176 - ทุกที่ล้วนมีปัญหา
176 - ทุกที่ล้วนมีปัญหา
“หนึ่งร้อยแปดยอดหลักเป็นตัวแทนของมรดกอันทรงพลังหนึ่งร้อยแปดแห่งที่บรรจุอยู่ภายในนิกายไท่ซวน ที่ปลายสุดของยอดเขาหลักแต่ละยอดมีความเก่าแก่อย่างยิ่งเป็นดินแดนศักดิ์สิทธิ์ของมรดก
อย่างไรก็ตามทุกวันนี้มีแผ่นดินถูกแผดเผา กลิ่นเหม็นของเนื้อหยาบในอากาศ นี่เป็นยอดเขารกร้างที่ไม่เหมือนใครจริงๆ” เสียงของใครบางคนเยาะเย้ยออกมา
เด็กหนุ่มสวมชุดสีน้ำเงินที่มีใบหน้าเย่อหยิ่งขี่อยู่บนสายรุ้งลึกลับบินลงมาที่ภูเขา ใบหน้าของเขาถูกยกขึ้นพร้อมกับกวาดสายตามายังเย่ฟ่าน
"เกิดอะไรขึ้น? เจ้าหิวเหรอ?" เย่ฟ่านพูดเบาๆด้วยท่าทางเยาะเย้ยบนใบหน้าของเขา
เด็กหนุ่มที่แต่งกายด้วยสีน้ำเงินไม่คิดว่าเย่ฟ่านที่เพิ่งเข้าร่วมนิกายจะพูดกับเขาเช่นนี้ มันทำให้ใบหน้าของเขามืดมนอย่างยิ่ง
“ยอดเขาหลักของนิกายไท่ซวนจะยินยอมให้คนอย่างเจ้าทำให้แบบเพื่อนได้อย่างไร?”
"เจ้าคือใคร? เจ้าคลานออกมาจากหลุมไหน? ไสหัวไปให้พ้นหน้าข้า" เย่ฟ่านไม่แยแสและไม่สนใจที่จะมองฝ่ายตรงข้ามและย่างกระต่ายของตัวเองต่อไป
“ไม่เข้าใจที่ข้าพูดเหรอ?”
เด็กหนุ่มในชุดสีน้ำเงินยังคงเดินหน้าต่อไป
“เจ้าจุดไฟบนยอดเขาหลักได้อย่างไร? ปล่อยให้กลิ่นเนื้อหยาบทำให้ยอดเขาแปดเปื้อน……”
เย่ฟ่านทำตัวสบายๆมือของเขายังคงหมุนกระต่ายที่อยู่บนไฟแต่สายตาของเขาจับจ้องไปยังเด็กหนุ่มคนนั้น
“เนื้อกระต่ายที่หอมอร่อย ถ้ามันมีกลิ่นเหม็นจริงๆคงมาจากปากสุนัขของเจ้า?”
เด็กหนุ่มที่แต่งกายด้วยชุดสีน้ำเงินเยาะเย้ยคนอื่นจนเป็นนิสัย เขาไม่ได้เจตนาอื่นใด แต่เมื่อเห็นนิสัยอันเย่อหยิ่งจองหองของเย่ฟ่านมันทำให้เขาโกรธเคืองในทันที
“นี่คือพื้นที่ศักดิ์สิทธิ์ของนิกายของเรา”
“แล้วยังไง?”
เย่ฟ่านเอาเนื้อกระต่ายสีน้ำตาลทองออกจากหลุมไฟก่อนจะฉีกขาข้างหนึ่งออกและเพลิดเพลินกับอาหารของเขาโดยไม่สนใจเด็กหนุ่มคนนั้น
“เจ้ามัน...... กล้าหาญมาก เจ้ากล้าทำให้นิกายไท่ซวนได้รับความแปดเปื้อน อาชญากรรมของเจ้าไม่สามารถอภัยได้!”
เด็กหนุ่มในชุดสีน้ำเงินแสดงสีหน้าเคร่งขรึมขณะที่เขาเดินเข้าไปใกล้ ราวกับว่าเขาต้องการที่จะลงมือ
“เจ้าหมายความว่าข้าทำให้เสื่อมเสียชื่อนิกายไท่ซวน สิ่งนั้นเกิดขึ้นเมื่อไหร่?” เย่ฟ่านชำเลืองมองเขา
“อย่ามาแสดงท่าทีของศิษย์พี่ที่นี่เจ้าไม่มีคุณสมบัติ”
“ข้าจะพาเจ้าลงไปและพาเจ้าไปที่ผาลงโทษสวรรค์!” ชายหนุ่มที่สวมชุดสีน้ำเงินมีรอยยิ้มที่เย็นชาก่อนจะยื่นมือออกไปทางเย่ฟ่าน
"รอก่อน!" เย่ฟ่านหยุดเขาและกล่าวอ่ะ
“เจ้ามาจากไหน? ผู้อาวุโสหลี่แห่งยอดเขารกร้างอยู่ที่นี่และเขาไม่ได้พูดอะไรเลย เจ้าเป็นใครถึงกล้าบุกรุกยอดเขารกร้าง เจ้ากล้ามาสั่งสอนเรื่องกฎระเบียบของที่นี่ต่อหน้าผู้อาวุโสหลี่หรือ?”
