานซุยฟงไม่ใช่หรอกเหรอ? มันอยู่ใกล้ๆกับบ้านของฉันเลยนี่นา?]
[พี่ชาย! ใจเย็นๆก่อน! มาพูดคุยกับพวกเราก่อนพี่ชาย!]
เมื่อเห็นภาพที่ปรากฏขึ้นผ่านทางหน้าจอ กงหมิงเฟยก็ฟื้นตัวจากอารมณ์ของบทเพลงในทันที
และในขณะเดียวกันห้องถ่ายทอดสดของกงหมิงเฟยก็ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างล้นหลาม เนื่องจากกลุ่มแฟนๆในห้องถ่ายทอดสดได้โพสต์ข้อความลงทางเว่ยป๋อของพวกเขา กลุ่มเพื่อนๆและคนรู้จักต่างๆของคนเหล่านั้น จึงรีบเข้ามายังช่องการถ่ายทอดสดของกงหมิงเฟยเพื่อรอดูชายหนุ่มที่กำลังจะฆ่าตัวตายด้วยการกระโดดน้ำจากสะพาน!
(จริงๆแล้วมันอ่านว่า เว่ยปั๋ว แต่ผมจะใช้ เว่ยป๋อ ตามนิยายไทยส่วนใหญ่)
แต่กลุ่มคนที่หวาดกลัวมากที่สุดก็คือกลุ่มผู้บริหารของบริษัทปลามังกร! หากเกิดเหตุการณ์ฆ่าตัวตายผ่านการถ่ายทอดสดเช่นนี้ บริษัทของพวกเขาจะต้องถูกกระแสสังคมรุมประณามอย่างย่อยยับ!
และหากว่าพวกเขาตัดการถ่ายทอดสดนี้ทิ้งไป ชายหนุ่มผู้นั้นเกิดไม่พอใจขึ้นมา แล้วตัดสินใจกระโดดลงจากสะพานเพื่อทำการฆ่าตัวตายในทันทีที่ถูกตัดสัญญาณการถ่ายทอดสด บริษัทของพวกเขาก็จะต้องถูกกลุ่มลูกค้านับแสนคนบอยคอร์ดและถูกดำเนินคดีทางกฎหมายด้วยอย่างแน่นอน!
หลังจากนั้นไม่นานก็มีเจ้าหน้าที่ของบริษัทได้ทำการติดต่อกงหมิงเฟยโดยตรง พวกเขาต้องการให้กงหมิงเฟยเกลี้ยกล่อมชายผู้นั้นก่อนที่เจ้าหน้าที่ตำรวจจะเดินทางไปถึงเพราะว่าพวกเขาได้โทรแจ้งกับเจ้าหน้าที่ตำรวจและหน่วยกู้ภัยไปแล้ว!
อันที่จริงผู้ชมในห้องถ่ายทอดสดจำนวนมากก็ได้โทรแจ้งตำรวจและเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยไปแล้วเช่นเดียวกัน!
ชายในภาพสูงประมาณ 1.7 เมตร หน้าตาของเขาดูค่อนข้างที่จะธรรมดา แต่ด้วยการแต่งกายที่สะอาดสะอ้านและดูสุภาพ รวมถึงแว่นตาที่เขาสวมใส่ จึงทำให้เขาดูเหมือนกับนักวิชาการที่มีความรู้ระดับสูง
ในเวลานี้เขากำลังยืนอยู่บนขอบราวกั้นเหล็กของสะพาน มือข้างหนึ่งเขาจับโครงเหล็กเอาไว้ ในขณะที่มืออีกข้างหนึ่งถือโทรศัพท์มือถือ
เขาไม่ได้พูดอะไรออกมาแต่เสียงร้องไห้สะอึกสะอื้นและน้ำตาที่ไหลอาบแก้มของเขาในขณะนี้ บ่งบอกถึงอารมณ์ความเศร้าโศกและเสียใจของเขาได้เป็นอย่างดี!
เมื่อเขามองเห็นข้อความที่บรรดาผู้ชมในห้องถ่ายทอดสดส่งมาชักชวนพูดคุยกับเขาเพื่อไม่ให้เขาฆ่าตัวตาย เขาก็ยิ้มออกมาเล็กน้อยก่อนที่จะพูดกับ กงหมิงเฟย ด้วยน้ำเสียงที่จริงจัง: "ผู้ประกาศหมิงเฟย ผมต้องขอขอบคุณคุณมาก ที่ให้ผมได้ฟังบทเพลงที่ยอดเยี่ยมและแสนจะไพเราะในช่วงสุดท้ายของชีวิต!"
