ตอนที่ 6 สู้!
ตอนที่ 6 สู้!
กงหมิงเฟย กำลังดึงรถเข็นและฮัมเพลงต่อไปเบาๆ เขาหันมองไปที่หน้าจอโทรศัพท์เป็นครั้งคราว และนึกเอะใจเล็กน้อยที่ในตอนนี้ไม่มีข้อความใดๆจากกลุ่มของแฟนคลับส่งออกมาเป็นเวลาหลายนาทีแล้ว นี่เป็นสิ่งที่ค่อนข้างน่าแปลก
แม้ว่าเขาจะรู้สึกสงสัย แต่เขาก็ไม่ได้พูดอะไรออกมา ทุกอย่างมันเป็นสิทธิ์ส่วนตัวของแต่ละคน ไม่ว่ากลุ่มแฟนคลับของเขาจะเสนอความคิดเห็นหรือไม่ก็ตาม ตัวเขาไม่มีสิทธิ์เข้าไปยุ่งเกี่ยวและก้าวก่าย
แต่สิ่งที่กงหมิงเฟยไม่รู้ก็คือ กลุ่มแฟนคลับและผู้ชมที่กำลังชมการถ่ายทอดสดอยู่ ทุกคนกำลังอยู่ในสภาพที่หัวสมองว่างเปล่า!
สถานที่ในเมืองใหญ่แห่งหนึ่ง หญิงสาววัยรุ่นที่นั่งอยู่แถวด้านหลังของรถบัสพร้อมกับกระเป๋าที่วางอยู่ด้านล่างตรงขาของเธอ สายหูฟังสีชมพูสดใสยังเสียบอยู่ที่หูของเธอตลอดเวลา!
ในขณะนี้เธอกำลังนั่งใช้มือปิดหน้าและร้องไห้อย่างสะอึกสะอื้น กลุ่มหญิงวัยกลางคนที่อยู่รอบๆตัวเธอเห็นเธอร้องไห้แบบนี้ต่างเข้ามาปลอบโยนเธอ แต่มันก็ไม่ได้ช่วยหยุดการร้องไห้ของเธอได้เลย!
ก่อนหน้านี้ในช่วงเวลาที่ขึ้นรถบัส คนค่อนข้างที่จะเยอะ แทนที่จะดูการถ่ายทอดสดของกงหมิงเฟย เธอจึงเลือกสวมหูฟังแทน และเธอก็ได้ฟังเสียงร้องเพลงสดๆของเขา
เมื่อเธอได้ฟังเพลงถึงท่อนที่ว่า
~~แม้มีคำพูดสิบร้อยพันเป็นคำมั่นคำสัญญา แต่เมื่อไม่กล้าพูดไปก็ไร้ความหมาย~~
เธอก็ไม่สามารถควบคุมน้ำตาของเธอได้อีกต่อไป
ทำไม! ทำไมเธอถึงจากบ้านที่อยู่ไกลมาที่เมืองแห่งนี้? ไม่ใช่ว่าเพราะเขาอยู่ที่นี่อย่างนั้นหรอกหรือ? แต่เมื่อเธอกล้ามาแล้ว ทำไมเธอถึงไม่กล้าสารภาพกับเขา?
ตอนนี้เขาได้กลายเป็นสามีของคนอื่นไปแล้ว! ทำไมเธอถึงได้ปล่อยโอกาสในวันนั้นไป! ทำไมเธอถึงได้ขี้ขลาดเช่นนั้นกันนะ?
ในย่านธุรกิจใจกลางเมืองแห่งหนึ่ง วัยรุ่นชายกำลังนั่งอยู่ในร้านอินเทอร์เน็ต เขาเล่นเกมและดูการถ่ายทอดสดผ่านมือถือของกงหมิงเฟยไปด้วย
แต่ในเวลานี้หน้าจอคอมพิวเตอร์นั้นกลับกลายเป็นสีเทาของโหมดสลีป เนื่องจากไม่ได้ใช้งานเป็นเวลานาน!