“ในฐานะศิษย์ของนิกายไท่ซวน แน่นอนว่าข้าต้องปกป้องดินแดนศักดิ์สิทธิ์ของนิกายของเรา!” เด็กหนุ่มในชุดสีน้ำเงินยังคงเอื้อมมือของเขาต่อไป อยากจะคว้าคอเย่ฟ่านเพื่อพาเขาไปรับผิด
เย่ฟ่านตะโกนไปที่วังที่ทรุดโทรมในระยะไกล
“ผู้อาวุโสหลี่ ยอดเขารกร้างเป็นมรดกของเรา ศิษย์ของยอดเขาหลักอื่นๆได้รับอนุญาตให้สั่งสอนข้าหรือไม่”
“นอกจากผู้นำนิกายและผู้อาวุโสไท่ซ่างของนิกายแล้ว ใครก็ตามที่มาถึงยอดเขาวันนี้จะต้องทำตามกฎของข้า” ได้ยินเสียงของผู้อาวุโสหลี่ตอบกลับมาอย่างเย็นชา
“ในกรณีนั้นการที่เขาบุกเข้ามาในพื้นที่อันมีค่าของยอดเขารกร้างของเรานั้นถือเป็นความผิดอันเลวร้ายแล้ว!”
เย่ฟ่านหลบไปด้านข้างหลีกเลี่ยงมือที่เคลื่อนไปข้างหน้าก่อนที่จะหยิบหินขึ้นมาแล้วเหวี่ยงออกไปอย่างหนัก
“ป๊า!”
หินกระแทกเข้ากับใบหน้าของชายหนุ่มอย่างจัง จมูกของเขาเริ่มมีเลือดออกขณะที่ร่างกายสายไฟมาด้วยความเจ็บปวดอย่างรุนแรง
“บุกเข้ามาในพื้นที่อันมีค่าของเรา เจ้ากล้าหาญมาก เจ้าทำให้นิกายไท่ซวนเสียชื่อเสียง อาชญากรรมของเจ้าเลวร้ายและควรถูกลงโทษ!”
เย่ฟ่านโต้กลับด้วยคำพูด หลังจากหมุนตัวหนึ่งครั้งก้อนหินอีกก้อนก็กระแทกเข้าใส่ใบหน้าของเด็กหนุ่มชุดน้ำเงินอย่างรุนแรง
“ป๊า!” “ป๊า!”
เด็กหนุ่มถูกเย่ฟ่านฟาดสลบจนหมดสติ ปากของเขาเบี้ยว ดวงตาของเขาเอียงร่างกายของเขาชักกระตุกเล็กน้อยอยู่บนพื้น
ครึ่งวันต่อมา ในที่สุดเขาก็ตื่นขึ้นและผู้อาวุโสหลี่ก็เดินเข้ามาถามว่า
“เจ้ามาที่นี่เพื่ออะไร?”
เด็กหนุ่มคนนั้นแตกตื่นตกใจและจำได้ทันทีว่าเกิดอะไรขึ้นก่อนหน้านี้ สีหน้าของเขาดูน่าเกลียดเขาจำได้ว่าเขาถูกเย่ฟ่านทุบตีจนสลบดังนั้นเขาจึงต้องกาฆ่าเย่ฟ่านให้ตาย
แต่ทันใดนั้นใบหน้าของผู้อาวุโสหลี่รุ่ยหยูก็เย็นชาลงทันที
“อวดดีอะไรเช่นนี้!”
