EP 643 เทพเจ้าแห่งความโชคร้ายแผลงฤทธิ์!
EP 643 เทพเจ้าแห่งความโชคร้ายแผลงฤทธิ์!
By loop
ในช่วงยามบ่าย.
ในห้องสอบสวน.
หลิวกังเองแค้นดงซูบินเอามากๆ อีกทั้งเขายังไม่ยอมรับว่าเขาพยายามสอดแนมเจ้าหน้าที่ของรัฐด้วย
ผู้อำนวยการกอง 3 พูดอย่างเย็นชาว่า "ปากยังแข็งอยู่เหรอ ไม่พูดความจริงต่อหน้าหัวหน้า"
"ผมบังเอิญผ่านมาเฉยๆ ไม่ได้ตั้งใจจะตามเธอเลย"
“...แล้วทำไมพวกเราถึงเห็นคุณทำตัวลับๆล่อๆ?”
“ มีคนตั้งมากมายอยู่แถวนี้ ผมเองก็ไม่ได้ตั้งใจจะตามเธอสักหน่อย”
“คิดว่าพวกเราจะต้องเชื่อนายด้วยอย่างงั้นหรอ นี้มันไม่ใช่เรื่อตลก การกระทำของนายมันเป็นแสดงถึงเจตนาในการติดตาม แน่นอนว่าหลักฐานเองก็ชัดเจน” ในตอนแรกหลิวกังคิดว่านี้คงจะเป็นเรื่อง่ายในการที่เขาติดตามดงซูบินมาและไม่คิดว่าจะเกิดเหตุเหล่านี้ขึ้นมา ตอนนี้เขาถูกจับ
ผู้อำนวยการกองที่ 3 หยิบกล้องดิจิทัลขึ้นมา เขาหยิบรูปถ่ายสองสามรูปและแสดงให้เขาดู "นี่อะไร?" "
มีภาพด้านหลังรถของเสี่ยวหยาง และภาพถ่ายระยะใกล้ของใบหน้าของเสี่ยวหยาง
ตอนนี้หลิวกังพยายามหลบตาคนพวกนั้น "ผมกำลังถ่ายวิวทิวทัศน์อยู่ต่างหาก เพราะหนังสือพิมพ์ของเราจะต้องมีการรายงานข่าว ฉบับหน้า”
เจ้าหน้าที่ที่ยืนอยู่ข้างๆเขาก็จ้องเขม็ง “รายงานข่าว?นายไม่รู้หรือยังไงภาพในรูปนี้คือใคร? ภาพที่ปรากฎอยู่ตรงนี้มันใช่วิวทิวทัศน์อย่างที่นายว่าอย่างงั้นหรอ อย่ามาล้อเล่นกับฉันนะ!”
หลิวกลังถึงกับเงียบไป
ทันใดนั้นเสี่ยวหยางก็วางแฟ้มลงข้างในแล้วพูดว่า “หน้าของฉันนั้นชัดมาก หนังสือพิมพ์ของคุณยังต้องการรายงานเรื่องฉันอยู่หรือเปล่า?” "
หลิวกังถึงกับพูดติดๆขัด" ขณะนั้นผมกำลังเดินผ่านไป เห็นว่าคุณสวย และแน่นอนเมื่อเห็นคนสวยๆเราก็อยากเก็บรูปไว้ มันไม่มีความหมายอื่นใดเลย“ในขณะที่พูดถึงหลิวกัง เขาก็รู้สึกผิดเช่นกัน โดยรู้ว่าหลักฐานเหล่านั้นมัดตัวเขาไว้แน่น เขาไม่รู้ว่าจะพูดอะไร และเขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเขาได้ถ่ายภาพของผู้นำของเขตด้วย ซึ่งอันที่จริง ในการทำข่าวเกี่ยวกับเจ้าหน้าที่ของภาครัฐ ทางกฎหมายจะอนุญาตให้ใช้เพียงข้อมความจากบทสัมภาษณ์เพียงเท่านั้น และการถ่ายภาพหรือแอบถ่ายนั้นเป็นสิ่งที่ผิดกฎหมายอย่างชัดเจน
ทันใดนั้นมีคนมาเคาะประตูและเข้ามา "บันทึกการตรวจสอบของหัวหน้าเสี่ยวถูกนำออกมาแล้วค่ะ"
ดูเหมือนเสี่ยวหยางดูจะใจเย็นลง
"... ปล่อยเขาไป!" ชายคนนั้นเดินไปด้านข้างทันทีและเชื่อมต่อกับคอมพิวเตอร์เพื่อ สักครู่ เป็นเพียงช่วงเวลาสั้น ๆ ก่อนที่วิดีโอสอดแนมได้ถูกจัดเรียงให้เป็นระเบียบก่อนที่จะมีการหลุดรอดออกไปได้ ชายคนนั้นได้รวบรวมวิดีโอทั้งหมดและจัดเรียงตามเวลา ด้านบนเป็นวิดีโอภายในรถของผู้ต้องหาที่กำลังเลี้ยวซ้ายตามรถของเสี่ยวหยาง ก่อนจะไปหยุดที่ลานจอดรถ ซึ่งก็เป็นเวลาบันทึกเกือบชั่วโมง
ผู้อำนวยการกองที่สามมองไปที่หลิวกัง "บอกมาสิว่าเรื่องที่นายบอกไม่ได้ติดตามหัวเขตของเรามานั้น เป็นเรื่องโกหก?"