ร่างกายของเขาแข็งทื่ออยู่กับที่ขณะที่จ้องมองไปยังหน้าจอโทรศัพท์มือถือที่กำลังถ่ายทอดสดอยู่ด้วยสีหน้าที่ว่างเปล่า เขามองชายหนุ่มที่กำลังเดินลากรถเข็นท่ามกลางแสงอาทิตย์ที่กำลังตกดิน และนึกถึงเนื้อเพลงที่ชายหนุ่มในจอมือถือร้องเมื่อสักครู่นี้
~~ทุกค่ำคืนแห่งความฝัน อ้อมแขนของฉันนั้นไม่ได้ว่างเปล่า~~
~~จะมีตัวตนของเธออยู่เสมอ ในทุกๆคราว~~
~~แม้ว่าอยู่ท่ามกลางแสงดาว ก็จะมีแต่เธอ~~
ไม่รู้ว่าชายหนุ่มผู้นี้กำลังนึกถึงใครอยู่ แต่เขาร้องไห้ออกมาเสียงดังในทันทีโดยไม่อายใครทั้งสิ้น!
ในคอนโดใจกลางสวนแห่งหนึ่ง หญิงสาวรูปร่างอวบเล็กน้อยกำลังดูการถ่ายทอดสดของกงหมิงเฟยด้วยรอยยิ้ม แต่เมื่อเธอได้ยินบทเพลงจากเขาที่กำลังร้องขณะเดินตามแสงอาทิตย์ตกดิน ด้วยประโยคท่อนที่ว่า
~~ต่อให้เส้นทางจะยาวไกลมากถึงหมื่นไมล์~~
~~แต่ตามเสียงเรียกของหัวใจ ฉันก็จะมุ่งมั่นมุ่งหน้าไปเพื่อหาเธอ~~
~~ตามหัวใจไป ถึงแม้จะไกลแสนไกล มันก็เป็นแค่เพียงระยะทาง~~
ทันใดนั้นหยดน้ำตาก็ไหลรินลงมาจากดวงตาทั้งสองข้างของเธอ เธอรู้สึกได้ว่าผู้หญิงที่ กงหมิงเฟย กล่าวถึงนั้นได้ใช้ชีวิตอย่างมีค่าแล้ว ถ้ามีคนเต็มใจจะปฏิบัติต่อเธอด้วยความรักสุดหัวใจเช่นนี้ เธอคงจะสามารถมอบชีวิตและจิตวิญญาณรวมทั้งทุกสิ่งอย่างให้กับเขาได้!
รอยยิ้มของเธอยังคงฉายชัดอยู่แต่มันก็เปรอะเปื้อนไปด้วยหยดน้ำตา เธอจ้องมองไปยังชายหนุ่มที่กำลังลากรถเข็นด้วยสายตาที่อ่อนโยน!
เสี่ยวเฟยของพี่สาวช่างเป็นคนที่จิตใจดีและน่ารักอะไรเช่นนี้!
