669-670
3/10
Ep.669
“น้องซู … มักลงมือป่าเถื่อน แบบนี้เสมอเลยหรอ?”
กู่เทียนฮวากลืนน้ำลาย เหม่อมองเฉินเฟิง เอ่ยถามเสียงสั่น
“ก็ … คงประมาณนั้น” เฉินเฟิงสูดหายใจลึก พูดอย่างไม่ค่อยเต็มปากเต็มคำ
ในอดีตที่ผ่านมา ศัตรูที่ซูเฉินเคยฆ่า แม้กลวิธีของเขาจะโหดร้ายและรุนแรงเป็นพิเศษ แต่ฉากที่กระชากหัวคนอื่นแบบนี้ เขาเพิ่งเคยเห็นเป็นครั้งแรก
อีกด้านหนึ่ง ซูเฉินเริ่มค้นศพชายเผ่าปีศาจราตรี ไม่เพียงช่วงชิงทุกอย่างมา แต่ยังควักแก่นอสูรออกจากอกอีกฝ่าย
หลังจากได้รับการยืนยันจากต้นผลอายุวัฒนะ ว่านี่คือแก่นอสูรของต้นผลปกปักษ์จริง เขาก็ส่งมันเข้าไปใน [พื้นที่เพาะปลูก] มอบหมายให้ต้นผลอายุวัฒนะดูแล
หลังจากนั้น เขาก็เดินกลับมายังรถฐานทัพ หยิบเอาแร่สีฟ้าออกมาก้อนหนึ่ง เอ่ยถาม [รถศึกอัจฉริยะ] ว่า “เสี่ยวจือ นายช่วยดูหน่อย ว่านี่ใช่ศิลาทลายมิติรึเปล่า”
“เจ้านาย มันคือศิลาทลายมิติจริงๆ” [รถศึกอัจฉริยะ] ตอบอย่างมั่นใจ
ดูจากภายนอก ศิลาทลายมิติ มีความคล้ายคลึงกับ [หินบดดาราเทียนกัง] ที่แผ่คลื่นพลังของดวงดาวออกมา
ซูเฉินกวาดสายตาตรวจสอบมัน ก่อนใส่ลงในถุงเก็บของ ก่อนลงจากรถ ตรงเข้าหาเฉินเฟิงและคนอื่นๆ
ในบรรดาพวกต่างเผ่าที่เขาสังหาร พบศิลาทลายมิติแค่สามก้อนเท่านั้น แต่มีสี่ก้อนในที่แห่งนี้ แสดงว่าส่วนที่เหลือต้องอยู่ในมือของกู่เทียนฮวาและอีกสองคนอย่างแน่นอน
ศิลาทลายมิติมีความสำคัญกับซูเฉินมาก ไม่ว่ายังไงเขาก็ต้องคว้ามันมาให้จงได้
“พี่กู่ คุณมีศิลาทลายมิติอยู่ใช่ไหม?”
ซูเฉินมาถึง ก็เอ่ยถามเข้าเรื่องทันที
กู่เทียนฮวาอึ้งไปเล็กน้อย ก่อนหยิบเอาศิลาทลายมิติออกมา แล้วเอ่ยถามว่า “นี่ใช่ศิลาทลายมิติที่นายต้องการรึเปล่า?”
เมื่อเห็นศิลาทลายมิติในมือของกู่เทียนฮวาจริงๆ ซูเฉินพยักหน้าแล้วกล่าวว่า “พี่กู่ ศิลาทลายมิตินี้สำคัญต่อผมมาก คุณพอจะช่วยขายให้ผมได้ไหม?”