“คารวะอาจารย์ลุง”
เด็กหนุ่มที่สวมชุดสีน้ำเงินรู้สึกหนาวสั่นก่อนจะคำนับและกล่าวด้วยเสียงอันนอบน้อมว่า
“ศิษย์ของยอดเขาหลักทั้งหมดจะมีการแข่งขันในอีกสามเดือน ศิษย์มาเพื่อบอกกล่าว” เมื่อกล่าวอย่างนี้แล้วเขาก็ส่งจดหมายไป
“เข้าใจแล้ว กลับไปได้” หลี่รุ่ยหยูพยักหน้า
ชายหนุ่มชุดสีฟ้ามองไปที่เย่ฟ่านแสงเย็นวาบในดวงตาส่งประกายอีกครั้งก่อนที่เขาจะหันหลังกลับ
“ในอนาคต อย่าโวยวายที่ยอดเขาหลักอื่น อย่าแสร้งทำเป็นศิษย์พี่หากเจ้าไม่มีความแข็งแกร่งมากพอ” เย่ฟ่านเย้ยหยัน
“เจ้า……”
เด็กหนุ่มรู้สึกขุ่นเคือง ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความเกลียดชัง แต่เขาไม่กล้าที่โวยวายต่อหน้าผู้อาวุโสหลี่รุ่ยหยู เขาทำได้เพียงดินขึ้นไปบนท้องฟ้าและออกจากที่นี่อย่างรวดเร็ว
หลี่รุ่ยหยูเหลือบมองที่เย่ฟ่านแต่ไม่ได้พูดอะไร เขามุ่งหน้ากลับเข้าไปในศาลาที่ทรุดโทรมก่อนจะหลับตาลงและทำสมาธิเหมือนเช่นที่เคยเป็น
“ความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ที่ดูเหมือนมีข้อบกพร่อง ความสมบูรณ์อันยิ่งใหญ่ที่เต็มไปด้วยความว่างเปล่า สติปัญญาอันยิ่งใหญ่ที่ดูเหมือนโง่เขลา……” เย่ฟ่านพึมพำในขณะที่เขาไตร่ตรองคำพูดอย่างรอบคอบก่อนที่จะเดินไปรอบๆยอดเขารกร้าง
ครึ่งนาทีต่อมามีคนมากมายใช้ลงวิเศษบินมาที่ยอดเขารกร้างก่อนจะล้อมรอบร่างกายของเย่ฟ่านไว้ด้านใน
“พวกเจ้าเป็นใคร เหตุใดเจ้าจึงบุกเข้ามาในพื้นที่อันล้ำค่าของยอดเขารกร้างของเรา” เย่ฟ่านกวาดสายตามอง เขารู้ทันทีว่าคนเหล่านี้มาจากยอดเขาดวงดาว
“เจ้าไม่รู้กฎจริงๆ เห็นศิษย์พี่แล้วทำไมไม่ทำความเคารพ?” ชายหนุ่มคนหนึ่งพูดอย่างเย็นชา
“พวกเจ้าเป็นใครกัน? เหตุใดข้าจึงต้องเคารพ” เย่ฟ่านยังคงมีสีหน้ายิ้มแย้ม
นอกจากชายชุดสีฟ้าที่หน้าซีดแล้ว คนอื่นๆก็เริ่มหัวเราะอย่างอึกทึก
“มันหายากมากที่ยอดเขาร้างเปล่าจะมีลูกศิษย์ ดูเหมือนว่าเราจะไม่เบื่ออีกต่อไป เขาน่าสนใจทีเดียว”
“ในฐานะศิษย์พี่ ให้ข้าสอนว่าเจ้าต้องปฏิบัติตามกฎอย่างไร คราวหน้าเมื่อเจอเราเจ้าก็แสดงความเคารพอย่างนอบน้อมเข้าใจไหม”
“พวกเจ้าคิดจะทำอะไร” เย่ฟ่านหลบไปด้านข้าง “นี่คือยอดเขาหลักที่แสดงถึงมรดก ผู้คนจากยอดเขาหลักอื่นๆไม่สามารถเข้ามาได้อย่างอิสระ”
“ฮ่าฮ่าฮ่า……” ทุกคนเริ่มหัวเราะ
“การเข้าสู่ยอดเขารกร้างต้องได้รับอนุญาตจากใครซักคนจริงๆ หรือ?”
“สถานที่แห่งนี้กับภูเขารกร้างไม่แตกต่างกันมากนัก เข้าและออกได้โดยเสรี” สองยื่นผ่านมือกดไปที่ศีรษะของเย่ฟ่านในขณะที่อีกสองคนพยายามกระแทกขาเขาให้คุกเข่า
“ถ้านี่คือยอดเขาหลักอื่นๆ พวกเจ้าจะกล้าทำแบบนี้ไหม?” เย่ฟ่านยังคงล่าถอย
“เด็กหนุ่มที่ไร้เดียงสาอะไรเช่นนี้ ให้พี่ชายคนนี้สอนวิธีใช้ชีวิตให้กับเจ้าดีกว่า!”
“นั่นคือสิ่งที่ข้าอยากจะบอกพวกเจ้าทุกคน” เย่ฟ่านจับมือที่ยื่นมาทางเขาอย่างใจก่อนจะบิดอย่างรุนแรงทำให้เกิดเสียงดังที่ทุกคนสามารถได้ยินอย่างชัดเจน
ในเวลาเดียวกันขาขวาของเขากวาดไปกระแทกเข้าใส่หน้าอกของสองคนที่กำลังเล็งขาของเขาให้กระเด็นกับหลังก่อนจะกระแทกลงพื้นอย่างหนัก