กงหมิงเฟย ยังคงลากรถเข็นของเขาเดินไปตามถนนพร้อมกับฮัมเพลงเบาๆอยู่เช่นเดิม เนื่องจากถนนเส้นนี้เป็นถนนพื้นปูนซีเมนต์มันจึงทำให้การเดินทางของเขานั้นค่อนข้างจะสะดวก
โดยปกติแล้วเขาเดินโดยเฉลี่ยสองชั่วโมง จะพักประมาณสิบนาที เพราะว่าท้ายที่สุดแล้วไม่ว่าความแข็งแกร่งทางกายภาพของเขาจะดีเพียงใด แต่เขาก็ยังคงเป็นมนุษย์ทั่วไป การเดินลากรถเข็นที่ค่อนข้างหนักเช่นนี้มันจึงค่อนข้างจะเป็นภาระต่อร่างกายของเขาพอสมควร
ช่วงปลายฤดูหนาวของต้นเดือนมีนาคมนั้นจะมืดเร็วกว่าฤดูกาลอื่นๆมาก ถึงแม้ว่าเวลานี้จะเป็นเวลาประมาณ 5 โมงเย็นก็ตาม แต่มันก็ค่อนข้างจะโพล่เพล้และเริ่มจะมองเห็นทางไม่ชัดแล้ว
หลังจากเดินทางออกมาจากหมู่บ้านเสี่ยวซาน กงหมิงเฟย ก็มาถึงอีกหมู่บ้านหนึ่งหมู่บ้านนี้มีร้านอาหารและโรงแรมขนาดเล็กอยู่
กงหมิงเฟยแวะเข้าร้านอาหารและสั่งอาหาร 2 อย่างพร้อมกับข้าวเปล่า 2 จาน กุ้ยช่ายผัดไข่และเนื้อหมูผัดแตงกวา รสชาติถือว่าอยู่ในระดับกลางๆ แต่ปริมาณค่อนข้างที่จะน้อยไปหน่อย! ซึ่งมันยังไม่เต็มครึ่งกระเพาะของเขา
แต่ถึงแม้จะเป็นเช่นนั้นเขาก็ไม่กล้าสั่งอาหารมากไปกว่านี้ เนื่องจากเงินในกระเป๋าสตางค์ของเขานั้นเหลืออยู่ไม่มากแล้ว และอีกอย่างนึงในรถเข็นของเขาก็ยังคงเต็มไปด้วยอาหาร
หลังจากนั้นกงหมิงเฟยก็เข้าไปพักในโรงแรมเล็กๆประจำหมู่บ้าน โรงแรมแห่งนี้ราคาถูกมากคืนละ 20 หยวนเท่านั้น ห้องพักที่นี่นั้นเป็นห้องพักระดับพื้นฐานธรรมดาทั่วไป แต่ก็ยังกว้างพอและมีที่สำหรับเก็บรถเข็นของเขา!
กงหมิงเฟยมักจะกางเต็นท์นอนเฉพาะในเวลาที่เขาไม่สามารถหาที่พักหรือหาโรงแรมได้ อย่างเช่นในก่อนหน้านี้เขาก็เคยพักค้างคืนกลางป่ามาแล้วหลายคืนเช่นเดียวกัน!
เพียงแต่ว่าข้อเสียของการพักอยู่ในโรงแรมนั่นก็คือเขาไม่สามารถพูดคุยและร้องเพลงเสียงดังได้เหมือนกับเวลาที่พักอยู่ในป่าตอนกลางคืน
โรงแรมแห่งนี้ไม่มีเครื่องทำความร้อนและตอนกลางคืนก็ยังค่อนข้างจะหนาวอยู่บ้าง แต่โชคดีที่เขามีเตาผิงแบบพกพา
เขานอนอยู่บนเตียงพร้อมกับตั้งกล้องมือถือไว้ที่มุมด้านหนึ่ง เขาคุยกับกลุ่มแฟนๆในห้องถ่ายทอดสดตลอดเวลาจนเผลอหลับไปอย่างไม่รู้ตัว
โดยปกติแล้วการพูดคุยกับกลุ่มแฟนคลับของเขานั้นจะค่อนข้างพูดคุยกันอย่างเรื่อยเปื่อยแบบสบายๆ และบางครั้งก็พูดคุยเรื่องไร้สาระและมุกตลก
แต่ค่ำวันนี้เริ่มมีบางอย่างที่ผิดปกติไปเล็กน้อย
ตัวอย่างเช่นในบางครั้งกลุ่มแฟนคลับจะพูดว่า
[สามีของฉันร้องเพลงเพราะมาก! คราวนี้ตำแหน่ง 'อโลวาน่า ซิงกิ้งคิงส์' จะต้องเป็นของสามีฉันอย่างแน่นอน]
หลังจากนั้นกลุ่มแฟนคลับและกลุ่มผู้ชมถ่ายทอดสดทั้งหมดก็พากันส่งข้อความเช่นนี้มากขึ้นเรื่อยๆ
กงหมิงเฟยอดไม่ได้ที่จะส่ายหน้าและหัวเราะออกมา จริงๆแล้วการจัดการแข่งขันราชานักร้องแห่งแพลตฟอร์มปลามังกร จะมีการลงคะแนนโดยผู้ชมที่เข้าชมการถ่ายทอดสดในแต่ละครั้ง แพลตฟอร์มของไลฟ์สตีมเมอร์คนใดได้คะแนนโหวตมากที่สุด คนผู้นั้นก็จะได้เป็นราชานักร้องแห่งแพลตฟอร์มปลามังกร!