"ขี้ขลาดที่สุดดด! นายมันก็แค่ไอ้คนขี้ขลาดดด!"
ในขณะนั้นเอง ไม่มีใครคาดคิดว่ากงหมิงเฟย ที่ปกติเป็นคนเรียบร้อยและสุภาพ จะตะโกนออกมาเสียงดังอย่างเกรี้ยวกราดเช่นนี้!
ผู้ที่กำลังชมถ่ายทอดสด ถึงกับสะดุ้งตกใจจนอ้าปากค้าง!
บ้าแล้ว! หมิงเฟยพูดบ้าอะไรออกไป? นายไปพูดกระตุ้นเขาเช่นนี้ถ้าเกิดเขากระโดดลงไปจะทำยังไง? หรือว่านายกลัวเขาจะไม่กระโดดอย่างนั้นเหรอ?
ผู้ชมในห้องถ่ายทอดสดหยุดส่งข้อความและเงียบเสียงกันเป็นเวลานาน แม้แต่ชายหนุ่มคนที่กำลังจะกระโดดลงไปในน้ำก็รู้สึกอึ้งและตกตะลึง! เขาทำตาปริบๆคล้ายกับว่าเขาได้ยินผิดหรือได้ยินไม่ชัด? เขาจึงพยายามเบิกตาให้กว้างจ้องมองไปยังหน้าจอการถ่ายทอดสดอีกครั้ง เพื่อให้แน่ใจว่าเขาได้ยินผิดไปหรือไม่?
กงหมิงเฟยตะคอกเสียงออกมาด้วยความโมโหอีกครั้ง: "นายมันก็แค่ไอ้คนขี้ขลาด! แค่ผู้หญิงเพียงคนเดียวถึงกับจะต้องจบชีวิตตัวเองลงเช่นนี้อย่างนั้นเหรอ? แล้วพ่อแม่ที่อุตส่าห์ส่งเสียเลี้ยงดูนายมาจนเติบโตถึงขนาดนี้ล่ะ? นายไม่คิดว่าหัวใจของพวกเขาจะเจ็บปวดและแหลกสลายหรือยังไงกัน? เมื่อพ่อแม่หรือคนที่รักนายได้เห็นว่าลูกชายของตัวเองฆ่าตัวตายเพียงเพราะผู้หญิงคนหนึ่งที่ไม่ได้รักนายเช่นนี้!"
คำพูดของกงหมิงเฟยฟังดูแล้วค่อนข้างขัดหูและฟังดูไม่เหมาะสมเป็นอย่างยิ่ง กลุ่มคนที่เพิ่งเข้ามาในห้องถ่ายทอดสดหลายคนจึงเริ่มส่งข้อความที่ดุด่าและสาปแช่งเขาในทันที!
[ไอ้ผู้ประกาศสุดชั่ว! แกมันไอ้คนใจดำอำมหิต ฉันไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าจะมีผู้ประกาศจากช่องถ่ายทอดสดที่นิสัยเลวๆอย่างนี้อยู่ด้วย!]
[ใช่! ก่อนหน้านี้ฉันก็เพิ่งเข้ามาและได้ฟังเพลงของผู้ชายคนนี้ที่ร้องออกมาอย่างจริงใจ แต่ฉันไม่เคยคิดเลยว่าเขาจะนิสัยเลวทรามเช่นนี้ ไอ้สวะเอ้ย]
[เฮ้ย! ไอ้ผู้ประกาศโรคจิต แกอยากเห็นคนฆ่าตัวตายเพื่อที่ช่องการถ่ายทอดสดของแกจะได้มีคนเข้ามาดูเยอะๆใช่ไหมวะ]
กงหมิงเฟยไม่ได้โต้ตอบข้อความที่ดุด่าและสาปแช่งเขาแต่อย่างใด เขายังคงจ้องมองไปยังผู้ชายคนที่กำลังจะกระโดดน้ำฆ่าตัวตายคนนั้นด้วยสีหน้าที่เคร่งขรึมและจริงจัง!
……..
จบบท