กู่เทียนฮวาครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง สุดท้ายวางศิลาทลายมิติลงในมือของซูเฉิน แล้วกล่าวด้วยรอยยิ้มว่า “ในเมื่อมันมีประโยชน์กับน้องซู เช่นนั้นฉันขอมอบมันให้นาย”
แม้ศิลาทลายมิติจะล้ำค่ามาก แต่เมื่อย้อนนึกถึงความแข็งแกร่งของซูเฉิน หากสามารถใช้โอกาสนี้ผูกมิตรได้ ไม่นับว่าขาดทุน
ยังไม่พูดถึงเรื่องที่ว่า ถ้าซูเฉินและคนอื่นๆมาไม่ทันเวลา เกรงว่าเขาคงไม่อาจรักษาศิลาทลายมิติก้อนนี้เอาไว้ได้
ในเมื่อเป็นแบบนั้น งั้นก็ให้ไปเลยแล้วกัน จะได้สร้างความประทับใจที่ดีแก่ซูเฉิน
กู่เทียนฮวาใจกว้างมาก ซูเฉินคาดไม่ถึงมาก่อน เขาไตร่ตรองอยู่ครู่หนึ่ง ก็ใส่ศิลาทลายมิติลงในถุงเก็บของ แล้วหยิบผลึกศิลาแดงสิบเม็ดออกมา ส่งกลับคืนไป
“พี่กู่ ศิลาทลายมิติมีค่ามาก ฉันขอใช้สิ่งนี้แลกเปลี่ยนกับคุณ”
“ผลึกศิลาแดง!”
กู่เทียนฮวาสะดุ้งตกใจ หากซูเฉินให้สมบัติชิ้นอื่น เขาคงไม่รับมันไว้ แต่ถ้าเป็นผลึกศิลาแดงน่ะอีกเรื่องหนึ่ง เพราะมันคือแร่ชั้นดีที่สามารถใช้พัฒนาคุณภาพของอาวุธได้
ใครก็ตามที่เห็นเป็นต้องเกิดความโลภ อยากจะครอบครองมัน
แล้วอีกอย่าง ผลึกศิลาแดงคือสิ่งที่เขาต้องการอย่างเร่งด่วน
ดวงตาของเหลิงมู่เย่และคนอื่นๆทอประกายเจิดจ้า พวกเขาจ้องเขม็งไปยังผลึกศิลาแดงของกู่เทียนฮวา
“พี่กู่ ไม่ทราบสิบเม็ดพอรึเปล่า? ถ้ายังไม่พอ ฉันยังมีอยู่อีกนิดหน่อย” ซูเฉินเอ่ยทำลายความเงียบ
“แค่นี้ก็พอแล้ว! น้องซู ขอบคุณมากจริงๆ!” กู่เทียนฮวาแสดงให้เห็นว่าเขารู้สึกตื้นตันจากใจจริง
มูลค่าของศิลาทลายมิติก้อนนี้ ในทางเทคนิคแล้วสูงกว่าผลึกศิลาแดงสิบเม็ดอยู่ไม่น้อย
ทว่าศิลาทลายมิติสามารถใช้ได้เฉพาะกับค่ายกลเคลื่อนย้ายและทางผ่านเขตแดนเท่านั้น หรือก็คือ ต่อให้มูลค่าของมันมากกว่านี้อีกซัก 10,000 เท่า มันก็ไม่มีประโยชน์อะไรกับกู่เทียนฮวา
แต่ผลึกศิลาแดงน่ะไม่เหมือนกัน ด้วยผลึกศิลาแดงทั้งสิบเม็ดนี้ มันมากพอที่จะยกระดับอาวุธได้ ช่วยเสริมกำลังรบของเขาเพิ่มพูนขึ้น ซึ่งจุดนี้ศิลาทลายมิติเทียบไม่ได้เลย
เมื่อเหลิงมู่เย่และอีกคนได้ยินว่าซูเฉินยังมีผลึกศิลาแดงอยู่ในมือ พวกเขาเริ่มตื่นเต้นขึ้นมาทันที
กงเก๋อกระแอม หันไปถามซูเฉิน “น้องซู นายยังมีผลึกศิลาแดงอยู่อีกกี่ก้อน? ช่วยขายให้ฉันบ้างได้ไหม?”