อย่าคิดว่ารายการแข่งขันของรายการนี้เป็นเพียงแค่รายการเล็กๆเท่านั้น แต่ชื่อเสียงของแพลตฟอร์มปลามังกรนั้นมีชื่อเสียงระดับประเทศ และสำหรับผู้ที่ได้รับตำแหน่งราชานักร้อง คนผู้นั้นก็จะได้รับรางวัลใหญ่และสามารถออกอัลบั้มเป็นของตัวเองได้โดยการสนับสนุนจากบริษัทปลามังกร!
จุดมุ่งหวังโดยทั่วๆไปของไลฟ์สตีมเมอร์ทุกๆคนที่ถ่ายทอดสดเกี่ยวกับการร้องเพลง นั่นก็คือต้องการมีชื่อเสียงและเงินทอง!
และในตอนนี้พวกเขาก็สามารถมีโอกาสได้เป็นนักร้องและออกอัลบั้มเป็นของตัวเองแล้ว หากให้พูดกันตามตรงในโลกคู่ขนานใบนี้เมื่อใดก็ตามที่สามารถออกอัลบั้มได้ ก็จะถือได้ว่าเป็นศิลปินแล้ว ถึงแม้ว่าหลังจากที่ออกอัลบั้มมาจะไม่ประสบผลสำเร็จอย่างที่ตั้งเป้าไว้ก็ตาม!
กงหมิงเฟย มองไปที่หัวข้อการพูดคุยเกี่ยวกับเรื่องนี้ด้วยรอยยิ้ม "พวกคุณไม่คิดว่ามันจะเป็นฝันที่ไกลเกินเอื้อมมากเกินไปสำหรับผมอย่างนั้นเหรอ? แค่ผมได้รับดอกไม้และไอเทมบางส่วนจากพวกคุณผมก็ดีใจมากพออยู่แล้ว ผมไม่อยากจะทำให้พวกคุณเสียเงินที่พวกคุณหามาด้วยความยากลำบากเพื่อผม! และมันคงจะเป็นไปไม่ได้ที่ผมจะสามารถต่อสู้กับผู้ประกาศข่าวคนดังอันดับต้นๆคนอื่นๆได้!"
ทันทีที่กงหมิงเฟยพูดจบประโยค กลุ่มแฟนคลับพันธุ์แท้ของกงหมิงเฟยต่างรู้สึกสงสารเขาเป็นอย่างมาก พวกเขาต่างรู้สึกว่าพวกเขานั้นไม่ได้ให้ความสนใจในตัวเด็กสมบัติซึ่งเป็นเหมือนกับเพชรในตรม คนนี้ของพวกเขามากเพียงพอ!
สิ่งนี้ทำให้พวกเขารู้สึกโกรธขึ้นมาเล็กน้อย มันเหมือนกับว่าพวกเขานั้นกำลังโดนกลุ่มแฟนคลับของคนอื่นๆดูหมิ่นและหยามเกียรติ ในทันทีนั้นพวกเขาก็ต่างแสดงพลังอำนาจของกลุ่มแฟนคลับพันธุ์แท้ของพวกเขาออกมาในทันที!