หลักฐานเป็นที่สรุป ไม่ใช่แค่หลักฐานทางกายภาพเท่านั้น แต่ยังมีหลักฐานอีกมากด้วย
หลิวกังสังเกตเห็นรถในวิดีโอกล้องวงจรปิด ในช่วงครึ่งหลัง มีรถสีดำสองสามคันขับตามมาอยู่ไกลๆ และหน้าจะเป็นรถของเจ้าหน้าที่ๆ ที่จับกุมเขา และหน้าจะติดตามามาตั้งแต่ที่เขาขับรถตามรถคันสีดำนั้นมาอยู่ก่อนหน้านี่แล้ว และหลิวกังนั้นไม่รู้ตัวเลยด้วยซ้ำ
หลิวกังเองถึงกับเงียบไปในทันทีและเขาเองไม่มีข้อแก้ตัวอะไรแล้วกับเหตุการณนี้
“บอกความจริงมาได้แล้ว!” เสี่ยวหยางเคาะไปที่โต๊ะอย่างปรง “จุดประสงค์ในการสอดแนมฉันคืออะไรกันแน่”
หลิวกังกังวล “ผมไม่ได้ต้องการสอดแนมคุณเลย ผมยืนยัน” นั้นคือความจริงเขาไม่ได้ตั้งใจที่จะติดตามเสี่ยวหยางแต่แรก จริง ๆ แล้วกำลังจะเก็บข้อมูลของดงซูบินไปทำข่าวซึ่งเขาเป็น เลขาธิการเขตกวงหมิง อีกทั้งข่าวที่เขากำลังจะทำมันเกี่ยวกับเรื่องของโรงเรียนมัธยมหยานไท และตอนนี้ประชาชนให้ความสนใจเรื่องนี้เป็นอย่างมาก นั่นเป็นเหตุผลที่ผมตามรถของคุณมาเพราะเห็นว่าดงซูบินขึ้นรถมากับคุณ ซึ่งอย่างที่บอกผมไม่ได้ตั้งใจตามคุณเลย ผมเองมาจากสำนักข่าวหนานกิงผมเรื่องนี้อยู่ถ้าไม่เชื่อลองตรวจสอบข่าวของดงซูบินได้เลย "
เสี่ยวหยาง" กำลังติดตามซูบินอยู่ "
“ถูกแล้ว ผมไม่ได้ตั้งใจจะติดตามคุณเลยแม้แต่น้อย”
“แล้วดงซูบินอยู่ที่ไหนล่ะตอนนี้” เสี่ยวหยางกล่าว
“ผมคิดว่าเขาลงจากรถของคุณไปแล้ว”
“จริงเหรอ ทำไมฉันถึงไม่รู้ล่ะ” เสี่ยวหยางส่ายหัวเล็กน้อย “แต่จริงๆฉันรู้จักดงซูบินจริงๆแหละ แต่เขาไม่ได้ขึ้นรถของฉัน ฉันนั่งอยู่ในรถคนเดียวมาตลอด แล้วคุณจะมาอ้างว่าตามเขาไปได้ยังไงกัน ขนาดฉันเองยังไม่เห็นเขาเข้ามาในรถเลยอันที่จริงคุณต้องการสอดแนมฉันมาถึงตรงนี้อยู่แล้วสินะ ?” หลิวกัง กล่าวด้วยความประหลาดใจ “คุณและดงซูบินน่าจะนั่งมาด้วยกันผมเห็นมันกับตาที่หน้าประตูอาคารแห่งนั้น”
เมื่อได้ยินเช่นนั้นเสี่ยวหยางเหลือบมองเขาทันที “อาคารอย่างงั้นหรอ เราทั้งสองรู้จักกันจริง ฉันเองเป็นหัวหน้าเก่าของซูฐิน เขาเคยทำงานในสำนักงานทั่วไปที่ฉันดูแลอยู่นาน ฉันไม่ได้พบเขามานานแล้ว แต่เราก็คุยกันในแชทอยู่บ้าง แต่เขาไม่ได้ขึ้นรถของฉัน แล้วมันจะเป็นไปได้อย่างไรที่ซูบินจะมาขึ้นรถของฉัน อีกทั้งคุณตั้งใจจะติดตามซูบินทำไมสุดท้ายมาติดตามฉัน หรือว่าคุณพยายามจะใส่ร้ายฉันเอาฉันไปเป็นส่วนหนึ่งของข่าวเลวๆของคุณ จุดประสงค์คือเพื่อติดตามทุกการเคลื่อนไหวของฉัน? ฉันคิดว่าฉันเข้าใจไม่ผิด”
หญิงสาวคนนี้เป็นหัวหน้าเก่าของดงซูบิน?