4/10
Ep.670
“คุณเป็นใครกัน?”
ซูเฉินเหลือบมองกงเก๋อ กล่าวอย่างเฉยเมย
ก่อนหน้านี้ตอนอยู่บน [รถศึกอัจฉริยะ] เฉินเฟิงกล่าวถึงแค่กู่เทียนฮวาและหลินฮั่วอินเท่านั้น แต่ไม่ได้พูดถึงกงเก๋อ
นั่นเป็นเหตุผลที่ว่า ซูเฉินเลยยังไม่รู้ว่ากงเก๋อคือใคร
“เฮียซู นี่คือศิษย์พี่กงแห่งนิกายคลื่นธารา –นิกายคลื่นธาราเองก็เป็นหนึ่งในเจ็ดขุมกำลังใหญ่ของขุนเขาหวังเฉียวเช่นกัน พวกเขามีความสัมพันธ์ที่ดีกับวังสุริยันจันทราของเรา” เฉินเฟิงแนะนำ
“ที่แท้ก็เป็นพี่กง” ซูเฉินกล่าวทักทาย จากนั้นก็พูดต่อทันทีว่า “พี่กงเองก็มีศิลาทลายมิติด้วยหรือ? ถ้างั้นผมยินดีแลกเปลี่ยนมัน”
“เปล่า” สีหน้าของกงเก๋อหมองลง ศิลาทลายมิติคือสมบัติล้ำค่า ยากนักจะพบเจอ แล้วเขาจะไปเอามันมาจากที่ไหน?
อย่างไรก็ตาม เขายังไม่ยอมแพ้ ลองถามหยั่งเชิง “น้องซู ถ้าเป็นแลกเปลี่ยนกับอย่างอื่นล่ะ? ฉันสามารถจ่ายเป็นหินพลังงานด้วยมูลค่าที่สูงกว่าราคาตลาดได้นะ”
หินพลังงานแลกเปลี่ยนกับผลึกศิลาแดง?
ซูเฉินมีหินพลังงานกองพะเนินจนไม่รู้จะเอาไปใช้ทำอะไรแล้ว ฉะนั้นเขาจะแลกมันกับผลึกศิลาแดงทำไม?
“ต้องขอโทษด้วยพี่กง ผมเหลือผลึกศิลาแดงอีกไม่กี่เม็ดเท่านั้น ถ้าเก็บไว้มันอาจมีประโยชน์กว่า คงไม่สามารถแลกเปลี่ยนกับคุณได้” ซูเฉินตอบกลับอย่างมีมารยาท
“งั้นก็ไม่เป็นไร” กงเก๋อถอนหายใจ แม้ลึกในใจจะไม่ยินยอม แต่เขาก็ทำอะไรไม่ได้
เพราะท้ายที่สุดแล้ว ผลึกศิลาแดงเป็นของซูเฉิน หากอีกฝ่ายไม่ต้องการขาย แล้วจะให้เขาจะปล้นมันมารึไง?