วินาทีต่อมา กงหมิงเฟย เห็นเรือสมบัติลำใหญ่ปรากฏขึ้นบนแพลตฟอร์มการถ่ายทอดสดของเขา และข้อความสีทองจากระบบของแพลตฟอร์มในนามของผู้ที่ส่งเรือสมบัติก็ปรากฏขึ้นมา
[ติ้งงง! *ลูกผู้ชายต้องผ่านความยากลำบาก* ได้ส่งเรือสมบัติออกมาในห้องถ่ายทอดสดของ กงหมิงเฟย ขอเชิญทุกๆท่านเข้ามาร่วมล่าแผนที่สมบัติกันได้แล้ว]
กงหมิงเฟย อ้าปากค้างเล็กน้อยและไม่สามารถพูดอะไรออกมาได้ เขากระพริบตาปริบๆพร้อมกับจ้องมองดูชื่อผู้ที่ส่งเรือสมบัติให้กับเขา
นี่คือครั้งที่ 2 แล้วที่เขาได้รับเรือสมบัติที่ถือได้ว่าเป็นของขวัญราคาแพงที่สุดในแพลตฟอร์มของปลามังกร และในทั้ง 2 ครั้งเขาก็ได้รับจากผู้ใช้ที่มีชื่อว่า 'ลูกผู้ชายต้องผ่านความยากลำบาก'
[ว้าวว~~ ราชาสายเปย์บนแพลตฟอร์มของเราออกมาแล้ว]
[สุดยอด! นี่แหละคืนผู้นำของพวกเราตัวจริง ฉะนั้นพวกเราที่เหลือก็อย่าปล่อยให้ เหลากง ของพวกเราแพ้คนอื่นๆได้]
หลังจากนั้นไม่นาน ก็มีดอกไม้ ไอเท็มและของขวัญอีกมากมาย ถูกส่งออกมาอย่างต่อเนื่อง ถึงแม้ว่าของขวัญเหล่านั้นจะมีราคาเพียงแค่ 10 หรือ 20 หยวน แต่นี่ก็ถือได้ว่าเป็นการแสดงออกถึงความรักใคร่ในตัวกงหมิงเฟยของกลุ่มแฟนคลับพันธุ์แท้ของเขา
และเมื่อเรือสมบัติลำใหญ่โผล่ออกมาในห้องถ่ายทอดสดของเขาเช่นนี้ กลุ่มผู้ชมการถ่ายทอดสดจำนวนมากก็ตามเข้ามาด้วยเช่นเดียวกัน
จากนั้นทุกคนก็เห็นข้อความของผู้ใช้ที่ชื่อ 'ลูกผู้ชายต้องผ่านความยากลำบาก' แสดงทัศนคติอันแข็งกร้าวของเขาออกมาในทันที
[ตำแหน่งราชานักร้องแห่งปลามังกร ข้าจะทุบมันลงมาให้กับเจ้า]
เมื่อเห็นข้อความนี้โผล่ขึ้นมา ห้องถ่ายทอดสดก็เหมือนกับว่ามีพายุไซโคลนเข้ามาถล่ม!
ข้อความและคำพูดของกลุ่มบรรดาแฟนๆ ที่กำลังชมการถ่ายทอดสดถูกส่งออกมาอย่างต่อเนื่อง มือถือคุณภาพต่ำของกงหมิงเฟยถึงกับหยุดชะงักในทันที คล้ายกับว่ามันไม่สามารถประมวลผลของข้อมูลได้ทัน!
แต่บนโทรศัพท์มือถือของกลุ่มแฟนคลับคนอื่นๆยังคงใช้งานกันได้อย่างปกติ!
[โอ้วๆๆ! พ่อครับ ผมคือลูกของพ่อที่หายไปจากบ้านไงครับ! ได้โปรดมารับผมกลับบ้านด้วยครับ! ผมผิดไปแล้ว!]
[พี่ชายสายเปย์เจ้าขาาา~~ หนูอยากเป็นแฟนของพี่~~~]
[นายท่านขอรับ! สนามหญ้าที่หน้าบ้านของนายท่าน กระผมจะเป็นผู้คอยดูแลให้เองขอรับ!]
[บัดซบ! ชั้นบนนายคิดจะแย่งงานฉันเหรอ? ถ้าอย่างนั้นฉันจะไปเป็นคนล้างรถก็ได้ ต่อไปนี้ก็ฝากตัวด้วยก็แล้วกันนะเพราะหลังจากนี้พวกเราก็คือเพื่อนร่วมงานกันแล้ว!]