ดงซูบินเคยทำงานในเกาอันมาก่อนอย่างงั้นหรอ
เมื่อหลิวกังรู้ถึงความสัมพันธ์ของเสี่ยวหยางและดงซูบินแล้วทำให้เขารู้ว่า ตอนนี้คนที่ขุดหลุมพลางนี้ไม่ใช่แค่ดงซูบินคนเดียวแล้ว นั้นอาจจะร่วมถึงเสี่ยวหยางด้วย!
หลิวกังกล่าวว่า "คุณหมายความว่าอย่างไร" “
ผู้อำนวยการกองที่สามตะโกนว่า “นายหมายความว่ายังไง!” ติดตามหัวหน้าของเรา? จุดประสงค์ของนายคืออะไร? ใครส่งนายมาที่นี่? "
หลิวกังพูดอย่างโกรธเคือง" ผมพูดไปหมดแล้ว! ผมติดตามดงซูบิน! และผมก็เป็นแค่นักข่าว! มาที่นี้เพื่อเก็บข้อมูลรายงานข่าว! ไม่มีเหตุผลที่ฉันต้องติดตามคุณ "
ประตูส่งเสียงดังเอี๊ยด ประตูเปิดอีกครั้ง
ชายหนุ่มเข้ามาพร้อมกับรายงานและยื่นให้ เสี่ยวหยางด้วยความเคารพ "หัวหน้าครับพบว่า หลิวกังติดต่อกับชาวต่างชาติหลายคนเมื่อสองวันก่อนและเขาอยู่ที่นั่นตอนกลางของ เมื่อเดือนที่แล้ว การเดินทางไปสหรัฐอเมริกาหนึ่งครั้งใช้เวลาประมาณห้าหรือหกวัน "
นี่เป็นเรื่องไร้สาระจริงๆ ในฐานะนักข่าวของสำนักข่าวหนานกิงถ้าหลิงกังไม่ได้ติดต่อกับหัวข้อข่าวของเขา เป็นเรื่องปกติที่จะสัมภาษณ์นักลงทุนต่างชาติและเดินทางไปต่างประเทศเพื่อการวิจัยหรือการเดินทาง แต่
เมื่อเสี่ยวหยางได้ยินสิ่งนี้สีหน้าของเธอก็เปลี่ยนไปในทันที “ลองตรวจสอบดูสิว่าเขาเป็นสายลับหรือไม่ และ มีการส่งข้อมูลชองชาติออกไปให้ภายนอกรับรู้หรือไม่!”
“อะไรนะสายลับ!”
แน่นอนว่าถ้าหลิวกังถูกดำเนินคดีในเรื่องนี้จริงโทษทานเดียวที่เขาจะได้รับคือการจำคุกเพียงอย่างเดียว!
ดงซูบินนายคือใครกันแน่? ทำไมนายถึงรอดพ้นสายตาอันเฉียบคมของฉันไปไก้? อีกทั้งยังพาฉันมาถึงจุดนี้ ฉันเองเป็นถึงนักข่าวมือดีที่ใส่ร้ายคนมานับไม่ถ้วน ครั้งนี้นายคิดจะมาจัดการฉันอย่างงั้นหรอ? ได้!นายนี้มัน!
หลิวกังถอนหายใจ คำพูดของเขาทำให้เขากลัวจริงๆ!
สายลับ?
สอดแนมหัวหน้าเขต?
ให้ข้อมูลกับชาวต่างชาติ?
หลิวกังเกือบกระอักเลือดออกมากับการกระทำของดงซูบิน! นายนี้มัน! ใช้ไม้แข็งกับฉันเลยอย่างงั้นหรอ ! ?
ดูเหมือนตอนนี้หลิวกังจะเริ่มกังวลมากๆ เมื่อได้เห็นฤทธิ์เดชของเทพเจ้าแห่งความโชคคร้าย ต่อให้เขามีสิบชีวิต เขาก็ไม่พอที่จะต่อกรกับชายผู้นี้! .