ด้วยความแข็งแกร่งของซูเฉิน ตราบใดที่กล้าทำแบบนั้น เกรงว่าคงถูกสังหารในพริบตาเดียว เขาไม่มีความกล้ามากพอที่จะลอง
เฉินเฟิงกับเซี่ยจิงอี้มองหน้ากัน ลอบส่ายหัวอย่างเงียบๆ
ซูเฉินบอกว่ามีผลึกศิลาแดงเหลืออยู่น้อยอย่างงั้นหรือ? แค่ที่เขาชิงมันมาจากเทพศักดิ์สิทธิ์แห่งเป่ยยี่และหนันหมาน ก็ได้มาไม่น้อยแล้ว ไหนจะรูดทรัพย์จากบรรพชนเผ่าราชวงศ์อสูรอีก รวมๆแล้วน่าจะเหลืออีกมากกว่าร้อยก้อน
แต่ทั้งสองก็เข้าใจดี เห็นได้ชัดว่าซูเฉินไม่ต้องการแลกเปลี่ยนมัน และพวกเขาก็ไม่คิดเปิดโปง
เหลิงมู่เย่กับหลินฮั่วอิน เดิมก็ต้องการแลกเปลี่ยนกับซูเฉินเช่นกัน แต่หลังจากได้ยินคำพูดเขา ทั้งสองก็โยนความคิดนี้ทิ้งไป
“พี่กู่ คุณไปเอาศิลาทลายมิติก้อนนี้มาจากที่ไหน?” ซูเฉินถาม
[รถศึกอัจฉริยะ] สามารถเปิดฟังก์ชั่นเดินทางข้ามเขตแดนได้ จำเป็นต้องมีศิลาทลายมิติอย่างน้อยห้าก้อน แต่ปัจจุบันมีแค่สี่ก้อนเท่านั้น เขาเลยถือโอกาสนี้ขอข้อมูล เผื่อคลำเถาวัลย์แล้วเจอแตง
“มันอยู่ข้างในป่าเล็กแห่งนี้” กู่เทียนฮวากล่าวด้วยความมั่นใจ
“เอ๋?”
ซูเฉินอุทานออกมาเบาๆ หรี่ตาและกวาดมองไปรอบๆ เอ่ยถามด้วยความสงสัยว่า “แต่ที่นี่ดูธรรมดา ไม่มีอะไรโดดเด่นเลย แล้วจะมีสมบัติอย่างศิลาทลายมิติปรากฏขึ้นได้อย่างไร?”
“สำหรับเรื่องนี้ พวกเราได้ข้อมูลมาอีกทอดหนึ่ง ตอนแรกก็ไม่เชื่อเหมือนกัน แต่ยังอยากมาลองเสี่ยงโชคดู ใครจะคิดว่าที่นี่จะมีศิลาทลายมิติสี่ก้อนปรากฏขึ้นมาจริงๆ” กู่เทียนฮวาอธิบาย
ได้ยินแบบนั้น ซูเฉินยิ่งงุนงงสงสัยมากขึ้น
ตามหลักเหตุผลแล้ว ไม่ว่าจะเป็นใครก็ตาม หากรู้ข่าวของศิลาทลายมิติ พวกเขาจะต้องซ่อนมันไว้ แต่คนผู้นั้นกลับเลือกที่จะกระจายข่าวเนี่ยนะ?
“พี่กู่ คุณไปรู้ข่าวของศิลาทลายมิติมาจากที่ไหน?” ซูเฉินรู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติ จึงเอ่ยถามต่อ
“ฉันได้ยินคนพูดถึงมันในร้านอาหารเมืองฉิงหลงที่อยู่ใกล้ๆนี้” กู่เทียนฮวาตอบ
เฉินเฟิงก้าวออกมาข้างหน้า เอ่ยกระซิบถาม “เฮียซู มีปัญหาอะไรรึเปล่า?”
ซูเฉินหรี่ตาลง กระซิบกลับ “ฉันสงสัยว่านี่อาจเป็นแผนการสมคบคิด”
พวกต่างเผ่าและมนุษย์มากันพร้อมหน้า เห็นได้ชัดว่าเพราะได้รับข่าวนี้
ชัดเจนว่ามีใครบางคนต้องการให้พวกเขาฆ่ากันเอง แล้วรับบทชาวประมง ฉกฉวยผลกำไรในอวนไป
แต่ใครเล่าที่เป็นคนทำ? ใครที่มั่งคั่งเช่นนี้? ถึงขนาดหยิบเอาศิลาทลายมิติทีเดียวสี่ก้อนออกมาใช้เป็นเหยื่อล่อได้
“ไม่จริงน่า …” ใบหน้าของเฉินเฟิงแปรเปลี่ยนไปเล็กน้อย