[ยัง! พวกนายจะลืมฉันไปได้ยังไงกัน! ยามเฝ้าประตูรั้วคือตำแหน่งของช้านนน!]
หลังจากที่โทรศัพท์หายกลับมาเป็นปกติ กงหมิงเฟยก็อดไม่ได้ที่จะหัวเราะเมื่อเห็นข้อความต่างๆของกลุ่มบรรดาแฟนคลับ
เขาหันไปยิ้มและพูดให้กับกล้องว่า: "ผมขอขอบคุณทุกๆท่านที่สนับสนุนผมเป็นอย่างมากโดยเฉพาะผู้ใช้ที่ชื่อ 'ลูกผู้ชายต้องผ่านความยากลำบาก' แต่ผมคิดว่ามันไม่จำเป็นที่จะต้องต่อสู้เพื่อสิ่งนี้ เงินทุกบาททุกสตางค์ของพวกท่านไม่ได้มาจากความว่างเปล่า ผมรู้ตัวดีว่าความสามารถในการร้องเพลงของผมนั้นอยู่ในระดับไหน ผมคงจะไม่สามารถเทียบได้กับมืออาชีพเหล่านั้น ฉะนั้นผมไม่อยากให้ทุกๆท่านได้เสียเงินไปเปล่าๆเช่นนี้ แต่ไม่ว่าจะอย่างไรผมก็รู้สึกขอบคุณมากจริงๆ!"
กงหมิงเฟย ไม่ได้พูดคำพูดที่ถ่อมตนหรือเรียกร้องความสงสารใดๆ เขารู้ดีว่าต่อให้ตอนนี้เขามีระบบที่แข็งแกร่งคอยช่วยเหลือเขาอยู่ก็ตาม แต่ในเวลานี้เขายังขาดทักษะระดับมืออาชีพอยู่อีกมาก
สถานะและระดับความสามารถในปัจจุบันของเขานั้นหากจะให้เทียบกับระดับมืออาชีพมันยังคงห่างชั้นอยู่อีกไกล แต่เนื่องจากเขาได้เปรียบในข้อที่ว่าการถ่ายทอดสดของเขานั้นแปลกใหม่และเขาสามารถสร้างบทเพลงไพเราะได้อย่างมากมาย เพราะข้อมูลเพลงในหัวของเขาจากชาติที่แล้วมีอยู่ทุกแนวเพลง และก็มีอยู่เป็นจำนวนมากอีกด้วย
แต่กลุ่มบรรดาแฟนคลับของเขาต่างมีความเชื่อมั่นในตัวเด็กสมบัติของพวกเขากันมาก พวกเขาไม่เชื่อว่าหากเด็กสมบัติที่เป็นเหมือนกับเพชรที่ยังไม่ได้เจียระไนผู้นี้มีฐานแฟนคลับมากขึ้น เขาจะแพ้ให้กับกลุ่มผู้ถ่ายทอดสดคนอื่นๆ
ฉะนั้นข้อความของกลุ่มแฟนคลับจึงเหมือนกับกระแสของคลื่นลมอันรุนแรง โดยเฉพาะในตอนนี้พวกเขามีป๋าสายเปย์ที่ชื่อว่า 'ลูกผู้ชายต้องผ่านความยากลำบาก' เป็นแกนนำ พวกเขาไม่จำเป็นจะต้องกลัวกลุ่มแฟนคลับของคนอื่นๆเลยแม้แต่น้อย
กงหมิงเฟยได้แต่แอบถอนหายใจออกมาอย่างเงียบๆ เขาไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่ากลุ่มแฟนคลับของเขาจะเป็นกลุ่มหัวรุนแรงมากขนาดนี้ และเมื่อเรื่องมาถึงขนาดนี้แล้วต่อให้เขาไม่อยากจะสู้ ก็คงจะไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้อีกต่อไปแล้ว ในเมื่อกลุ่มแฟนคลับของเขาต่างออกมาสนับสนุนกันอย่างมากมายเช่นนี้
เอาละ! ถ้าเช่นนั้นก็คงจะต้องสู้กันให้สุดตัวไปเลย!
………
จบบท